ของเล่นใหม่มาถึงแล้ว รอไมค์ ECM8000 พร้อมสายไมค์ แบบว่าฟังไม่เก่งต้องหาผู้ช่วยฟัง

แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรท่านเลย เรื่องของเสียง ต้องใช้หูครับ เครื่องวัดจับว่าเสียงดีๆ หรือไม่ดีไม่มีทางได้อ่ะครับ
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ ครับพี่
เป้าหมายของผมคือการรียนและรู้
มีสองอย่างที่อยากรู้ ศาสตร์ กับ ศิลป์ ศาสตร์ต้องใช้เครื่องมือ ศิลป์ผมไม่เก่ง เลยหาผู้ช่วย
แอมป์ที่ทำเสร็จ เบื้องต้นก็ควรจะทดสอบ Freq response แต่เสียงอาจไม่ถูกหูแม้ response จะดี แต่มันจะเป็นตัวชี้เป้าได้

จากประสบการที่ผมเคยทำงานมา ทั้งด้านเสียงและด้านความสั่นสะเทือน ถ้าเป็นการเก็บข้อมูลที่ซ้ำๆ เช่นเสียงของเครื่องจักร ความสั่นสะเทือนของเครื่อง ที่มันเกิดขึ้นแบบซ้ำๆๆๆๆๆ ถ้าเราเลือกเก็บจำนวน หรือช่วงเวลา (Sampling) เราจะสามารถวิเคราะห์มันได้ไม่ยากเย็นนัก แต่พวกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แบบเพลงที่เล่นหรือเสียงของดนตรีนี่ ผมทำงานมาเกือบสามสิบปี บอกตามตรงว่า ยังไม่รู้ว่าจะวางแผนกะมันอย่างไร ถ้าทำได้สำเร็จ ไว้มาสอนให้ผมบ้างละกันนะครับ
มีแนวความคิดอย่างนี้ครับพี่ที่เลือกที่จะหาเครื่องมาวัดสภาพห้อง
เริ่มต้นจากแอมป์ ออกแบบประกอบเสร็จ ทดสอบด้วยเครื่องก่อนว่ามันเป็นไปตามความถี่ที่หูคนบอกว่าเป็นย่านความถี่เสียงที่พึงจะรับฟังได้
ทดสอบแอมป์เสร็จ จับมันมาไว้ในห้อง ทดสอบด้วยสัญญาณมาตรฐาน ที่จุดนั่งฟัง นำเครื่องมือวัดสัญญาณย่านความถี่ที่หูคนพึงจะฟังได้ ดูผลว่าความถี่ไหนโด่ง ความถี่ไหนหาย แล้วค่อยหาทางแก้ไขอาการเสียงที่เกิดขึ้นจากสภาพห้อง
สัญญาณ Vibration ของเครื่องจักร ถ้าเราวัดออกมาเป็น Spectrum เราก็จะได้ความถี่ที่แสดงพฤติกรรมของแหล่งกำเนิดสัญญาณ Vibration ผมทำงานเกี่ยวกับการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า ตัวอย่างที่ผมใช้งานพวกนี้เช่น การตรวจสภาพ Bearing ของมอเตอร์ด้วย SPM (shock pulse monotoring) การนำ Spectrum ของสัญญาณที่อ่านได้มาตีความหมายก็จะบอกสภาพของ Bearing ได้เลย โดยที่ไม่ต้องใช้หูฟังแบบเดิมๆ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ คนที่มีประสบการณ์ในการฟังเสียงของ Bearing มากน้อยจะมีผลต่อการวิเคราะห์สภาพของ Bearing ต่างจากการทดสอบสภาพด้วย SPM แม้ประสบการณ์การฟังเสียง Bearing น้อยแต่ดูผลของ Spectrum ก็ตีความหมายสภาพ Bearing ได้ครับ
ผมซ่อมรถยนต์แม้ผมไม่เคยเรียนช่างยนต์มา แต่เพื่อทดแทนประสบการณ์ที่ผมมีน้อยจำเป็นต้องหาเครื่องมือวัดมาช่วยวิเคราะห์ มันช่วยได้จากที่ไม่รู้เลย เป็นพอรู้และแก้ปัญหารถได้ บางทีช่างที่มีประสบการณ์มากยังรู้ไม่เท่าเราเลยในบางเรื่อง ผมจึงบอกว่าผมเน้นที่การศึกษาไม่เน้นที่ผลลัพธ์สักเท่าไรครับพี่ วันนี้แม้จะไม่สำเร็จ แต่รู้แล้วว่าไม่สำเร็จเพราะอะไร ความคิดจะแตกยอดออกไปเรื่อยๆ