แกะกล่อง Dvico S1 Slim และ วิธีติดตั้ง Harddisk ภายในได้เวลาสัมผัสตัวจริงกันเสียที กับเครื่องเล่นไฟล์ไฮเดฟรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Dvico ที่หลักๆ แล้วก็เหมือนนำเอารุ่น M-6600X มาเข้าคอร์สลดหุ่น จนกลายมาเป็นรุ่น S1 Slim ที่นำมาแกะกล่องกันในวันนี้ครับ

ความรู้สึกแรกที่ได้จับเห็นกล่องของเจ้า S1 ทำให้ผมนึกไปถึง(อดีต)รุ่นเรือธงของ Dvico อย่าง M-6500A ขึ้นมาทันที รุ่นนี้ที่กล่องมีชูจุดขายที่สามารถใช้ iPhone/iPad แทนรีโมตสั่งงานเครื่องได้ครับ
เมื่อแกะกล่องออกมา จะพบกับตัวเครื่อง S1 Slim อยู่ในซองโฟม แล้วมีโฟมกันกระแทกล็อคไว้อีก 2 ชิ้น เมื่อยกเครื่องออกก็จะเห็นกล่องกระดาษแข็งอยู่ด้านล่างอีก 1 กล่อง ภายในประกอบไปด้วย
[list=1]
- คู่มือใช้งาน 1 เล่ม (แน่นอนว่าไม่มีภาษาไทย T-T)
- CD คู่มือการใช้งานในแบบไฟล์ PDF อีก 1 แผ่น
- หม้อแปลงไฟขนาด 12V / 3A (รุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้หม้อแปลงไฟแบบสวิตชิ่งภายนอกแทนครับ)
- สายไฟ ท้าย C7
- สาย A/V
- สาย USB A-B
- รีโมต
- ถ่าน AAA 2 ก้อน
- น็อตสำหรับรับยึด Harddisk 1 ถุง
- ใบรับประกันสินค้าจาก MRZ (Dvico จาก MRZ รับประกันยาวนานถึง 2 ปีครับ)

ขนาดเครื่องถือว่าเล็กลงไปจากเดิมมากครับ เมื่อเทียบกับ M-6600X ความกว้าง ความยาวของตัวเครื่อง ใกล้เคียงกับ M-6500A มากครับ แต่ความสูงน้อยกว่า M-6500A ด้วยซ้ำ (ถือว่าเป็นเครื่องที่สามารถใส่ Harddisk ขนาดมาตรฐานไว้ภายใน ที่มีขนาดเล็กสมชื่อรุ่น Slim มากครับ) รีโมตหน้าตาเหมือนกับรุ่น M-6600X ทุกประการ
รุ่นนี้ใช้งานเฟิร์มแวร์ร่วมกันกับ M-6600X ได้เลยครับ เพราะชิปเซ็ตเป็น Realtek 1283 DD+ หน้าตาการใช้งานของเมนู และการสั่งงานผ่านปุ่มที่รีโมต หรือที่ตัวเครื่องก็จะเหมือนกันทุกประการครับ

นอกจากความแตกต่างกันในขนาดเครื่องแล้ว ความเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Hardware เมื่อเทียบกับรุ่น M-6600X ก็จะมีดังนี้ครับ
- มีช่องเชื่อมต่อ Harddisk แบบ eSATA ภายนอกเพิ่มมาให้ 1 ช่อง
- มีช่องเสียง Digital แบบ Coaxial เพิ่มมาให้
- ตัด Wifi-N Built-in ออก ถ้าต้องการใช้งาน จะต้องเชื่อมต่อผ่านสายแลน หรือซื้อเป็น USB Dongle มาเสียบใช้งานแทน
- ตัด Card Reader ออก
กับราคาค่าตัวที่ลดลงไปจาก M-6600X ราว 4,000 บาท ผมถือว่าได้มากกว่าเสียครับ
งานประกอบค่อนข้างเนี้ยบมากครับ ไม่เสียชื่อ Dvico แน่นอน ด้านหน้าตัวเครื่องเรียบสนิท (เพราะย้ายปุ่มสั่งงานทั้งหมดไปไว้ที่ด้านบนแทน) มีจอ LCD แสดงผลการทำงานในระหว่างใช้งานด้วยครับ ผิวด้านบนของตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม เพื่อช่วยกักเก็บความร้อนภายในเอาไว้ที่ผิวส่วนนี้ แล้วให้อากาศเย็นภายนอกช่วยระบายความร้อนออกไปครับ
ช่องเชื่อมต่อรุ่นนี้ให้มาอย่างครบครัน
ด้านหลัง- ช่องเสียบสายไฟจากหม้อแปลงภายนอก
- ช่องเสียง Digital มีมาให้ทั้ง Optical และ Coaxial
- ช่อง Component และ A/V
- ช่อง HDMI
- ช่องแลน
- ช่อง USB Host 1 ช่อง
- ช่อง USB Slave 1 ช่อง
ด้านข้าง- ช่อง eSATA 1 ช่อง
- ช่อง USB เพิ่มเติมอีก 1 ช่อง
- พัดลมระบายความร้อน
- ช่องใส่ Harddisk ภายใน
จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คงอยู่ที่ช่องใส่ Harddisk ภายในที่ดีไซน์ใหม่ ใช้งานง่ายกว่าเดิมมากครับ เป็นครั้งแรกที่่ Dvico ดีไซน์ช่องใส่ Harddisk ภายในเป็นแบบไม่ต้องขันน็อตใดๆ เลย เนื้อหา(และรูป)ด้านล่างจะเป็นการแนะนำการใช้งาน การติดตั้ง Harddisk ภายในให้กับเครื่องรุ่นนี้ครับ

ที่ช่องด้านข้างจะมีกลไกให้เรากดแล้วง้างขาล็อคนี้ออก

เมื่อกดปลดล็อคแล้ว ขาล็อคนี้จะง้างออกมาได้จนสุด (ใช้เป็นขาจับเพื่อดึงถาดใส่ Harddisk ออกมาจากตัวเครื่องด้วยครับ)

ดึงถาดใส่ Harddisk ออกมาได้เลยครับ

ที่ถาดใส่ Harddisk นี้ ด้านซ้ายมือ เขาจะทำเป็นขาเล็กยื่นออกมา 2 จุด เพื่อให้เราใช้ล็อคกับรูน็อตบนตัว Harddisk ขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้วได้พอดีครับ (เพื่อป้องกันการติดตั้ง Harddisk ผิดด้าน และเพื่อใช้ยึดตัว Harddisk ติดกับตัดถาดด้วยครับ)

ส่วนที่อีกด้านของถอด จะมีขาพลาสติก เป็นตะขอเล็กๆ ยึดติดเอาไว้แทน ให้ง้างขาพลาสติกด้านนี้ออกมาก่อนติดตั้ง Harddisk ลงไปนะครับ

การวาง Harddisk ลงบนถาด ให้เอียง Harddisk ทางด้านซ้ายเข้าไปก่อน ให้ขาเหล็กทางด้านซ้ายทั้ง 2 ส่วนตรงกับรูน็อตที่ตัว Harddisk ก่อน แล้วจึงวาง Harddisk ลงบนถาดต่อไป

กดตะขอพลาสติกที่ด้านขวาจนสุด เพื่อให้ตะขอล็อคเข้ากับรูน็อตที่ด้านขวาของตัว Harddisk ครับ

สอดถาด Harddisk กลับคืนสู่ตัวเครื่องเท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
เดี๋ยวในส่วนของการทำงานอื่นๆ ของ Firmware / UI ต่างๆ ขอติดไว้ก่อนนะครับ มีเวลาจะรีบทำรีวิวมาลงฝากกันต่อไปครับ (แต่หลักๆ แล้วก็จะเหมือนกับ M-6600X ทุกประการครับ เฟิร์มแวร์ปัจจุบัน 2.0.5 ของทั้งรุ่น N1 / M-6600X และ S1 Slim รองรับเสียง HD แล้วนะครับ)
^_^