HTG2.club

Aleph ONO (cloned) กับการบันทึกเสียงแบบ BALANCED XLR

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
วงจรของ A/D ครับตั้งรูปแบบเอาต์พุตได้ 4 แบบ (48,96,192,I2S) อนาล็อกอินพุตเป็น CS5340 (ตัวสีแดง) ปล่อยเอาต์พุต I2S ไปเข้า CS8406 (ตัวสีเขียว) เป็น SPDIF อีกทีหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเข้ากันได้ดีกับ CS8416 ที่อยู่ในตัว Tascam โชคดีที่ไอ้เจ้าเครื่องนี้สามารถใช้ไฟเลี้ยงจากแบตเตอรี่ 12V ได้

ผมไล่ดูวงจรเห็นแล้วมันน้อยดี ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมากมายไปกว่า Data Sheet เหมาะแก่การดัดแปลง กระจุ๊ก กระจิ๊ก เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาคจ่ายไฟ และ Signal Path ทำให้ผมนึกไปถึง Burrbrown ที่สามารถรับอนาล็อกอินพุตได้ ตัวนั้นก็น่าใช้ แต่เสียดายที่ Burrbrown ยังไม่ผลิต 24BIT USB A to D 24/192 ซักที อีก 5 ปีก็ยังไม่รู้ว่าจะทำรึเปล่า ไม่เห็น Road Map ของเขาเลย  :black_eye

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ธันวาคม, 2010, 09:22:14 am โดย nut_ty »
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณครับ เรื่องกระบวนการ A/D ผมมีตัวฮ็อตตัวหนึ่ง สั่งมาจากเยอรมันตั้งนานแล้ว ลืมไปว่ามันรับสัญญาณอนาล็อกแล้วแปลงเป็น SPDIF 24/192 ได้เลย ซื้อมาสมัยที่กำลังเริ่มจัดการกับเจ้า HI-RES PLAYER ตัวนี้เป็น Cirrus Logic ทั้งเข้า และ ออกเลย ทำไมผมนึกไม่ออกน้าาาาาา

ผมมองข้ามการบันทึกจาก A/D ภายนอกไปเสียสนิทเลย ดีนะที่คุณ พรานล่ากระต่าย มาช่วยไขก๊อก  c) แต่ยังไงก็ตามผมก็ยังอยากจะจัดการกับเจ้า Tascam ตัวนี้จริงๆ นะครับ ฟังที่อื่น ต่อใช้งานที่อื่น ไม่ว่ามันจะดีแค่ไหน ถ้านำมาฟังที่บ้านผมแล้วแย่ ผมก็ไม่เก็บไว้ครับ เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ  K]
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
 :) :) :)งั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยน OPAMP หรอกของเขามีมาตราฐานทดสอบจากห้อง LAB ที่ใช้งานกับ STUDIO เคยลองเปลียนในมิกเซอร์ ส่วนใหญ๋ให้ผลทางด้านลบมากกว่า  :cry2 :cry2 :cry2และ เปลี่ยนไปแล้วก็ไม่แน่ว่าจะดีเหมือนเดิม  ถ้ามันรับอินพุทที่เป็น Digital ได้ ทำภาค A/D ส่งให้ตัวบันทึก TASCAM ไม่ดีกว่าหรือครับ ;D ;D ;D ;D ;D :yahoo :yahoo :yahoo :yahoo :yahoo
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ลืมอัพเดตโฟโนให้ดูครับ สุดท้ายก็จบเสียที คงไม่จัดการอะไรกับมันอีกแล้ว หลังจากเทียบกับ CD แล้ว (บรรลุ)  ;D
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
เห็นชาวบ้านเผาหัวเรื่องการบันทึกเสียง และ มาตรฐานการใช้งานไปแล้ว กลับมานั่งมองของๆ เราเอง มันก็คงถึงเวลาที่จะต้องเอาจริงสักทีแล้ว เริ่มต้นจากการฟังเสียงที่บันทึกจากแผนเสียงลงใน Tascam รอบแล้ว รอบเล่า ก็พอจะจับทางได้ว่าเมื่อนำมาบันทึก ตอบได้เต็มปากเลยว่ายังขาดหายไปอีก 10-20% ตอนแรกก็เดาไปต่างๆ นานาว่า องค์ประกอบทั้งหมดของ Phono ไม่ว่าจะเป็น หัวเข็ม, อาร์ม,แท่น,โฟโนสเตจ,สายสัญญาณ ยังไม่แมทช์กันดีพอ เมื่อฮวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดให้เป็นการบันทึก แล้วเล่นกลับออกมา รับรู้ได้เลยว่าไดนามิกขาดหายไปพอสมควร เหมือนมีม่านบางๆ (เกือบหนา) มากั้นกลางระหว่างตัวเรากับลำโพง ไอ้เราก็ใช่ว่าจะเป็นประเภทยอมแพ้ แล้วก็เข้าข้างตัวเองว่านี่แหละดีแล้ว

ผมก็เลยจัดการ RIP เพลงที่ต้องการจาก CD ให้มาเป็น WAVE ซะเลย...ช้าก่อน...ผมไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ครับ Tascam มันมีข้อดีก็คือสามารถเอาสัญญาณเสียงแบบ SPDIF มาป้อนเข้าตัวมันตรงๆ แล้วบันทึกได้เลย เรื่อง Jitter / Latency เดาไปเลยว่า น้อยกว่าชาวบ้านแน่ๆ ด้วยกระบวนการจ่ายไฟแบบแบตเตอรี่ที่ลด EMI/RFI ได้อย่างดี ซึ่งภายในตัวของ Tascam เขาใช้ CS8416 เป็นตัวรับสัญญาณอินพุต SPDIF ก็มั่นใจไปประเหลาะหนึ่งว่าดีพอใช้ จากนั้นบันทึกจนจบเพลง แค่เพลงเดียวก็พอ แล้วนำมาเปรียบเทียบด้วยขั้นตอนที่ย้อนกลับไปเล็กน้อย

ผมจัดการเปิดแผ่น CD จาก Transport เข้าสู่ D/A ที่ใช้อยู่เป็นประจำ เทียบกับไฟล์ WAVE ที่บันทึกไว้ใน Tascam โดยใช้สวิทช์ Toggle เลือกสลับการฟัง ไป-มา ระหว่าง Transport กับ Tascam ผลลัพธ์ออกมา ปรากฏว่าผมฟังไม่ออกว่าเปิดตัวไหนอยู่ วิธีการหลอกตัวเองผมนำซีเล็กเตอร์ต่อสายยาวสักหน่อยถือไว้ในมือ แล้วกดเล่นมันพร้อมๆ กัน จากนั้นผมไขว้หลัง โยกสวิทช์แบบรัวๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองจดจำ Source ที่เล่นได้ สุดท้ายฟังไม่ออกว่าเล่นตัวไหนอยู่ แสดงว่า Tascam มันแน่จริง ยกผลประโยชน์ให้ไปว่าการบันทึก แยกแยะไม่ออก ว่าเป็น CD หรือ WAVE

หลังจากที่ได้ไฟล์ WAVE ที่ต้องการแล้ว (อนุมานว่ามันเป็นเครื่องเล่น CD TRANSPORT) ก็เริ่มทำการบันทึกเสียงจากเทิร์นเทเบิ้ล แล้วเก็บเอาไว้เป็นไฟล์ WAVE แค่ 16/44.1 ก็พอ SAVE ไว้คนละแฟ้ม แล้วนำมาเปิดเปรียบเทียบทันที พับผ่าสิ...เสียงจากแผ่นเสียง แพ้หลุดลุ่ยยยยย ภายใต้เงื่อนไขแวดล้อมเดียวกัน มันอั้นๆ อย่างเห็นได้ชัด ความถี่สูงก็กุดๆ ซะงั้น เบสโอเคว่าชนะเสียงจาก CD (ไฟล์ WAVE) นัยว่าโฟโนสเตจผมเด่นทางด้าน เบส อยู่แล้ว พอจะจำเสียงมันได้ แต่ด้านอื่นๆ สู้ไม่ได้เลย ความโปร่ง ความกังวาน ไม่รู้มันหายไปไหนหมด (หายเมื่อเทียบกัน แต่ถ้าไม่ฟังเทียบก็รับรู้ได้นิดหน่อย)

แค้นใจนักเลยเอาเปรียบไฟล์ WAVE ที่มาจาก CD ด้วยการบันทึกเป็นแผ่นเสียงเป็น 24/192 ให้มันชนะขาดกันไปเลย...สุดท้ายก็ยังไปไม่ถึงฝั่งอยู่ดี มันไปไม่รอดด้วยเหตุผล หรือ หลักการอะไรก็ไม่ทราบ ทำไปทำมาเริ่มถอดใจ เปลี่ยนคอนเซ็พต์มาตั้งหน้าตั้งตา RIP CD เป็นไฟล์ WAVE ด้วย Tascam ตัวนี้ดีกว่า แต่สมองเจ้ากรรมดันนึกเบื่อๆ เปลี่ยนมาฟังแผ่นเสียงจริงๆ ตรงๆ เทียบกับไฟล์ที่ RIP มาจาก CD ดีกว่า......................ก็ดันกลับกลายเป็นว่า แผ่นเสียง + หัวเข็ม + อาร์ม + แท่น + โฟโนสเตจ กินขาดไฟล์ WAVE ที่บันทึกจาก CD แบบช่างทาสีที่บ้านยังฟังออก (เขาฟังแต่ MP3) ว่ามันห่างกันเกิน 50%

สรุปได้เลยว่าเจ้าตัว Tascam ไม่มีที่ติด้านการบันทึกจาก SPDIF แต่มีจุดอ่อนที่ อนาล็อกอินพุต...เอาล่ะผมโยนความผิดให้ภาคอนาล็อกอินพุตแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเป็น RCA หรือ XLR ทีนี้เมื่อผมตั้งโจทย์ให้ตัวเองแล้ว มันก็ต้องหาคำตอบให้ได้ บังเอิญไปเจอฝรั่งจ้าวหนึ่ง เก่งทางด้านนี้เลยล่ะ ที่เว็บ http://www.oade.com/digital_recorders/hard_disc_recorders/tascam_hd-p2_upgrade.html แสดงว่าเขารู้มาเนิ่นนานแล้วเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในตัวนี้ ว่าเป็นแบบ บ้านนอกคอกนา ดังที่ผมคิดไว้เสียจริงๆ แต่ว่าค่าตัวการโมดิฟายของเขามันช่างแรงเหลือเกิน ทำเองดีกว่า...........

ดังนั้นวานเพื่อนๆ ช่วยลงความเห็นหน่อยครับ ว่าจะเอายังไงกับมันดี ?

1. ตัวเก็บประจุคัปปลิ้งอนาล็อกขาเข้า Opamp เดิมใช้แบบอิเล็กทรอไลท์ 47uF เปลี่ยนเป็นอะไรดี ?
2. ตัวเก็บประจุคัปปลิ้งก่อนเข้า Chip A/D เดิมใช้แบบอิเล็กทรอไลท์ 22uF เปลี่ยนเป็นอะไรดี ?
3. Opamp ทั้งหมด เดิมใช้ JRC4580 เปลี่ยนเป็นตัวไหนดี ระหว่าง OPA2134/OPA2604/AD8620/AD826/LME49720 ?
4. สายสัญญาณอนาล็อก เดิมเป็นสายทองแดงชุบนิเกิ้ล เปลี่ยนสายเบอร์เล็กๆ ของอะไรดี ?

อ่านจบแล้ว ตอบด่วน !!!!!!!!!!!!!!

นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
declick with ClickRepair 3.0.1 level 10  นี่คือการตัด Ambient ของเสียงถายในห้องออกไปเกือบทั้งหมดความรู้สึกว่าเราอยู่ในห้องฟังจริงๆ จะหายไปหมดเช่นกัน  แม้แต่เสียงฮาร์โมนิก เสียงกล้องภายในตัวเรือนไม้ของเปียโน ก็หายไปสิ้นเช่นกัน (ขอแก้แถมอีกนิดว่า คือมันไม่ได้ตัดเสียงคลิกอย่างเดียว แต่มันเอาส่วนอื่นๆ ที่ดีๆ ออกตามไปด้วยเช่นกันละครับ แล้วเราไม่เสียดายของดีๆ ส่วนนั้นกันหรือ?)  นี่แหละคือพวกแผ่นสมัยใหม่ที่ทำๆ กัน มักจะเป็นแบบนี้  :nono :nonono N]


normalize volume to 97% in Sound Forge นี่ก็คือการยกความดังของเสียงกันขึ้นมาจนคลิป (คุณมะละกอก็ยังจับมันได้) แบบเพลงของ Brother in Arms ที่เค้าทำลงแผ่นดิจิตัล แต่แผ่นดำไม่ได้ทำ อยากจะบอกคุณพลานล่ากระต่ายว่า ถ้าคิดตามที่เคยบอกว่านี้คือของที่อัดมาจากห้องอัดชุดที่สุดยอดที่ว่ามาละก็ ผมว่า มันเป็นความชอบที่แตกต่างจากผมละครับ (ไม่มีผิดไม่มีใครถูก มันเป้นความชอบส่วนตัว ของใครของมันแค่นั้น) ผมคิดว่าแผ่นดิจิตัลคือแผ่นที่มาจากห้องอัดคือตัวทำลายสิ่งดีๆ ออกไปทั้งหมดมากกว่าละครับ (เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ)
 :nono :nonono N]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 พฤศจิกายน, 2010, 09:55:54 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย

remove dc bias in Sound Forge
declick with ClickRepair 3.0.1 level 10
normalize volume to 97% in Sound Forge
combine sides in Sound Forge
cut tracks, aligning on zero crossings in Sound Forge
compress flac 1.2.1
tag with Tag&Rename
เจอการอัดแล้วเอามาทำลายวิตตามิน เหมือนการสีข้าวสารให้ขาวจ๋วยแบบนี้ เป็นผมคงไม่เอาเข้าบ้านครับ ผมคิดว่าถ้าเป้นแบบนี้ต่อให้อัดมา 32/384 ผมก้ยังไม่สนใจ สู้ไปเอาเสียงจากยูทูปที่อัดมาแล้วไม่มีการขัดเกลา แล้วเอาทำเป็น MP3 เสียงของมันยังมีคุณค่ามากกว่า 32/384 ที่มามาแบบทำลายของดีๆ ออกไป

ใช่แล้วครับ DIY อย่างพวกเราต้องดิบๆ เท่านั้น ผงชูรสไม่ต้องใส่ ก็อบๆ แก็บๆ มีบ้างพอเป็นกระษัย  :showoff
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff

remove dc bias in Sound Forge
declick with ClickRepair 3.0.1 level 10
normalize volume to 97% in Sound Forge
combine sides in Sound Forge
cut tracks, aligning on zero crossings in Sound Forge
compress flac 1.2.1
tag with Tag&Rename
เจอการอัดแล้วเอามาทำลายวิตตามิน เหมือนการสีข้าวสารให้ขาวจ๋วยแบบนี้ เป็นผมคงไม่เอาเข้าบ้านครับ ผมคิดว่าถ้าเป้นแบบนี้ต่อให้อัดมา 32/384 ผมก้ยังไม่สนใจ สู้ไปเอาเสียงจากยูทูปที่อัดมาแล้วไม่มีการขัดเกลา แล้วเอาทำเป็น MP3 เสียงของมันยังมีคุณค่ามากกว่า 32/384 ที่มามาแบบทำลายของดีๆ ออกไป
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ยังรอแผ่นอยู่ขอบคุณครับ  :)

โคโลคือ server ที่ต้องเช่าเพื่อที่จะฝาก file ขนาดใหญ่ๆ จะสะดวกสำหรับผู้ที่จะโหลดมันทำให้โหลดได้เร็วตาม speed internet ของผู้โหลด

ส่วนผมไม่มี โคโล ก็จะต้องเปิดคอมที่บ้านทิ้งไว้ทั้งวัน ซึ่งปรกติก็เปิดอยู่แล้ว  :) ซึ่งถ้าใครเป็นสมาชิก web bit ก็จะไปโหลดกันได้เลย

ตอนนี้ผมเป็นสมาชิก web bit อยู่ที่เดียวคือ http://www.serverneo.com/   แต่มี invite อยู่ 9 ที่
หมายความว่าผมสามารถแนะนำสมาชิกเพิ่มได้ 9 คน
ใครสนใจสมัครก็ส่ง pm email มาที่ผมก็แล้วกัน

ในกรณีที่ผมเป็นคนเอา file ไปลงใน web bit ผู้ที่โหลดก็จะโหลดความเร็วได้ไม่เกิน maximum upload speed ของ net ที่บ้านผม (ประมาณ 40 kbps)
ซึ่งอาจจะโหลดกันช้าหน่อย
ถ้าใครมี(เช่า)โคโลอยู่แล้วหรือมีเพื่อนมีขอฝากเขาสักสี่ห้าวันคงพอได้

สำหรับผมเรื่องนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะ diy เครื่องอยู่คนเดียวฟังคนเดียวอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีโอกาส พัฒนาทักษะการฟัง SUPER BLIND TEST เป็นบทเรียนที่ท้าทายอย่างยิ่ง  :)

ผมขอรับ Invite นี้นะครับ จะไม่เข้าไปรบกวนเนื้อที่ของคุณมากนัก จะใส่เพลงลงไปตามคำขอของเพื่อนสมาชิกต้องการกันหลายๆ คนเท่านั้น ก็ง่ายดีครับ ไม่ต้องส่งกันเป็นแผ่นอีกต่อไป ผมจะ PM  อีเมล์มาให้นะครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
พอดี โหลดเพลง 24 bit ที่ rip จากแผ่นเสียง เขาระบุ เครื่องเล่นแผ่นเสียง หัวเข็ม และ ซาวด์การ์ด ดังนี้ครับ

 :yahoo :yahoo

1.James Brown - The Payback (1974) [VINYL 24 bit]

Log
Vigin Vinyl 140 gram
Technics 1200 mk2 with Denon dl 103
tcc 754 preamp
clean and destatic record
record at 24 bit 96 kHz in Sony Sound Forge 9
remove dc bias in Sound Forge
declick with ClickRepair 3.0.1 level 10
normalize volume to 97% in Sound Forge
combine sides in Sound Forge
cut tracks, aligning on zero crossings in Sound Forge
compress flac 1.2.1
tag with Tag&Rename
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.Derek Trucks & Susan Tedeschi Band 2010-07-15 Matrix 24 BIT

Derek Trucks & Susan Tedeschi Band
Hard Rock Cafe Stage
17th Cisco Ottawa Blues Festival
Ottawa, ON
July 15, 2010

** 24 BIT **

Source:  CA-11 Omnis > CA-9100 (1/8" inputs) + CA-14 Cards > CA-UGLY (1/4" inputs) > Zoom H4n
Transfer:  .WAV's > Wavelab Studio 6 (matrix) > Sound Forge Pro 10.0a (normalize) > CDWav (tracking) > Trader's
           Little Helper (level 8) > FLAC 
Location:  15 metres from stage, (just) FOB, 1 metre right of dead center - 6'6" high clipped to stand
Recorded by:  Seth Meister
Mastered by:  Dennis Orr
---------------------------------------------------------------------
3. Diana Krall - All For You  (ORG 180g DoLP) 24-bit_96kHz

Hannl"limited" Record Cleaning Machine with Rotating Brush
Music Hall MMF 9.1 Turntable
Tonearm Pro-Ject 9cc Evo with Pure Silver Wires
Nagaoka MP-500
Brocksieper Phonomax (Tube Phono-PreAmp)
E-MU 0404 external USB 2.0 Audiointerface
Silent Wire NF 5
Wavelab 6.0 recording software
iZotope RX Advanced for 16-bit/44.1kHz conversion


Vacuum Cleaning > TT > Brocksieper Phonomax > Laptop > Wavelab 6 (24/192) > manual click removal
analyze (no clipping, no DC Bias offset) > resampling and dithering to 24/96 with iZotope RX Advanced >
split into individual Tracks > FLAC encoded (Vers. 1.21)

No silence been removed, please burn gapless to match original tracklayou
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.Diana Krall - Live in Paris (2002) ]flac] {ORG 180g DoLP; 24-96}

Technical Informations

Hannl"limited" Record Cleaning Machine with Rotating Brush
Music Hall MMF 9.1 Turntable
Tonearm Pro-Ject 9cc Evo with Pure Silver Wires
Nagaoka MP-500
Brocksieper Phonomax (Tube Phono-PreAmp)
E-MU 0404 external USB 2.0 Audiointerface
Silent Wire NF 5
Wavelab 5 recording software
iZotope RX Advanced for 16-bit/44.1kHz conversion


Vacuum Cleaning > TT > Preamp > Laptop > Wavelab 5.01 (24/96) > manual click removal
analyze (no clipping, no DC Bias offset) > split into individual Tracks > FLAC encoded (Vers. 1.21)

No silence been removed, please burn gapless to match original tracklayout.

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.
In A Silent Way (1969) 180 Gram 24-bit/96kHz Vinyl Rip
Posted By : bh80231 | Date : 11 Jun 2010 16:27:28 |



Miles Davis - In A Silent Way
Columbia Legacy 88687404151 180 Gram Vinyl Audiophile Pressing
Vinyl rip in 24-bit/96 kHz | FLAC | no m3u, cue, or log
Cover | 761 mb | FF/RS | Jazz | 1969

“   Recording in February 1969, Miles Davis seemed to pick up the vibe of what was going to go down that crazy summer. It was a tumultuous time as the sixties came to a close. First came the Manson Family, then the murder during the Stones' Altamont show overshadowing the na've utopia of Woodstock. With In a Silent Way Davis seemed to sum up the dying of the light as the war and violence took over from love and peace. Certainly his most somber record since Kind of Blue , it was a reflective record that would bridge the gap from one of the greatest quintets in jazz history to the most controversial era of Miles Davis' work.

In a Silent Way is a foreboding and deeply meditative record that has an almost spiritual quality. Following on his first real plunge into jazz-rock fusion on Filles de Kilimanjaro , the quintet's last record, In a Silent Way was a real head twister. Following Filles' blues- rock-jazz ideology, Davis really pulled together the methods that he began with on the previous release. But the change was the low-lying, almost silent feel. Gone were the funky up-tempo tracks, replaced with two long tracks with sparse arrangements that relied more on atmosphere than any of Miles' earlier records.

Holding onto Tony Williams, Herbie Hancock and Wayne Shorter from the quintet, Miles added future fusion gods Chick Corea and John McLaughlin, as well as Dave Holland (filling Ron Carter's shoes on bass) and organist/pianist/composer Joe Zawinul. In a Silent Way tackles the tone palette of Kind of Blue , setting into an electric fusion. Opening with the subtle and quiet "Shhh/Peaceful," the record begins a soothing adventure, led by Zawinul's trippy drops of organ. Slowly the track picks up with Williams doing double time on the hi-hat throughout. But McLaughlin is the major soloist, and what would become his signature guitar chops softly intertwine throughout. Finally Miles and Wayne take the stage and fill the holes in with killer solos that rival some their best work from Miles Smiles and Nefertiti. But the B-side with "In a Silent Way/It's About that Time" opens with silence and Williams continuing where he left off - a continuing groove would be played to dreadful bore on On the Corner three years later. The track really shifts as the jam of "It's About that Time" takes off and builds into some classic Davis/Shorter playing that really lays out what is about to come on Bitches Brew. The tracks eases off again and goes back into "In a Silent Way."

Without hearing this overlooked gem, many fans of jazz have missed out on one of the genre's most original and all-encompassing works. The record has recently gotten the full treatment with Columbia/ Legacy's Complete Sessions box set and it continues to prove how vital it is to the Davis catalogue. The record is an essential piece to understanding Miles and where jazz was heading. Its mix of rock and fusion point to Remembering Jack Johnson (rock) and Bitches Brew (fusion). Two important notes are the emergence of Joe Zawinul and the editing and production of Teo Macero who would both be focal points in the movement of Miles' music. Zawinul's presence on organ gives the record its otherworldly feel, but the groove and layout of the record are credited much to Macero's time at the knobs. His splicing and rearranging would become instrumental in the emergence of Miles' sound especially on Bitches Brew and On the Corner. Building and peaking the long tracks so that their flow was consistent and maintained the ideology of the piece.

In a Silent Way is a one of kind record that mixed the late-'60s pop and underground movement into the jazz realm. On this record Miles began to hook into the late '60s sounds that flowed from the jam bands in San Francisco. No more is that more evident that in the otherworld-like organ of Zawinul. Starting with Filles the groove of Jimi Hendrix really started to take shape in the work that Miles began 1968. This is best shown on disc one of the Complete Sessions. The opener "Mademoiselle Mabry (Miss Mabry)" has its foundation based on Hendrix's "The Wind Cries Mary." Through Macero's production and Miles utilizing the same musicians would bare similar but ever- evolving grooves with each release. They would never make a record like it again, an absolutely timeless work that proves that Miles Davis and crew were some of the most innovative thinkers in modern music. - All About Jazz


Side one
1. "Shhh/Peaceful" (Miles Davis) – 18:16

Side two
1. "In a Silent Way/It's About That Time" (Joe Zawinul, Miles Davis) – 19:52

Musicians
* Miles Davis – trumpet
* Wayne Shorter – soprano saxophone
* John McLaughlin – electric guitar
* Chick Corea – electric piano
* Herbie Hancock – electric piano
* Joe Zawinul – organ
* Dave Holland – double bass
* Tony Williams – drums



Vinyl Ripping Stuff

DIY record vacuum
Technics SL-1100-A Turntable
Grado Blue1 Cartridge
Rogue Metis Preamp
E-MU 0404 USB 2.0 Audio/MIDI Interface
Audacity 1.3.9 (ripping)
iZotope RX Advanced 1.21.610 (click removal, manual)iZotope RX Advanced 1.21 for Redbook conversion
xACT 1.71 for Redbook SBE correction
XLD Version 20100401 (117.0) (FLAC encoding)


Thanks to Dr. Robert both link lists now include 16-44 format too. The problem with the filenames is fixed in the 16-44 versions (I used a "/", rarify modified it to a ":", and folks on PCs have problems with it. Solutions in comments).
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็นข้อมูลที่เขาให้รายละเอียดมาในโฟลเดอร์เพลง 24bit ที่เขาบอกมาครับ แต่อะไรก็ช่าง แผ่นเสียงที่ยังไม่เคยได้ใช้งาน หรือ ใช้งานน้อยนี่ จะหายากสักหน่อย หาไม่ได้ก็ต้องนั่งทนฟังเพลงพร้อมกินข้าวเกรียบ ไปพราง ๆ  ;D ;D ;D ;D ;D
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ Bang_IB

  • ***
    • กระทู้: 151
    • เพศ:ชาย
ยังรอแผ่นอยู่ขอบคุณครับ  :)

โคโลคือ server ที่ต้องเช่าเพื่อที่จะฝาก file ขนาดใหญ่ๆ จะสะดวกสำหรับผู้ที่จะโหลดมันทำให้โหลดได้เร็วตาม speed internet ของผู้โหลด

ส่วนผมไม่มี โคโล ก็จะต้องเปิดคอมที่บ้านทิ้งไว้ทั้งวัน ซึ่งปรกติก็เปิดอยู่แล้ว  :) ซึ่งถ้าใครเป็นสมาชิก web bit ก็จะไปโหลดกันได้เลย

ตอนนี้ผมเป็นสมาชิก web bit อยู่ที่เดียวคือ http://www.serverneo.com/   แต่มี invite อยู่ 9 ที่
หมายความว่าผมสามารถแนะนำสมาชิกเพิ่มได้ 9 คน
ใครสนใจสมัครก็ส่ง pm email มาที่ผมก็แล้วกัน

ในกรณีที่ผมเป็นคนเอา file ไปลงใน web bit ผู้ที่โหลดก็จะโหลดความเร็วได้ไม่เกิน maximum upload speed ของ net ที่บ้านผม (ประมาณ 40 kbps)
ซึ่งอาจจะโหลดกันช้าหน่อย
ถ้าใครมี(เช่า)โคโลอยู่แล้วหรือมีเพื่อนมีขอฝากเขาสักสี่ห้าวันคงพอได้

สำหรับผมเรื่องนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะ diy เครื่องอยู่คนเดียวฟังคนเดียวอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีโอกาส พัฒนาทักษะการฟัง SUPER BLIND TEST เป็นบทเรียนที่ท้าทายอย่างยิ่ง  :)


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
มีแถวนี้ด้วย  :)
ยังรอ Brother in Arms ของพี่ pinij อยู่เลย

ผมมี invite ของ bitcosmo อยู่ 9 ที่ถ้าสะดวกที่จะโหลดกัน แล้วใครมีเวลาเอาต้นฉบับไปลงโคโลจะสะดวกมาก

ฝากไว้พิจารณาครับ

แผ่นส่งไปหาแล้วรอนิด! เอาไปลงโคโลคืออะไร? ไม่รู้จักครับ ขอรายละเอียดมากๆ ด้วย เดี๋ยวผมจะเอาไปลงไว้ให้ฟังกัน เห็นคนก่อนหน้าคุณ Bang_IB บอกว่าแผ่นเป็นรอยซะแล้วละครับ ถ้าอ่านไม่ได้บอกผมด้วยเดี๋ยวผมส่งไปให้ใหม่ครับ? หรือจะเอาลงกิ้งโคโล่เลยก็ได้ :yahoo
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Bang_IB

  • ***
    • กระทู้: 151
    • เพศ:ชาย
มีแถวนี้ด้วย  :)
ยังรอ Brother in Arms ของพี่ pinij อยู่เลย

ผมมี invite ของ bitcosmo อยู่ 9 ที่ถ้าสะดวกที่จะโหลดกัน แล้วใครมีเวลาเอาต้นฉบับไปลงโคโลจะสะดวกมาก

ฝากไว้พิจารณาครับ


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
ชิ้นงานที่ออกแบบมาในสไตล์ สตูดิโอ หรือ บรอดคาสต์ บางครั้งเราอาจจะไม่เจอพวก Burrbrown, Analog Device อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใช้อะไหล่คนละแบบกับโฮมยูส หรือ ไฮเอนด์ เกี่ยวมั้ยครับว่างาน โปรเฟสชันแนล ไม่ได้สนใจเรื่องจุกจิกหยุมหยิมแบบ ออดิโอไพล์

 :) :) :) :) :) ใช่เลยครับ เป็น ไอซีที่คน DIY ไม่ค่อยชอบใช้กัน :shutup :shutup  คือเบอร์ NE5532 เกือบทั้งหมด หรือไม่ก็ตระกูล 45xx ประมาณนี้ แต่มันก็ทำงานได้ระดับสุดยอดไปเลยครับ งานโปรเฟสชั่นแนลเป็นงานที่ต้องการมาตราฐานที่เที่ยงตรง มั้งครับ ส่วนงาน ออดิโอไฟล์ เป็นงานที่ตอบสนองของผู้ที่ชื่นชอบมั้ง บางครั้งก็ใส่กันซะ Over spec ส่วนอุปกรณ์ในการผลิดชิ้นงานก็อย่างว่าแหละ หนีไม่พ้น NE5532 ผมมีมิกซ์เซอร์โบราณที่อายุกว่า 30 ปี ที่เป็นยี่ห้อ TEAC ที่ใช้ในระบบสดูติโอ ก็ NE5532 กะ 4560 เปิดมาดูอะหลั่ยตกใจหมดเลย แต่โวลุ่ม ซีเลคเตอร์นี่ยังไงก็ ALPS ทุกวันยังทำงานได้ดีครับไม่มีคล๊อกแคร๊ก..ไม่น่าเชื่อเลยครับ  งงเหมือนกันครับ  ;D ;D ;D ทำไฟล์เสร็จเมื่อไร ขอทดลองฟังด้วยนะครับ :) :)
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ชิ้นงานที่ออกแบบมาในสไตล์ สตูดิโอ หรือ บรอดคาสต์ บางครั้งเราอาจจะไม่เจอพวก Burrbrown, Analog Device อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใช้อะไหล่คนละแบบกับโฮมยูส หรือ ไฮเอนด์ เกี่ยวมั้ยครับว่างาน โปรเฟสชันแนล ไม่ได้สนใจเรื่องจุกจิกหยุมหยิมแบบ ออดิโอไพล์
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
แก้ปัญหาการรบกวนจากแมคานิคมันน่าปวดหัวนี่ดูครับ  :cry2 :cry2ลองเปลี่น TT เป็นยี่ห้อนี้ดูครับ Technics MK1200 เพราะส่วนใหญ่พวกว่าช่วงหนึ่งมันอยู่ในระบบส่งกระจายเสียงในระบบ FM ในเมืองไทย หน่วยงานใหญ่หนึ่งที่ผมเคยสังกัด ส่วนใหญ่วงการดีเจก็ใช้กัน เคยเห็นมีคนในเวปแต่ไม่ค่อยสมบูรณ์ และ เคยเห็นปรีแว๊ป ๆ ที่เคยมีคนเอามาขายเวปนี้ เป็นของ BE Broadcast Electronic อันนี้น่าจะกำจัดปัญญาทั้งหมดได้ ในระดับมาตราฐาน และ เป็นมาตราฐานระดับสตูดิโอ  O0 O0 O0
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ผมทายไว้ไม่ผิดว่ามันต้องมาจากเทรินเป็นแน่ เสร็จแล้วอย่าลืมส่งแผ่นมาให้ลองฟังกันบ้างนะครับ ไม่มีแผ่นดำเพลง Brother in Arms ไว้ติดบ้านบ้างเลยหรือครับ d_d :drunk

มีครับ แต่เดี๋ยวจะบันทึกใหม่หมดเลย ทำไปทำมาเรื่องพวกนี้มันก็ใช้เวลาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ง่ายๆ เลย  :showoff
อ้าว! งั้นก็ดีเลย ผมจะขออนุญาต ส่งเวียนเเผ่นนี้ Brother in Arms ให้กับคนที่ฟังแผ่นของผมไปแล้วด้วยนะครับ ขอเป็นหน้าแรกนะครับ หน้าที่สองผมไม่ได้อัดไว้อ่ะครับ (หูผมมันไม่ค่อยดีสำหรับเพลงใหม่ๆ พวกนี้ คงต้องขอให้ท่านเซียนเพลงนี้ฟังแล้วสรุปให้น่ะครับ)

แล้วคนที่เล่น D/A Non Over Sampling จะทำยังไงล่ะครับ มันรับแค่ 16/44.1 งั้นผมทำ 3 เวอร์ชั่นล่ะกัน 16/24 BIT 44.1/96/192 ลองเอาไปฟังเทียบดูทั้ง RCA และ XLR
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมทายไว้ไม่ผิดว่ามันต้องมาจากเทรินเป็นแน่ เสร็จแล้วอย่าลืมส่งแผ่นมาให้ลองฟังกันบ้างนะครับ ไม่มีแผ่นดำเพลง Brother in Arms ไว้ติดบ้านบ้างเลยหรือครับ d_d :drunk

มีครับ แต่เดี๋ยวจะบันทึกใหม่หมดเลย ทำไปทำมาเรื่องพวกนี้มันก็ใช้เวลาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ง่ายๆ เลย  :showoff
อ้าว! งั้นก็ดีเลย ผมจะขออนุญาต ส่งเวียนเเผ่นนี้ Brother in Arms ให้กับคนที่ฟังแผ่นของผมไปแล้วด้วยนะครับ ขอเป็นหน้าแรกนะครับ หน้าที่สองผมไม่ได้อัดไว้อ่ะครับ (หูผมมันไม่ค่อยดีสำหรับเพลงใหม่ๆ พวกนี้ คงต้องขอให้ท่านเซียนเพลงนี้ฟังแล้วสรุปให้น่ะครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 พฤศจิกายน, 2010, 12:38:03 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ผมทายไว้ไม่ผิดว่ามันต้องมาจากเทรินเป็นแน่ เสร็จแล้วอย่าลืมส่งแผ่นมาให้ลองฟังกันบ้างนะครับ ไม่มีแผ่นดำเพลง Brother in Arms ไว้ติดบ้านบ้างเลยหรือครับ d_d :drunk

มีครับ แต่เดี๋ยวจะบันทึกใหม่หมดเลย ทำไปทำมาเรื่องพวกนี้มันก็ใช้เวลาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ง่ายๆ เลย  :showoff
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมทายไว้ไม่ผิดว่ามันต้องมาจากเทรินเป็นแน่ เสร็จแล้วอย่าลืมส่งแผ่นมาให้ลองฟังกันบ้างนะครับ ไม่มีแผ่นดำเพลง Brother in Arms ไว้ติดบ้านบ้างเลยหรือครับ d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
เจอสาเหตุ 3 ประการที่ทำให้เกิดการฮัมแล้วครับ

1.ยกเทิร์นลงมาวางกับพื้น ฮัมหายไป 10%
2.ตัดไฟเลี้ยงหลอดไฟ ข้างในเทิร์น และ จับมอเตอร์มาพันสติกเกอร์ทองแดง ฮัมหายไป 20%
3.จั๊มป์สายสัญญาณที่มีชีลด์ดีๆ ออกมาจากเทิร์นตรงๆ ฮัมหายไป เกือบหมด ถ้าให้หมดเกลี้ยงคงต้องรื้ออุปกรณ์เก่าๆ ของเทิร์นออกไป ทีนี้รู้แล้วล่ะว่า พวกเทิร์นแพงๆ ที่ไม่มีองค์ประกอบอะไรเลย ทำไมถึงไม่มีปัญหาจุกจิกเหล่านี้ (เรื่องคุณภาพเสียง เว้นไว้ก่อน ยังไม่พูดถึง  :))
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445



ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
งานนี้เปลี่ยนชั้นวางอีกแล้วหรือนี่ รู้งี้ไม่น่าขายออดิโออาร์ทไปเลย ในงบ 10K ตัวไหนน่าเล่นบ้างครับ ขอสัก 3 ชั้น เสนอยี่ห้อ หลังไมค์ด้วยนะครับ หากท่านใดใช้อยู่แล้วอยากแนะนำ  ;)
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
งั้นสงสัยคงต้องรื้อ TT มาติดสติ๊กเกอร์ทองแดงภายในเพื่อเป็นกราวนด์บอดี้ซะแล้วล่ะครับ ห้องทำงานผมไม่มีเนื้อที่มากพอ (ใครไปก็ร้องอ๋อ) เลยต้องวางซ้อนๆ กันไว้บนชั้นวางทั้งหมด ดีหน่อยที่เป็นแก้ว ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเหนี่ยวนำ นี่ขนาดแก้วยังฮัม เปลี่ยนเป็นเหล็กจะช่วยได้รึเปล่าน้อ   :black_eye

วิธีเช็คฮัมของผมคือยกหัวเข็มให้ลอยเอาไว้ แล้วปล่อยสัญญาณจาก TT เข้าปรีโฟโนในระดับเดียวกับการบันทึกความดังเทียบเท่า CD แล้วดูเลเว่ลของสัญญาณ ซ้าย-ขวา ต้องไม่มีสิ่งใดโผล่ออกมาเลย บันทึกเป็นเวลาสัก 30 วินาที หลังจากนั้นเซฟไฟล์ แล้วนำมาเปิดฟังที่ความดังปกติ ต้องไม่ได้ยินอะไรเลย
โต๊ะแก้วแหละน่าฮัมมากกว่านะครับ การส่งแรงการเหนี่ยวนำไปได้อย่างอิสระ แต่โต๊ะเหล็กอาจกั้นส่วนที่อยู่ข้างล่างกับข้างบน /// ลองเอามือไปใกล้หัวเข็มซิครับ TT หรือ Arm ที่เก่าๆ (ให้เร่งเสียงระดับที่ฟังปกติ) ถ้ามีฮัมออกลำโพง แสดงว่าระบบซินส์ไม่ค่อยดีครับ แก้ยากครับ ผมก็กำลังพยายาม แก้ TT เก่าอยู่ตัวหนึ่งที่เสียงดีมั๊กกกๆๆๆๆ แต่ติดที่มีฮัมนิด ๆ นี่แหละ  :giveup
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
งั้นสงสัยคงต้องรื้อ TT มาติดสติ๊กเกอร์ทองแดงภายในเพื่อเป็นกราวนด์บอดี้ซะแล้วล่ะครับ ห้องทำงานผมไม่มีเนื้อที่มากพอ (ใครไปก็ร้องอ๋อ) เลยต้องวางซ้อนๆ กันไว้บนชั้นวางทั้งหมด ดีหน่อยที่เป็นแก้ว ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเหนี่ยวนำ นี่ขนาดแก้วยังฮัม เปลี่ยนเป็นเหล็กจะช่วยได้รึเปล่าน้อ   :black_eye

วิธีเช็คฮัมของผมคือยกหัวเข็มให้ลอยเอาไว้ แล้วปล่อยสัญญาณจาก TT เข้าปรีโฟโนในระดับเดียวกับการบันทึกความดังเทียบเท่า CD แล้วดูเลเว่ลของสัญญาณ ซ้าย-ขวา ต้องไม่มีสิ่งใดโผล่ออกมาเลย บันทึกเป็นเวลาสัก 30 วินาที หลังจากนั้นเซฟไฟล์ แล้วนำมาเปิดฟังที่ความดังปกติ ต้องไม่ได้ยินอะไรเลย
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ตอนนี้มีปัญหากับหัว MC LOW อย่างมากเลยครับ มันพกฮัมมาในการบันทึกด้วย BENZ MICRO MC20E L หรือว่าต้องใช้หม้อแปลงสเต็ปอั๊พล่ะนี่ ? ตอนนี้ใช้วิธีลดฮัมโดยการลดเกนขาเข้า ให้เหลือ 75% ก็หายครับ แต่มันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตะกี้ลองยกเทิร์นออกห่างๆ ONO ก็หายไปเยอะเลยครับ แต่มันไม่สะดวกใช้งาน เลยต้องยกมาวางที่เก่า ท่านใดแก้ปัญหาของ MC LOW ได้แบบชะงักบ้างครับ รบกวนช่วยหน่อยเน้อออ
ปัญหามันแปลกๆ ครับ ยก TT ออกห่างแล้ว ฮัม! มันลดนี่!!! มันห่างแล้วหายก็ยอมลำบากใช้แบบนี้ไปก่อนก็ได้นี่ครับ ผมคิดว่ามันคงมีการส่งสัญญาณลบกวนถึงกัน จะมาจาก TT (ใช้เทเลใช่ไหม?) หรือ Aleph ONO (ใช้ Aleph ตัวจริงใช่ไหม?) ? แต่ผมคิดว่าปัญหาการฮัมนี้น่าจะมาจากเทรินมากกว่าละครับ เพราะดูมันเก่าน่าเชื่อถือน่าจะน้อยกว่า Pre-phono ถ้าใช้ของแท้ ให้ลองเปลี่ยน TT ตัวใหม่ดูครับ (ผมเคยใช้ TT รุ่นเก่าๆ แบบนี้เคยเจอฮัมเหมือนกันครับ)

เมื่อปีที่แล้ว ผมเคยอัดแผ่นดำแล้วเจอฮัมเหมือนกัน แต่มันเกิดจากคอมป์ไม่ดี (ใช้ PC ที่ประกอบเอง พอจับเคศมัน จะรู้สึกว่าโดนไฟดูดแรงมากๆ ด้วย) เปลี่ยนตัวใหม่ (Dell) แล้วไม่มีปัญหาครับ เอ! หรือมีหว่า ผมฟังกับชุดที่บ้านลำพูนไม่ได้ยินฮัมนะ (ชุดที่นี่ไม่ค่อยฟ้องครับ) ลองถามคนที่ฟังแผ่นที่ผมอัดในนี้ได้เลยครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=68313.100   แต่ของคุณนัทใช้ปรีระดับ Aleph แล้วไม่มีปัญหา มันน่าจะ TT ละครับ อย่าลืมต่อสายกราวด์ด้วยนะครับ แต่ TT รุ่นเก่าๆ อาจไม่มีให้ นี่แหละคือตัวปัญหาละครับ  BENZ MICRO MC20E L มี Sen. 0.5mV ไม่น่าใช่ปัญหา เพราะมันพอๆ กับ Koetsu ที่ผมใช้ในการอัดครั้งนี้ละครับ เอ๋อ! ขอถาม คุณ Rabbit-Hunter ซะเลย แผ่นผมมีฮัมไหมครับ?  :help
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
 :) :) :) อัดเป็น 96K/24bit ก็พอแล้วครับ เพราะเพลงของนอกที่กำลังสูบจาก Torrent มีสูงสุดแค่ 96/24 แล้วส่วนใหญ่ rip มาจากแผ่น ไวนิล ทั้งนั้นครับ O0 O0 O0
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ตอนนี้มีปัญหากับหัว MC LOW อย่างมากเลยครับ มันพกฮัมมาในการบันทึกด้วย BENZ MICRO MC20E L หรือว่าต้องใช้หม้อแปลงสเต็ปอั๊พล่ะนี่ ? ตอนนี้ใช้วิธีลดฮัมโดยการลดเกนขาเข้า ให้เหลือ 75% ก็หายครับ แต่มันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตะกี้ลองยกเทิร์นออกห่างๆ ONO ก็หายไปเยอะเลยครับ แต่มันไม่สะดวกใช้งาน เลยต้องยกมาวางที่เก่า ท่านใดแก้ปัญหาของ MC LOW ได้แบบชะงักบ้างครับ รบกวนช่วยหน่อยเน้อออ
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ watnao

  • ***
    • กระทู้: 137
    • เพศ:ชาย
  • หมดงบแล้วครับ
ง่ายกว่าครับ ปล่อยได้เร็วกว่าเนตบ้านเยอะเลยท่าน  แต่มันมีค่าใช้จ่ายไง


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
1DVD  สงสัยต้องฝากเวบบิตแล้วล่ะมั้ง

ยังไม่เคยโหลดเข้าเว็บบิทเลยครับ เพราะเปิดเครื่องบ้าง ไม่เปิดบ้าง แต่พอจะรู้เรื่องเช่า Colo มันจะง่ายกว่ามั้ย ไม่กี่บาทเอง
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445



ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ขนาดไฟล์น่าจะ 2G ได้มั้ยครับเนี่ย ครึ่งแผ่น
คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ bit แล้วจะฝากไว้เว็บไหนดี
หรือว่าจะแบ่งเป็นไฟล์ย่อยๆ ไฟล์ 200-300m ไว้ที่ mediafire ดี?
สองกิ๊กไม่พอสำหรับด้านนึงของแผ่นครับ แต่หนึ่งแผ่นดำทำเป็น 24/192 ก็ประมาณ 4.7G ของ DVD พอดีกันเลยละครับ d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ขนาดไฟล์น่าจะ 2G ได้มั้ยครับเนี่ย ครึ่งแผ่น
คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ bit แล้วจะฝากไว้เว็บไหนดี
หรือว่าจะแบ่งเป็นไฟล์ย่อยๆ ไฟล์ 200-300m ไว้ที่ mediafire ดี?

ค่ำนี้ เดี๋ยวผมจะเข้าไปหานะ รบกวนจัดการอั๊พให้ผมด้วยละกัน ทำไม่เป็นจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องวงจรล่ะขอให้บอก แต่เรื่องคอมฯ นี่จนใจจริงๆ  :black_eye
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ pollock

  • Director
  • *****
    • กระทู้: 761
    • เพศ:ชาย
  • Netural Sound
    • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ | วัฒนาดีไซน์
ขนาดไฟล์น่าจะ 2G ได้มั้ยครับเนี่ย ครึ่งแผ่น
คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ bit แล้วจะฝากไว้เว็บไหนดี
หรือว่าจะแบ่งเป็นไฟล์ย่อยๆ ไฟล์ 200-300m ไว้ที่ mediafire ดี?


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
พี่ใหญ่รีเควสต์มา น้องๆ อย่างผม และ เพื่อนๆ ก็ยินดีครับ ความหวังเรื่องฟอร์แมตนี่เป็นสุดท้ายปลายทางของนัก DIY อย่างผมแล้วล่ะครับ ชอบแผ่นเสียง แต่ต้องลงทุนเยอะมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน AB SUPER BLIND TEST นี่เป็นจุดสูงสุดของการลบล้างอุปปาทานแล้วล่ะครับ ถ้ามีเพื่อนๆ มาร่วมแจมกันอีกก็จะยิ่งดีครับ ผมยินดีที่จะแบก ONO + TASCAM ไปบันทึกถึงบ้านเลยล่ะครับ ไม่เกี่ยงว่าเป็นเทิร์น หรือ หัวเข็มชนิดไหน  d_d

ว่าแล้วก็เริ่มเผาหัวด้วย 2 ตัวอย่างเปรียบเทียบจาก Phono ตัวเดียวกัน ระหว่างเอาต์พุตจากสายแบบ RCA คิมหันต์ ซีเหล่ + เจบีพี กับ XLR คาเด่ สร้อคค์ ไปเข้าที่ Tascam แล้วเลือกบันทึกครั้งละครึ่งแผ่น จากแผ่น Still got the blues ด้วยหัวเข็ม MM Stanton 500 DJ ที่ถูกที่สุดในวงการ เอาให้รู้อารมณ์เพลงก่อน แล้วค่อยขยับไป M97, V15, MC20 E2, DL103 จะพยายามคุมงบไม่ให้เกิน 20K สำหรับหัวเข็ม

ฝากเพลงให้ดาวน์โหลดที่ไหนดีครับ อาจจะมีก็อกแก็กนิดหน่อย รับประทานไปเล่นๆ ก่อนนะครับ ว่าสไตล์เสียงเมื่อเทียบกับ CD แล้วกระตุกต่อมอยาก (เล่นแผ่นเสียง) บ้างรึเปล่า
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ pollock

  • Director
  • *****
    • กระทู้: 761
    • เพศ:ชาย
  • Netural Sound
    • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ | วัฒนาดีไซน์
เครื่องผมคงใช้เป็นชุดอ้างอิงไม่ได้ คุณภาพของเครื่องเล่นไม่สูง
แต่ถึงจะแค่ชุดพื้นๆ ก็ฟังความแตกต่างออกชัดเจน ยิ่งมีอัลบั้มเดียวกันด้วยทั้ง CD และแผ่นดำ
หลังจากที่หยิบแผ่นดำมาฟัง แล้วนำ CD มาเปิดฟังจะพบได้ทันทีว่า พลังของบทเพลงหายไปเยอะมาก ตามที่ท่าน PINIJ ได้กล่าวมาแล้ว
หากฟังแผ่นดำแล้ว จะไม่อยากกลับมาฟัง CD เลย นอกเสียจากว่าจะขี้เกียจเท่านั้นแหละครับ
แต่อยากจะขอฝากแผ่นดำของผมไปทำการจัดเก็บในฟอร์แมทไฟล์ออดิโอด้วยน่ะครับ  :secret
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤศจิกายน, 2010, 01:19:44 pm โดย pollock »


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ในที่สุด หากโครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราก็จะได้ไฟล์เสียงที่มีความสมบูรณ์คล้ายคลึงกับแผ่นเสียงที่สุด
อยากได้มานานแล้วครับ ฟัง CD สู้แผ่นเสียงไม่ได้ (แผ่นที่สมบูรณ์ ดีๆ นะครับ) แต่การเล่นแผ่นเสียงก็มีความยุ่งยากกว่า และการเก็บรักษาที่ผมกลัวจริงๆ ว่าพวกแผ่นที่ผมเก็บอยู่มันจะเสียสักวัน เพราะไม่ได้มีห้อง หรือสถานที่ดีๆเก็บแผ่นเสียงอ่ะครับ
ทำไมพวกสตูดิโอต่างๆ หรือแม้แต่ของกมล ไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของจุดนี้มั่งนะ มีแผ่น CD ใหม่ๆ ที่ทำออกมาหลายแผ่น โดยบอกคุณภาพดี บันทึกจากแผ่นเสียง แต่ก็มีหลายแผ่น ที่เวลาฟังจริงๆ แล้ว บันทึกมาได้แย่มาก
อย่างน้อย ถึงแม้อย่างผมจะไม่นิยมเล่นจากคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดดิส แต่ก็สามารถนำมาบรรจุไว้ใน DVD ได้ เป็น DVD Audio ที่มีความสมบูรณ์รองลงมาจากแผ่นเสียง เท่านี้ก็อยู่ในระดับความพึงพอใจส่วนตัวแล้วครับ
รอวันให้สมบูรณ์เร็วๆๆๆๆ  0)]
เรื่องของการอัดเพลงจากแผ่นดำในระดับ Hi-Def นี่ผมคิดว่า แม้ในตอนนี้มันจะยังทำได้ยังไม่ดีเท่าเทียมแผ่นดำ  (สำหรับคอเพลงที่ฟังแบบพิถีพิถันและชอบเพลงเก่าๆ ก็ยังคงยังรักแผ่นดำอย่างสุดขั้วหัวใจอยู่อย่างเดิม)  แต่ความที่มันใช้งานง่ายและด้วยความเสียดายร่องเสียงที่จะต้องสึกไปทุกครั้งในการลงเข็มเล่นแผ่นดำ  ในตอนนี้ผมก็ยอมยกให้ Hi-Def มันชะนะแผ่นดำไปแล้วละครับ ผมไม่ต้องพกแผ่นดำไปทุกบ้านที่ผมมีอยู่ แต่ผมก็ฟังเพลงเดียวกัน ที่อาจจะด้อยคุณภาพลงไปบ้างนิดหน่อย ซึ่งก็ “ยังดีกว่า” ฟังจากแผ่น  CD จากเพลงที่อัดจากการเล่นในครั้งเดียวกัน “เยอะเลย” ละครับ ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นกันจะจะจะจะ! ถ้าจะให้ผมฟังท่าน Furtwangler เล่นเพลงซิมฯ เบอร์ 9 เบรุสในปี 52 เอ! หรือ 51 หว่า? ของท่านบีฯ ด้วยแผ่น CD ที่ EMI ทำขายออกมานั้น “มันคนละระดับ” กับที่ผม “อัดจากแผ่นดำของผม” ละครับ เอ้า! ขอยกอีกตัวอย่างอีกแผ่นเช่น Violin Concerto ของลุงบรามห์ที่แกแต่งอยู่เบอร์เดียว เล่นโดยฟรานซีเก็ดตี้ ถ้าฟังจากแผ่น Commercial แล้ว Ambient มันจะหายหมดไป “เกลี้ยง” ไม่เหลือหลอ! ห่างจากที่ผมอัดจากแผ่นดำที่ทุกอย่างยังอยู่ครบ แม้ “เสียงคันเซโล่กระทบตัวเซโล่” (และยังมีเสียงเอมเบี้ยนจากภายในห้องที่ทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนนั่งฟังอยู่ในคอนเสริทฮอร์นจริงๆ เลยด้วย) ก็ยังได้ยินออกมาโดยไม่ต้องตั้งใจ แต่แผ่นเพลงที่ขายๆ กันนั้น ขนาดเอาหูไปแนบลำโพงก็ยังไม่ได้ยินนะครับ (แล้วความรู้สึก บรรยากาศที่เราจะต้องอินไปกับเพลงมันก็หายไปหมดเหมือนกัน)  แต่ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับชุดที่ใช้ด้วย ผมเคยเอาเพลงนี้ที่อัดจากแผ่นดำ ไปเปิดบ้านคนอื่น บางบ้านก็ไม่ได้ยินเสียงนี้เหมือนกัน แม้จะเอาหูไปแนบลำโพงแล้วก็ตาม ขณะที่บ้านผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฟังโดยปรกติเสียงกระทบกันนี้มันก็ลอยมาเข้าหูแบบเต็มๆ ละครับ

แผ่นที่ผมอัดเป็น DVD Audio มันให้ได้มากกว่า 95% ของแผ่นดำได้แล้วละครับ ถ้าต่อไปความเป็น Hi-Def มันขึ้นไปถึง 32/384 แล้วเมื่อไร? ผมคิดว่ามันคงจะเข้าใกล้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แผ่นดำก็คงจะต้องยกธงขาวเป็นแน่ เพราะการเล่นมันแผ่นดำให้ได้ดีนั้นมันต้องลงทุนสูง แผ่นดีๆ ก็หายาก แผ่นสภาพดีๆ แพงสุดๆๆ ทั้งดูแลยาก อีกทั้งยังเล่นยากอีกด้วย แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งมัน ก็จะสะสมมันไปเรื่อยๆ ละครับ ผมขอย้อนเล่าไปเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้ว ที่ CD ออกมาใหม่ๆ  ผมก็ยังงงๆ ว่าคนเล่นเครื่องเสียงที่คิดว่าตัวเองมีระดับว่าตัวเองหูทองนั้นเชื่อกันได้อย่างไร? ว่า CD มันเหนือกว่าแผ่นดำ ผมคิดว่านักเขียนหนังสือเครื่องเสียงเค้าเก่ง หลอกคนได้เกือบทั้งโลก ที่ว่า “เกือบทั้งโลก” ซึ่งอย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งละที่ไม่เชื่อ เพราะผมได้ฟังแผ่น SF Lab 13 ที่เป็นแผ่น CD และแผ่นดำ (กับเครื่องเล่นที่เป็นสุดยอดในสมัยนั้นด้วย) แล้วเห็นชัดเจนว่าในตอนนั้นว่ามันห่างกันมากๆๆๆๆ ยิ่งตรงปลายเสียงแหลมนี่มันชัดเจนมากๆๆๆๆๆ  ว่า CD แย่สุดๆๆๆๆๆๆ คงมีน้อยคนที่ไม่มีโอกาสได้ฟังเปรียบเทียบอย่างผม ที่ได้ยินด้วยชุดที่ดีมากๆ เพราะถ้าเป็นชุดธรรมดาๆ ก็จะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างนี้อย่างชัดเจนนะครับ ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้ฟังเปรียบเทียบจากชุดผมนะ เป็นชุดของลูกพี่ที่บ้านมีกะตังค์มั๊กๆ ซะด้วยอ่ะครับ  ตอนนั้นชุดผมยังกระจอกอยู่เอย... (แต่ก็ยังใช้ลำโพง Infinity RS 6 นะ ขับด้วยอินติเกทไพโอเนีย 250wต่อข้าง ตอนนี้ชุดนี้ก็ยังคงใช้งานอยู่ที่บ้านระยองนะครับ) ผมก็เลยไม่เชื่อคนเขียนหนังสือเครื่องเสียงที่เขียนเซียร์ CD กันมากเกิน และก็เลยไม่เคยเชื่อถือพวกนักเขียนพวกนี้อีกเลย ไม่ว่าจะฝรั่งหรือคนไทย! ยิ่งมิสเตอร์ แฮรี่ อะไรนี่ หูโคตะระเพี้ยน เชียร์ให้คนฟังเพลงเพี้ยนห่างจากเสียงจริงเสียงธรรมชาติออกไปมากขึ้นทุกวัน


ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ได้เลยครับพี่ ขอบคุณครับ เราเน้นประหยัด คุ้มเงินอยู่แล้ว  d_d แต่มุมมองของผม ว่าจะเริ่มต้นอย่างนี้ครับ โดยอ้างอิงกับซิสเต็มของผมเอง โดยผมจะไม่บอกเลยว่าตัวไหนเป็นตัวไหน จะได้คลำทางกันไม่ถูก เรียกว่า SUPER BLIND and FAKING BLIND กันไปเลย

1.บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ RCA (ถูก/แพง)
2.บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (ถูก/แพง)

เมื่อวอร์มทุกอย่างเข้าที่ หูเคลือบทองกันแล้ว ผมจะขยับสเต็ปเป็นประมาณนี้ครับ และ แน่นอนว่า ผมจะตบแดงกินดำได้อีกหลายชุด  ;D

3.บันทึกสัญญาณด้วยอแด็ปเตอร์
4.บันทึกสัญญาณด้วยแบตเตอรี่

ทั้งหมดนี้จะบันทึกด้วยเพลง เพลงเดียว ท่อนเดียว นาทีเดียวก็น่าจะพอ เพราะแผนที่คิดเอาไว้ จะกวาดไปถึง แท่นรอง สายไฟ และ ขั้วปลั๊ก ซึ่งหากทำเป็นแบบ ลีค (เหย้้า-เยือน) เราก็จะมีบททดสอบมากว่า 20 ขั้นตอน หรือ 20 การบันทึก ในท่อนเดียวนี่ล่ะ คำตอบของมันถ้าเป็นไปได้ น่าจะประมาณปลายเดือน ธ.ค. 53 ผมจะเฉลยอีกที

โหดดีมั้ยครับ ท่านใดคิดวิธีที่โหดสาหัสกว่านี้ได้ รบกวนแนะนำด้วยนะครับ เพราะสุดท้ายมันจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เลือกใช้สินค้า ของแต่ละคน โดยไม่มีอุปปาทานมาเกี่ยวข้อง และ ที่สำคัญ หลายๆ คนพูดว่าโอกาสมักอยู่ในมือของคนที่มีเงินมากกว่า ซึ่งผมจะทดสอบว่ามันจริงหรือไม่ หากสักวันหนึ่งไฟล์ดิจิตอลมันจะมาแทนที่ LP ได้ในสักวัน...สาธุ


ผมมีความเห็นว่าน่าจะจับคู่กันแบบนี้นะครับ :-

1. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ RCA (แพงยี่ห้อ?)
2. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (แพง)

3. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ RCA (แพง)
4. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ RCA (ถูกยี่ห้อ?)

5. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (แพง)
6. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (ถูก)

7. บันทึกสัญญาณด้วยอแด็ปเตอร์ XLR
8. บันทึกสัญญาณด้วยแบตเตอรี่ XLR

9. บันทึกสัญญาณด้วยอแด็ปเตอร์ RCA
10. บันทึกสัญญาณด้วยแบตเตอรี่ RCA 4 (4 ข้อนี้ 7vs8, 9vs10 ควรไปอยู่ด้วยกัน และบอกมาด้วยว่าอยู่ตรงไหน? ผมอยากรู้ผลแตกต่างระหว่างใช้แบทฯ ของสาย RCA กับ XLR ว่า XLR มีผลในการลดเสียงรบกวนจากไฟเอซีได้มากกว่าสาย RCA แค่ไหน?)



ถ้าใช้เพลงละนาทีเดียว ก็เสียดายแผ่นในส่วนที่ว่างไม่ได้ใช้ ไหนๆ ก็จะให้ฟังเทียบกัน ก็ให้มันมึนกันไปเลย! ผมจะส่งไฟร์ที่ผมอัดแผ่นดำจากชุดของผมไปเข้าร่วมกับแผ่นที่คุณนัทจะส่งไปให้เพื่อนฟังเทียบกันเพิ่มเข้าไปอีกชุดหนึ่งละกัน (คุณนัทจะใช้เพลงไหน? แผ่นอะไร? ช่วยบอกด้วยครับ ผมจะได้หาหยิบยืมเพื่อนฝูงเตรียมเอาไว้น่ะครับ) ผมจะอัดด้วย :-
11. อัดด้วยปรี QUAD II (RCA) กับเทริน B&O (หัวเข็ม MMC 3  0.6mV บวก Step-up Trans.)
12. อัดด้วยปรี CAT Mk3 (RCA) กับเทริน SME 10  อาร์ม SME V (หัวเข็ม Koetsu Rosewood Sign. ก็ 0.6mV เหมือนกัน)

13. อัดด้วยปรี QUAD II กับเทริน SME 10
14.  อัดด้วยปรี CAT Mk3 กับเทริน B&O

สิ่งที่ผมอยากจะรู้คือสองคู่นี้ครับ
15. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (แพง)
16.  อัดด้วยปรี CAT Mk3 (RCA) กับเทริน SME 10

17. บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (แพง)
18. อัดด้วยปรี QUAD II (RCA) กับเทริน B&O


เอาอัดลงมาคู่ๆ แบบนี้ แต่ไม่ต้องบอกว่า อันไหนก่อน อันไหนหลัง ตามที่ผมเลียงมานะครับ ให้คนฟังสรุปกันเอง ว่า 1-18 (แต่จะไม่สลับคู่นะครับ) แต่ละเพลงเสียงเป็นอย่างไร? ชอบอันไหน? เพราะอะไร? แล้วค่อยมาเฉลยกันทีหลัง จะได้ไม่มี Bias ซึ่งงานนี้จะมีเพียงคุณนัทที่รู้คนเดียว ผมก็จะไม่รู้เช่นกันว่าคุณนัทจับอะไรไว้ตรงไหน?  ผมว่านี่ละคือการฝึกทักษะการฟังได้ดีที่สุด ผิดถูกไม่เป็นไรครับ  คนไม่ผิดคือคนที่ไม่ทำอะไรเลย แล้วก็จะไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน การทำอะไรผิด จะทำให้เราจำสิ่งนั้นได้แม่นขึ้นนะครับ ที่จริงแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่ผิด แล้วก็อะไรที่ผิดนะครับ เพราะมันก็ไม่แน่ว่า RCA จะแย่กว่า XLR หรือ XLR จะเหนือกว่า RCA มันอาจเป็นความชอบรวมอยู่ด้วย เพราะในเรื่องของเสียงมันมีความชอบส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของโทนเสียงที่ชอบด้วย เราน่าจะตัดสินเอาเฉพาะเรื่องรายละเอียด เวทีเสียง ความอวบ ความเนียน  Ambient ของเพลงไหนให้ได้มากกว่ากัน  ความถูกต้องเหมือนจริงของเสียง ความเงียบสงัดของ Back Ground สิ่งเหล่านี้น่าเป็นข้อวิจารณ์ถึงคุณภาพจากการอัดครั้งนี้ได้นะครับ แล้วอาจจะมีวงเล็บว่าความชอบส่วนตัวคืออันไหน? แยกออกจากกัน

เราน่าจะอัดเป็น 24/96 ก็พอนะครับ เพราะ DAC ของบางคนเล่นได้แค่นี้ แล้วก็ทำเป็นแผ่น CD สำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง DVD จะได้ทดลองฟังกันด้วยน่ะครับ ที่จริงสิ่งที่มีผลของความแตกต่างระหว่างของผมและคุณนัทก็ยังมีชุดอัดอีดส่วนหนึ่งนะครับ ของผมคงใช้ EMU 1212M โมฯ ในส่วนที่เป็นด้าน A to D แค่เปลี่ยน Coupling Cap เป็น Black Gate ตัวสีแดงแค่นั้นเองละครับ อ้อ! ยังมีอีกเรื่องหนึ่งเป็นประสบการจากการเวียนของผมในชุดที่แล้วคือ เราควรปรับเกนเสียงของทุกเพลงให้เท่ากันด้วยนะครับ มิฉะนั้นคนฟังต้องมานั่งปรับตอนฟังเทียบกัน มันจะยุ่งยากครับ
ผมก็มีความคิดเห็นตามนี้ละครับ แต่คุณนัทเป็นผู้จัดทำ ก็ขอให้อยู่ในดุลย์พินิจของผู้จัดทำเป็นใหญ่ครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ pollock

  • Director
  • *****
    • กระทู้: 761
    • เพศ:ชาย
  • Netural Sound
    • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ | วัฒนาดีไซน์
ในที่สุด หากโครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราก็จะได้ไฟล์เสียงที่มีความสมบูรณ์คล้ายคลึงกับแผ่นเสียงที่สุด
อยากได้มานานแล้วครับ ฟัง CD สู้แผ่นเสียงไม่ได้ (แผ่นที่สมบูรณ์ ดีๆ นะครับ) แต่การเล่นแผ่นเสียงก็มีความยุ่งยากกว่า และการเก็บรักษาที่ผมกลัวจริงๆ ว่าพวกแผ่นที่ผมเก็บอยู่มันจะเสียสักวัน เพราะไม่ได้มีห้อง หรือสถานที่ดีๆเก็บแผ่นเสียงอ่ะครับ
ทำไมพวกสตูดิโอต่างๆ หรือแม้แต่ของกมล ไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของจุดนี้มั่งนะ มีแผ่น CD ใหม่ๆ ที่ทำออกมาหลายแผ่น โดยบอกคุณภาพดี บันทึกจากแผ่นเสียง แต่ก็มีหลายแผ่น ที่เวลาฟังจริงๆ แล้ว บันทึกมาได้แย่มาก
อย่างน้อย ถึงแม้อย่างผมจะไม่นิยมเล่นจากคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดดิส แต่ก็สามารถนำมาบรรจุไว้ใน DVD ได้ เป็น DVD Audio ที่มีความสมบูรณ์รองลงมาจากแผ่นเสียง เท่านี้ก็อยู่ในระดับความพึงพอใจส่วนตัวแล้วครับ
รอวันให้สมบูรณ์เร็วๆๆๆๆ  0)]


ออฟไลน์ Artafact

  • ****
    • กระทู้: 330
แบบนี้เราก็ได้เปรียบคนซื้อไปฟังน่ะครับพี่  เพราะเค้าฟังแค่ชุดที่เค้าซื้อ  แต่เราจะฟังชุดไหนก็ไปฟังได้หมด ฟังแบบฟรีๆกัน  ( ขำ ขำ น่ะพี่ )   ;D ;D
ฟังฟรีก็ได้แค่ตามซิสเต้มส์ทางร้าน และข้อกำหนดการทดสอบ เราไม่สามารถเลือกฟังอย่างที่อยากฟังได้และไม่รู้ว่าเมื่อยกมารวมกับของที่เรามีที่บ้านมันจะเข้ากันได้มากน้อยอย่างไร หรือว่าต้องซื้อเค้ามาทั้งชุดครับ อีกอย่างคือก่อนเค้าจะมาซื้อเครื่องราคาขนาดนั้น (สามแสนกว่านิด ๆ)เค้าคงมีโอกาสได้ฟังอะไรที่มากกว่าที่เราแค่ฟังฟรีแน่นอนครับอาจจะไปฟังยี่ห้อ อื่น รุ่นอื่นมาก่อนแล้วจึงตัดสินใจซื้อตัวนี้ เราแค่อาศัยว่าพอรู้จักคนขายเค้าก็เปิดให้ฟังตามสมควรแค่นั้นนะครับเลือกซิสเต้มส์ประกอบไม่ได้อีกตะหาก :'( :'( แต่เอาแค่ฟังแนวเสียงก็พอพยามฟังว่ามันให้แนวอย่างไรก็สนุกไปอีกแบบครับ :victory :victory


ออฟไลน์ Darksanta

  • ***
    • กระทู้: 118
    • เพศ:ชาย
  • ร่วมกันค้นหาบทสุดท้ายของการทำ D.I.Y
แบบนี้เราก็ได้เปรียบคนซื้อไปฟังน่ะครับพี่  เพราะเค้าฟังแค่ชุดที่เค้าซื้อ  แต่เราจะฟังชุดไหนก็ไปฟังได้หมด ฟังแบบฟรีๆกัน  ( ขำ ขำ น่ะพี่ )   ;D ;D
สถานที่ติดต่อ 
http://www.htg2.net/index.php?topic=70296.0


ออฟไลน์ Artafact

  • ****
    • กระทู้: 330
 :clap :clap O0 O0 :headphone :headphone
โปรเจ็คนี้คงทำให้ห้องบันทึกเสียง/รีมาสเตอร์ ระดับ พี่อาร์ และ พี่แกรม พี่โซ สั่นกระเทือนเลยนะครับ เอาให้สนุกครับ พี่ nutty ได้โปร ระดับ พี่ PINIJ ที่เชี่ยวชาญทั้งกาแฟ เครื่องเสียง การบันทึก การรีมาสเตอร์ มาร่วมวงด้วย ผมว่าคงเกิดความเคลื่อนไหวเป็นกระแสที่คนจะกล่าวถึงในวงกว้างแน่ ๆ ครับ และน่าจะสร้างนักฟังหูทอง นักโคลนมือเทพ กลัวอย่างเดียวว่า ยี่ห้อต้นแบบที่เราโคลน เค้าจะเจ๊งเลิกผลิตเอา เพราะเราโคลนได้หมด แต่ก็ สุดยอดครับ O0 O0
ที่สำคัญ หลายๆ คนพูดว่าโอกาสมักอยู่ในมือของคนที่มีเงินมากกว่า
ผมว่าโลกทุกวันนี้มันก็ยังเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะล่าสุด ไปนั่งฟัง mark352 ที่ร้านใกล้บ้านเป็นครั้งสุดท้ายเพราะ มีคนมาซื้อไปเป็นเจ้าของแล้ว (ไอ้เราฟังฟรีวันละนิดละหน่อย)ไม่มีตังค์เยอะขนาดนั้น ตัวต่อไปค่อยลุ้นว่าเค้าจะเอาอะไรมาน่าจะเป็น เบลคานโต้มัง d_d d_d d_d
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤศจิกายน, 2010, 12:14:29 am โดย Artafact »


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ได้เลยครับพี่ ขอบคุณครับ เราเน้นประหยัด คุ้มเงินอยู่แล้ว  d_d แต่มุมมองของผม ว่าจะเริ่มต้นอย่างนี้ครับ โดยอ้างอิงกับซิสเต็มของผมเอง โดยผมจะไม่บอกเลยว่าตัวไหนเป็นตัวไหน จะได้คลำทางกันไม่ถูก เรียกว่า SUPER BLIND and FAKING BLIND กันไปเลย

1.บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ RCA (ถูก/แพง)
2.บันทึกสัญญาณเป็นสายแบบ XLR (ถูก/แพง)

เมื่อวอร์มทุกอย่างเข้าที่ หูเคลือบทองกันแล้ว ผมจะขยับสเต็ปเป็นประมาณนี้ครับ และ แน่นอนว่า ผมจะตบแดงกินดำได้อีกหลายชุด  ;D

3.บันทึกสัญญาณด้วยอแด็ปเตอร์
4.บันทึกสัญญาณด้วยแบตเตอรี่

ทั้งหมดนี้จะบันทึกด้วยเพลง เพลงเดียว ท่อนเดียว นาทีเดียวก็น่าจะพอ เพราะแผนที่คิดเอาไว้ จะกวาดไปถึง แท่นรอง สายไฟ และ ขั้วปลั๊ก ซึ่งหากทำเป็นแบบ ลีค (เหย้้า-เยือน) เราก็จะมีบททดสอบมากว่า 20 ขั้นตอน หรือ 20 การบันทึก ในท่อนเดียวนี่ล่ะ คำตอบของมันถ้าเป็นไปได้ น่าจะประมาณปลายเดือน ธ.ค. 53 ผมจะเฉลยอีกที

โหดดีมั้ยครับ ท่านใดคิดวิธีที่โหดสาหัสกว่านี้ได้ รบกวนแนะนำด้วยนะครับ เพราะสุดท้ายมันจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เลือกใช้สินค้า ของแต่ละคน โดยไม่มีอุปปาทานมาเกี่ยวข้อง และ ที่สำคัญ หลายๆ คนพูดว่าโอกาสมักอยู่ในมือของคนที่มีเงินมากกว่า ซึ่งผมจะทดสอบว่ามันจริงหรือไม่ หากสักวันหนึ่งไฟล์ดิจิตอลมันจะมาแทนที่ LP ได้ในสักวัน...สาธุ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤศจิกายน, 2010, 11:17:47 pm โดย nut_ty »
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
จะ 24/176.4 หรือ 24/192 ไม่มีความแตกต่างใดๆ กับเครื่องของผมที่ทดลองใช้อัดจากแผ่นดำครับ เพราะเครื่องผม Clock ลองรับทั้ง 176.4 และ 192 ครับ

แต่ถ้าเครื่องใครลองรับอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วไซร์ เสียงมันจะออกมาดีไม่เท่ากันตามที่ท่านว่ามาละครับ ลองถ่ายรูปเบอร์ Clock ที่ใช้มาให้ดูหน่อยครับ เดี๋ยวคุณสันติจะมาดูให้ว่ามันเป็นอย่างไร?

แต่ถ้าเป็นการเอาไฟร์จาก 16/44.1 มาทำเป็น 24/192 มันก็ย่อมไม่ดีเป็นธรรมดาอยู่แล้วเพราะอับมาแบบไม่ลงตัว

คือแผ่นซีดีที่เค้าทำมาขายกันนั้น ต้นฉบับของมันถึงอาจเป็นจำนวณเต็ม 48, 96 หรือ 192 พอเอามาทำเป็น 44.1 นั้น คนอับเค้าเอามันมาจัดการปรับแต่งจูนเสียงกันใหม่อีกครั้ง นี่คือคำพูดของคนทำเพลงเค้าว่ามาอย่างนี้ละครับ แต่ส่วนมากในตอนหลังเค้าก็รู้ว่าการข้ามสายพันธ์ระหว่างมีจุดทดสะนิยมมันลดลงเป็นซีดีฟอร์แมทแล้วไม่ดี เค้าจะพยายามทำต้นบับเป็นทดสนิยมเหมือนกัน จะง่ายต่อการแก้ไขเมื่อนำมาลดแซมปลิ่งลงแผ่นซีดีกันน่ะครับ แต่ตอนนี้ห้องอัดบางส่วนไม่สนฟอร์แมทเรดบุ๊คกันแล้ว ก็เลยลุยกันกันเป็นตัวเลขเต็มๆ กันง่ายกว่าครับ

สรุปคือถึง Music Studio อัดเป็น 192  เมื่อเค้ามาปรับปรับแต่งให้เสียงออกมาดี ณ ที่แซมปลิ่ง 44.1 กันแล้ว ถ้าเราจะเอากลับไปที่ 192 เดิมๆ จากต้นฉบับ (ที่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว) เสียงก็จะไม่ดีครับ ต้องเป็น 176.4 เท่านั้นครับ แต่การอัดจากแผ่นดำ ถ้าเราคิดว่าเอาลงเป็น CD Format ก็ควรอัดกันที่ 176.4

แต่ถ้าไม่คิดจะทำเป็นซีดี เราจะทำเป็นอะไรก็ได้ แต่แนะนำว่าแซมปลิ่งเรทควรเป็นจำนวณเต็ม เพราะ Clock ส่วนมากของเครื่องที่ออกขายบางตัวอาจไม่รองรับแซมปลิ่งที่เป็นทดสนิยมนะครับ


หากคุณนัทที้มีแผ่นบาร์เทอร์อินอาร์ม ให้ทดลองอัดมาเทียบกันกับของผมดูนะครับ หรือมีแผ่นดำอะไรที่คิดว่าจะอัดกันต่อไปลองเอาชื่อแผ่นออกมาโชว์หน่อย ผมจะได้หาไว้อัดเทียบกันดูสักหน่อยน่ะครับ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า XLR มันจะมีสำคัญกว่าการใช้ปรีโฟโนแบบ RCA ดีๆ กับระบบ TT ดีๆ (ไม่ใช่ว่าของแพงกว่าจะดีกว่าเสมอไปทุกด้านนะครับ ตอนนี้ผมมี TT ของที่ถูกกว่า 50 เท่า แต่ผมบอกได้ว่ามันยังเหนือกว่าของที่แพงกว่าในหลายส่วน ที่สรุปผลโดยรวมแล้วผมยังชอบกว่าตัวแพงละครับ) ว่าจุดการคุ้มค่าลงทุนของพวกเราควรอยู่ ณ จุดใด? แล้วเอาแผ่นของเราสองคนไปเวียนให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจเลือกซื้อเลือกทำกันน่ะครับ (ตอนนี้ผมมี TT ยี่ห้อ B&O BEOGRAM TX2 อาจเทียบเสมอกับ TELEFUNKEN S600M จะได้ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกันในส่วนของ TT)
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
เทิร์นตัวเก่งของผม เป็น แบบแมน่วล เบลท์ ไดรฟ์ ที่ไม่แพงเลย ( มือสอง พร้อมหัว + ค่าส่ง = 8500) ถ้าเทียบกับคุณสมบัติของมัน เยอรมันนี่เก่งจริงๆ ระบบภายในเลียนแบบ B&O มาทั้งเซ็ตเลยก็ว่าได้ ผลิตปี 1976 ไม่รู้ว่าใครคิดก่อนกัน  ;D

สเต็ปการอัพเกรด โทนอาร์ม และ หัวเข็ม เขยิบเข้ามาทีละนิดแล้ว ติดอยู่นิดเดียว...ทำไม มันมีให้เลือกเยอะจังฟะ งบ 20K ขึ้นไปนี่ เอาใจหูยากจัง :whistling
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤศจิกายน, 2010, 12:47:42 pm โดย nut_ty »
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
แบบนี้ไม่ใช่ระดับ Hi-End แล้วมั้งครับ
ใช้เป็นมาตรฐานในงาน Studio ได้เลยใช่มั้ยครับเนี่ย?

เจอปัญหาตัวที่ทำให้ลำโพงข้างซ้าย ดังอื่อออออ... อยู่ข้างเดียวแล้วครับ ตัวแท็ป Signal ด้านกราวนด์ลงตัวถัง มันไม่แมทช์กับ PASS ONO และ เทิ์รนของผม ต้องแงะมันออกมา นัยว่าระบบกราวนด์ในเทิร์นของ Telefunken S-600 จะไม่เอื้ออำนวยต่อหัวเข็มของเล่นประเภทนี้ แต่ก็ทนๆ ใช้มันไปก่อน ของจริงสั่งไปแล้วยังไม่มาสักที

การแก้ฮัมในระบบนี่ ทำไปทำมายากเอาการเหมือนกัน กว่าจะลงตัวได้ เริ่มต้นจาก ตัดการเชื่อมต่อของกราวนด์ในสายสัญญาณของเทิร์นเทเบิ้ล แชนเนล ซ้าย และ ขวา ออกจากกัน จากนั้นใช้ TH1 CL60 ค่า 10 โอห์ม ยกกราวนด์ไฟเลี้ยงให้สูงจากตัวถังของภาคโฟโนสเตจ และ ปรีแอมป์ จากนั้นขยับตำแหน่งหม้อแปลงภาคจ่ายไฟในโฟโน สเตจ ให้มีทิศทางการรั่วไหลของเส้นแรงแม่เหล็ก ให้ห่างจากจุดอินพุต MC/MM และ ตัดกราวนด์เพลนออกเสียบางส่วน เนื่องจากเป็นแบบ ดูอัล โมโน เลยมีจุดอ้างอิงกราวนด์ที่ต่างกัน (ฮ่วยยยยย)

ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 3 วัน นอนตี 3 ทุกคืนเลย  :black_eye  ;D
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ pollock

  • Director
  • *****
    • กระทู้: 761
    • เพศ:ชาย
  • Netural Sound
    • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ | วัฒนาดีไซน์
แบบนี้ไม่ใช่ระดับ Hi-End แล้วมั้งครับ
ใช้เป็นมาตรฐานในงาน Studio ได้เลยใช่มั้ยครับเนี่ย?


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ปกติเขาจะตั้งกระแสไว้ที่ 10 มิลลิแอมป์ ด้วยการวัดค่าแรงดันตกคร่อม Source Resistor ให้ได้ 0.33 โวลต์ แต่ผมชอบเพิ่ม นิดๆ หน่อยๆ ให้มันพังเร็วยิ่งขึ้น  ;D

นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
อธิบายการทำงานเป็น ช็อตๆ

ภาค MC เป็นแบบ เจเฟต เกนสเตจ ที่ขนานกัน 4 ตัวเพื่อให้ได้อัตราขยายที่เหมาะสม การเลือก Resistive Load ทำได้กว่า 128 ระดับ โดยที่สามารถเลือกอัตราขยายแยกย่อยได้อีก 4 ระดับ โดยจัมเปอร์ 2 ตัวซึ่งจัมเปอร์ตัวแรกทำหน้าที่ ลด หรือ คงที่ VD ให้แก่เจเฟต และ จัมเปอร์ตัวที่ 2 ชอร์ตสัญญาณบางส่วนลงกราวนด์ เพื่อรักษาระดับอัตราขยายที่เหมาะสม การคัปปลิ้ง Pass เลือกใช้ตัวเก็บประจุ 220uF//0.01uF Panasonic แทนที่ 10uF ในรุ่นแรก จากการทดลองฟังเทียบกันดู ยังไม่เห็นผลต่างมากมายนักระหว่าง 220uF Electro กับ 10uF Poly นัยว่าสมดุลย์เสียงบังเอิญมาใกล้เคียงกัน

ภาค MM เป็นดิฟเฟอเรนเชี่ยล เจเฟต คล้ายๆ กับปรีแอมป์ทั่วๆ ไป เลือก Capacitive Load ได้ 16 รูปแบบ และ แมทชิ่ง Resistive ได้อีก 1 ระดับ เพิ่มเติมจากภาค MC ด้วย การทำงานของวงจรอาศัยคุมกระแสภาคดิฟเฟอเรนเชี่ยลด้วย TR และ LED คาสโคด เดรน ด้วยทรานซิสเตอร์ เพื่อเพิ่มอัตราขยายด้านความถี่สูง ส่วนเอาต์พุตเป็นมอสเฟ็ต RIAA ที่เลือกใช้เป็นแบบ Active และ Passive ผสมกัน โดยมีตัวเก็บประจุ 10uF Poly เป็นเอาต์พุต งงจริงๆ พอทีนี้ล่ะดันมาใช้ Poly แทนที่จะเป็น Electro แบบ MC อ้อ...วงจรนี้ตั้งไบอัสได้ด้วย ว่าจะเป็น A จ๋า หรือ A อ่อนๆ

ภาค Balanced จะจับสัญญาณเอาต์พุตจากตัวเก็บประจุ 10uF มาทำการกลับเฟส ด้วยมอสเฟตตระกูล IRFD ร้อนมากๆ ร้อนกว่าภาค MM เสียอีก สงสัยต้องการที่จะทำให้สัญญาณ (-) ที่กลับเฟสเอาไว้ ไม่มีความเพี้ยนในเชิงอุณหภูมิเลยหรือไง  :o

อัตราการบริโภคกระแสในแต่ละข้าง (รวมภาคบาลานซ์ด้วย) ประมาณ 76 มิลลิแอมป์ ที่ไฟเลี้ยง +/- 30V

ฮัม...เช็คล่าสุดขณะไม่ต่อสายสัญญาณเข้า วัดได้ 50-85 mV ที่ความถี่ 50Hz แต่เมื่อต่อสายสัญญาณจากเทิร์นเทเบิ้ลเข้ามาก็จะเหลือเพียง 10-15 mV ที่ความถี่ 50Hz
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ถ่ายรูปคู่กับเพื่อนพ้องของมันหน่อย หน้าตาเดียวกันหมดเลย  ;D

ปรีแอมป์ UGS (Pass X2) ของผมลงกล่องแล้วครับ ไม่มีกระสืออีกต่อไป เก็บไว้ทั้ง 2 เครื่องเลย เปลี่ยนอะไหล่เป็น DALE ยกแผง ต่อไปนี้จะใช้ XLR ทั้งระบบเลย หนอย...แพงดีนัก  K]
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ ohm

  • ผู้สนับสนุน web ......
  • ******
    • กระทู้: 910
    • เพศ:ชาย
ผมก็ไม่รุ้เหตุผลเหมือนกัน แต่เท่าที่ลอง 24/192  ใช่ว่าจะดีกว่าไฟล์ที่บิตเรตต่ำกว่าไม่มากเสมอไป

เท่าที่ลองดูงูๆปลาผมก็ไม่ใช้ 24/192   อาจจะเป็นเพราะ hardware ที่มีทำงานได้ดีที่สุดกับบิตเรตต่ำกว่า24/192 ก็ได้


ออฟไลน์ pollock

  • Director
  • *****
    • กระทู้: 761
    • เพศ:ชาย
  • Netural Sound
    • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ | วัฒนาดีไซน์
จากการเดาแบบงูๆ ปลาๆ ของผม
คาดว่าการตัดคลื่นความถี่ที่มนุษย์เราสัมผัสได้บางส่วนออกไป อาจจะช่วยให้เกิดความผ่อนคลายขึ้น
เกี่ยวกับรึเปล่าไม่ทราบครับ อาจจะต้องใช้ Quantum physic ในการหาคำตอบ  :D


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
พรุ่งนี้จะเริ่มใช้ Aleph ONO ส่งสัญญาณไปเข้า Tascam HD P2 เพื่อบันทึกสัญญาณในรูปแบบ Profesional Studio Recorder แล้วล่ะครับ จะดูว่ามันจะต่างจาก RCA ธรรมดาๆ สักกี่มากน้อย เท่าที่หาในท้องตลาด ไม่เห็นจะมี Phono Stage ที่มีบาลานซ์ เอาต์พุต ให้เล่นกันในราคาประหยัดเลย ตอนนี้สะสมแผ่นหายากไว้พอประมาณแล้ว จะได้เอาจริงสักที  d_d

ยืมกล่องของ UGS มาใช้พลางๆ ซ้ายเป็นตัวเลือก MC, MM ตรงกลางเป็นการเลือกอัตราขยาย ขวาสุดเป็น สวิทช์ ปิด/เปิด แบบหมุน

ป.ล.มีอยู่หนึ่งเรื่องที่แปลกใจเกี่ยวกับ A/D หนึ่งเรื่องก็คือ ทำไมการบันทึก 24/176.4 ถึงสัมผัสได้ว่าเสียงนุ่มนวลกว่า 24/192 หรือว่าผมคิดไปเอง ?!?

นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445