มาUp Date ความเห็นอีกซักนิดครับ ในแนวทางของคุณM.lex ตอนแรกๆดูเหมือนจามีความแน่นขึ้นแรงขึ้นฟังติดหู แต่พอฟังไปได้สักระยะแล้วกลับมาต่อแบบของคุณกัมฯดูเหมือนจะได้เสียงเบสที่มีคุณภาพและรายละเอียดที่ดีกว่า เหมือนจะไม่มีความเพี้ยนให้ได้ยิน เลยกลับมาใช้ระบบเดิมเลย ปล. ลองกับ Sub martinlogan dynamo1000 และ SPL1000 Ultra
การต่อสัญญาณเข้า Sub แบบที่แนะนำไปนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ Sub เกิดความเพี้ยน ความเพี้ยนที่ว่ามานั้นสันนิฐานว่าเกิดจากการปรับ X-over ยังไม่ลงตัวและไม่ไปสอดคล้องกับลำโพงทุกตัวนั่นเอง เกิดการเหลื่อมล้ำของความถี่จาการปรับไม่ได้มากกว่า
หากความเพี้ยนเกิดจากต่อแบบที่ว่ามาผมเองยังไม่เคยเจอมาเลย ความเพี้ยนที่จะเกิดจาก Sub มีอยู่กรณีเดียว เปิดดังเกิดขีดจำกัดของ Sub Woofer ตัวนั้นๆนั่นเอง
พอเรามาต่อแบบ LFE External X-Over แล้วไปกำหนดจุดตัดที่ Receiver ช่อง Sub เป็น 80Hz (อาจจะมากกว่าหรือน้อนกว่า 80Hz) กำหนดขนาดของลำโพง เป็น Small หรือ กำหนดจุดตัดเอง แน่นอนเสียงจาก Sub Woofer จะไปรับช่วงจุดตัด
ที่ 80Hz พอดีจากการที่เราไปกำหนดจุดตัดความถี่ของลำโพงใน Receiver ผลที่ได้ดีครับ ไม่ต้องไปยุ่งยากมากเรื่องกับการหาจุดตัดความถี่ให้ลงตัวกับลำโพงทุกตัว ที่ท่านฟังน่ะใช้เลยครับดีกว่าที่ผมแนะนำแน่นอน อันนี้ไม่แย้ง
แต่...ถ้าเราต้องการเสียงความถี่จาก Sub Woofer ให้ได้เบส ลึก เร็ว แรง ควบแน่น ปรับเสียงเบสแบบลูกบาสให้เป็นลูกเหล็กล่ะครับทำอย่างไร
ใน Receiver เองมันมีความหยาบในการปรับแต่งเสียง จะดีไหมถ้าเราปรับแต่งความถี่ต่ำให้ออกมาอย่างที่เราอยากได้...
การต่อแบบ LFE External X-Over ไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรมาก เร่งลดความดังหาจุดตั้งให้ได้ดีที่สุดนั่นก็เสร็จแล้ว
และการต่อแบบที่ผมแนะนำ แบบนี้ขอบอกว่ามันไม่ง่ายครับ ถ้าเล่น Sub มายังไม่มากและหลากหลายรูปแบบ ผมขอแนนำว่า LFE External X-Over ดีกว่าครับ ฟันธง
การต่อแบบที่ผมแนะนำนั้น ช่วยฝึกทักษะการฟังเล่นการปรับ Sub Woofer อย่างมืออาชีพ