หัวข้อ: Ramba 38HE7 PP class A

[John Ram]

 

[John Ram]

แบบนี้พอไหว

[ออดิโอแมน]

สงสารน้าแรมบ้า เกิดบ้าขึ้นมาจริงๆ หลอดอีกเยอะแยะจะไม่ได้เอามาทำ ลดลงเหลือแค่นี้ก็น่าจะพอ

เกนรวมภาคหน้า 53.6*4.4 = 236 

[John Ram]

 

[ออดิโอแมน]

มาสรุปเกนรวม
drive stage gain 53.6
phase splitter gain 4.4
buffer gain 0.51
power gain 21
เกนภาคหน้า = 53.5*4.4*0.51 = 120  ผมว่าใช้ได้อยู่นะ เกนเกินร้อย
เกนรวมทั้งหมด = 120*21 = 2520

[ออดิโอแมน]

เสร็จแล้ว
ผมก้พึ่งรู้ว่าทำไมเขาไม่ทำแบบนี้กัน ก็เพราะจุดบัดกรีเยอะมาก
ยังไงน้าแรมบ้าถอนตัวได้นะครับ

รวมแล้ว 6 หลอด/แชนแนล

[ออดิโอแมน]

เปลี่ยนหลอดไดร์เป็น 12SL7 cascode
ไบอัสให้หลอดตัวล่าง
เลือก VP1 80V ลากเส้นไปชน Vg 0V
เลือก B4+ 295V ลากจากจุดนี้ไปผ่านจุดตัดเลยไปแกนกระแสเพลต
Imax = 2.72mA
RL = 295V/2.72mA = 108.46K ค่ามาตรฐาน 100K
เลือกจุดไบอัส กึ่งกลางของเส้นตั้งที่ 1mA ลากขนานไปทางขวามือชนเส้นที่ลากจาก 80V ตัดกันที่ Vg1 -0.6V
สรุปค่าที่ได้
B4+ 295V
RL 100K
VP1 80V
Ia 1mA
Vg = -0.6V
Rk = 1V/1mA = 1K
ที่จุดไบอัส หาค่า Gm1 และ Rp1
 Gm1 = 1.25-0.85mA/1-0.5V = 0.4/0.5 = 0.8mA/V
 Rp1 = 90-70V/1.15-0.85mA = 20/0.3 = 66.666V/mA = 67K
หาเกนรวมของวงจรได้เลย เพราะว่าวงจร cascode จะหาค่าเกนเหมือนหลอดเพนโทด
Total cascode gain = Gm1*RL
                                = 0.8m*67K = 53.6
ในทางปฏิบัติจริงจะได้เกนต่ำกว่านี้เล็กน้อยแต่ไม่มาก
หาค่า C bypass cathode
Rk' = 1/Gm = 1/0.8m = 1.25K
Zk = Rk'//Rk = 1.25K//1K = 1.25K/2.25K = 555.5555 = 556R
Ck = 1/(2*3.14*10*556) = 1/34917 = 27uF
.................
ต่อไปก็เป็นการไบอัสไตรโอดตัวบน
จากการเลือกจุดไบอัสหลอดตัวล่าง  เราได้ B4+ 295V , Vp1 80V , Ia 1mA
แรงดันคร่อม RL = 100K*1mA = 100V
ดังนั้นแรงดันคร่อมไตรโอดตัวบน Vp2 = B4+ - VRL – Vp1
 Vp2 = 295-100-80 = 115V
(Vp2 เทียบกราวน์ = Vp1 + Vp2 = 80+115 = 195V)
เมื่อได้ Vp2 แล้วก็มาลงจุด ลากเส้นตรงดิ่งขึ้นไปจาก 115V จรดเส้นที่ลากมาจาก จุดที่กระแส Ia = 1mA
มาตัดกันที่เส้น Vg ประมาณ = -1.1V  Vg นี้จะเป็น Vg ของไตรโอดตัวบน คือ Vg2 ,
เมื่อเทียบกับแรงดันที่แคโทดของตัวเอง = -1.1V
แต่แรงดันที่แคโทดของไตรโอดตัวบน = 80V ดังนั้นแรงดันที่ Vg2 เมื่อเทียบกับ Vk2 ต้องเป็น –1.1V
Vg2 = 78.9V 
ซึ่งก็คือแรงดันที่จุดของวงจรแบ่งแรงดันนั่นเอง
จะหาค่า Gm2 , Rp2 ก็ได้นะครับแต่ไม่หาเพราะไม่ได้ใช้คำนวณ
..............
ต่อไปหาค่า R1 , R2 ของวงจรแบ่งแรงดัน
เราจะแบ่งแรงดันจากไฟเลี้ยงวงจรมาใช้กับสกรีนกริด เราไม่ต้องการกระแสในการไบอัส Vg2 ต้องการแค่แรงดัน 87.5V มาอ้างอิงใช้งาน
กำหนดให้ R1 = 500K ก็จะหาค่า R2 ได้จากสมการแบ่งแรงดัน
R2 = R1*Vg2/(B4+ - Vg2)
     = 500K*78.9/295-78.9   =  39450K/216 = 182.6K ค่ามาตรฐาน 180K
ค่าจริงของ Rg2 ประมาณ R1 ขนานกับ R2
สำหรับ Cg2 ก็หาได้จากสมการ 
Cg2 = 1/(2*pi*f*R)
เมื่อกำหนดความถี่คัตอ๊อฟ 20Hz (ทำไม่ถึงเท่านี้ก็ไม่รู้)  สำหรับ R นั้นคือค่าอิมพีแดนซ์ของวงจรแบ่งแรงดันครับ หรือ Rg นั่นเอง
ก็เท่ากับ R1 ขนานกับ R2 ตามสมการตัวต้านทานขนานกัน
R = R1*R2/R1+R2
  = 500K*180K/500K+180K = 90000K/680K = 132K
แล้วจึงหาค่า Cg2
Cg2 = 1/(2*3.14*20*132K) = 1/16579200 = 0.06uF

[ออดิโอแมน]

ใช่ๆๆ เพราะไฟจะเรียบเป็นไฟตรง ขอบคุณมากครับ

[Mr. เอี้ยง]

แก้ภาคแยกเฟสโดยเพิ่มแรงดัน 320V

น้าครับ C คาโถดของภาคแยกเฟสที่ขนานอยู่กับ R 1 k ต้องเอาออกครับ ไม่เช่นนั้นภาคนี้จะทำการแยกเฟสสัญญาณไม่ได้ครับ

[ออดิโอแมน]

แก้ภาคแยกเฟสโดยเพิ่มแรงดัน 320V

[ออดิโอแมน]

phase spliter , differential amplifier 12AU7
VHT 320V, Imax 10mA
RL = 320V/10mA = 32K ค่ามาตรฐาน 33K
ช่วงสวิงรวม = 294-70 = 224V
Vg สวิง 20V
Av = 224/20 = 11.2 
กึ่งกลางวงสวิง 294+70/2 = 182V
ได้ Vp 183V ,Ia 4mA
Pd. 183V*4mA = 0.7W
Vg1 = -8V
B2+ = 8+183+(4mA*33K) = 191+132 = 323V
Gm = 7.4-1.75mA/10-6V = 5.65/4 = 1.4mA/V
Rp = 200-170V/5.5-3mA = 30/2.5 = 12V/mA = 12K
RL/Rp = 33K/12K = 2.75
u = Gm*Rp = 1.4*12 = 16.8
Ik = 2*4 = 8mA
Rk = 8V/8mA = 1K 
Rpeff. = Rp+Rk(u+1) = 12K+1K(16.8+1) = 12K+17.8K = 29.8K
gain = uRL/Rpeff.+RL = 16.8*33K/29.8K+33K = 554K/62.8K = 8.8 แบ่งเกนครึ่งหนึ่ง = 4.4
Zout = Rpeff.//RL = 29.8K//33K = 983.4K/62.8K = 15.65K = 16K

[ออดิโอแมน]

จุดบัดกรีมีเป็นพันจุด

[ออดิโอแมน]

12BY7 buffer stage
VHT 350V, Imax 50mA
RL = 350V/50mA = 7K ค่ามาตรฐาน 6.8K
เพลตสวิง 314-43 = 271V
กึ่งกลางเพลตสวิง = 314+43/2 = 178.5V เลือก 175V
Vp 175V
Ia 25mA  ต้องการตรงนี้แหละ เยอะมาก
Vg1 - 3.3V
Ig2 5.8mA
Vg2 180V
Ik = 25+5.8 = 30.8mA ยิ่งเยอะเข้าไปอีก
Rk = 3.3V/30.8mA = 107R ค่ามาตรฐาน 100R นี่ยิ่งจะทำให้เอ้าพุทอิมพีแดนซ์ต่ำ
B2+ = 3.3+175+(25mA*6.8K) = 178.3+170 = 348.3V
Rg2 = 348.3-180V/5.8mA = 168.3/5.8 = 29K ค่ามาตรฐาน 30K ทำกำลัง = 168.3V*5.8mA = 0.98W
pd. = 175V*25mA = 4.4W
Rp ตามคู่มือ 0.93M = 93K
Gm ตามคู่มือ 11mA/V
u = Gm*Rp = 11*93 = 1023 ทำไมมิวเยอะจัง
Rpeff. = Rp+Rk(u+1) = 93K+100R(1023+1) = 93K+102.4K = 195.4K
gain = uRk/Rpeff.+RL = 1023*100R/195.4K+6.8K = 102300/202.2K = 0.51
Zout = Rpeff.+RL//Rk = 195.4K+6.8K//100R = 202.2K//100R = 20220000/202300 = 99.9 = 100R

[John Ram]

น้าแรมบ้า เจอวงจรนี้ รับรองว่า บ้าแน่ๆ
วงจรไม่ได้ยาก ไม่ทำให้บ้า

แต่จะไปบ้านตอนไวร์ริ่ง

สงสัยจะบ้าจริงแหละ ข้างเดียวนับขาหลอดได้ 59 ขาแล้ว 2ข้างก็ 118ขา

[ออดิโอแมน]

น้าแรมบ้า เจอวงจรนี้ รับรองว่า บ้าแน่ๆ
วงจรไม่ได้ยาก ไม่ทำให้บ้า

แต่จะไปบ้านตอนไวร์ริ่ง

[ออดิโอแมน]

ถ้าไม่มีปัญหาก็มาตั้งต้นกันใหม่
หลอด 38HE7 ถ้าขับยาก เราก็หาทางแก้ที่มีหลักการหน่อย ถ้าแก้ไม่ได้ก็เปลี่ยนหลักการใหม่ ไม่มีหลักก็ไม่รู้จะแก้ที่ตรงไหน

ก่อนจะถึงหลอด 38HE7 เราจะใช้หลอดที่จ่ายกระแส Ia ได้มากหน่อย 20mA ขึ้นไป และทำแคโทดฟอโลเวอร์ เอ้าพุทอิมพีแดนซ์จะได้ต่ำ สเตจนี้ไม่ต้องการเกน แต่ต้องการให้มีเสถียรภาพ หลอด 12BY7 เหมาะมาก จากการที่ทำกราฟไว้ กระแสก็ตั้ง 25mA มีสี่หลอดใช้ไปสี่หลอด สเตจนี้เกนไม่ถึง 1 ถ้ามีกราฟไตรโอดโหมด ก็น่าจะใช้ไตรโอดโหมด

เอา 12SL7 มาแทน 12AU7 ได้เกนเพิ่มแน่ๆ

6J5 คงเดิม

โอเคปะ

[John Ram]

มีข้อมูลอย่างนี้ก็แจ่ม
เอา 12BY7 ทำยแกเฟส ใช้ไปสี่หลอด แต่หลอดแต่ละคูควรจะแมทช์กัน
แล้วเอา 12AU7 ทำ cascode ไดร์
น่าจะได้เกนสูงเกือบพันเท่า แต่จะทำโวลต์สวิงได้ขนานไหน ไม่ทราบครับ

ตกลงครับ ทรัพยากรไม่อั้นครับ ขอสะใจพอ เรื่องหลอดและหม้อไฟไม่ใช่ปัญหาครับ

[ออดิโอแมน]

มีข้อมูลอย่างนี้ก็แจ่ม
เอา 12BY7 ทำยแกเฟส ใช้ไปสี่หลอด แต่หลอดแต่ละคูควรจะแมทช์กัน
แล้วเอา 12AU7 ทำ cascode ไดร์
น่าจะได้เกนสูงเกือบพันเท่า แต่จะทำโวลต์สวิงได้ขนานไหน ไม่ทราบครับ

[Rabbit-Hunter]

  ;Dเคยลองมาแล้วสำหรับเบอร์นี้ ครับ แต่เป็นเบอร์ 33GY7A ทั้งในแบบ SE, PSE , และ PP มันได้วัตต์ค่อนข้างต่ำไปนิดครับไม่เหมาะสำหรับลำโพงความไวต่ำครับ ส่วนการไดร์ฟ ต้องการโวล์ทสวิงค่อนข้างสูง มีวงจรเดียวพอขับได้คือแบบ SRPP นอกนั้นขับไปก็บอด ๆ ครับ ลองดูวงจรของ ญี่ปุ่นเป็นแนวทางได้ครับ เบอร์นี้ 38HE7 มันเบอร์เดียวกับ 33GY7A เลยครับ ต่างกันแค่ไฟจัดใส้หลอดนิดหน่อยครับ ตอนนี้รื้อหมดแล้วใช้หลอด 33GY7 ทำหน้าที่อย่างอื่น สมประสงค์กว่า

[ออดิโอแมน]

ถ้าเอา 12BY7 มาแทน 12AU7 ในภาคแยกเฟส  ต้องใช้ 12BY7 สี่หลอดครับ จะเอาไหมครับ

[John Ram]

ขอบคุณครับ
ผมไปค้นในเข่ง ไปเจอ 12BY7 NEC อีก  6 หลอด 
พอจะปรับภาคหน้า เป็นเบอร์นี้ได้ปล่าวครับ เผื่อเป็นทางเลือก เพราะเบอร์นี้หลอดเสียงดี ราคาไม่แพงด้วยครับ

[ออดิโอแมน]

เกนภาคหน้า = 5.5*17 = 93.5  มากมาย
เกนรวม = 93.5*21 = 1963.5

วงจรสำเร็จ เสร็จแล้วครับ

[ออดิโอแมน]

drive 6J5
VHT 240V, Imax 5mA
RL = 240V/5mA = 48K ค่ามาตรฐาน 47K
วงสวิงรวม  218-42 = 176V
Vg สวิง 12V
Av = 176/12 = 14.666 = 15
กึ่งกลางวงสวิง 218+42/2 = 130V
Vp 130V , Ia 2.3mA
ประมาณค่า Vg  = -5.2V
Pd. = 130V*2.3mA = 0.3W

Rk = 5.2V/2.3mA = 2.3K ค่ามาตรฐาน 2.2K
B3+ = 5.2+130+(2.3mA+47K) = 135.2+108.1 = 243.3V
Rp = 140-120V/3-1.6mA = 20/1.4 = 14.3V/mA = 14.3K
RL/Rp = 47K/14.3K = 3.3
Gm = 4.3-1.2mA/6-4V = 3.1/2 = 1.55mA/V
u = Gm*Rp = 1.55*14.3 = 22.2
gain = u*RL/Rp+RL = 22.2*47K/14.3K+47K = 1043K/61.3 = 17

Rk' = 1/Gm = 1/1.55m = 645R
Zk = Rk'//Rk = 645//2.2K = 1419000/2845 = 499R
Ck = 1/2*3.14*10*499 = 1/31337 = 32uF

[ออดิโอแมน]

ได้วงจรขั้นต้น
ผมเอา 12BY7 ออกเพราะน้าแรมบ้ามีสองหลอด ต้องใช้สี่หลอด

[ออดิโอแมน]

phase spliter , differential amplifier 12AU7
VHT 275V, Imax 10mA
RL = 275V/10mA = 27.5K ค่ามาตรฐาน 27K
ช่วงสวิงรวม = 260-70 = 190V
Vg สวิง 18V
Av = 190/18 = 10.5 เท่า แบ่งเกนซีกละครึ่งหนึ่งเป็น 5.3
กึ่งกลางวงสวิง 260+70/2 = 165V
ได้ Vp 165V ,Ia 4mA
Pd. 165V*4mA = 0.7W
ประมาณค่า Vg1 = -7V
B2+ = 7+165+(4mA*27K) = 172+108 = 280V
Gm = 5.5-2.5mA/8-6V = 3/2 = 1.5mA/V
Rp = 180-155V/5.5-3mA = 25/2.5 = 10V/mA = 10K
RL/Rp = 27K/10K = 2.7
u = Gm*Rp = 1.5*10 = 15

Rk = 7V/4mA = 1.75K ใช้ Rk ร่วมกัน จึงลดลงครึ่งหนึ่ง =875R ค่ามาตรฐาน 820R
IK = สองเท่าของ Ia =2*4mA = 8mA

Rk' = 1/Gm = 1/1.5m = 667
Zk = Rk'//Rk = 667//820 = 546940/1487 = 368
Ck = 1/2*3.14*10*368 = 1/23110 = 44uF

มี Ck
gain = uRL/Rp+RL = 15*27K/10K+27K = 405K/37K = 10.9 แบ่งเกนครึ่งหนึ่ง = 5.5

ไม่มี Ck
Rp eff. = Rp+Rk(u+1) = 10K+820R(15+1) = 10K+13.12K = 23K
gain = uRL/Rpeff.+RL = 15*27K/23K+27K = 405K/50K = 8.1 แบ่งเกนครึ่งหนึ่ง = 4

[John Ram]

ผมชอบอ่านกระทู้ของคุณ ออดิโอแมน กับคุณ Ramba ถามตอบกัน ได้ความรู้และเทคนิคการออกแบบหรือปรับแต่งค่าสำหรับหลอดแต่ละเบอร์มากๆ  ไม่ว่าจะมือเก่ามือใหม่นำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลอดทุกเบอร์ 

ขอบคุณท่านอาจารย์หลอดหัวแหลม เป็นทางเลือกอีกทางครับ ตามแนวของอาจารย์ สร้างมูลค่าเพิ่มจากหลอดที่โลกลืม
ให้พลังเงียบได้มีของเล่น ได้เล่นได้ทำ โดยเฉพาะหลอด ทีวี ในภาคฮอร์หรือในทุกภาคสามารถ นำมาทำแอมป์ได้

ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่ใจรักครับ

[ออดิโอแมน]

คุณ ออดิโอแมน หลับบ้างยังครับ เห็นออนตั้งแต่เช้าเลย

ตามประสาคนแก่คนเช้าครับ แล้วก้ไปนอนต่อ อากาศเย็น

[Mr.so-nE]

คุณ ออดิโอแมน หลับบ้างยังครับ เห็นออนตั้งแต่เช้าเลย

[หลอดหัวแหลม]

ผมชอบอ่านกระทู้ของคุณ ออดิโอแมน กับคุณ Ramba ถามตอบกัน ได้ความรู้และเทคนิคการออกแบบหรือปรับแต่งค่าสำหรับหลอดแต่ละเบอร์มากๆ  ไม่ว่าจะมือเก่ามือใหม่นำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลอดทุกเบอร์ 

[John Ram]

เกนรวมของภาคหน้า = 22.5*57.3 = 1289
เยอะไปหรือเปล่าครับ หลอด 38HE7 ต้องการแรงดันสวิงที่ 46V
ถ้าจะเอาจริงๆ ต้องใส่ฟีดแบค

ผมว่าหาหลอด  ไตรโอดเดี่ยว medium mu มาทำหลอดไดร์จะดีกว่านะครับ

ได้เลยครับ เบอร์ใหนยิบมาขับได้เลยครับ เดี๊ยวค้นในกรุคงจะมีครับ
จารย์ชอบเบอร์ใหนครับ

ไตรโอดเดี๋ยวตอนนี้มีหลอดใหญ่ 6J5 =2, #27=2
นอกนั้นต้องค้นครับ หรือจะเป็นหลอดเล็ก ๆ ก็ได้นะครับ 12A.....7 หรือ  6AV6 ก็มีหลายหลอดครับ

[John Ram]

เกนรวมของภาคหน้า = 22.5*57.3 = 1289
เยอะไปหรือเปล่าครับ หลอด 38HE7 ต้องการแรงดันสวิงที่ 46V
ถ้าจะเอาจริงๆ ต้องใส่ฟีดแบค

ผมว่าหาหลอด  ไตรโอดเดี่ยว medium mu มาทำหลอดไดร์จะดีกว่านะครับ

ได้เลยครับ เบอร์ใหนยิบมาขับได้เลยครับ เดี๊ยวค้นในกรุคงจะมีครับ
จารย์ชอบเบอร์ใหนครับ

[ออดิโอแมน]

Vg2 = 130V
Vp 140V ,Vg1 -23V
Ia 50mA
Pd. =140V*50mA = 7W
หาค่าต่างๆ ที่จะตามมา
Rk = 23V/50mA = 460R ทนกำลัง 23V*50mA = 1.15W
B1+ = 23+140+10 = 163+10 = 173V
Gm = 80-38mA/25-20V = 42/5 = 8.4mA/V
Gain = Gm*RL = 8.4*2.5 = 21
Rk' = 1/Gm = 1/8.4m = 119R
Zk = Rk'//Rk = 119//460 = 54740/579 = 95R
Ck = 1/2*3.14*10*95 = 1/5966 = 168uF
...................
Ig2 = 5mA
Rg2 = 173-130V/5mA = 43V/5mA = 8.6K ค่ามาตรฐาน 8.2K ทนกำลัง = 43V*5mA = 0.2W
Ik = 50+5 = 55mA
เอ ทำไมเราหา Rk ไปก่อนแล้ว เราน่าจะหา Rk ทีหลังนะ

ประมาณกำลังขับจากเส้นโหลดไลน์
Vrms = (140-10)*0.71 = 92.3Vrms
Irma = (100-50)*0.71 = 35.5mArms
P = 92.3*35.5 = 3.3W
ได้กำลัง 3.3W/ch. ค่าโดยประมาณ

[ออดิโอแมน]

ออดิโอแมน ท่านกินข้าวกับอะไรครับ บ้านอยู่แถวไหน รับสมัครลูกศิษย์หรือไม่ เล็กล้างรถก็ยังดี ขอคารวะ

พึ่งกินข้าวต้ม ผักกาดดอง หมูยอ ไปหมาดๆ ครับ
อ้อ อย่าเรียกผมว่าอาจารย์เด้อครับ เขิน
ถือว่าเรียนรู้ด้วยกันครับ

[ช็อต]

ออดิโอแมน ท่านกินข้าวกับอะไรครับ บ้านอยู่แถวไหน รับสมัครลูกศิษย์หรือไม่ เล็กล้างรถก็ยังดี ขอคารวะ

[ออดิโอแมน]

38HE7 diode-pentode compactron ใช้ในภาคขยายสัญญาณเครื่องรับทีวี ไดโอดเป็นแดมปิ้งไดโอด เพนโทดขยายสัญญาณแนวนอน
12 ขา จะหาซ็อคเกตได้หรือเปล่า
จุดใส้หลอด 37.8V/0.45A อุ่นใส้หลอด 11 วินาที
เรตติ้ง
Vp 500V
Vg2 150V
Vg1 -55V
plate diss. 10W
g2 diss 3.5W
Ik 230mA
Rg1 1M
วงจรเฉพาะ
Vp 130V
Vg2 130V
Vg1 -22V
Ia 60mA
Ig2 2.8mA
Gm 8.8mA/V
u (triode mode) 4.2
Vg1 for Ib 1mA = -39V

[ออดิโอแมน]

38HE7=4
12SL=2
12By7=2
OPT=5K:8R
หม้อไฟ ยังไม่ทำ

ทำเป็น PP class A เหมือนเดิมนะครับ