เจ้าคู่นี้ตอนนี้คงอยู่ระหว่างทางไป VTV show
การออกแบบแอมป์ของ Jack เค้าจะเน้นความเรียบง่ายและคุณสมบัติของตัวหลอดเองครับ ตัวเค้าจะต่อต้าน Negative feedback มาก เค้าเปรียบเทียบ Negative feedback ว่าเหมือนกับคุณต้องการขับรถด้วยความเร็ว 50 กิโล/ชั่วโมง แต่ใช้วิธีเหยียบคันเร่งที่ 100 กิโลพร้อมๆกับเหยียบเบรค เพื่อให้ความเร็วมันเท่ากับ 50 กิโล ผมเองลองฟังแอมป์ที่มี feedback ปานกลาง (ซัก 15 dB ขึ้นไป)ก็รู้สึกได้ว่าเสียงอั้นๆ แอมป์ KT88 pushpull ของผม(ปรับปรุงไปครั้งนึงแล้ว เอาไว้จะลงอีกทีนึง)ปรับ feedback ได้ ประมาณ 9 dB พอมาฟังกับพวก Fostex แล้วไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ ต้องเอา feedback ออก
ความคิดนี้ก็เลยทำให้ไม่ค่อยได้เห็น feedback ใน design ของ Jack เท่าไหร่ ต่างจากเพื่อนซี้ของเค้า Cyrus Brenneman ซึ่งชอบ cathode follower มาก (cathode follower คือ 100% feedback) แอมป์รุ่นกลางๆของ Cy จะเป็น cathode follower output หมด ตอนผมนั่งคุยอยู่กับ Jack, Cy ก็โทรมา แต่ผมไม่มีโอกาสได้คุย กะว่าจะไปดูร้านของเค้าที่ LA ด้วย เลยต้องผ่านไปก่อน Jack เค้าแนะนำให้ผมแวะไปหา Bruce Edgar (เจ้าของ/ผู้ออกแบบ Edgar Horn,
www.edgarhorn.com) ซึ่งอยู่แถวๆโรงแรมที่ผมพักอยู่ที่ LA แต่เผอิญผมไม่มีเวลาพอตอนขากลับ Bruce เป็นเพื่อสนิทอีกคนของ Jack ครับ ล่าสุดนี้เกิดฟิตลง shop ไปทำลำโพงเอง ไม่รู้ว่าทำอีท่าไหน หั่นปลายนิ้วตัวเองขาดไปสามนิ้ว ต่อคืนได้นิ้วเดียว นิ้วหนึ่งต่อได้แต่ขยับไม่ได้ ก็เลยไม่ต่อ ส่วนอีกนิ้วนึงหาย ตอนนี้ถ้าใครเจอ Bruce จะเห็นว่ามือขวาใสถุงมือตลอดเวลา
แอมป์ตัวเล็กที่เห็นมีคุณสมบัติพิเศษคือหลอด driver กับ power มัน cancel distortion กันเอง ใช้เดี่ยวๆจะมี distortion ประมาณ 6-7% แต่พอใช้ด้วยกัน เหลือ 0.6% Jack เคยเจอแบบเดียวกันนี้กับ 300B DRD ของเค้าที่ใช้ 6AQ8 drive 300B
เท่าที่ผมคุยกับเค้าเกี่ยวกับแนวทางการออกแบบแอมป์ Jack เค้าบอกว่าตัวเค้าเองก็ไม่ได้ทำอะไรที่พิศดารเท่าไหร่ หัวใจในการออกแบบของเค้าคือการทดลองและการวัดผลจริง และก็ค่อยๆปรับการทำงานของระบบไปเรื่อยๆจนได้จุดที่ทำงานดีที่สุด (แต่ผมก็เข้าใจว่าพื้นฐานของเค้าเองก็แน่นปึ๊กอยู่แล้ว เพราะฉนั้นเค้าก็รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่)