
เพิ่งจะติดตั้งชุดเครื่องเสียงให้กับห้องเดโมสินค้าเสร็จไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะมีโอกาสเก็บภาพมาฝากกันครับ ตั้งใจว่าจะให้เป็นชุดหลักของห้อง และเป็นชุดโชว์เคสของสินค้ายี่ห้อหลักๆ ที่ผมเน้นทำตลาดอยู่ด้วยครับ ลำโพงทั้งชุดเลยใช้เป็นของ Q-Acoustics ส่วนสายไฟ สายสัญญาณ และสายลำโพงทุกเส้น ก็เป็นของ Merrex Kable ทั้งหมด ต่อผ่านเครื่องกรองไฟ ISO-Clean 500 ของทาง Magnet Audio อีกชิ้น ก็เป็นอันสมบูรณ์แล้วครับ มาลองดูรายละเอียดกันไปทีละส่วนนะครับ เผื่อไว้เป็นไอเดียให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังมีโครงการจะจัดชุด Home Theater หรืออัพเกรดชุดเดิมที่ใช้อยู่ครับ

ตั้งใจให้ห้องออกมาในโทน Retro 70's หน่อยๆ เลยจับทั้งทีวี และเครื่องเสียงซ่อนไปไว้ในตู้ให้หมด ถ้าไม่ได้ใช้งาน เดินเข้าห้องมาก็จะมองหาทีวี เครื่องเสียงไม่เจอกันเลยครับ (ยกเว้นตู้ซับวูฟเฟอร์ที่แอบเสนอหน้าอยู่ในมุมไกล)

ทีวีที่เลือกใช้คือ Panasonic Plasma 50 นิ้ว รุ่น 50V20T ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรี่ก่อน ผมเองยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบ 3D ในทีวีเท่าไรนัก แต่ชอบภาพที่ได้จากทีวีพลาสม่ามากกว่า เพราะให้ความเป็นธรรมชาติ และใกล้เคียงฟิล์มลุคที่สุด - จับยัดไว้ในตู้ปิดทึบ เจาะช่องให้เสนอหน้ามาเฉพาะช่วงที่เป็นจอภาพ แล้วติดกรอบรูปล้อมไว้อีกทีหนึ่ง (กะว่าไว้เปิดภาพถ่ายแบบสไลด์โชว์เอาไว้ หลอกว่าเป็นกรอบรูปดิจิตอลขนาดใหญ่ได้ด้วย)

ส่วนตู้ด้านล่างเป็นแบบมู่ลี่เปิดออกได้จนสุดแนวความกว้างทั้ง 2 ด้าน เป็นที่อยู่ของชุดเครื่องเสียงหลัก เครื่องเล่น HD-Player และชุดเครื่องกรองไฟหลักของทั้งระบบครับ

มาว่ากันที่เครื่องกรองไฟกันก่อน ผมเลือกใช้ Magnet Audio รุ่น ISO-Clean 500 เพราะมองว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อมองในภาพรวมของชุดเครื่องเสียงที่ผมนำมาต่อพ่วงด้วย โดยที่คอนโดผมไม่เคยมีปัญหาไฟตก ไฟเกิน หรือฟ้าผ่าเข้ามารบกวนเลย เลยมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องกระโดดขึ้นไปเล่นเป็นรุ่น IRG-600 หรือรุ่นใหญ่กว่านั้นอย่าง IRG-2000 ที่มีภาค Stabilizer ในตัวให้มาด้วย - ตัว ISO-Clean 500 ตัวเครื่องออกแนวยาว เมื่อรวมกับความหนาของสายไฟ Merrex Kable ที่เลือกใช้ เลยทำให้วางเข้าตู้ไปตรงๆ ไม่ได้ ต้องวางเอียงหันด้านข้างออกมาแทน ตามในรูปครับ ส่วนสายไฟก็อย่างที่เห็นว่า ทุกเส้นเลือกใช้เป็นของ Merrex Kable ทั้งสิ้น
เส้นแรกที่เห็นในภาพนั้น เป็นของทีวี ผมเลือกใช้เป็นรุ่น Power-1 SE ที่เปลี่ยนหัวปลั๊ก (ทั้งหัว/ท้าย) ไปเป็นของ Wattgate และหุ้มหัวท้ายด้วย Ferrex ไซส์ M เข้าไปด้วย ให้มิติของภาพออกมาในระดับที่น่าพอใจดีมากครับ / ส่วนสายไฟของซับวูฟเฟอร์ และของเครื่องเล่น HD-Player ผมเลือกใช้เป็น Power-2 รุ่นธรรมดาทั้งหมด เพราะเพียงพอต่อการใช้งานกระแสไฟของอุปกรณ์เหล่านั้นแล้วครับ (ผมเน้นเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์ ไม่ได้เน้นไปที่รุ่นท็อปสุดเป็นหลักครับ)

ในช่องถัดมา ก็เป็นที่อยู่ของ AVR ผมตั้งใจเลือกเป็นรุ่นเล็กสุดเท่าที่มีแรงขับสำหรับลำโพง 7.1 จริงๆ เล็งรุ่นเล็กสุดของ Onkyo รุ่น 508 เอาไว้ แต่ซื้อไม่ทัน มันออกรุ่นใหม่มาเสียก่อน แล้ว 509 ของรุ่นใหม่ มันขับได้แค่ 5.1 เลยต้องกระโดดขึ้นไปเล่นเป็น 609 แทน ก็ให้เสียงได้เป็นที่น่าพอใจดีครับ
แต่พระเอกตัวจริงในภาพคือลำโพงเซ็นเตอร์ของ Q-Acoustics รุ่น 2000Ci ครับ สำหรับลำโพงของ Q-Acoustics นั้น ผมชอบลำโพงเซ็นเตอร์ กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ของเขามากครับ เป็นส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจให้มาเป็นตัวแทนจำหน่ายของลำโพงยี่ห้อนี้เลย เพราะได้ลองฟังเปรียบเทียบดูหลายยี่ห้อแล้ว Q-Acousitcs ให้ Impact ของเสียงในลำโพงเซ็นเตอร์ได้ดีมากๆ มิติของเสียงก็กว้างดีทีเดียว เมื่อรวมกับชุดซับวูฟเฟอร์ ที่กระหึ่มแบบบ้านแตกเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้เป็นชุดลำโพงที่เหมาะจะใช้งานเป็นชุด Home Theater มากเลยครับ

รูปนี้เปลือยดอกลำโพงเซ็นเตอร์ให้ดูครับ เล็กพริกขี้หนูจริงๆ

ชุดซับวูฟเฟอร์ของ Q-Acoustics รุ่น 2070Si เป็นซับวูฟเฟอร์ที่แรกเห็นผมไม่มีความรู้สึกประทับใจสักเท่าไหร่ เพราะดูขนาดลำโพงเล็กๆ ยาวๆ แถมเป็นดอก 6 นิ้วแบบยิงหน้า 2 ดอกอีก เลยไม่คิดว่าจะมีดีสักเท่าไหร่ แต่พอได้ฟังเสียงครั้งแรกแล้ว ถึงกับทึ่งในน้ำเสียงที่ทำได้เอามากๆ เลยครับ มีทั้งความหนักแน่น กระชับ และไม่จู้จี้ในการจัดวางเลย สามารถวางหลบมุมๆ ห้อง แต่เซ็ตให้เสียงเบสมาลงที่กลางห้องได้อย่างเป็นธรรมชาติดีมากครับ - และเพราะเป็นลำโพงยิงหน้า เลยปรับเป็นชุดสำหรับฟังคอนเสิร์ต หรือฟังเพลงได้ไพเราะดีอีกด้วยครับ เรียกว่าเป็นลำโพงที่คุ้มค่าตัวมากๆ ชุดหนึ่งตั้งแต่เคยเล่นเครื่องเสียงมาเลยครับ
เมื่อใช้ร่วมกับสายสัญญาณซับวูฟเฟอร์รุ่นใหญ่จากทาง Merrex Kable และสายไฟ Power-2 (หัว C7) เข้าไปอีก ก็ยิ่งเหมือนเสือติดปีกเลยครับ เล่นเอาคนเซ็ตเครื่องเสียงให้ผมถึงกับงงกันไปเลยทีเดียว ห้องใหญ่ แถมเป็นสเปซเปิดโล่งอีก แต่ซับต้องปรับไปที่ความดังระดับ 8 (เต็ม 20) เท่านั้นครับ

ชุดลำโพงคู่หน้า และเซอร์ราวด์อีก 2 คู่ ผมเลือกใช้เป็น Q-Acoustics รุ่นเล็ก 2010 ทั้ง 3 คู่เลยครับ โดยติดตั้งเข้ากับขาแขวนผนังของ Q-Acoustics ที่ดีไซน์มาอย่างดี ทำให้ซ่อนสายลำโพงในการติดตั้งได้เนียนดีมากๆ ครับ สุ้มเสียงก็ดีสมใจ เสียดายว่ายังไม่พ้นช่วงเบิร์นอิน เลยยังมีอาการแข็งๆ ฟ้องอยู่บ้างในช่วงแรกๆ นี้

สายลำโพงของทั้งระบบ ผมเลือกใช้เป็นของ Merrex Kable อีกเช่นกัน โดยเลือกใช้เป็นรุ่นเล็กสุด ที่ความตั้งใจหลักคือดีไซน์มาให้เป็นสายสำหรับลำโพงเซอร์ราวด์ครับ (แต่ผมเอามาใช้กับทั้งระบบเลย รวมถึงคู่หน้า และเซ็นเตอร์ด้วยครับ) แกนกลางเป็นทองแดงชุบนิกเกิ้ลอย่างดี ทำให้ไม่เกิดสนิมเขียวของทองแดงที่ตัวสายแน่นอน เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้หัวต่อสายแบบ Banana Jack / ก้ามปู หรืออุปกรณ์อื่นใดช่วยเลยครับ เพียงเสียบปลายสายที่ปลอกแล้ว เข้าไปที่ตัวลำโพง และตัว AVR โดยตรงได้เลย - ฉนวนหุ้มก็เป็นซิลิโคนอย่างดี ค่อนข้างนิ่ม ข้อดีของการที่ไม่ใช่ยาง ก็คือ การร้อยสายทำได้สะดวกดีทีเดียว ไม่มีติด หรือดูดท่อเหมือนยาง และไม่อมฝุ่นที่ตัวสายด้วยครับ
ลักษณะเด่นของสายลำโพงชุดนี้ คือมี Sound Stage ที่กว้างเอามากๆ เสียงไม่จัดจนเกินไป แถมยังให้ Impact ของเสียงได้ดีอีกด้วยครับ เลยทำให้การโยนเสียงเอ็ฟเฟ็กต์ระหว่างชุดลำโพงคู่หน้า ไปยังชุดเซอร์ราวด์ทำได้ลื่นไหล่เป็นธรรมชาติ มีความต่อเนื่อง และโอบล้อมดีมากครับ เรียกว่าคุ้มค่าการลงทุนจริงๆ

ส่วนเครื่องเล่นหลัก HD-Player ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ViVO Legacy (ตัวที่ผมเลือกใช้อยู่ตอนนี้เป็นรุ่นธรรมดาครับ) ที่เชื่อมต่อด้วยสาย HDMI-1 / 1.4 ของ Merrex Kable อีกเช่นกัน

และอีกมุมหนึ่ง จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก Dune Smart H1 ที่ราคาค่าตัวเท่ากับ Legacy อยู่พอดี เลยทำให้เป็นตัวเปรียบเทียบที่ถูกถามถึงอยู่ตลอดเวลา เลยต้องจับเอามาวางเป็นชุดหลักเอาไว้เลยครับ (เชื่อมต่อด้วยสาย HDMI-1 / 1.4 ของ Merrex Kable ด้วยเช่นกัน)

ส่วนเพื่อนๆ ที่เข้ามาเดโม ทดลองดูภาพ และฟังเสียงกัน แล้วเกิดอยากจะหยิบรุ่นอื่น ตัวอื่นมาลอง ก็สามารถทำได้นะครับ เพียงแค่สลับเปลี่ยนไปแทนกันเท่านั้นเองครับ (หรือจะลองเปรียบเทียบแบบ A-B Test ผ่านชุดจอ 42 นิ้ว คู่แฝด ที่อีกมุมหนึ่งของห้องดูก็ได้เช่นกันครับ)

ผลงานห้องเดโมที่ได้ออกมา ก็ถือว่าใกล้เคียงกับภาพที่ออกแบบไว้แต่แรกอยู่มากทีเดียว เป็นที่น่าพอใจมากเลยครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีโอกาสแวะผ่านมาแถวปิ่นเกล้า ก็เข้ามาเยี่ยมชม เยี่ยมฟังกันได้นะครับ เน้นการต้อนรับแบบเป็นกันเองเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนครับ คิดเสียว่ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือเก็บไอเดียไปใช้กับชุดของตัวเองได้นะครับ ก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกันครับ โอกาสหน้า หากมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็จะนำมาอัพเดตกันต่อไปนะครับ
^_^