ลักษณะเด่นของ Vacuum Tube Amp ถ้าในเชิง Engineering จริงๆ คงจะอยู่ที่ความ Linearity ในการทำงานของตัวหลอดเองแหละครับ และการ Replay ที่ผ่านแอมป์หลอดมักจะให้ Harmonic ของเสียงดนตรีที่ออกมาได้อย่างสดใสสวยงาม แถมหลอดมันยังมักมีความเพิ้ยนที่เป็น Even Harmonic ปนออกมาฟังแล้วจะรู้สึกว่าระรื่นหูดีครับ คล้ายว่าเสียงหวาน หลายคนชอบมันตรงนี้...ผมเองตอนนี้ก็หลงชอบมันด้วย กอรปกับหลอดมันมี History ให้อ่านเป็นอาหารเสริม หลายท่านจึงเกิดอาการ Collective มาร่วมสนับสนุนด้วยอีกได้ครับ
ส่วนแอมป์ IC ก็คือแอมป์ IC ครับ Transistor ลดรูป เป็นอะไรที่ Compact กันตามสมัยนิยม และก่อนหน้ามันก็ถูกใช้กันทั่วไปในเครื่อง ระดับ Compact Commercial เพราะง่ายแก่การผลิตจำนวนมากๆ แต่หลังๆมา เนื่องจากบางกลุ่มบริษัทมี Concept ในการทำเกิดขึ้นมาใหม่ โดยไปใส่ใจกับคุณภาพอุปกรณ์รอบๆ ข้างตัวมัน เช่น ให้มีการเน้นภาคจ่ายไฟ (ตรงนี้ทำให้ Capacitor บาง Series ขายดีจนบริษัทพี่ยุ่นพากันแปลกใจ) ว่ากันว่าได้เสียงที่ดีกว่าพวก Mini Componant ขึ้นอีกนิดหน่อยครับ คุณน่าจะไปลองสร้างเล่นๆดูครับลงทุน IC ตัวละไม่กี่บาท บัดกรีแป๊บเดียวเสร็จและถ้าคุณชอบและเสียงที่ได้มันตรงกับ Subject คุณมันก็จบ
กับ Class A Mosfet แอมป์ Super Hi End ในความเห็นผม มันคงเป็นระดับชั้นของเครื่องเสียงหรือยี่ห้อที่ผู้คนอาจหลงใหลมากเสียกว่าความเป็นดนตรีครับ คือผมเทียบกับที่ทุกคนได้ฟังแล้วจะต้องชอบเสียงมันน่ะครับ ใจนึงคืออาจต้องคำนึงถึงเงินก้อนโตที่ลงไปและราคาขายต่อเมื่อเบื่อมันในอนาคตมากกว่าด้วยครับ
ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบหรือต้องสู้กันจะเอาในแง่ไหนดีล่ะครับ ขนาดคุณและผมถ้ามานั่งฟัง SET Amp เดียวกัน Track เดียวกันเผลอๆ ยังได้ยินหรือชอบเสียงไม่เหมือนกันเลย การเปรียบเทียบมักจะมีแต่ในโลกของนิตยสารเครื่องเสียงการตลาดและนักวิจารณ์ เพราะโดย Nature ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคงจะอยู่ใน Business ไม่ได้แน่ๆ ตรงนี้เองทำให้หลายคนสับสนที่ต้องตัดสินใจ และว้าวุ่นใจว่าแอมป์ชนิดอะไรดีกว่าอะไรโดยลืม Function ที่แท้ของเครื่องเสียงไปหมด การตลาดมันบังภูเขาครับ
ผมว่ามันกลับกันอย่างสิ้นเชิงกับผู้คนในโลกของ DIY เพราะเราพยายามตั้งใจสร้างเครื่องที่ให้เสียงได้ในแบบที่เราชอบโดยในความเป็นจริงแล้วก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบอะไรกับอะไร เพราะ Source หรือดนตรีก็มาจากที่เดียว กับเครื่องระดับ Super-Hi-End ก็ยังต้องใช้แบบเดียวกัน สิ่งที่เครื่องเสียงจะต้องทำให้ได้เหมือนๆกันคือการ Replay เสียงที่ถูกบันทึกออกมาหรือเป็นการ Reproduction และหูคนเราที่มันวิเศษสุดก็แค่ไปบอกใจเราว่าชอบมันหรือไม่ก็เท่านั้นเอง

สุดท้ายนะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไร?? ถ้าว่าง.....ผมแนะนำให้คุณทำวงจรนี้เลย เอา Chip IC เป็นภาค Front Preamp เอาหลอดเป็น Driver Stage และเอา FET เป็น Power Stage (จัดวงจร แบบ Class A ตามสมัยนิยมก็ได้) เด็ดครับและจะได้ไม่ต้องเลือกหรือเปรียบเทียบอีก.........ให้มันเสียเวลาฟังเพลงหรือดนตรีไปซะเปล่าๆครับ
พิมพ์ซะมือเมื่อยเลย ยิ่งให้ผมเล่าก็ยิ่งเขียนเหมือนพวกปากกาาาาาาาาาาาาาเซียนเข้าไปทุกวัน.....ไม่เอาแล้วดีกว่า
สรุปเลยนะครับ : "เครื่องเสียงมันก็เป็นแค่ Object คนต่างหากเป็น Variation ไปแบ่งแยกมันออกจากดนตรี" ปรัชญาจัดอีกแล้ว....55555