อย่างความเห็นท่านข้างบนครับ
มวลน้ำมวลเดียวกันนี้ทำความเดือดร้อนไล่มาตั้งแต่ เหนือจนถึง กทม ครับ และเดี๋ยวลงทะเลจะทำปลาตายอีกครับ เดือดร้อนไปทั่วครับก่อนอื่น ผมขอโทษเกษตรกรนะครับ
เหตุผลคือ เราไม่ทำแก้มลิงครับ หลายท่านอาจถามว่าฝนตกแล้วจะทำทันได้อย่างไร
ทันครับ เรามีแก้มลิงมากมายครับ คือท้องนานั่นเองครับ แต่เท่าที่เห็น เมื่อเดือน สอง เดือนก่อน ชาวบ้านไม่ให้น้ำลงนา เพราะกลัวข้าวเสียหาย น้ำเลยลงมาเรื่อยๆ เข้าผ่านเมืองมาตามแม่น้ำ ผมเข้าใจว่าทุกคนไม่อยากให้น้ำท่วมบ้านตนทั้งนั้นครับ แต่ตอนนี้ใครๆมีกลุ่มคนซัก 100-200 ก็ไปต่อรองให้เปิดประตูน้ำทำคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดือดร้อนได้
ต้องสกัดน้ำตั้งแต่ต้นทางครับ เอาไว้ที่แก้มลิง(นา) นั่นล่ะครับ แล้วชาวบ้านจะได้อะไร ก็รัฐจ่ายค่าเสียหายเป็นค่าเช่านาพักน้ำ แล้วรัฐเอาเงินจากใหน ก็ภาษีคน กทม ที่น้ำไม่ท่วมไงครับ
แต่ตอนนี้ท่วมกันหมด แล้วทำไงท่านมีข้าวมาเตรียมขาย 15,000 บาท แล้วไงเอาเงินที่ใหนมาซื้อ เพราะคนจ่ายภาษีจมน้ำหมดแล้ว...
รัฐต้องทำความเข้าใจครับว่า
น้ำท่วมนา 10 ไร่ เสียหายไม่เท่ากับ
ตลาด 10 ไร่ เสียหายไม่เท่ากับ
อุตสาหกรรม 10 ไร่ เสียหายไม่เท่ากับ
ใจกลางกรุงเทพ 10 ไร่ ครับ
ผมไม่ใช่คน กรุงเทพ นะครับ แต่ตอนนี้ผม หาซื้อข้าวถุงแทบไม่ได้ ไข่ฟองละ 8 บาท ขนมสำหรับลูกไม่มีเลย นมกล่องไม่มีขาย ตอนน้ำท่วมเหนือ ผมไม่มีปัญหาพอท่วม กทม เดือดร้อนไปทั่วครับ เพราะเป็นเสมือนหัวใจของประเทศ
ยังดีที่พอมีอาหารทะเลหากินง่ายหน่อย แต่ไม่มีข้าวก็ลำบาก
ผมว่าบ้านเราคงต้องเคารพกฎหมายครับ และต้องมองความถูกต้องเป็นหลักครับ ถ้าเสียงส่วนมากทำอะไรถูกหมด ต่อไปลูกหลาน เราคงอยู่ยากครับ คนเก่งคนดี จะไม่ได้ปกครอง บ้านเมืองกลับไปเหมือนสมัย อยุธยา ใครมีกำลังในมือก็สามารถไปรับยศศักดิ์เป็น ออกยา(อำมาตย์) ได้ ย้อยไปหลายร้อยปีเลย
