หัวข้อ: ขอเชิญเพื่อน ๆ ทุกท่านร่วมงาน "กัด" ลำโพง 126

[Jamie]

โฮะๆๆๆๆ   ยังคิดราคาไม่ถูกเลย ค่าแรงเพียบ

[xthaix]

เรื่องตู้มาตรฐานสำหรับ 126 ถ้าจะทำเดี๋ยวให้น้องเขาตีราคาให้ครับ แต่คงราคาไม่ได้เท่าเดิมนะครับ มันใช้ไม้มากกว่า แล้วคิดว่าน้องเขาอยากบุไม้อัดสักด้วย เดี๋ยวให้เขาตีราคามาทั้งบุ และไม่บุครับ
หรือถ้าจะให้ทางคุณ Jamies ทำก็ได้นะครับ ผมจะได้ฝากทำด้วย...

[Mc]

  บีลาฟองเต้ แผ่นซ้ายนี่ ของโปรดครับ ฟังได้มันสะใจ ดีจริง  ๆ บรรยากาศคอนเสิร์ทฮอล ดีมาก แถมนักร้องยังอารมณ์ดีด้วย 

[santi]

บ้านเฮียอยู่ไหนครับ  ถ้าไม่รังเกียจ   ว่าง ๆ จะขอไปฟังแผ่น Atkins ตอนหนุ่มๆ ซะหน่อย   เคยฟังแต่ตอนที่แก่แล้ว 

ฮ้า... เจอแฟนลุง Chet แล้ว
ตอนหนุ่มๆลุงแกเล่นออกโฉ่งฉ่างสนุกสนาน
ผมยังหาชุดที่ละเมียดละไมเหมือน Sails ไม่ได้เลยครับ
แต่ยังไม่เคยฟัง Stay Tuned เลย

[Jamie]

ผมกะลังทำ 166E  อยู่น่ะ  

[masterAT]

คุณไทครับ

ถ้าน้องเขาต่อตู้ 126 ในราคาเดิมได้ผมสนใจนะ
แล้วจะได้ปล่อยตู้ 103 เผื่อใครอยากจะได้ในราคาที่ถูกกว่าตอนสั่งหน่อยอ่ะครับ

ผมก็อยากได้ตู้ 126E ด้วยครับคุณไท....แต่ว่ารอฟังตู้ของคุณ paganini ก่อนดีกว่าถ้าเหนื่อกว่า 103E พอควรก็เอาด้วยครับ

ผมอยากฟังด้วยครับ เผื่อจะเอา 127E ผมย้ายตู้บ้าง

[ดาวเหนือ]

คุณไทครับ

ถ้าน้องเขาต่อตู้ 126 ในราคาเดิมได้ผมสนใจนะ
แล้วจะได้ปล่อยตู้ 103 เผื่อใครอยากจะได้ในราคาที่ถูกกว่าตอนสั่งหน่อยอ่ะครับ

ผมก็อยากได้ตู้ 126E ด้วยครับคุณไท....แต่ว่ารอฟังตู้ของคุณ paganini ก่อนดีกว่าถ้าเหนื่อกว่า 103E พอควรก็เอาด้วยครับ

[paganini]

คุณไทครับ

ถ้าน้องเขาต่อตู้ 126 ในราคาเดิมได้ผมสนใจนะ
แล้วจะได้ปล่อยตู้ 103 เผื่อใครอยากจะได้ในราคาที่ถูกกว่าตอนสั่งหน่อยอ่ะครับ

[สิงห์]

  ผมเห็นเฮีย Pangpond มาป้วนเปี้ยนแถวนี้แล้วนะคุณไท  เดี๋ยวแกคงเข้ามาช่วยผม.....

วันนี้ของดหนึ่งวันกำลังดื่มด่ำกับ belafonte อยู่ครับ

บ้านเฮียอยู่ไหนครับ  ถ้าไม่รังเกียจ   ว่าง ๆ จะขอไปฟังแผ่น Atkins ตอนหนุ่มๆ ซะหน่อย   เคยฟังแต่ตอนที่แก่แล้ว 

[PANGPOND]

  ผมเห็นเฮีย Pangpond มาป้วนเปี้ยนแถวนี้แล้วนะคุณไท  เดี๋ยวแกคงเข้ามาช่วยผม.....

วันนี้ของดหนึ่งวันกำลังดื่มด่ำกับ belafonte อยู่ครับ

[KVA]

  ผมเห็นเฮีย Pangpond มาป้วนเปี้ยนแถวนี้แล้วนะคุณไท  เดี๋ยวแกคงเข้ามาช่วยผม.....

[xthaix]

ปกติแล้วพวก 845 นี่ปล่อยเร็วๆดีกว่านะครับคุณไท เก็บไว้นานๆเดียวเค็มหมด...555    )[/b]

เอ่อ.... รับประทาน เค็ม มากๆ ไม่ดีกับร่างกายนะครับ คุณไท  เดี๋ยวจะเป็นโรคไต 

ก็งดของเค็มครับ เดี๋ยวดองแช่อิ่มก็ด้าย...อ้าว หวานก็ไม่ดีอีก..เฮ้อ เป็นสต๊าฟ ไว้ดูต่างหน้า แระกัน.... แบบนายพรานสต๊าฟสัตว์ที่ล่าได้เลย 555 

[KVA]

คุณดาวเหนือจะเอากี่รุ่นก็ได้ครับ ที่บ้านผมมีทั้ง TV3 , TV5 , TV7 , TV9 แล้วก็ ITV ครับ   ถ้ารับทั้งหมดเดี๋ยวแถม UBC ให้อีก 40 ช่องครับ  

ผมก็มีครบเหมือนกันครับคุณไท

[xthaix]

แต่ดูๆไปแล้วหลอดที่ผมมีอยู่อาจจะต้องใช้ TV7 ซัก 2 ปี...ก็พอดีกันละครับ ดีไหมครับ

เอ่... ทำไมของคุณกล้าแค่ TV7 ล่ะครับ เชยจัง    บ้านป๋มมี TV3 , 5 , 7 , 9, 11, ITV ด้วยอ่ะครับ เผลอๆ มี TTV และ UBC ด้วยครับ...แหะ แหะ

ปกติแล้วพวก 845 นี่ปล่อยเร็วๆดีกว่านะครับคุณไท เก็บไว้นานๆเดียวเค็มหมด...555   ( เปิดช่องให้ผมเหน็บอีกแล้ว ถ้าเฮีย Pangpond อยู่แถวๆนี้เดี๋ยวแกคงตามมาซ้ำ

ก็เป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษไปแล้วง่ะครับ ดองเค็มไว้เก็บกินภายหน้า... อีตาเฮียปังปอนด์มัวนอนกอด 2A3B ยังไม่มาแถวนี้หรอกครับ....

[tubeTronix]

ปกติแล้วพวก 845 นี่ปล่อยเร็วๆดีกว่านะครับคุณไท เก็บไว้นานๆเดียวเค็มหมด...555    )[/b]

เอ่อ.... รับประทาน เค็ม มากๆ ไม่ดีกับร่างกายนะครับ คุณไท  เดี๋ยวจะเป็นโรคไต 

[KVA]

ความคิดของคุณ KVA น่าสนใจนะครับ...  dd 
แบบนี้ผมรอให้ราคา 845 ขึ้นอีกสักหน่อย เดี๋ยวค่อยปล่อยครับ..อิ อิ 

ปกติแล้วพวก 845 นี่ปล่อยเร็วๆดีกว่านะครับคุณไท เก็บไว้นานๆเดียวเค็มหมด...555 ( เปิดช่องให้ผมเหน็บอีกแล้ว ถ้าเฮีย Pangpond อยู่แถวๆนี้เดี๋ยวแกคงตามมาซ้ำ     )[/b]

[ดาวเหนือ]

  เหตุผลของคุณดาวเหนือน่าสนใจครับ เพราะลำโพงทั้งสองตัวมีจุดที่แตกต่างกันพอสมควร เอาอย่างนี้ละกัน เดี๋ยวผมจะยืมทั้งคู่มาไว้ลองฟังที่บ้านผมซักปีสองปี
แล้วจะกลับมารายงานผลให้ในปี 2551 ละกัน คุณดาวเหนือกับคุณ Paganini จะ OK มั๊ยครับ

ไม่มีปัญหาครับ...สำหรับคุณ KVA ผมเต็มที่อยู่แล้วครับ จะเอาเมื่อไหรก็บอกมานะครับ...

เพียงแต่ผมก็มีหลอดอยู่จำนวนหนึ่งยังไม่ได้ Test จึงอยากจะขอยืม TV7 ของคุณ KVA เอามาใช้ก่อน

แต่ดูๆไปแล้วหลอดที่ผมมีอยู่อาจจะต้องใช้ TV7 ซัก 2 ปี...ก็พอดีกันละครับ ดีไหมครับ

[xthaix]

ความคิดของคุณ KVA น่าสนใจนะครับ...  dd 
แบบนี้ผมรอให้ราคา 845 ขึ้นอีกสักหน่อย เดี๋ยวค่อยปล่อยครับ..อิ อิ 

[KVA]

  เหตุผลของคุณดาวเหนือน่าสนใจครับ เพราะลำโพงทั้งสองตัวมีจุดที่แตกต่างกันพอสมควร เอาอย่างนี้ละกัน เดี๋ยวผมจะยืมทั้งคู่มาไว้ลองฟังที่บ้านผมซักปีสองปี
แล้วจะกลับมารายงานผลให้ในปี 2551 ละกัน คุณดาวเหนือกับคุณ Paganini จะ OK มั๊ยครับ

[ดาวเหนือ]

103 ให้เสียงกลางแหลมได้มาก ๆ โดยเฉพาะเสียงร้องของนักร้องสาว เสียงฉาบ เสียงกรุ๋งกริ๋ง เวทีเสียงชัดเจน มีความสดแบบ Live สูงมาก รายละเอียดดี เหมาะกับเพลงร้องที่มีเครื่องดนตรีไม่มากชิ้นนัก แต่เสียงเบสก็มิได้ขาดแคลน เพียงแต่ว่าถ้าโหมดนตรีทั้งวงอาจจะฟังดูขาด ๆ ไปนิด ผมคิดว่าคนที่ชอบสไตล์อคูสติกไม่มากชิ้น ชอบเสียงกลางสูงแบบสด น่าจะชอบมาก

ส่วน 126 ในร่างตู้ 103 ของผม ให้เสียงกลางต่ำที่ออกไปทางนุ่ม อบอุ่นกว่า เสียงฉาบไม่ปิ๊งปั้ง รายละเอียดดนตรีดี มีความสด ฟังเพลงแจ๊สได้ดี หรือจะฟังเพลงคลาสสิกที่ไม่มากชิ้นได้ไพเราะ พลังเสียงตอนประโคมดนตรีทั้งวงให้พลัง คนที่ชอบเสียงกลางอวบหนามีมวลน่าจะชอบลำโพงตัวนี้ครับ

1.ตู้ 103E ของผมเป็นไม้อัดแท้นะครับ...ไม่ใช่ MDF ซึ่งไม้อัดแท้จะทำให้เสียงเบสออกมากระชับ และมีความนุ่มน้อยกว่าMDF แน่ๆ

2.ผมไม่แน่ใจว่าสายที่เดินภายในมีผลมากน้อยแค่ไหน...คุณpaganini ใช้ Cardas ซึ่งเสียงก็ออกโทนที่คุณpaganini ได้ยินจาก 126E ส่วนผมใช้VDH ซึ่งอาจให้เสียงสูงที่โปร่งกว่าก็ได้

3.ตู้ผม(103E) ไม่ได้มีการใส่ใยแก้วจูนเสียงภายใน

[KVA]

  ปกติวัสดุประเภทยางนี่ไม่เหมาะสำหรับนำมารองใต้ลำโพงนะครับคุณไท แรกๆฟังคล้ายๆเสียงจะลอยๆ แต่ถ้าสังเกตุดูจริงๆ ความนิ่งของเสียงและโฟกัสจะเสียไปครับ

[xthaix]

คุณไทครับ ผมกำลังคิดว่า ลองต่อตู้ที่เป็นแบบของ 126 จริง ๆ ดีไหมเอ่ย

แหม ผมเองก็คิดไม่ถึง เลยให้น้องเขาทำแบบเดิม แต่บุภายนอกด้วยไม้อัดออกมาครับ ไม่งั้นทำตู้ 126 บุไม้อัดก็ดีเลย...เสียดายยยยย...

[paganini]

ผมลองทั้งยางและทิบโทพบว่า

เวลาใช้ยางรองฐานลำโพง โฟกัสไม่นิ่งเท่าที่ควร แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ทิปโท แนวเสียงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่สังเกตว่ามีความนิ่งของชิ้นดนตรีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งผมชอบมากกว่า

แต่ที่ชัดเจนสุดคือผมใช้ลูกยางรองสายลำโพง เสียงของมันฟังแล้วไม่นิ่งจริง ๆ คือมีความหยุ่น ๆ แปลก ๆ พอเอาออกก็หายครับ

คุณไทครับ ผมกำลังคิดว่า ลองต่อตู้ที่เป็นแบบของ 126 จริง ๆ ดีไหมเอ่ย

[xthaix]

ขอบคุณครับ.. ผลเป็นไปตามที่ผมคาดไว้ประมาณนี้จริงๆ ครับ แบบตู้ลำโพงตัวเดียวกัน ต่างกันที่ดอก... ความแตกต่างส่วนใหญ่ก็คงมาจากดอกสำโพงซ่ะโดยมาก... ยังคาใจอยู่ก็แค่ดอก 126 ลงตู้ของมันเองว่าจะได้อะไรเสียอะไรไปเท่านั้นครับ...
อ้อ... ตู้ของคุณปอ เอาทิปโทออก กับมีทิปโทไว้ เสียงต่างกันตรงไหนบ้างครับ ตอนนี้ผมใช้แค่ลูกยางรองขาโต๊ะธรรมดาๆ มาใช้อ่ะครับ อยากทราบจะได้คิดปรับปรุงครับ... นี่ก็ยังไม่ได้ใส่แผ่นใยกรอกน้ำแด๊มภายในตู้เลยครับ

[สิงห์]

ง่า.....ผมชอบทั้ง 2 แบบ จะทำไงดีอ่ะ.....    

[paganini]

หลังจากที่ลำโพง 103 ของคุณโอบ อยู่กับผมหลายวัน ทำให้ผมมีเวลาฟังมากขึ้น ผมพบข้อแตกต่างของลำโพงสองตัวนี้คือดังนี้ครับ

103 ให้เสียงกลางแหลมได้มาก ๆ โดยเฉพาะเสียงร้องของนักร้องสาว เสียงฉาบ เสียงกรุ๋งกริ๋ง เวทีเสียงชัดเจน มีความสดแบบ Live สูงมาก รายละเอียดดี เหมาะกับเพลงร้องที่มีเครื่องดนตรีไม่มากชิ้นนัก แต่เสียงเบสก็มิได้ขาดแคลน เพียงแต่ว่าถ้าโหมดนตรีทั้งวงอาจจะฟังดูขาด ๆ ไปนิด ผมคิดว่าคนที่ชอบสไตล์อคูสติกไม่มากชิ้น ชอบเสียงกลางสูงแบบสด น่าจะชอบมาก

ส่วน 126 ในร่างตู้ 103 ของผม ให้เสียงกลางต่ำที่ออกไปทางนุ่ม อบอุ่นกว่า เสียงฉาบไม่ปิ๊งปั้ง รายละเอียดดนตรีดี มีความสด ฟังเพลงแจ๊สได้ดี หรือจะฟังเพลงคลาสสิกที่ไม่มากชิ้นได้ไพเราะ พลังเสียงตอนประโคมดนตรีทั้งวงให้พลัง คนที่ชอบเสียงกลางอวบหนามีมวลน่าจะชอบลำโพงตัวนี้ครับ

ว่าแล้วทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันชัดเจนเรียกว่าแลกกันคนละหมัดฟัดกันไม่ลงจริง ๆ ใครที่กำลังตัดสินใจเล่นทั้งสองตัวน่าจะพิจารณาเรื่องแนวเพลงในการฟังเป็นสำคัญนะครับ

[Mr. Tube]

ไม่ทราบคุณ อาร์ต เคยลอง Kasuga , Noguchi ,Hashimoto บ้างมั้ยครับ

3 ยี่ห้อนี้ไม่เคยครับ Hashimoto เก่า (Brand Sansui) นี่เคยฟังมาบ้างครับ แต่ของยุคใหม่ยังไม่เคยฟังครับ

เรื่องแปลก อย่างนึงคือ คนญี่ปุ่นเอง ที่เป็น นัก DIY กลับไม่สนใจ Tamura

ในมุมที่คุณ masterat ว่ามา ผมเจอหลายคนเหมือนกันครับ เหตุผลส่วนใหญ่ที่ผมได้มาคือเค้ามองว่า Tamura เป็น Manufacturer ในขณะที่ Tango/Hashimoto เป็น Craftman/Specialist ครับ คุณค่าในผลผล้ตมันต่างกัน แต่ลึกๆ แล้วผมว่ามันเกี่ยวกับ Taste ของชาวญี่ปุ่นด้วยครับ โดยส่วนตัว F-5002 ผมก็ว่ามันน่าฟังกว่า X-3.5S อยู่ครับ ในขณะที่หลายๆ คนชอบ X-3.5S มากกว่า พอคุยๆ ไปปรากฎว่ารสนิยมการฟังเพลงเป็นคนละแนวกันไปเลย 

[masterAT]

เมื่อก่อน F-2007C ถูกกว่านิดหน่อย ซัก 6,000-7,000Y แต่ตอนนี้เป็นแพงกว่า 20,000Y ซะแร๊วววว... 

มาแก้ไขข้อมูลครับ หลังจากคุยกับหลายๆ คนแล้ว ผมคิดว่าผมน่าจะเข้าใจเมลแรกผิดครับ ราคา 63,000Y ของ F-2007C เป็นราคาต่อคู่ครับ ในขณะที่ราคา 43,000Y ของ F-2007 เป็นราคาต่อ 1 ตัวครับ เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่า F-2007C ยังคงถูกกว่า F-2007 ธรรมดาอยู่ถึงคู่ละ 20,000Y ครับ ไม่ใช่แพงกว่าอย่างที่ผมให้ข้อมูลไป ขอโทษด้วยนะครับ   

ทีนี้มาว่ากันที่ 1,800 SGD ที่คุณ DIY Man ไปเจอมา คิดเป็นเงิน JPY ได้ 125,000Y ซึ่งเป็นกำไรเท่าตัวเลยครับ ร้าน Well Audio ขายแพงทีเดียวครับเนี่ย 

เรื่องแปลก อย่างนึงคือ คนญี่ปุ่นเอง ที่เป็น นัก DIY กลับไม่สนใจ Tamura มักจะพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ไม่คุ้มกลับแนะนำให้ ใช้ Kasuga and Noguchi transfomer แทนเสียอีก หรือก็ Hashimoto and Tango
ไม่ทราบคุณ อาร์ต เคยลอง Kasuga , Noguchi ,Hashimoto บ้างมั้ยครับ

[PINIJ]

ขอบคุณครับ คุณปอ... ผมกะเอา 126 มาทำ OB เล่นดูก่อนน่ะครับ แบบว่าถอดออกมาใช้ให้คุ้มค่า อยากฟัง OB ก็ถอดจากตู้มาฟัง หรือจะฟังแบบเดิมๆ ก็เอากลับไปใส่ใหม่ 5 5 5.....

ลองแล้วอย่าลืมเอามาคุยให้ฟังด้วยครับ วันนั้นผมชอบคู่นี้ท่สุดครับ คิดว่าเป็น Back load horn ที่ติดหูผมเลยครับ เสียดายไปไม่ทันได้ฟังของคุณดาวเหนือ

[สันติ]

ขอโทษก่อนนะครับที่นอกเรื่องนิด
     กระทู้นี้เป็นยอดนิยมท๊อปฮิต ประจำปี 2548 แล้วครับ   การกัดกันยังไม่จบทีต้องข้ามปีแล้วครับ

[Night_Angel]

น่าแปลกอย่านะครับ ผมไปลองฟังกันวันนั้นด้วย  ผมรุ้สึกอย่างนึงว่า ทำไมหนอ เสียง จากแผ่นเสียง mono กลับ ฟังแล้วลื่นหุ กว่า ST ซะอีก  ยิ่งจับคู้กับ fullrage อีก

ท่าทาง ในปีนี้ คงได้ก้าวเข้ามาเล่นแผ่นเสียงด้วยสักคน

ปล. turn ถูกๆ นี่สักเท่าไหร่ครับ เริ่มเกิดความสนใจซะแล้วสิ

[Mr. Tube]

เมื่อก่อน F-2007C ถูกกว่านิดหน่อย ซัก 6,000-7,000Y แต่ตอนนี้เป็นแพงกว่า 20,000Y ซะแร๊วววว...�

มาแก้ไขข้อมูลครับ หลังจากคุยกับหลายๆ คนแล้ว ผมคิดว่าผมน่าจะเข้าใจเมลแรกผิดครับ ราคา 63,000Y ของ F-2007C เป็นราคาต่อคู่ครับ ในขณะที่ราคา 43,000Y ของ F-2007 เป็นราคาต่อ 1 ตัวครับ เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่า F-2007C ยังคงถูกกว่า F-2007 ธรรมดาอยู่ถึงคู่ละ 20,000Y ครับ ไม่ใช่แพงกว่าอย่างที่ผมให้ข้อมูลไป ขอโทษด้วยนะครับ   

ทีนี้มาว่ากันที่ 1,800 SGD ที่คุณ DIY Man ไปเจอมา คิดเป็นเงิน JPY ได้ 125,000Y ซึ่งเป็นกำไรเท่าตัวเลยครับ ร้าน Well Audio ขายแพงทีเดียวครับเนี่ย 

[Karin Preeda]

F คือจุดตัดความถี่ที่ตรงนั้นสัญญาณจะลดลงครึ่งนึงครับ (-6dB)

ส่วนที่เขียนว่าไป SE power amp ก็คือต่อกับ input ของ single ended poweramp ครับ

ค่า R ที่ใช้เป็นค่าที่เกิดจากการขนาน R ที่ด้าน output ของ preamp กับ R input ของ poweramp นะครับ

[สิงห์]

เอ่อ...ตรงส่วนที่ส่งไปยัง SE Amp นี่ยังมองภาพไม่ออกเลยครับ  พอจะขยายความให้ง่ายกว่านี้หน่อยได้ไม๊ครับ    แล้วค่า F นี่คืออะไรครับ

ขอบคุณครับ 

[ดาวเหนือ]

โดย F คำนวนได้จาก F = 1/2piRC ครับ

สูตรนี้ครอบจักรวาลจริงๆ....

[Karin Preeda]

คงต้องรบกวนคุณ LNAudio  แนะนำการดึงสัญญาณมาเข้า active subwoofer ด้วยซิครับ 

วิธีทีง่ายที่สุดคือใช้ RC filter ธรรมดาครับ แยก Output จาก preamp เป็นสองส่วน ส่วนแรกส่งไปที่ active sub โดยตรง เพราะมี active sub มี active X-over อยู่แล้ว อีกส่วนนึงผ่าน RC filter แบบนี้ครับ

----||-----+---->
� � � � � �� R� � � �to SE poweramp
-----------+---->

โดย F คำนวนได้จาก F = 1/2piRC ครับ

[masterAT]

ขอบคุณครับ คุณปอ... ผมกะเอา 126 มาทำ OB เล่นดูก่อนน่ะครับ แบบว่าถอดออกมาใช้ให้คุ้มค่า อยากฟัง OB ก็ถอดจากตู้มาฟัง หรือจะฟังแบบเดิมๆ ก็เอากลับไปใส่ใหม่ 5 5 5.....

พี่สิงห์แนะนำดีครับ� � ที่จริงถ้านิยม Mono ผมก็ประหยัดเงินค่าชุดเครื่องเสียงได้ครึ่งนึงดิ...

คุณดาวเหนือ...ลำโพงผมอ่ะ รวมค่าดอก+ค่าตู้+ขั้วลำโพง ยังไม่ถึง 6500 เลยครับ.... แต่ต้องแบกดอกมาจากเมกาเองแค่เนี๊ยะ....

Phono 26 Amp 1626 ขับ 126� ชอบใจจริงๆ

[paganini]

ผมคิดว่าทั้ง 126 และ 103 จะทำงานได้ดีกว่านี้ถ้ามี active subwoofer ที่ X-over ประมาณ 100-120Hz ครับ จะช่วยให้ driver ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป

ว่าง ๆ จะลองยกซับวูฟเฟอร์โฮมไปต่อเล่นดีกว่า

[TOM]

โอ้โหตัดราคากันน่าดูเลยครับ

[ดาวเหนือ]

ผมตัดตัวเลขให้เป็นแบบกลม ๆ นะครับ

ลำโพง 1 คู่ 4400 (ซื้อกับตัวแทนในเมืองไทยครับ...เลยแพง )
ตัวตู้ 300 (ค่าเหล้าคนทำตู้...ซึ่งใช้เศษไม้เหลือๆมาทำครับ)
ไบดิ้งโพสต์ �1200
สายไวริงแวนเดอฮู 200
ค่าแรงตัวเอง 185 (ลูกจ้างรายได้ต่ำครับ )

[สิงห์]

ผมคิดว่าทั้ง 126 และ 103 จะทำงานได้ดีกว่านี้ถ้ามี active subwoofer ที่ X-over ประมาณ 100-120Hz ครับ จะช่วยให้ driver ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป

คงต้องรบกวนคุณ LNAudio  แนะนำการดึงสัญญาณมาเข้า active subwoofer ด้วยซิครับ  เพราะผมก็ใช้วิธีนี้อยู่เหมือนกัน  กับลำโพงที่ให้เบสน้อย ๆ โดยที่เคยใช้อยู่ก็ดึงสัญญาณจาก audio out มาเข้า sub woofer ไม่ทราบจะถูกต้องหรือเปล่าครับ

[Karin Preeda]

ผมคิดว่าทั้ง 126 และ 103 จะทำงานได้ดีกว่านี้ถ้ามี active subwoofer ที่ X-over ประมาณ 100-120Hz ครับ จะช่วยให้ driver ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป

[paganini]

ผมตัดตัวเลขให้เป็นแบบกลม ๆ นะครับ
ลำโพง 1 คู่ 4000
ตัวตู้ 3000 (ใช่3000 หรือเปล่าคุณไท ผมจำ บ่ ได้แล้ว เรื่องเงินความจำมันสั้น)
ไบดิ้งโพสต์ Cadass 3000
สายไวริงคาดาส 500
ใยแก้วสีขาว 20
ค่าแรงตัวเอง 500

 

[xthaix]

ขอบคุณครับ คุณปอ... ผมกะเอา 126 มาทำ OB เล่นดูก่อนน่ะครับ แบบว่าถอดออกมาใช้ให้คุ้มค่า อยากฟัง OB ก็ถอดจากตู้มาฟัง หรือจะฟังแบบเดิมๆ ก็เอากลับไปใส่ใหม่ 5 5 5.....

พี่สิงห์แนะนำดีครับ    ที่จริงถ้านิยม Mono ผมก็ประหยัดเงินค่าชุดเครื่องเสียงได้ครึ่งนึงดิ...

คุณดาวเหนือ...ลำโพงผมอ่ะ รวมค่าดอก+ค่าตู้+ขั้วลำโพง ยังไม่ถึง 6500 เลยครับ.... แต่ต้องแบกดอกมาจากเมกาเองแค่เนี๊ยะ....

[ดาวเหนือ]

รวม ๆ ราคาประมาณ 10000 บาท ต้น ๆ

มิน่าละครับ 103E ผมถึงแพ้....ผมลงทุนไปประมาณ 6,000 บาทเองครับคุณpaganini  

[สิงห์]

ขอบคุณมากครับ แบบนี้ผมคงไม่ต้องหาเวอร์ชั่น ST แล้วสิครับ จะได้เอาโควต้าไปซื้อแผ่นอื่นต่อครับ...
แปลกใจว่าทำไมคุณปอถึงบอกว่า เวอร์ชั่น โมโน ดีกว่า ST ล่ะครับ 

ก้อไม่ยากนิครับ   แผ่นที่มีอยู่ถ้าเป็น ST  ก้อเอาเปิดข้างซ้ายข้างเดียวก้อเป็น  MONO  แล้ว    dd


แฮ่ะ....แฮ่ะ....แซวเล่นน่ะครับ    พอดีตอนที่คุณปอเปิดแผ่น MONO นั้น  ผมก็อยู่ด้วย  รู้สึกว่าเสียงจะคมชัด  และ แน่น ๆ ดี  ฟังแล้วเสียงอาจจะไม่เพราะสำหรับบางคน  เพราะว่ามันจะไม่มีเวทีเสียง ไม่มีตำแหน่งของชิ้นดนตรี   ก็ฟังแปลกไปอีกแบบนึงครับ  (ความเห็นส่วนตัวนะครับ  )

[paganini]

เมื่อวัน Shoot Out ผมเปิดแผ่น Mono อยู่แผ่นนึงที่ชั้นบน แต่คุณไท คงไม่ได้ฟังครับเพราะลงมาก่อน ของแบบนี้ต้องฟังเองครับแล้วจะรู้ว่าทำไมมันดีกว่า แต่ประการแรกที่ดีกว่าชัด ๆ คือ การบันทึกเสียงในสมัยแรกยังเป็นแบบโมโน มาสเตอร์แรกที่ผลิตเป็นโมโนนะครับ จากนั้นระบบสเตริโอเพิ่งเข้ามา ก็นำมาสเตอร์โมโนมาแยกเสียงทำใหม่ ไม่ว่าจะอย่างไรมาสเตอร์แรกย่อมมีคุณภาพที่ดีกว่าแน่นอนครับ จึงทำให้เสียงโมโนมีพลังและบรรยากาศที่ดีมาก สิ่งที่แผ่นเสียงทำได้ดีกว่าแผ่นซีดีชนิดทิ้งห่างก็คือบรรยากาศที่รายรอบอยู่ในตัวเสียง เหมือนเราย้อนกลับไปฟังในยุคนั้นจริง ๆ โดยไม่มีการตัดเสียงความถี่ใดออกไปเลยจากการรีมาสเตอร์

อย่างแผ่นบ๊อบ ดีแลน ยุคแรกที่เป็นโมโน แผ่นรีมาสเตอร์ทั้งแผ่นเสียงและซีดีไม่เคยกลับมาผลิตเป็นโมโนอีกเลย ทำให้แผ่นบ๊อบ ดิแลนโมโนมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสม และที่สำคัญเสียงดีกว่าสเตริโอที่กลับมารีมาสเตอร์อย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนแผ่นออดิโอฟลาย 200 G บางชุด ก็กลับมาผลิตเป็นโมโนก็หลายชุดนะครับ โดยเฉพาะแผ่นแจ๊สที่โด่งดัง

แต่ทั้งหมดนี้ก็อาจจะไม่เสมอไปทั้งหมดนะครับ ถ้ามาสเตอร์ไหนบันทึกมาดี ก็จะได้อนิสงค์ความดีติดตัวไปเป็นเหมือนความดีที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด

ส่วนตัวตู้ ถ้าปรับให้ตัวตู้เป็น 126 แท้ ๆ ได้ก็จะดีต่อคนที่สั่งทำต่อไปครับ และถ้าทำให้ติดสไปร์ได้จะดีขึ้นมากครับ

[xthaix]

เยี่ยมมากครับ ราคานี้ถูกมากแถมได้ของดีอีกต่างหาก   dd
แผ่นโมโนนี่แหละครับสุดยอด ดีกว่าสเตริโออีก

ขอบคุณมากครับ แบบนี้ผมคงไม่ต้องหาเวอร์ชั่น ST แล้วสิครับ จะได้เอาโควต้าไปซื้อแผ่นอื่นต่อครับ...
แปลกใจว่าทำไมคุณปอถึงบอกว่า เวอร์ชั่น โมโน ดีกว่า ST ล่ะครับ มีเหตุผลอะไรที่พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมครับ ผมเองก็พอจะได้ยินแบบนี้มาบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจครับ 

เรื่อง 126E ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจครับ หวังว่าตัวตู้ที่ให้น้องเขาทำคงพอใจนะครับ ไม่ทราบว่าต้องมีอะไรปรับปรุงไหมครับ....

[paganini]

ผมได้อัลบั้มนี้มา ราคานี้ครับ...
http://cgi.ebay.com/ws/eBayISAPI.dll?ViewItem&item=4811373859&rd=1&sspagename=STRK%3AMEWN%3AIT&rd=1
อยากรู้ว่า Mono ดีไหมครับ หรือผมต้องหา ST อีกอ่ะครับ
อีกข้อคือ... ได้กัด 126E กับ 103E แล้ว อยากทราบความเห็นคุณปอว่าเป็นเช่นไรครับ...�

เยี่ยมมากครับ ราคานี้ถูกมากแถมได้ของดีอีกต่างหาก� dd
แผ่นโมโนนี่แหละครับสุดยอด ดีกว่าสเตริโออีก

ความเห็นของผมเรื่องลำโพง 103E กับ 126E ของผมอาจจะไม่เป็นกลางนะครับ อย่าเอาไปบรรทัดฐานนะครับ แต่ถ้าอยากทราบความเห็นส่วนตัวพอบอกได้นะครับ
ผมเชื่อว่า 126E นำอยู่เล็กน้อย นอกจากเรื่องราคาห่างกันไม่มากแล้ว ผมรู้สึกว่า 126E จะให้เสียงกลางที่สดและกว้างกว่า เสียงกลางมีรายละเอียดหยุมหยิม ขณะที่เสียงเบสก็ไม่ขี้เหร่ มีเพียงเสียงแหลมอาจจะไม่กรุ๋งกริ๋ง แต่โดยรวมผมว่ารวมค่าตัวลำโพง ค่าตู้ ไบดิ้งโพสต์ และสายไวริ่งในคุณภาพดีพอเหมาะ รวม ๆ ราคาประมาณ 10000 บาท ต้น ๆ เสียงสู้ลำโพงคอมเมอร์เฃียลวางหิ้งในราคาหมื่นต้น ๆ ได้สบายครับ โดยเฉพาะคนที่ต้องการเล่นแอมป์วัตต์ต่ำ ๆ อย่างไรเสีย ลำโพง Full Range ยังมีความจำเป็นที่ต้องมีเอาไว้ในครอบครองครับ เพราะลำโพงคอมเมอร์เชียลความไวสูงในเวลานี้หาได้ยากมาก ถึงจะหาได้แต่มาเล่นกับแอมป์วัตต์ต่ำก็จริง ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้

[xthaix]

ผมได้อัลบั้มนี้มา ราคานี้ครับ...
http://cgi.ebay.com/ws/eBayISAPI.dll?ViewItem&item=4811373859&rd=1&sspagename=STRK%3AMEWN%3AIT&rd=1
อยากรู้ว่า Mono ดีไหมครับ หรือผมต้องหา ST อีกอ่ะครับ
อีกข้อคือ... ได้กัด 126E กับ 103E แล้ว อยากทราบความเห็นคุณปอว่าเป็นเช่นไรครับ... 

[paganini]

DAVE BRUBECK QUARTET ในตระกูล Time ทั้งหลาย ซื้อได้หมดครับ แต่ชุดที่ผู้พันป๊อคถาม ผมไม่มีครับ �:black_eye

แต่ที่ผมมีคือ Time Further Out ใช้ได้ครับ ส่วน Time Changes ก็โอเคครับ

แต่ที่ชอบมาก ๆ คือ Bernstein Plays Brubeck Plays Bernstein โดยเฉพาะหน้า 2 DBQ เล่นเพลงของเบิร์นสไตน์ ไพเราะทุกเพลงครับ

ส่วนลิงค์นี้ลองเข้าไปดูนะครับเป็น Rate แต่ละอัลบัมของ DBQ
http://rateyourmusic.com/artist/dave_brubeck_quartet

ส่วนราคาแผ่นที่ผู้พันป๊อคถาม ถ้าเป็นแผ่นใหม่ 200 g ราคามาตรฐานไม่แพงครับ ถ้าเป็นแผ่น 180g แพงไปนี๊ด แต่ถ้าเป็นแน Used หรือแผ่นธรรมดา (120g) แพงไปหน่อยครับ

[ดาวเหนือ]

ลองไปดูตัวอย่างราคาแผ่น Pink Floyd : Drak Side of The Moon / First Press นะครับ เห็นแค่ราคาตั้งก็เซ็งแล้วล่ะครับ�
http://cgi.ebay.com/Pink-Floyd-Dark-side-of-the-Moon-1st-pressing-Vinyl-LP_W0QQitemZ4810783472QQcategoryZ16138QQrdZ1QQcmdZViewItem

ราคามหาโหตจริงๆ...ราคานี้เอาไปbib หลอด 45 ดีกว่าครับ

ไปๆมาๆกระทู้นี้จะป็นกระทู้สำหรับผู้รักการสะสมแผ่นเสียงไปเสียแล้ว

[paganini]

วง Pink Floyd เป็นวงจากฝั่งอังกฤษ ตามที่ผมเข้าใจนะครับ แผ่น Original น่าจะผลิตที่อังกฤษก่อน จากนั้นฝั่งอเมริการนำเข้าไปจัดจำหน่าย และหรือ จนกระทั่งฝั่งอเมริกานำมาสเตอร์ไปผลิตแผ่นเสียงที่ฝั่งอเมริกาเอง เพื่อลดต้นทุน ผมไม่คอนเฟิร์มเรื่องนี้นะครับ อาจปล่อยไก่ก็ได้ 

ต้องบอกว่าแผ่นวงนี้มีการผลิตหลายเวอร์ชั่นมาก ทั้งแหล่งผลิตที่ต่างกันก็มาก จนน่าเวียนหัว เรื่องคุณภาพเสียงผมไม่เคยเทียบครับว่าฝั่งไหนดีกว่ากัน เอาเป็นว่าถ้าเป็นวงดนตรีฝั่ง UK แผ่นที่จะซื้อน่าจะซื้อที่ผลิต ใน UK เป็นลำดับแรก เช่นเดียวกัน ถ้าศิลปินคนไหนเป็นฝั่ง US แผ่นเสียงที่น่าซื้อก็คือผลิตใน US ครับ

ขณะเดียวกันคุณภาพฝั่ง US ก็ไม่ต่างกันมาก รวมถึงแผ่นญี่ปุ่นเองก็มีคุณภาพที่ได้มาตรฐานครับ

แผ่นเสียงที่ไม่น่าซื้อคือแผ่นแคนาดา ถ้าถูกมาก ๆ ก็ซื้อได้ แต่ผมว่าเสียงไม่ดีครับ เคยหลงซื้อมาสองสามแผ่นในช่วงที่เล่นแผ่นใหม่ ๆ (เห็นกับของถูก) ส่วนแผ่นที่ผลิตใน Australia ผมไม่มีเลย พยายามหลีกเลี่ยงแหล่งผลิตที่ไม่ค่อยมีคนเล่นกัน เว้นแต่จะเก็บเป็นคอคเลคชั่น

ลองไปดูตัวอย่างราคาแผ่น Pink Floyd : Drak Side of The Moon / First Press นะครับ เห็นแค่ราคาตั้งก็เซ็งแล้วล่ะครับ 
http://cgi.ebay.com/Pink-Floyd-Dark-side-of-the-Moon-1st-pressing-Vinyl-LP_W0QQitemZ4810783472QQcategoryZ16138QQrdZ1QQcmdZViewItem

[PokkyMan]

แล้วชุดนี้น่าซื้อมั้ยครับ แพงพอดู ตั้ง $33.99

[ดาวเหนือ]

ถ้าอย่าง Mr.Tube เป็น gu-mi-ru

แล้วใครจะรู้ล่ะเนี่ยะ�

 � �

[TOM]

แผ่น EMI -1979 นี่ใช่ The Wall ไหมครับ เสียงมันดีกว่า... PINK FLOYD THE WALL 2 LP ON 1979 COLUMBIA RECORDS หรือเปล่าครับ

อ้อ อีกเรื่องครับ เห็นคุณ TOM เล่นมานานแล้วเลยอยากขอความรู้หน่อยครับ
แผ่น DAVE BRUBECK QUARTET - TIME OUT มันมีแบบธรรมดา กับแผ่น 180 gram หรือเปล่าครับ หรืออัลบั้มนี้มีแต่ 180 Gram ครับ..

คุณไทครับผมไม่ได้เรียนรู้มาเยอะจนาดนั้นหรอกครับ ต้องคุณปอ รู้จริงครับ เห็นตอบแล้วอึ้งเลยครับ  แผ่นที่เล่นส่วนใหญ่ได้มาตอนปี 1988-1989 ครับ ซื้อตามที่เขาวิจารณ์ในหนังสือ Stereophile Abosolute sound Hifi news and record review sound แล้วก็ไปตามหาแผ่นมาฟังครับ  ฟังแต่เพลงหลากหลายสไตล์ ไม่ได้เจาะลึกเรื่องรายละเอียดครับ (หลังๆ ก็ไม่ได้อ่านแล้วครับ) ต้องขออภัยหลังจากนั้นก็ไม่ได้ฟังมาตั้งแต่ 2537 จนมาขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงไปเมื่อ ปี 2547 มาลงทุนขายอาหารที่หมู่บ้าน(แต่ต้องหยุด ไปอีก) ตอนนี้ก็เหลือแต่แผ่นเสียงเก็บไว้รอเวลา ได้หวนกลับมาฟังแผ่นเสียงอีกครั้งครับ  เพราะฟังจากแผ่นเสียงให้อารมณ์ของเพลงได้ดีครับ TT + SE or PP Tube Amp + Silver Cable  + Full range speaker ผมว่ามันไปกันได้ฉลุยครับ

เรื่องเสียงต่างกันอย่างไรระหว่าง แผ่นปั้มจาก England กับ USA ก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างวไรครับ เพราะไม่เคยเอามาฟังเปรียบเทียบ ก็ยังงงๆ ว่า ซื้อใน USA แต่ได้แผ่น England

มีการ SOD มีแผ่นทั้งสองประ้เทศต้องลองเอาไปฟังกันดูครับ ของผมก็ 2 LP ครับ  แต่ต้องระวัง(เหมือนเช่นเคยครับ) โดนหักคอ 

[DIY มด]

ถ้าอย่าง Mr.Tube เป็น gu-mi-ru

แล้วใครจะรู้ล่ะเนี่ยะ 

[Mr. Tube]

งานนี้ผมมีนัดชนกันครับ เลยไม่สามารถไปร่วมได้ ไว้ปีหน้าถ้าจังหวะพอดีคงได้พบกันแน่ครับคุณดาวเหนือ ขอบคุณครับ� dd อย่ายกผมเป็น guru เลยครับ อันที่จริงแล้วเป็น gu-mi-ru มากกว่าน่ะครับ�

[DIY Man.]

คิดว่า ;)งานครั้งหน้าจะไม่พลาดได้ดวลแก้วกันอย่างแน่นอนครับคุณดาวเหนือ dd ช่วงนี้คงต้องให้เวลาบรรดาสมาชิกเราเห็น K)กำลังตั้งใจ Bid แรงแซงโค้ง และเห็น K)อีกหลายท่านกำลังซุ่มสร้างสรรค์ผลงานอีกมากมายกันอยู่ครับ ....รับรอง TDA SOD คราวหน้าคงจะได้อารมย์เสียวและแสบหูอย่างแน่นอนกว่าครั้งนี้ครับ

[ดาวเหนือ]

งานนี้มีสิ่งที่น่าเสียใจอยู่อย่างหนึ่งนะครับ

งานนี้ขาดคุณครูDIY ของผมไปสองท่าน

คือกูรูหลอด(Mr.Tube) และกูรูDIYMan....

ถ้าได้กูรูทั้งสองท่านมาร่วมด้วยงานคงสนุกมากกว่านี้แน่