HTG2.club

Prototype Speaker อย่างใหญ่

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ขอบคุณครับ ที่จริงเสียงกีตาร์มันก็ไม่ได้มีแบนด์วดท์กว้างอะไรนักหนา ใช้ลำโพงเสียงกลางรุ่นเก่าอย่างพวก กูดแมน น่าจะเหมาะ ไปเจอไว้นานแล้ว จะลองกลับไปดูว่ายังอยู่อีกหรือเปล่า ขอบคุณพี่มะละกออีกครั้งครับ

ปล. ตอนแรกนึกว่าลำโพงคุณวิทยาไม่ค่อยใหญ่เท่าไร? แต่พอเห็นแบบ อ้อ! มันใหญ่สมชื่อกระทู้แล้วละครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Malako

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,769
    • เพศ:ชาย
ยอมเสียเงินซื้อดอกลำโพงสำหรับกีต้าร์เลยง่ายดีกว่าครับ

ผมเชียร์ความคิดนี้มากกว่าครับ
เพราะกลัวว่าแบนด์วิทที่กว้างเกินความจำเป็นอาจจะสร้างปัญหาอย่างอื่นตามมาได้อ

ถ้าไม่ซีเรียสมาก  เล่นตัวนี้สนุกมากครับ

Fishman Solo Amp 220   เล่นกีตาร์  ร้องคาราโอเกะ  เสียงดังชัดมากครับ




http://www.youtube.com/watch?v=usrd9ZXEesk&feature=related




ออฟไลน์ pride

  • *****
    • กระทู้: 518
  • พ่อค้า & ซาเล้ง
    • www.pridediyjunk.com

ออฟไลน์ sawasdee

  • *****
    • กระทู้: 559
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณมากๆเลยครับ...เเต่เกรงใจหลังตัวเองจังเวลายก ;D ;D ;D
กุลวัฒน์ พรหมสถิต 4/222 ม.สหกรณ์4 ซ.11 คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. 10240
Phone 0956378674


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
แบบตู้ครับ  ผมไม่ได้เขียน bracing เอาไว้ แต่ ตู้ขนาดนี้ จัดหนักมาเลยมาเลยครับ  เอาให้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  ต้องใช้ใยแก้ว ด้วยนะครับ  ผมใช้ใยแก้ว หนา3นิ้วบุรอบๆ และตาม brace  ทริกสำหรับคนกลัวใยแก้ว (ผมก็กลัว) คือ เวลาตัดให้ใส่เสื้อผ้ามิดชิด และใส่ผ้ากรองจมูก พอตัดเป็นชิ้นออกมาแล้ว ผมพ่นด้วยสเปรยฉีดผม จะทำให้มันไม่พุ้งออกมาอีก

ปริมาตร ประมาณ 5420 ลบ นิ้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 ธันวาคม, 2011, 10:49:54 pm โดย Withaya »


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
วงจร ครอสครับ  ตัว C1  ที่ช่วยยกเสียงสูง มันจะขึ้นกับตำแหน่งนั่งฟังด้วยครับ  ความสูงของหู กับความสูงของกึ่งกลางฮอร์น ถ้าตรงกัน 1.5uF ก็พอ แต่ถ้านั่งสูงกว่า อย่างที่นั่งผม 2uF ฟังดีกว่า และวัดดีกว่าครับ  เพิ่มได้ถึง 3.8uF เลยครับ  ขึ้นอยู่กับรสนิยม และ จุดนั่งฟังแล้ว แต่เกินนี้ไป ฟังดูจัดเกินไปแล้วครับ  อย่าใช้ C paper in oil ในตำแหน่งนี้นะครับ  ผมลองใช้ Audionote paper in oil แล้ว ประกายเสียงแหลม หายไปเลย  ต้องกลับมาหา Jantzen และ Obligato 
R1 = 22 - 30 ohm ชอบแหลมเยอะก็ 22 ชอบเบสนำก็30 

L ใช้ลวดเบอร์ 15 นะครับ 


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ยอมเสียเงินซื้อดอกลำโพงสำหรับกีต้าร์เลยง่ายดีกว่าครับ

ผมเชียร์ความคิดนี้มากกว่าครับ
เพราะกลัวว่าแบนด์วิทที่กว้างเกินความจำเป็นอาจจะสร้างปัญหาอย่างอื่นตามมาได้อีกครับ

(ออกเดินทาง 31 กลับ 3 ครับพี่)
[/quote]เห็นด้วย คิดว่าถ้าเราทำขนาดตู้เล็กไปใหญ่ไปนิดหน่อย คงไม่น่ามีปัญหามากนัก (กะว่าทำตามขนาดแผ่นไม้ที่เตรียมไว้แล้ว) เดี๋ยวให้ช่างลุยเลย เอาดอกที่มีอยู่นี่แหละยัดเข้าไปลองได้เลย คิดว่าน่าจะทันงานปีใหม่

(และขอให้คุณสันติเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และสนุกเต็มที่นะครับ อ้อ! เกือบลืมอยู่ระยองหากจะสอบถามสถานที่ท่องเที่ยวและที่กิน ก็ปรึกคุณประสานจะได้คำแนะนำที่ดีกว่าผมครับ แกอยู่แถวๆ ตะพง ใกล้ที่คุณสันติจะไปพักครับ)
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ santi

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,822
    • เพศ:ชาย
  • ปล่อยให้ดนตรีนำพา
ในลำโพงบ้าน เขาจักการเรื่องนี้ 2 ที่คือ
-- ควบคุมการเลื่อนเฝสของ XO ซึ่งถ้าจำเป็นอาจต้องยอมให้ดอกใดดอกหนึ่งต่อกลับเฝส
-- กำหนดตำแหน่งของดอกลำโพง เช่นทำแผงหน้าให้ลาดเอียง หรือวางดอก tweeter ให้เยื้องจากศูนย์กลางของ woofer
แต่กับลำโพงกีต้าร์ที่คนเล่นไม่ได้มีตำแหน่งนั่งฟังที่แน่นอน และไม่ได้อยู่นิ่ง นึกไม่ออกครับว่าวิธีใหนจะจัดการปัญหาพวกนี้ได้

ยอมเสียเงินซื้อดอกลำโพงสำหรับกีต้าร์เลยง่ายดีกว่าครับ

ผมเชียร์ความคิดนี้มากกว่าครับ
เพราะกลัวว่าแบนด์วิทที่กว้างเกินความจำเป็นอาจจะสร้างปัญหาอย่างอื่นตามมาได้อีกครับ

(ออกเดินทาง 31 กลับ 3 ครับพี่)


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
พี่พินิจเอาเรื่องความดังไปมิกซ์กับเรื่องความเร็วกับเรื่องระยะการเคลื่อนของกรวย

1. ความเร็วเสียงผ่านอากาศคงที่ (ถ้าความหนาแน่นของกากาศคงที่)
2. ความเร็วของกรวยกับความเร็วของเสียงเป็นคนละเรื่อง ถ้ากรวยสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว การเคลื่อนของเฝสจะน้อย
3. ระยะการเคลื่อนของกรวยสัมพันธ์กับความดัง
 
ฮอร์น ให้เสียงที่ดังกว่าเพราะมุมกระจายเสียงแคบกว่า (แลกกัน ได้อย่าง-เสียอย่าง)
มองมุมกลับคือลำโพงทั่วไปจะให้ดังเท่ากับฮอร์นต้องเคลื่อนกรวยด้วยระยะที่มากกว่าในคาบเวลา(รอบความถี่)ที่เท่ากัน
อ้าว! มีคำตอบเพิ่ม แล้วงานนี้พี่ควรทำอย่างไร? ถ้าเอาไดร์เวอร์สองตัวนี้มาใช้งานร่วมกันให้เสียงมันทันกัน (ขอยืมกระทู้นี้คุยหน่อยนะครับคุณวิทยา) d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
คิดมากจนสับสน พี่พินิจเอาเรื่องความดังไปมิกซ์กับเรื่องความเร็วกับเรื่องระยะการเคลื่อนของกรวย
อ้าว! ยังไม่เดินทางไปเที่ยวเมืองระยองอีกหรือครับ? ผมยิ่งคิดก็ยิ่งงครับ คือมันคิดถึงปัญหาต่างๆ ที่จะออกแบบทำ มันติดโน่นติดนี่ สรุปไม่ได้ซะที โปรเจ็คก็ไม่ออกจากจุกสตาร์ทซะที ถ้าทำแล้วเสียงไม่ดีผมคงได้ทิ้งลำโพงตู้นี้เลยแน่ๆ ไม่มีกำลังใจแก้ไข ถ้าเสียงออกมาไม่กลมกลืนกัน ผมน่ะเสียดายแรงที่จะต้องลงไปกับงานนี้น่ะครับ ไม่งั้นซื้อก็ต้องลำโพงใหม่สองดอกที่เหมือนกันมาเล่น เอาที่เค้านิยมใช้กับกีต้าร์โดยตรงไปเลยจะได้หมดเรื่องคิด (เคยฟังลำโพงของเฟนเดอร์ก็เสียงดีเหมือนกัน)

อ้างถึง
Phase Coherence
ผมน่ะแก้กันไม่ยากจริงอย่างว่ามาละครับ แต่ความอืดอาดและกระฉับกระเฉงที่ต่างกันของเสียงจากลำโพงสองตัวที่ต่างกันนี่ ขนาดลำโพงแพงๆ   ยังคิดแก้ไขกันไม่ได้ แล้วเราเป็นใครกัน เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่พร้อม ขอพิจารณายอมเสียเงินซื้อดอกลำโพงสำหรับกีต้าร์เลยง่ายดีกว่าครับ งานนี้ผม :giveup :giveup :giveup :giveup :giveup :giveup ต้องมีงานเดินฟังเสียงลำโพงกีตาร์ยี่ห้อต่างๆ ให้เหนื่อยอีกแล้วเรา :-\ :drive1 ตอนนี้ผมไปได้ BOGEN MO 60 (60W) มาเป็นเพาเวอร์แล้ว คงต้องทำปรีเสียงต่างๆ เอาเอง
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ santi

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,822
    • เพศ:ชาย
  • ปล่อยให้ดนตรีนำพา
พี่พินิจเอาเรื่องความดังไปมิกซ์กับเรื่องความเร็วกับเรื่องระยะการเคลื่อนของกรวย

1. ความเร็วเสียงผ่านอากาศคงที่ (ถ้าความหนาแน่นของกากาศคงที่)
2. ความเร็วของกรวยกับความเร็วของเสียงเป็นคนละเรื่อง ถ้ากรวยสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว การเคลื่อนของเฝสจะน้อย
3. ระยะการเคลื่อนของกรวยสัมพันธ์กับความดัง
 
ฮอร์น ให้เสียงที่ดังกว่าเพราะมุมกระจายเสียงแคบกว่า (แลกกัน ได้อย่าง-เสียอย่าง)
มองมุมกลับคือลำโพงทั่วไปจะให้ดังเท่ากับฮอร์นต้องเคลื่อนกรวยด้วยระยะที่มากกว่าในคาบเวลา(รอบความถี่)ที่เท่ากัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 ธันวาคม, 2011, 02:27:42 pm โดย santi »


ออฟไลน์ sawasdee

  • *****
    • กระทู้: 559
    • เพศ:ชาย
เข้าใจว่าคุณ Pinij คงจะสื่อสารเรื่อง phase coherence นะครับ หมายถึงให้เสียงจาก driver ทั้ง 2ตัวมาถึงหูผู้ฟังพร้อมๆกัน.... :)
ซึ่งคุณ Withaya ได้บอกไปแล้วว่า Passive มันทำไม่ได้...ถ้า active ล่ะหมูมาก โดยเฉพาะสมัยนี้ Active X-over ที่ใช้ DSP ปรับได้สารพัดแหละครับ

ดูโหงวเฮ้ง แล้วท่าทางจะไม่ธรรมดานะครับ :) B&C นอกจาก ถึก ควาย ทุย แล้ว ;D เสียงยังน่าฟังอีกต่างหาก (มีใช้ใน speaker ข้างละเเสนฝ่า ;D ;D ;D)
เณรกิ๊กก๊อก ขอแสดงความคิดเห็นต่อ Project ของท่านสมภารหน่อยนะครับ  ;D ก่อนเข้า C1 และปลาย R1 ลองคร่อมด้วย C ค่าเล็กๆซัก 1uF หรือน้อยกว่า
เพื่อทำเป็น Passive EQ ยกปลายที่มันตกขึ้น...ถ้า efficicency มันมากไปค่อย Drop ด้วย R อีกที

ปรับเเต่งลงตัวเเล้ว ขอดูแบบตู้ด้วยนะครับ...จะขอลอกการบ้านหน้าด้านๆนี่แหละครับ  ;D ;D ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 ธันวาคม, 2011, 02:07:49 pm โดย sawasdee »
กุลวัฒน์ พรหมสถิต 4/222 ม.สหกรณ์4 ซ.11 คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. 10240
Phone 0956378674


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
คิดไปคิดมาผมมีปัญหาที่ผมสรุปไม่ได้อีกแล้ว ใครคิดคำตอบได้ชอบบอกทีครับ :-\ คือลำโพงที่ติดตั้งบนตู้ฮอร์นจะทำให้เราได้ยินเสียงที่มี Transient response ที่ดีมากๆ คือมีสปีดของเสียงเร็วเข้าใกล้เสียงจริงมากขึ้น เนื่องจากกวยลำโพงมันขยับสั้นกว่าการเอาตัวขับไปใส่ตู้ธรรมดาทั่วๆ ไป มันจึงวิ่งไปกลับ (เด้งหน้าเด้งหลังได้ครบรอบโดยเดินทางไม่ต้องเยอะมากก็ได้เสียงที่ดังมากๆ แล้วเมื่อเทียบกับลำโพงติดตั้งกับตู้ธรรมดา) เสียงมันจึงฟังออกมาสดใกล้เสียงจริงมากกว่า

ทีนี้ลองมานึกว่าที่ความถี่เดียวกัน ตัวขับที่ติดตั้งบนลำโพงฮอร์นมันขยับน้อยกว่า ความเร็วของกวยลำโพงมันก็ต้องช้ากว่าตัวขับที่ติดในตู้ะรรมดา (เพราะต้องวิ่งกันยาวๆ ที่จะได้เสียงดังที่เท่ากันกับดอกที่ติดกับตู้ฮอร์น) ฉะนั้นความเร็วของกลวยลำโพงไม่ใช่บอก Transient response ของเสียงนี่หน่า? คิดไปคิดมาผมตีความตรงนี้ไม่ออกซะแล้ว ที่ผมเขียนไปอาจผิดหรือเปล่า? ผมเริ่มงงอีกแล้วละครับ  :giveup :help
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
เจ้าคู่นี้แหละครับ กระทู้นี้ทำให้ผมลังเลเรื่องการออกแบบตู้เบส ตอนแรกก็ว่าจะทำแบบตู้ข้างหลังเปิดมากๆ เเบบตู้กีต้าทั่วๆ ไป แต่ตอนนี้อาจเปลี่ยนตู้เบสเป็นตู้ฮอร์นเหมือนของตัวขับเสียงกลางแหลมซะแล้ว






ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ในเรื่องของการเอา Line Array เพื่อเพิ่มพื้นที่ขับเสียงมาใช้กับส่วนที่เป็นเสียงกลางกับเสียงแหลม เพื่อให้เกิด  Transient response ณ จุดตัดครอสส์มันลดลงมาใกล้ตัวขับเสียงต่ำใกล้มาขึ้น  (ตัวขับเสียงกลางแหลมต้องวิ่งเร็วกว่าเพราะขยับตัวมากกว่าตัวขับเสียงต่ำเพื่อให้ได้ปริมาณเสียงที่เท่าๆ กัน) แม้ลำโพงแพงอย่างวิสดอมที่คู่ละหลายล้านบาท ที่ผมเคยฟังมาถึงสามวาระ คือที่งานโชว์ (คงหวังอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเวลาปรับเซ้ทมีน้อย) ที่ร้านขาย (ในร้านเยาฮันนานมาแล้ว) และที่บ้านเจ้านาย ผมก็ยังฟังว่าเสียงส่วนล่างยังตามไม่ทันเสียงส่วนบนครับ แต่ก็ยังมีลำโพงที่ราคาไม่ถึงล้านบาทกลับทำเรื่องนี้ได้ดีกว่า เรื่องการเอาลำโพงหลายๆ ตัวมาใช้ในตู้เดียวกันนี่มันช่างยากซะจริงๆ

ที่ผมสนใจกระทู้นี้เพราะผมก็กำลังจะทำลำโพงสำหรับกีต้าร์อยู่น่ะครับ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับมันในเรื่องที่จะให้ได้ Transient response ของลำโพงสองดอกที่จะใช้ให้ได้ใกล้กันมากกว่าปรกติที่ทำๆ กัน (เพราะส่วนมากเค้าใช้ดอกเดียวทำลำโพงสำหรับกีตาร์กัน แต่ผมก็อยากจะทำจากของที่มีอยู่ลองดูก่อน) ในความคิดผมก็กะว่าอาจเพิ่มน้ำหนักของส่วนที่เป็น Voice Coil เพื่อลดความเร็วของมันลง (โดยไม่สนความถี่ปลายแหลมที่ลดลงเพราะกีต้าร์เสียงแหลมไปไม่ไกลอยู่แล้ว) แต่ตัวขับเสียงกลางแหลมของผมเป็นฮอร์นซะอีก คงต้องทำตัวขับเสียงเบสเป็นตู้ฮอร์นด้วย ตอนเมื่อผมทำจริง ผมจะเอาค่า Transient response ของตัวขับเสียงกลางแหลมระหว่างการเพิ่มน้ำหนักกับไม่เพิ่มมาให้ดูกันครับ (ผมคิดว่าผมมีวิธีวัดค่า Transient response ที่แตกต่างกันนี้ออกมาได้) และจะเอา Transient response ของตัวขับเสียงเบสมาให้ดูกันด้วย แต่ตอนนี้ยังหาช่างประกอบตู้ให้ไม่ได้เลย ไม้ทำตู้ก็มีพร้อมรออยู่แล้ว d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมตัด tweeter 1.3-1.4K ก็น่าจะต่ำมากแล้วนะครับ  ถ้าจะตัดตำ่กว่านี้ต้องเพิ่มขนาดของฮอร์นให้ใหญ่ขึ้น แต่ก็จะมีปัญหากับดอก compression driver ที่ไม่น่าจะมีดอกไหนตัดต่ำลงกว่า 1K ได้ นอกจากทำเป็น 3 ทาง แล้วใช้ดอก เสียงสูง กับ เสียงกลาง แต่ก็จะยุ่งยากมากขึ้นอีกครับ  ดอกพวก 2" 3" ที่ตัดต่ำกว่านี้ได้ เสียงสูงก็ไปไม่ถึงครับ  ต้องมีตัวช่วย บางตัวก็ทำเป็น co-axial ซึ่งผมว่ายุ่งยากมากไป

Transient response ของพวกดอกโปร นี่หายห่วงครับ  ถ้าเป็นของดีมาตราฐานนะครับ  รับรองว่าลำโพงบ้านไม่มีทางเทียบได้อยู่แล้วเรื่องนี้ BL ของแม่เหล็กแต่ละตัวนี่  อย่าใส่นาฬิกาไปใกล้ๆเลยนะครับ  จะเจ้งเอาได้

Line Array ต้องพึ่ง dsp pre อย่างเดียวเลยครับ  เพราะต้องทั้ง EQ และ shelf filter ถ้าทำแค่ passive crossover เอาไม่อยู่ครับ  ยังไงก็ไม่เรียบ  และก็ห้องต้องใหญ่หน่อย เพราะ comp filtering ของ line array จะได้ยินชัด ถ้าฟังใกล้ๆ  ถ้าผมมีห้องสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ ที่มีระยะซัก 4-5 เมตรในการนั่งฟัง ผมอาจจะทำline array ก็ได้ แต่ เห็นราคาแล้ว ขอถอยดีกว่าครับ 


ออฟไลน์ orosmanson

  • **
    • กระทู้: 92
ชัดเจนเลยครับ  อ่านแล้วเหนื่อยเลย   

ขอบคุณพี่ ๆๆ  ทุกท่านเลยคั้บ  ความรู้ในนี้แน่นจริง ๆ ^_^ 

แบบนี้เราจะทำลำโพงดีๆกะเค้าได้บ้างมั้ยเนี่ย ปวดหัว   อิอิอิอิ
ที่อยู่ค้าบบบบบบบบบบบ 
 http://www.htg2.net/index.php?topic=48174.0


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
ก็ถ้าเรามีดอกที่มีความสามารถได้อย่างที่คุณ pinij ว่ามาเป็นผมก็ยินดีจะตัดต่ำๆ เหมือนกันครับ เพราะอยากได้ fullrangeในดอกเดียวอยู่แล้ว แต่ในแง่ความเป็นจริง มันหายากและแพงมากๆ ก็ต้อง compromise กันไป
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
สิ่งที่ผมเขียนว่าให้ใช้ไดร์เวอร์ในส่วนของเสียงกลางและสูง (กรณีลำโพงสองทาง) ก็คือให้เราตัดความถี่ต่ำๆ ลงมา แล้วใช้ไดร์เวอร์ในส่วนนี้ให้มีพื้นที่มากที่สุดน่าจะดีน่ะครับ 500-20000 Hz ของไดร์เวอร์ส่วนนี้ของ แอลเท็ก วีโอที ถ้าจำไม่ผิด Dia. เกือบ  3 นิ้ว แต่ลำโพงปัจจุบันตัดกันที่ 1k ขึ้นไป อาจลดค่าใช้จ่าย

ซึ่งที่จริง  line source line array นั่นคือสิ่งที่ให้ Transient Response ดีที่สุด ให้ความต่อเนื่องของเสียงดีที่สุด ที่ผมคุยมาทั้งหมดจุดประสงค์คือต้องการความต่อเนื่อง ความถูกต้องของเสียง ในทุกๆ ความถี่ของลำโพงที่พวกเราจะทำกันขึ้น ผมก็ลยเขียนเตือนในคำนึงถึงเรื่องปัญหาตรงจุดรอยต่อขึ้นมาในครั้งนี้ แล้วกระทู้นี้เขียนว่าอย่างใหญ่ด้วย ก็เลยคิดว่าน่าจะหาไดร์เวอร์เสียงสูงอย่างใหญ่ๆ  ให้สมชื่อของกระทู้อีกด้วยด้วย
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
ก็ลำโพงพวก line source line array พวกนั้นรวมพื้นที่มากกว่า woofer ที่ใช้อีกครับ ซึ่งลำโพงพวกนี้มักจะให้ ไดนามิคที่สมจริงมากๆอยู่แล้ว แต่เรื่อง transient ยังไง จะคิดเฉพาะพื้นที่ และมวล กับเส้นแรงแม่เหล็กคงไม่ได้ เพราะความถี่ที่ใช้งานมันไม่เหมือนกัน ถ้าทำให้มันเคลื่อนที่ที่ความถี่สูงแต่ช้าลงเพื่อให้เข้ากับ woofer เสียงแหลมมันจะเป็นไงเอ่ย
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
เรื่องที่ Mr. Tube ว่ามานั้น ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า การที่ไดร์เวอร์เสียงสูงมีพื้นที่หน้าตัดของส่วนขับเสียงน้อยกว่า ในส่วนของเสียงต่ำ เมื่อความเร้วเท่ากัน ความดังที่เกิดจากการผักดันเสียงต้องน้อยกว่า ณ ทีความถี่จุดตัดของครอสส์ (ขอกล่าวถึงเฉพาะความถี่จุดเดียวนี้ที่จะคิดทำให้ดีที่สุดกันก่อนนะครับ) ถ้าเราใช้ดอกเสียงสูงหลายตัวมีพื้นที่เท่าเสียงต่ำตัวเดียว แล้วให้ และออกแบบไดร์เวอร์ส่วนนี้ให้มีมวลของส่วนเคลื่อนไหวกับแรงแม่เหล็กที่เหมาะสมเพื่อให้เกิด Transient Response ที่เท่ากับตัวเสียงต่ำซึ่งตัวใหญ่เพียงตัวเดียว

คืองานนี้อาจไม่สนเรื่องงบลงทุนเพื่อต้องการเสียงที่ดีที่สุด คิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหม? คิดว่าเสียงนะจุดตัดมันน่าจะกลมกลืนมากกว่าลำโพงแบบที่ทำๆ กันอยู่ไหม?  แต่ผมยังคิดถึงเรื่องการใช้ตู้ออร์นและตู้เปิดธรรมดากับลำโพงสองทางนี้ (โดยอยู่ในตู้ใหญ่ใบเดียวกันน่ะครับ) เพื่อช่วยปรับ Transient Response นี้ให้ใกล้เข้ามาหากันมากกว่าทำๆ กัน
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ความเร็วของกรวยลำโพงเสียงสูงกับต่ำ ทำงานด้วยความเร็วเท่ากันครับ มันไม่เป็นไปตามกฎฟิสิกส์ครับ ลองดูตัวอย่างนะครับ

สมมุติความถี่ Fundamental 100Hz กับ 1kHz ที่มี Amplitude เท่ากัน (สมมุติว่า Amplitude นี้เท่ากับกรวยเคลื่อนที่ถึงระยะ +/-1 mm ละกันครับ) ใน 1 วินาที กรวย 100Hz จะเคลื่อนที่เป็นระยะทาง 400mm และ 1kHz เคลื่อนที่ 4000mm คือต่างกันเป็น 10 เท่าตามความถี่ที่ต่างกันอยู่แล้วครับ ถ้าความเร็วคือ ระยะทางหารด้วยเวลา ยังไงกรวยที่เปล่งเสียงแหลมก็ต้องมีความเร็วมากกว่ากรวยเสียงทุ้มครับ ซึ่งหมายถึงกรวยเสียงแหลมต้องมีความเร่งสูงกว่ากรวยเสียงต่ำด้วยครับ


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
ถ้าเป็นฟิสิกส์ F = ma ครับ  ^-^
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
ถ้าเป็นกรณีนี้ ยอมรับเลยครับว่า diy น่าจะไปไม่ถึงการคัดเลือกและทดลองดอกลำโพงแบบที่แมทช์กันขนาดนั้น อย่างมากก็เอา ยี่ห้อและseries เดียวกัน
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมคิดว่าคุณ Pinij น่าจะหมายถึง Transient Response ครับ  :)
ใช่ครับ ถูกต้องตรงแป๊ะเลยครับ ผมลืมคำคำนี้ไปได้ไง! คือถ้าคิดง่ายๆ อย่าเพิ่งคิดถึงเสียง ของให้คิดถึงการสั่นของลำโพงที่จะทำให้เกิดเสียงในภายหลัง การสั่นของลำโพงตามสัญญาณเสียงจะมีความเร้วและความเร่งเข้ามาเกี่ยว สิ่งที่ผมอยากให้เป้นคือ ลำโพงสองตัว (เสียงสูงและต่ำ) ที่เอามาใส่ตู้เดียวกัน ทั้งส่วนของตัวไดร์เวอร์เสียงสูงและต่ำ ควรมีความเร็วและความเร่งที่ใกล้กันมากที่สุด (การให้มันเท่ากันคงเป้นไปไม่ได้) ลำโพงแพงๆ ที่เหนือกว่าของถูกๆ เค้าคำนึงถึงเรื่องนี้กัน มันขึ้นอยู่กับ น้ำหนักวอยคอยล์และกลวยของลำโพงทั้งคู่  :-\ เส้นแรงแม่เหล็กของลำโพงทั้งตู้   :-\ การออกแบบตู้เพื่อให้ความเร็วของการเคลท่อนที่กลวยให้ใกล้กันที่สุด นี่คือโจร์ทครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
ผมคิดว่าคุณ Pinij น่าจะหมายถึง Transient Response ครับ  :)


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
ผมอาจใช้คำผิดไปหรือเปล่านี่? ถ้าใช้คำว่า Slew Rate ของลำโพง จะน่าเข้าใจกว่าไหม? เพราะทานซิสเตอร์นั้น ถ้าเทียบกับหลอด ทานซิสเตอร์ถึงปัจจุบันมันก้ยังตามไม่ทันหลอดอยู่ดี ฉะนั้นการเปลี่ยนมาเป้นทานซิสเตอร์คือการถอยหลังลงคลอง :nono :nonono N]

ถ้าผมจะขอยกตัวอย่างคือ Altec ใช้ดอกเสียงเบสเดียวกัน กับตู้สองชนิดคือตู้ฮอร์นกับตู้เปิด (แต่ไม่แน่ใจว่าใช้รุ่นเดียวกันหรือไม่นะครับ ขอสมมุติเป้นรุ่นเดียวกันเพื่อการอธิบายละกัน) คือถ้าต้องการให้เสียงเท่ากัน ดอกที่ติดกับตู้เปิดต้องขยับตัวมากกว่าเป็นสิบเท่าถึงจะดังเท่าตู้ฮอร์น (เป็นค่าสมมุติสิบเท่านะครับ) การขยับมากกว่าของตู้เปิดด้วยกลวยหนักเท่ากัน ที่ความถี่แม้จะเดียวกัน มันย่อมขยับตัวตามไม่ทันสัญญาณเสียงได้เทียบเท่ากับกับตู้ฮอร์น นี่คือความหมายของคำว่า Speed ที่ผมใช้ครับ คิดว่าน่าจะเข้าใจกันแล้วนะครับ ไม่ใช่ความเร็วเสียงที่ 1100 ไมล์ต่อวินาที ตรงนี้เราวัดกันใกล้ๆ จากดอกลำโพงถึงไมค์ถือว่าไม่เอามาคิดครับ

อย่างนี้เป็นคุณลักษณะของตู้แล้วนี่ครับไม่ใช่ตัวลำโพง  ที่คุณ pinij เป็นห่วงว่าสปีดของ 15 นิ้ว กับ ทวีตเตอร์ จะเท่ากันไหม ถ้ามันที่คนละความถี่เราจะวัดอย่้างไรครับ  น่าจะต้องใช้หูอ่างเดียวแล้วละ
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมอาจใช้คำผิดไปหรือเปล่านี่? ถ้าใช้คำว่า Slew Rate ของลำโพง จะน่าเข้าใจกว่าไหม? เพราะทานซิสเตอร์นั้น ถ้าเทียบกับหลอด ทานซิสเตอร์ถึงปัจจุบันมันก้ยังตามไม่ทันหลอดอยู่ดี ฉะนั้นการเปลี่ยนมาเป้นทานซิสเตอร์คือการถอยหลังลงคลอง :nono :nonono N]

ถ้าผมจะขอยกตัวอย่างคือ Altec ใช้ดอกเสียงเบสเดียวกัน กับตู้สองชนิดคือตู้ฮอร์นกับตู้เปิด (แต่ไม่แน่ใจว่าใช้รุ่นเดียวกันหรือไม่นะครับ ขอสมมุติเป้นรุ่นเดียวกันเพื่อการอธิบายละกัน) คือถ้าต้องการให้เสียงเท่ากัน ดอกที่ติดกับตู้เปิดต้องขยับตัวมากกว่าเป็นสิบเท่าถึงจะดังเท่าตู้ฮอร์น (เป็นค่าสมมุติสิบเท่านะครับ) การขยับมากกว่าของตู้เปิดด้วยกลวยหนักเท่ากัน ที่ความถี่แม้จะเดียวกัน มันย่อมขยับตัวตามไม่ทันสัญญาณเสียงได้เทียบเท่ากับกับตู้ฮอร์น นี่คือความหมายของคำว่า Speed ที่ผมใช้ครับ คิดว่าน่าจะเข้าใจกันแล้วนะครับ ไม่ใช่ความเร็วเสียงที่ 1100 ไมล์ต่อวินาที ตรงนี้เราวัดกันใกล้ๆ จากดอกลำโพงถึงไมค์ถือว่าไม่เอามาคิดครับ

แสดงว่า คุณPinij เรียกความดังว่า speed  เล่นเอางงไปนาน  :D  ถ้าอย่างนั้น ดูที่ effieiency กับ impedance ของลำโพงได้ครับ


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมอาจใช้คำผิดไปหรือเปล่านี่? ถ้าใช้คำว่า Slew Rate ของลำโพง จะน่าเข้าใจกว่าไหม? เพราะทานซิสเตอร์นั้น ถ้าเทียบกับหลอด ทานซิสเตอร์ถึงปัจจุบันมันก้ยังตามไม่ทันหลอดอยู่ดี ฉะนั้นการเปลี่ยนมาเป้นทานซิสเตอร์คือการถอยหลังลงคลอง :nono :nonono N]

ถ้าผมจะขอยกตัวอย่างคือ Altec ใช้ดอกเสียงเบสเดียวกัน กับตู้สองชนิดคือตู้ฮอร์นกับตู้เปิด (แต่ไม่แน่ใจว่าใช้รุ่นเดียวกันหรือไม่นะครับ ขอสมมุติเป้นรุ่นเดียวกันเพื่อการอธิบายละกัน) คือถ้าต้องการให้เสียงเท่ากัน ดอกที่ติดกับตู้เปิดต้องขยับตัวมากกว่าเป็นสิบเท่าถึงจะดังเท่าตู้ฮอร์น (เป็นค่าสมมุติสิบเท่านะครับ) การขยับมากกว่าของตู้เปิดด้วยกลวยหนักเท่ากัน ที่ความถี่แม้จะเดียวกัน มันย่อมขยับตัวตามไม่ทันสัญญาณเสียงได้เทียบเท่ากับกับตู้ฮอร์น นี่คือความหมายของคำว่า Speed ที่ผมใช้ครับ คิดว่าน่าจะเข้าใจกันแล้วนะครับ ไม่ใช่ความเร็วเสียงที่ 1100 ไมล์ต่อวินาที ตรงนี้เราวัดกันใกล้ๆ จากดอกลำโพงถึงไมค์ถือว่าไม่เอามาคิดครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
พอดีมีธุระด่วนขอเอาคำตอบน้องคนนึงในพีเอ็มมาลงให้ก่อน เดี๋ยวจะมาคุยต่อครับ

มันใช่อาการเดียวกันกับการผิดเฟสป่ะคั้้้บ  แต่อันนี้มันเหมือนกับ ทวีตเตอร์กับวูฟเฟอร์ เฟสมันไม่ตรงกันจึงเกิดการเลื่อมเฟส หรือป่าวครับ

ผมเข้าใจถูกมั้ย
ถูกต้องที่สุดเลยครับ แสดงว่าเราเข้าใจเรื่องที่พี่พูด แสดงที่พี่เคยเขียนมาเกี่ยวกับคำว่า Speed ของเสียง คงไม่มีใครคิดว่ามันคือ Speed ของกลวยลำโพงนั่นเอง เสียงก็เหมือนสัญญาณความสั่นสะเทือนครับ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความเร้วที่วัดกันได้เช่นกัน ถ้าลำโพงสองตัวปรับเสียงแค่ปริมาณของมันเท่านั้นให้เท่ากันได้ไม่ยากส์... แต่จะปรับความเร็ว ความเร่ง อันนี้ยากส์...มากกกกก คงต้องแก่ในเรื่องของ มวลของกวยลำโพง อำนาจของเส้นแรงแม่เหล็ก การออกแบบตู้ลำโพงเพื่อชดเชยกัน การใช้ตู้ฮอร์นกับเสียงเบสจะช่วยให้สปีดของเสียงเบสเร็วเทียบเท่าเสียงกลางแหลมแบบตู้ธรรมดาได้ (ถ้าไม่เข้าใจว่าทำไม ถามต่อได้) ฯลฯ
อ่านอีกทีเราตอบน้องเค้าผิด เพราะเราอ่านคำถามแบบสะเพล่า K] มันไม่ใช่ผิดเฟสครับ คือถ้าคิด ณ จุดที่ลำโพงไปหยุดที่ด้านในตู้หรือด้านนอกตู้ แล้วเริ่มขยับตัวไปอีกทางหนึ่ง มันจะมีอัตราเร่งของกลวยลำโพง และก็จะมีความเร้วด้วย ขอให้คิดเหมือนการสั่นตัวของวัสถุนะครับ ซาวด์และความสั่นสะเทือนคือตัวเดียวกัน เหมือนกัน ใช้ซอพแวร์ตัวเดียวกัน วิเคราะห์สิ่งต่างๆ จากมันได้เหมือนๆ กันครับ ขอแค่นี้ก่อนเดี๋ยวกลับมาคุยต่อครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
พอดีมีธุระด่วนขอเอาคำตอบน้องคนนึงในพีเอ็มมาลงให้ก่อน เดี๋ยวจะมาคุยต่อครับ

มันใช่อาการเดียวกันกับการผิดเฟสป่ะคั้้้บ  แต่อันนี้มันเหมือนกับ ทวีตเตอร์กับวูฟเฟอร์ เฟสมันไม่ตรงกันจึงเกิดการเลื่อมเฟส หรือป่าวครับ

ผมเข้าใจถูกมั้ย
ถูกต้องที่สุดเลยครับ แสดงว่าเราเข้าใจเรื่องที่พี่พูด แสดงที่พี่เคยเขียนมาเกี่ยวกับคำว่า Speed ของเสียง คงไม่มีใครคิดว่ามันคือ Speed ของกลวยลำโพงนั่นเอง เสียงก็เหมือนสัญญาณความสั่นสะเทือนครับ เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความเร้วที่วัดกันได้เช่นกัน ถ้าลำโพงสองตัวปรับเสียงแค่ปริมาณของมันเท่านั้นให้เท่ากันได้ไม่ยากส์... แต่จะปรับความเร็ว ความเร่ง อันนี้ยากส์...มากกกกก คงต้องแก่ในเรื่องของ มวลของกวยลำโพง อำนาจของเส้นแรงแม่เหล็ก การออกแบบตู้ลำโพงเพื่อชดเชยกัน การใช้ตู้ฮอร์นกับเสียงเบสจะช่วยให้สปีดของเสียงเบสเร็วเทียบเท่าเสียงกลางแหลมแบบตู้ธรรมดาได้ (ถ้าไม่เข้าใจว่าทำไม ถามต่อได้) ฯลฯ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ฟังดู ไม่ค่อยเป็น Physic ไปหน่อยนะครับ  ความเร็วเสียง ของแต่ละดอกลำโพงไม่เท่ากัน  อะไรคือหน่วยวัดครับ  ผมเข้าใจจากที่เคยเรียนมาว่า ความเร็วเสียงเป็นค่าคงที่ 340.29 m/s มันอาจจะเปลี่ยน ถ้าวิ่งในน้ำ หรือ สิ่งอื่น แต่ถ้าเป็นอากาศที่ความสูงเท่ากันก็น่าจะไม่ต่างกันนะครับ 

ความเร่งคุณ Pinij หมายถึง acceleration ใช่ไหมครับ  การเปลี่ยนความเร็วต่อช่วงเวลา  change of velocity/time  ถ้าความเร็วเสียงไม่เปลี่ยน เสียงเป็นคลื่นก็ไม่มีความเร่ง

เสียงที่ฟังดูเร็ว หรือ ช้า ผมเข้าใจว่ามาจาก damping factor ของลำโพงและแอมป์ ผสมกันกันมากกว่าครับ  ดอกลำโพงบางดอก สัญญาณหยุดแล้วแต่มันยังครางอยู่ ไม่ว่ามันจะมาจากดอกเอง ทั้งresonace หรือความเพี้ยน หรือ แอมป์ที่หยุดลำโพงไม่ได้ หรือ ตู้ส่งเสียงครางออกมาบางความถี่

ผมมีดอก 15นิ้วดอกนึงที่ QTS มันสูงมาก  ลองเอามาใส่ตู้ดูเสียงไม่ได้เรื่องเลยครับ  มันฟังดูเบสไม่กระชับ เก็บตัวไม่ดี (หรือนี่ทำให้ฟังดูว่ามันเสียงช้า คำอธิบายความรู้สึกของแต่ละคนแตกต่างกัน คงต้องอธิบายเยอะหน่อยครับ)  แต่เอาใช้ในแผง Open baffle เสียงโอเคเลยครับ 

เรื่องตู้คราง ผมก็ไม่มีเครื่องมือวัดครับ  ผมพยายามเอาไม้ค้ำยันให้เยอะจนพอใจ และ damp ที่ทำให้เคาะแล้วไม่ก้อง  แต่ก็ยังคิดวิธีวัดไม่ออกจากเครื่องมือที่มีครับ  ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ ไม่อยากซื้อเครื่องมือที่ไม่ค่อยจะได้ใช้

ผมก็ออกแบบตามที่มีคนเคยออกแบบเอาไว้นะครับ  การออกแบบเป็นการ compromise อยู่แล้ว  ไม่มีอะไรสมบูรณ์ได้  การทำ passive cross over ก็ทำได้แค่ ความดัง และ เฟส เท่านั้น แต่ทำ time allignment ไม่ได้  ผมมี dsp crossover อยู่ที่ทำเป็น active crossover ได้ และ EQ ได้ แถมทำ time allignment ได้ด้วยครับ  เดี๋ยวรอฟังลำโพงให้คุ้นหูอีกหน่อย ผมจะลองฟังเทียบดูระหว่าง active vs passive  ใจผมว่า active crossover ได้เปรียบกว่า ทำง่ายกว่า แต่ต้องใช้แอมป์ 2 ตัว  เวลาวางแล้วมันเกะกะไปนิด




ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
http://www.ni.com/trylabview/  มีคนพีเอ็มถามหาโปรแกรมแลปวิว มีให้โลดฟรีในนี้ครับ ลองเซริทซ์หาวิธีใช้งานก็มีในเวปอีกด้วยนะครับ ใช้กรูเกิ้นค้นหาได้เลยครับ :secret

ถ้าจะให้ดีซาวด์กาดร์ที่ใช้ควรเป้น 24/192 ด้วยก้จะดีนะครับ Resolution จะละเอียดและมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ d_d :drunk
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ธันวาคม, 2011, 07:14:41 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
กราฟที่คุณวิทยาทำออกมาให้ดูกันนั้น มันแค่ Magnitude หรือเชิงปริมาณเท่านั้น ไม่ได้บอกในเชิงคุณภาพของเสียงในส่วนของกลางแหลมกัยเสียงเบส (ลำโพงที่บอกกันว่าเสียงตรงรอยต่อไม่ดี มักปรับกันแค่ปริมาณของเสียง ณ จุดตัดของครอสส์กันเท่านั้น แต่ไม่ได้ปรับเรื่องคุณภาพ เช่นเรื่องของ Speed ของลำโพงทั้งสองตัวละครับ หรือปรับกันไม่เป็น หรือทำกันไม่ได้ :nono :nonono N]) และส่วนใหญ่การโฆษณาลำโพงก็พูดกันแคนี้ แต่การอกแบบลำโพงดีๆ ราคาแพงๆ ผมคิดว่าเค้าคิดคำนึงถึงเรื่องที่ผมว่ามาด้วยทั้งนั้น แต่อาจจะไม่เอามาพูดเพราะอาจเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ กับผู้ซื้อที่อาจไม่มีพื้นฐานทางฟิสิกส์ แต่ผมคิดว่าคุณวิยาคงเข้าใจเรื่องนี้ผมก็เลยหยิบยกขึ้นมาคุยกันแค่นั้เองละครับ แต่ถ้าจะทำลำโพงแบบไม่ได้ซีเรียสลิสเทิ่นนิ่งมากนัก ก็ไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ครับ

อย่าว่าแต่คนไทยงง ฝรั่งก็ยังคุยเรื่องนี้กันไม่ค่อยจะรู้เรื่องเหมือนกัน ผมก็อธิบายไม่เก่ง วกไปเวียนมา ไม่ค่อยตรงประเดน พยายามหาที่อธิบายดีๆ ได้มาแค่นี้ละครับ (เดี๋ยวจะหาต่อเพิ่มมาให้อ่านกันต่อ)

 Speed = damping performance?
What does 'fast' mean?

Speed in a loudspeaker is related directly to  damping factor applied not only to the cone but the cabinet itself (and maybe even the crossover).

Usually lighter and smaller cones seem to react to changes in rhythm faster or more accurately due to lower mass (and lower damping but that's another issue). A heavier damped cone will respond more slowly to changes in signal than a lesser damped one. Most guitar amps stick to lightweight paper cones for this reason. So why bother with damping? Well if you don't bother then you run the risk of all kinds of distortion and frequency anomalies appearing.

Cabinet resonances can also make a speaker sound slow, not only slow as such, but ill-timed as well. Ill-timed can sound blurred, and blurred can sound slow. This effect becomes critical at low frequencies because they are comparatively slow in the first place.

How many car speakers have you heard that had poor 'timing'? Not many I bet, and the same goes for ghetto blasters and such. Furthermore I can't recall any headphones sounding slow in the same way as the comparatively ponderous loudspeaker can. In these cases the cone material is light and the cabinet resonances negligible. Of course they can't portray lifelike scale and dynamics, but as of 2011 audio reproduction is still a question of significant compromises.

Cabinet resonances also explain why boxless speakers will always sound more responsive to the signal, but once again this comes at a cost. Cabinet resonances become more obvious in relation to the amount of bass the speaker is asked to reproduce. The Harbeth thin-wall cabinet is still the best way of dealing with this, despite some controversy over the use of MDF.

So if you want more speed from a Harbeth loudspeaker then you will have to persuade Alan to use a more 'appropriate' cone material. Right now he (Harbeth) prefers Radial. In the meantime you can experiment with the speaker/stand interface to ensure that the baffle remains as vibration free as it can. You can also experiment with placement to see if that helps, but with the thin-walled cabinet it shouldn't be so critical.

Perhaps it's best to accept that compromises are inevitable and that Harbeth is still the best compromise.

http://www.harbeth.co.uk/usergroup/showthread.php?1393-Fast-and-slow-speakers-should-fast-painful-to-listen-to

ผมมีความคิดที่ว่า ลำโพงที่ดีที่ถูกต้องในอุดมคติคือ ไดร์เวอร์ทั้งสองตัว ณ จุดตัดความถี่ (ในกรณีนี้คือที่ 1k Hz) มันควรจะวิ่งออกและเข้าด้วยความเร็วหรือสะปีดที่เท่าๆ กัน และวิ่งออกสตาร์ทด้วยอัตราเร่งที่เท่าๆ กันด้วย และต้องหยุดพร้อมๆ กัน เท่าๆ กับเสียงของเครื่องดนตรีจริง แต่เรื่องจริงคงทำไม่ได้ตามอุดมคติเสมอ :-\ มีแต่ใครจะทำไกล้กว่ากันเท่านั้น

http://www.ferret.com.au/c/Warsash-Scientific/Non-Contact-Point-and-Measure-Digital-Industrial-Vibration-Sensors-by-Warsash-Scientific-p12681  เครื่องมือพวกนี้ผมเคยใช้งานมันมาสมัยที่ยังเป็นลูกจ้างเค้าอยู่ครับ มันสามารถวัดสปีดของกลวยลำโพงได้โดยตรง แต่ผมคิดว่าเราใช้ไมค์ดีๆ ก็น่าจะใช้แทนกันได้นะครับ

สิ่งที่ผมคิดคือ เราไม่ควรเดินตามก้นยี่ปุ่น เพราะยี่ปุ่นสร้างรถยนต์เกาะถนนสู้เมกาไม่ได้ เพราะเรียนรู้ไม่ลึกพอ รถฟอร์ดเฟรียดต้า (ผมเรียกชื่ออาจผิด แต่เคยลองขับมันมาแล้ว) ผมลองขับที่ 180 กม/ชม กับขับรถยี่ปุ่นหลายยี่ห้อระดับเดียวกันที่มีน้ำหนักเท่าๆ กัน  การเข้าโค้งมันคนละเรื่องกันเลยละครับ ถ้าจะให้ประเทศเราเจริญกว่ายี่ปุ่น ผมอยากจะให้พวกเราที่พอจะมีความรู้กัน ควรคิดทำอะไรที่เหนือพวกนี้ อย่างน้อยต้องเข้าใกล้เมกาให้ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ธันวาคม, 2011, 10:37:26 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อธิบายความหมายของ สปีดของไดร์เวอร์หน่อยสิครับ  แปลว่าอะไร 
Speed ของ Driver ทั้งสองตัวซึ่งจะมีผลต่อเสียงที่จะออกมา ว่าจะมาถึงหูเราพร้อมๆ กันทั้งสองตัวหรือไม่? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ในการใช้ Driver สองตัวขึ้นไปกับลำโพงสองทาง ที่น้ำหนักของกวยลำโพงไม่เท่ากัน การใช้ลำโพงฟูลล์เรนท์ตัวเดียวจะทำให้เสียงทุกๆ ความถี่มาถึงหูเราพร้อมๆ กันได้ดีที่สุด ดังเราจะพบว่าถ้าใช้ ซับวูฟเฟอร์ราคาถูกๆ สปิดของเสียงจากไดร์เวอร์ของซับจะช้ากว่าคู่หลัก

หรือการเล่นลำโพงฮอร์นที่ใช้ปากของเสียงกลางและสูงเป็นปากฮอร์น แต่ตู้เบสกลับเป็นตู้เปิดธรรมดา เสียงจากตู้ธรรมดาจะช้ากว่าจนตามไม่ทัน เสียงกลางและสูงจากการใช้ปาก (หรือก็คือตู้แบบนึง) เพราะหลักการของฮอร์นคือใช้การขยายเสียง เพียงแค่ขยับกวยลำโพงนิดเดียวเสียงก็จะออกมามากมาย มากกว่าการใช้ตู้ธรรมดาเยอะ การขยับตัวน้อยของการใช้ตู้ฮอร์น จะทำให้ไดร์เวอร์วิ่งไป-กลับ (การขยับตัวเพื่อให้ครบ 1 ลูกคลื่น) ที่ความถี่เดียวกัน เมื่อเอามาเทียบกันระหว่างไดรืเวอร์สองตัวที่ติดตั้งในตู้ใบเดียวกัน (ของเอาที่ 1k Hz ที่ตรงจุดที่เราจะเอามาต่อกันละกัน) สั่นกว่า และน้ำหนักส่วนที่ขยับตัวของส่วนเสียงกลางและสูงนี้ก็มักจะก็เบากว่าตัววูฟเฟอร์อยู่แล้วด้วย มันจะมีสปีด (ความเร้ว และความเร่ง) ที่สูงกว่าวูฟเฟอร์ของเสียงต่ำที่เป็นตู้ธรรมดา ที่ต้องเคลื่อนตัวเป็นอย่างมากถึงจะผลิดเสียงให้ดังออกมาเสมอเสียงจากไดร์เวอร์เสียงกลางและสูง จึงเกิดความล่าช้ากว่า ที่ว่ามานี่ก้คือหลักของฟิสิกส์ง่ายๆ น่ะครับ นี่ที่สิ่งที่ผมว่ามาถึงคำว่า "สปีดของไดร์เวอร์ที่เอาทำเสียงกลางและแหลม กับ เสียงต่ำ มันจะไม่ทันกันน่ะครับ

ในโปรแกรมแลปวิวที่ผมว่ามาแล้วนั้น มันสามรถเอาสัญญาณที่เราเก็บจากไมค์ อ่านค่าออกมาเป็นความเร็วหรือควมเร่งก็ได้น่ะครับ ถ้าเอาเข้าโปรแกรมนี้เราจะรู้ว่าสปีดของเสียงจากเสียงกลางแหลม จะเร้วกว่าเสียงเบสครับ ผมเห็นลำโพงแพงๆ มักจะพูดถึงเรื่องสปีดของไดร์เวอร์ที่เค้าจะเอามาใช้ร่วมกันในลำโพงที่เค้าจะออกแบบละครับ คนมักไม่เห็นความสำคัญข้อนี้ ผมเห็นว่าคุณวิทยามีความพร้อมอยู่แล้ว น่าจะทดลองให้เพื่อนในนี้ได้เห็นความเร้วของกลวยลำโพงว่าสองตัวนี้ทำความถี่ที่ 1k Hz (ซึ่งทั้งคู่มันก็สามารถทำออกมาได้) มันเร็วไม่เท่ากันน่ะครับ (การวัดให้หันลำโพงที่ทดลองตามที่ผมว่ามาแล้วนั้น หันหน้าลำโพงไปคนละทางนะครับ มันจะได้ไม่กวนกัน แล้วให้ทดลองในที่โล่งแจ้งด้วยเป็นดีครับ)

ดังของ VOT ไดร์เวอร์ของเสียงกลางและสูงเค้าจะทำให้มีน้ำหนักค่อนข้างมากๆ เพื่อลดสปีดของมันลงเพื่อให้ ไดร์เวอร์ที่เป้นเสียงต่ำ (ที่ใช้ตู้แบบฮอร์นเหมือนกัน วิ่งตามกันทัน) และนอกจากนั้นไดร์เวอร์เสียงกลางและสูงของเค้าเช่นรุ่น 802 เค้ายังลดความแรงของแม่เหล็กลงมาเป้นอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่น 288 ก็เพื่อให้มันมีสปีดที่ช้าลงเพื่อให้เหมาะกับการใช้ในบ้าน ที่จะมีการจับผิดกันมากกว่างาน PA ที่ใช้ตูดของ 288 เพื่อต้องการเสียงดังๆ มากกว่าความถูกต้องของเสียง (อันนี้ผมเคยอ่านฝรั่งเค้าคุยกันนานมาแล้วครับ VOT คู่แรกของผมก็เลยใช้ตูด 802)
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Malako

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,769
    • เพศ:ชาย


ตัวก๊อป  น่าจะเป็นรุ่นที่มีชื่อเหมือนกัน  แต่ต้องเป็นรุ่นเก่าครับ  เล่นกลางแจ้งฟังไม่ออกว่าตัวไหนของแท้หรือของเทียม
มีข้อแม้ว่าต้องใช้พาสสีพของแท้เท่านั้น

P 2226


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
อธิบายความหมายของ สปีดของไดร์เวอร์หน่อยสิครับ  แปลว่าอะไร 


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
น่าสนใจวิธีจูนเสียงมากๆ ครับ รอผมทำโปรเจ๊คลำโพงกีต้าร์ หากมีปัญหาเรื่องจุดตัดและการจูนให้สองลำโพงเข้ากัน จะรบกวนสอบถามครับ d_d :drunk

ยินดีครับ  แต่อย่าหวังมากนะครับ  ผมเองก็มั่วมากพอดู  จริงๆผมว่าฮอร์นตัวนี้มันเล็กไปนิดสำหรับการจับคู่กับดอก 15" ทำให้การทำ cross over ยากกว่าธรรมดาไปหน่อย
ของดีๆ สิ่งดีๆ บางครั้งก็มาจาก ไอ้มั่วๆ นี่แหละ ไทร์อั้นแอนด์เออเร่อร์ กันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอดีเองละครับ ไม่ทราบว่าคุณวิทยาคิดถึงเรื่องสปีดของไดร์เวอร์สองตัวนี้บ้างไหมครับ? ถ้าไม่ใส่ใจก็แล้วไป แต่ถ้าสนใจ น่าไปหาโปรแกรม แลปวิว มาเช็คสปีดก็น่าจะได้นะครับ โดยเอาตัวหนึ่งทำหน้าที่คล้ายเป็น ครีย์เฟรสเซ่อร์ น่ะครับ โดยอาจลองป้อนสัญญาณที่ 1k เพราะทั้งคู่สามรถทำเสียงออกมาได้ แล้วใช้ไมค์สองตัวเช็ค (แต่ถ้าหา นอนคอนแท็กโปรปจับที่กรวยของแต่ละตัวได้ก็จะชัวร์กว่า)
 
ถ้าเราใช้ไมค์น่าจะใช้วิธีลำโพงตัวหนึ่งปิดเสียงเบส อีกตัวปิดเสียงกลางสูง (คือใช้งานผ่านครอสส์ตามปรกติ) ให้เปิดสัญญาณที่ 1kHz จากแอมป์โมโนตัวเดียวกัน วางลำโพงในที่กลางแจ้งห่างกันเท่าที่สายลำโพงจะมี สายต้องยาวเท่าๆ กัน (ต้องการที่โล่งเพราะไม่ต้องการให้มีการสะท้อนเสียงจากผนังห้องมานิวแซนน่ะครับ) แล้วใช้ไมค์ยี่ห้อเดียวกันสองตัวตามแยกไปอัดเสียงแต่ละข้าง ผ่านซาวด์กราดสองซาแนลผ่านโปรแกรมแลบวิวนี้มันสามารถบอกค่าความเร็ว ความเร่งของสัญญาณที่ความถี่ที่ 1k แบบสะบาบๆ ครับ ขอให้ซาวด์การดเป็น 24/192 นะ และถ้าเราตั้งแชแนลนึงเป็นเร็ปเฟอร์เรนท์มันก็จะบอกความแตกต่างของเฟรทเสียงที่ผ่านครอสส์มาแล้วได้อีกด้วย การใช้งานโปรแกรมแล็บวิว ถ้าไม่เข้าใจผมอาจช่วยได้ครับ d_d :drunk
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ธันวาคม, 2011, 11:20:58 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
น่าสนใจวิธีจูนเสียงมากๆ ครับ รอผมทำโปรเจ๊คลำโพงกีต้าร์ หากมีปัญหาเรื่องจุดตัดและการจูนให้สองลำโพงเข้ากัน จะรบกวนสอบถามครับ d_d :drunk

ยินดีครับ  แต่อย่าหวังมากนะครับ  ผมเองก็มั่วมากพอดู  จริงๆผมว่าฮอร์นตัวนี้มันเล็กไปนิดสำหรับการจับคู่กับดอก 15" ทำให้การทำ cross over ยากกว่าธรรมดาไปหน่อย


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
น่าสนใจวิธีจูนเสียงมากๆ ครับ รอผมทำโปรเจ๊คลำโพงกีต้าร์ หากมีปัญหาเรื่องจุดตัดและการจูนให้สองลำโพงเข้ากัน จะรบกวนสอบถามครับ d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ตัวก้อบยี่ห้อ P ผมไม่รู้เหมือนกันครับ  ไม่เคยฟัง แต่ราคาเร้าใจ
ฮอร์นกลม ผมซื้อมาจาก Part Express ครับ 


ออฟไลน์ ดาวเหนือ

  • Norts Star
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 9,630
    • เพศ:ชาย
  • จะคิดถึงตัวเราใย. . . . . . . . จะต้องตายทุกคนไป
จับคู่กับ ฮอร์นOSกลม 12"  90 degree coverage เอาไว้แก้ปัญหาห้องกระจกเยอะอย่างผม   

ฮอร์นOSกลม 12".....อันนี้ DIY หรือ มาทั้งตัวครับ
Speakers : AKG K-7XX , NHT Super Zero
Amp : Burson Soloist , Poem
Source : marantz CD-63mkII KI , TEAC R-5


ออฟไลน์ -=(หวาก)=-

  • ****
    • กระทู้: 260
สงสัยอย่างนึงครับ รุ่นนี้มีตัวก๊อปของไทยด้วย ยี่ห้อ P.......
ไม่รู้ว่าเสียงออกมาต่างกันมากรึเปล่า  :) :)

ส่วนเรื่องเนื้องานผมว่าไม่น่าจะเป็นรอง ของแท้ครับ ;)
-=(เสียงที่ดี คือ เสียงที่ชอบ)=-


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
Cross over เกือบเสร้จครับ  ตอนนี้ผมชอบ C1 = 6.8uF


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมแก้ครอสโอเวอร์เล็กน้อย  ตอนนี้ลงตัวเกือบหมด กำลังจูนเสียงอยู่ระหว่าง ค่า C ตัวแรกของ 3rd order high pass ว่าจะเอาเท่าไหร่ดี ระหว่าง 6.8-9uF

dB scale ใช้วัดเทียบความดังลำโพงไม่ได้นะครับ  ผมปรับเอาโดยไม่มีมาตราฐานว่าให้สัญญาณออกที่ กี่โวลท์  เอาแค่ดังพอประมาณโดยไม่คลิบ  และวัดได้โดยที่น้อยส์ไม่เยอะเกินไป  ถ้าให้เดาผมว่ามันไว 97dB ครับ เพราะตอนวัดวูฟเฟอร์ ระหว่างมี กับไม่มีครอสโอเวอร์ มันดังเท่าๆกับ เพราะผมใช้ L ลวดเส้นโต 1.5mm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธันวาคม, 2011, 02:00:38 pm โดย Withaya »


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมเจอปัญหากับปากหนีบที่ค่า R มันมากไปทำให้วัดแล้วเพี้ยน  เลยต้องใช้ต่อด้วยลูกเต๋าแทน  ตอนนี้เริ่มลงตัวแล้วครับ  เบส JBL นี่มันสุดยอดจริงๆ


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
cross over ผมใช้ 18dB/octave ทั้งทุ้ม แหลม แต่ ค่า C1 ผมยังไม่ค่อยลงตัว  ว่าอยู่ระหว่าง 10uF - 15uF นี่แหละ  เดี๋ยวฟังนานๆค่อยสรุปอีกที


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
เริ่มได้เรื่องครับ  หลังจากงงมา  การติดลำโพงวูฟเฟอร์ จากด้านใน  กับติดจากด้านนอก เสียงไม่เหมือนกันแฮะ  ตอนนี้ได้ประมาณนี้ครับ  +-2.5dB ที่ 1/3 smooth


ออฟไลน์ Malako

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,769
    • เพศ:ชาย

ออฟไลน์ Malako

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,769
    • เพศ:ชาย

ลำโพงรุ่นนี้  เห็นเพื่อนนักเล่นท่านหนึ่งแถวพิษณุโลกเคยทำเน็ทเวอร์คใช้เอง  แต่ไปไม่รอด
เลยต้องสั่งของแท้จาก JBL ราคารับได้  และเสียงลงตัวเด๊ะเลยครับ










b3344

  • บุคคลทั่วไป
ดอกรุ่นนี้ผมเคยใช้ครับ อาจจะต้องใช้เสียงกลาง 4-6 นิ้วช่อยอีกดอก เพราะเจ้าตัวมันอมทุ้มมาก แถมเปลี่ยนหมวกมาแล้ว  หมวกเดิมเสียงกลางจะดีกว่า แต่ดันเป็นคาบอร์นแตกง่ายยมาก


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
cross over มันไม่ง่ายอย่างที่คิดแฮะ  ผมลองปรับ ตั้งแต่ first order ไปยัน 3rd order ก็ไม่กลืนกัน  มันจะมี หลุมอยู่ช่วง 1.5K ลึกพอควร  ปวดกบาล  :black_eye

กลับเฟสหรือยังครับพี่หรือผสมหรือยัง เอา jbl 1 order  horn 3 order น่าจะพอได้ครับ
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
cross over มันไม่ง่ายอย่างที่คิดแฮะ  ผมลองปรับ ตั้งแต่ first order ไปยัน 3rd order ก็ไม่กลืนกัน  มันจะมี หลุมอยู่ช่วง 1.5K ลึกพอควร  ปวดกบาล  :black_eye


ออฟไลน์ 100db

  • สมาชิกรุ่น Classic ..
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,571
    • เพศ:ชาย
  • Just fall in love with music....
    • Siam Audiophile
ผมใช้โปรแกรมชื่อ Room EQ Wizard ครับ  เข้าไป download ได้ที่  http://www.hometheatershack.com/forums/

ดูที่ Equalization/calibration ตรง Downloads area ครับ  แต่จะ download ได้ต้องสมัครสมาชิกเขาก่อน ถึงจะ download ได้ครับ เป็นโปรแกรมฟรีที่ผมว่าดีกว่าโปรแกรมเสียเงินบางอันอีก


ขอบคุณครับ  :)


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมใช้โปรแกรมชื่อ Room EQ Wizard ครับ  เข้าไป download ได้ที่  http://www.hometheatershack.com/forums/

ดูที่ Equalization/calibration ตรง Downloads area ครับ  แต่จะ download ได้ต้องสมัครสมาชิกเขาก่อน ถึงจะ download ได้ครับ เป็นโปรแกรมฟรีที่ผมว่าดีกว่าโปรแกรมเสียเงินบางอันอีก


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
ตู้หน้าตาน่าเกลียดเล็กน้อยครับ  งานไม่ค่อยเรียบร้อย  ตัดดอกลำโพงใหญ่กว่าแบบอีกแล้ว  ผมเลยต้องมาทำเพลทใหม่เพื่อใส่ดอก  ไม่เป็นไรครับ  ทำให้ได้เสียงก่อน เสร็จแล้วค่อยทำตู้ดีๆทีหลัง

ตอนผมไปดูตอนที่ยังไม่เสร็จเขาเอาแผงหน้ามาให้วัดผมก็ว่ามันเท่ากับแบบนะครับพี่ สงสัยอีกข้างที่ไม่ได้วัดตัดไม่เท่ากัน 2f 2f 2f
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ 100db

  • สมาชิกรุ่น Classic ..
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,571
    • เพศ:ชาย
  • Just fall in love with music....
    • Siam Audiophile
หน้าตาพอๆกับตู้ Jensen TL ผมเลยครับ  ;D
พี่ Withaya ใช้โปรแกรมอะไรวัดเสียงครับ อยากลองหามาเล่นบ้างครับ ปกติผมใช้แต่ True/Syn RTA :)


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ถ้าเราดูแค่กราฟ 1/3 octave smooth เหมือนโฆษณาเครื่องเสียง เราคงโอเคไปแล้ว  แต่นี่พอดูกราฟที่ unsmooth จะเห็นจุดโด่งที่ 1.58K ที่ต่ำกว่าแค่ 8db  ที่ผมสงสัยว่าเวลาฟังคงได้ยินแน่ๆ ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่ามาจากตู้ที่ยังไม่ได้ damp หรือ เป็นเสียงของดอกลำโพงเอง


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
Frequency response หลังจาก ตัดที่ 1K 3rd order crossover smooth 1/3 octave  เส้นสีแดงคือ ก่อนมี crossover  มันต้องต่อกลับเฟสแฮะ


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
เอากราฟ smooth 1/3 มาโฆษณาหน่อย  สวยเชียว