คิดว่าค่าน้อยๆจะทำให้สัญญาณผ่านความต้านทานมาน้อยสัญญาณรบกวนจากตัวต้านทานเองและจากการเหนี่ยวนำทางอินพุตจะน้อย แต่ต้องไม่ต่ำเกินเอาท์พุทอิมพิแดนซ์ของภาคหน้า ส่วนใหญ่ผมจะเผื่อให้มากกว่า10-20เท่าของเอาท์พุทอิมพิแดนซ์ของภาคหน้า 
เห็นด้วยกับหลักการนี้ครับ
ควรใช้วอลลุ่มที่มีอิมพีแดนซ์ต่ำสุดเท่าที่ภาคหน้าจะขับได้โดยไม่มีปัญหาแต่ต้องไม่สูงเกินกว่าที่จะก่อปัญหาดิสทอร์ชั่นกับภาคอินพุตหลังวอลลุ่มเช่นเดียวกัน
Noise และคุณภาพของ contactในตัววอลลุ่มก็เป็นตัวแปรกับคุณภาพเสียงมากเหมือนกัน ปกติจะมีไวเปอร์ 2 จุดต่อ 1 ch ผมพบว่า เอา Alps Blue Velvet แบบ 4 wafers (สำหรับสัญญาณแบบบาลานซ์) มาใช้แบบสเตอริโอโดยเอาสองwafer มาขนานกัน ได้คุณภาพที่ดีขึ้นมากๆ คงเป็นเพราะไปเบิ้ลคอนแทคต่อจุด ได้เสียงดีขึ้นอย่างชัดเจนเลยครับ ขอแนะนำให้ลองครับ
