หัวข้อ: *** เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบครึ่ง ไม่ควรเล่น iPad, tablet, smart phone, Computer

[ยศ]

ลูกชายคนเล็กผมตอนเล็กๆตอนนั้นเกือบสองควบ กลัวเป็นเหมือนกันจะสองควบแล้วยังไม่พูดเลยกังวลมากตอนนั้น

มีคนแนะนำแบบโบราณให้เอากบมาตบปาก เลยลองเหมือนกันแต่ยังไม่ได้ผลทิ้งระยะมากสักพักเลยลองใหม่..ตอนนี้เถียงไม่หยุด 555

 ตอนนี้อยู่อนุบาล1 เรื่องคอม.ก็มีมาแย่งเล่นแต่จะให้เข้าyoutube ดูพวกกขค.ครับ

[tsainont (FilmJunkie)]

ใช่ครับ เด็กๆ ให้เล่นบ่อยๆ นี่ เล่นไม่ปล่อยจริงๆ

ผมก็ให้ลูกเล่นเป็นเวลา จันทร์-ศุกร์ งดเล่น ipad งดการ์ตูน (เว้นแต่กรณีพิเศษจริงๆ) เล่นได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ก็ห้ามเล่นทั้งวัน ให้ไปทำอย่างอื่นบ้าง เช่น วาดรูป อ่านหนังสือ

ป.ล.ลูกผมมาเริ่มเล่น ipad ก็ซักปีกว่าๆ นี่เอง (ตอนนั้น 5 ขวบกับ 7 ขวบ)

[hongkongface]

เคยเห็นพ่อแม่บางคนก็ให้ลูกเล็กๆ เลนไอแพด ไอโฟนจนติด พอจะเอาออกจากมือ ทีนี้ไม่ได้ละ 

ผมเลยตั้งเป้าว่า ถ้ามีลูกเล็กๆ งดคอมพ์ และมือถือ

เบื่อๆ ก็ให้เต้นกังนัมสไตล์แทน

[Mr.Big]

เรื่องแบบนี้ ผมว่า ฟังหูไว้หู  ระวังไว้ก็เป็นการดี 

และเห็นด้วยกับวิธีการของท่าน golf  น่าจะเป็นทางออกที่ดีครับ

[Eames]

ผมอยากอ่านงานวิจัยที่ว่านั้นจริงๆ ว่าจริงๆเค้าว่าไง เป็นงานวิจัยของที่ไหน ผมเชื่อนะว่าถ้าเป็นจริง ในอเมริกาหรือพวกยุโรปเค้าคงออกคำเตือนออกมาแล้วล่ะ แต่ก็ไม่เห็นมีนะ

[leo2029]

ที่หมอแนะนำไม่ให้เล่น เพราะเด็กวัยนี้ไม่ไดต้องการเรียนรู้อย่างที่ท่านว่า แต่จะเป็นการเรียนรู็้เกี่ยวกับ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทั้งหมด ตา หู จมูก ปาก สัมผัส

[Golf]

ผมให้เล่นมานานแล้วครับ

แต่ให้เล่น ... แบบว่าเล่นด้วยกัน ... ใช้เป็นเครื่องมือในการสอนมากกว่าปล่อยเค้าเล่นคนเดียว

ผมไม่ลงพวกโปรแกรมหรือเกมส์ที่เน้นเพียง แสง สี เสียง เลย ... เลือกเอาที่คิดว่าจะสอนอะไรเค้าเพิ่มได้เท่านั้น

และกำหนดให้เล่นได้เฉพาะเวลาทุ่มนึงขึ้นไป จนถึงสามทุ่ม เท่านั้น

เล่นมาตั้งแต่สองขวบ ตอนนี้สามขวบกว่าแล้ว ... ตอนนี้เค้าเข้าใจได้หลายอย่างมากที่ไม่คิดว่าจะสอนได้ง่ายๆ เช่น ผมให้เล่นเกมส์ "Where's my water?" เป็นเกมส์ที่จัดการเรื่องน้ำให้จรเข้อาบ ... จะมีฉากที่เค้าชอบมากคือฉากที่เกี่ยวกับ ไอน้ำ น้ำแข็ง ไฟ ... ซึ่งเราก็เล่นไปสอนไปได้ว่า น้ำโดนไฟ จะกลายเป็นไอน้ำ ... ไอน้ำโดนน้ำแข็งจะกลายเป็นน้ำ ก็เพราะมีการควบแน่น การระเหย ... น้ำจะเป็นน้ำแข็งที่ 0 องศา และจะเป็นไอน้ำที่ 100 องศา (อันนี้เค้ายังไม่เข้าใจ แต่ก็พูดไปเถิด) ... และสอนให้เชื่อมโยงเข้ากับธรรมชาติ เช่น การเกิดฝนตก ... ตอนนี้ถ้าใครถามลูกชายผมว่า ฝนเอยทำไมจึงตก? เค้าจะตอบว่า "เพราะเมฆที่เป็นไอน้ำมารวมตัวกัน ลอยไปกระทบกับความเย็นในอากาศ จึงเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นฝน" (ตอบไม่ได้เหมือนแบบนี้เป๊ะ แต่เนื้อหาคือแบบนี้)

หรือไม่ก็พวกนิทานที่เป็นพากษ์ภาษาอังกฤษ ตอนนี้เค้าชอบ Mickey Mouse Clubhouse มากๆ เล่นไป ตอบคำถามของ Mickey ไปด้วย ... หรือไม่ก็พวกโปรแกรมวาดรูป ระบายสี ... อย่าง Angry Birds เราก็สอนได้ว่ามีแรงดึงดูด มีนกสีต่างๆ red birds, yellow birds, blue birds, golden banana, golden water melon 

เรื่องพวกนี้สุดท้ายแล้วอยู่ที่ พ่อ แม่ ครับ ... ถ้าคิดจะให้เล่นแค่ปล่อยให้เล่น ไม่ว่าอะไรมันก็จะเป็นแค่ปล่อยให้เล่น ... ถ้าคิดจะใช้สอน จะเล่น iPad มันก็มีประโยชน์ได้ครับ
 

[Mr.Big]

ที่มา : Manager ( เนื้อหาอยู่ท้ายสุด )
----------------------------------------------

คำถามจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่เกิดความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกสาววัย 1 ขวบ 8 เดือน
ว่าจะมีโอกาสเป็นออทิสติกหรือไม่ ซึ่งในกรนี้ คุณหมอสินดี จำเริญนุสิต กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
จากโรงพยาบาลเวชธานีจะมีคำตอบ และคำแนะนำดี ๆ อย่างไร ไปติดตามกันได้เลยครับ
       
คำถาม : ลูกอายุ 1 ขวบ 8 เดือน แต่พูดได้เพียงไม่กี่คำ เช่น หม่ำ ปลา ไม่ยอมเรียกพ่อกับแม่
แต่เวลาเรียกชื่อเค้า เค้ารู้เรื่อง หันมายิ้มโต้ตอบ แล้วเวลาใช้ให้ไปหยิบอะไรรู้เรื่องหมดค่ะ และเวลากินขนมก็รู้ว่าต้องทิ้งที่ไหน
พฤติกรรมแบบนี้มีโอกาสเป็นออทิสติกไหมค่ะ
 
       คุณหมอสินดี : คุณแม่ไม่ได้บอกว่าน้องเป็นเด็กหญิงหรือชายนะค่ะ แต่ตามสถิติแล้ว เด็กผู้ชายมีโอกาสที่จะพูดช้ากว่าเด็กผู้หญิงค่ะ
จากที่แม่เล่าอาการมา น้องมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กพูดช้าแบบที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า "เด็กปากหนัก" เพราะส่วนใหญ่
เด็กวัยนี้น่าจะพูดคำที่มีความหมายได้ประมาณ 10-20 คำ และมักเรียกพ่อหรือแม่ได้
แต่ต้องระวังว่า ที่น้องไม่เรียกอาจเกิดจากการไม่อยากทำ เพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
       
       ดังนั้นส่วนใหญ่เวลาหมอจะดูว่าเด็กมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าจริงหรือไม่นั้น หมอจะดูว่าเขามีความเข้าใจภาษาอย่างไร
เด็กวัยนี้มักเริ่มเข้าใจและทำตามสั่งง่ายๆได้ อย่างที่คุณแม่บอกว่า เวลาเรียกชื่อเขา เขารู้เรื่อง หันมายิ้ม เวลาใช้ให้ไปหยิบอะไรรู้เรื่องหมด
ความสามารถหนึ่งที่คุณแม่อาจลองเล่นกับลูก คือ ลูกสามารถชี้อวัยวะบนใบหน้าได้สัก 2-3 อย่างหรือไม่ เช่น ตา ปาก จมูก เป็นต้น
ถ้าความเข้าใจภาษาของน้องเป็นประมาณนี้ ก็น่าจะเข้าข่าย "เด็กปากหนัก" ค่ะ แต่ถ้าคุณแม่รู้สึกว่า ความเข้าใจภาษา ไม่ดีด้วย
ก็ควรไปปรึกษากุมารแพทย์ก่อนนะคะ
       
       ส่วนคำถามที่ว่ามีโอกาสเป็นเด็กออทิสติกหรือไม่นั้น เบื้องต้น คุณแม่ลองตอบคำถามเหล่านี้
       
       - น้องมองหน้าสบตาดี แบบมีความหมายหรือไม่ ชอบเล่น จ๊ะเอ๋ หรือไม่
       
       - น้องเห็นอะไรแปลกๆ หรืออยากได้อะไร น้องชี้ชวนให้ดู/ชี้ให้พ่อแม่ไปเอาของให้ร่วมกับมองหน้าหรือไม่
       
       - เวลาพ่อแม่หรือคนในบ้านเรียกใครที่เด็กคุ้นเคย เด็กมีมองหาหรือมองตามหรือไม่
       
       เอาแค่ 3 ข้อนี้ก่อนค่ะ ถ้าแม่บอกว่า ได้หมดเลย โอกาสเป็น ออทิสติก น้อยมากๆ ค่ะ
       
       อย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่ใช่ แต่น้องก็มีแนวโน้มพูดช้าอยู่ ซึ่งคุณแม่ต้องกระตุ้นผ่านการเล่น เวลาลูกหรือคนในบ้านกำลังทำอะไร
อาจใช้วิธีพูดพากย์ ชัดๆ เวลาเด็กอยากได้อะไร เราก็ต้องยื้อบ้าง เพื่อสอนให้เด็กพูด ไม่ใช่เดาใจซะหมดจนเด็กไม่ต้องพูด
อย่างที่คนโบราณเรียก อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ น่ะค่ะ

----       

อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ และมีงานวิจัยในต่างประเทศแล้วก็คือ
iPad, tablet, smart phone หรือ computer ทั้งหลาย ไม่ได้มีประโยชน์กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 30 เดือน (2 ขวบครึ่ง)
แม้ว่าเด็กดูเหมือนจะเล่นเป็นและกลับยิ่งทำให้พูดช้า จากที่เด็กไม่เหมือนออทิสติกจะกลายเป็นเหมือนเด็กออทิสติก
เพราะเขาได้สร้างโลกส่วนตัวเรียบร้อยผ่านน้ำมือพ่อแม่ ดังนั้นหมอ ขอ ห้าม ห้าม และห้ามนะคะ
โดยเฉพาะในกรณีของลูกคุณแม่เพราะเขาพูดช้าอยู่แล้ว เขาจะยิ่งชอบที่ไม่ต้องพูดค่ะ