สายสัญญาณรุ่นที่ผมแกะดู มีสาย4เ้สน 2เส้นเดินปกติอีก2เ้สนใช้ l ค่าประมาน0,033 mh.ค่าr31โอมท์ ซี1pf วงจรก้อต้อสายบวกที่เหลือ l r g ลงสายกราวน์เลยครับ สำหรับผมคิดว่าเป็นวงจรที่รักษาอิมพิแดนท์นระดับนึงใ แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่าช่วยได้นิดหน่อย เพราะวงจรนี้จริงๆแล้วต้องออกแบบให้ตรงกับdata ของลำโพงนั้นๆๆ และส่วนใหญ่ที่ผมคิดตาม เสปค ลำโพงส่วนใหญ่มันจะใช้ค่า l / r / c มากกว่านี้เยอะมากกกกกกก
มีเรื่องหูตะกั่ว บอดๆๆของผมกับเพื่อนโม้ให้ฟังครับ วันนึงผม(เพื่อนจะไปซื้อ)ไปลองสายระดับtopหลายยี่ห้อมาก กับระบบ ซีดี ลำโพง แอมท์ ชุดนี้ประมาน3-5แสนบาท ก้อโอนะครับ สายแต่ละยี่ห้อให้ข้อดีที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ระบบว่าจะแมท์หรือเปล่า สุดท้ายก่อนกลับได้เสียบสายยี่ห้อกระเปาะตัวเกือบท้อปคาไว้อยู่ พอดีเพื่อนจะซื้อสายไปขับsubเลยซื้อรุ่นเล็กสุดของยี่ห้อนั้นมา (คิดว่าเนื้อทองแดงเป็นตัวเดียวกันกัยรุ่นใหญ่แต่จำนวนสายน้อยกว่าและไม่มีกระเปาะ) ประมาน4500บาทมั้ง จ่ายเงินเสร็จขอลองเสียบๆ ถอดของเดิมตัวเกือบท้อปออก ใส่สายรุ่นถูกสุดเข้าไป5555 พอนั่งฟังกับเพื่อน2-3คนหูตะกั่วอย่างหนัก ฟังออกน้อยมาก ต่างกันไม่เกิน15% แน่นอน ขนาดเวทีเท่าเดิม ไดดามิคเท่าเดิม สายถูกสดกว่านิดนิง พุ่งกว่านิดนึง(สายใหม่เกาะจากห่อ)เสียงร้องด้อยกว่านิดดดดดดดเดียว นึกในใจว่ากุดีใจมากเลยที่ฟังไม่ออกเท่าไร่ สายราคาต่างกันขนาดนี้แต่เสียงไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย แต่หูผมสายบางยี่ห้อ(ไม่มีกระเปาะ)แต่ละรุ่นต่างตามเงินที่จ่ายเป็นเรื่องเป๊นราวกันเลยครับ
ปล. ขอโทษนะครับที่ผมไม่บอกยี่ห้อสายแต่ละยี่ห้อ เพราะคนขายสายหลายๆๆยี่ห้อก้อรู้จักกันดีเดียวมองหน้ากานไม่ติด5555 คิดว่าเป็นเรื่องโม้ๆๆให้เพื่อนๆกันฟังแล้วกันนะครับ