บทความนี้คัดมาให้อ่าน เพื่อเป็นประโยชน์จากท่านสมาชิก พี่ ๆ และเพื่อน ๆ ครับ
วันที่ พฤหัสบดี เมษายน 2553
การเลือกขาตั้งลำโพง ดร.ชุมพล มุสิกานนท์
เชื่อว่าท่านนักเล่นเครื่องเสียงจำนวนไม่น้อยที่ใช้ลำโพง ประเภท Book shelfหรือลำโพงขนาดเล็ก ซึ่งต่อมาได้ถูกเปลี่ยนไปเรียกว่า Stand mounting (วางขาตั้ง) ลำโพงขนาดเล็กส่วนใหญ่จะผลิตออกมาเป็นประเภทสองทางคือในตู้ลำโพง 1 ข้างจะประกอบไปด้วยดอกลำโพง 2 ตัว ตัวเล็กที่อยู่ด้านบนเรียกว่าทวีตเตอร์ส่วนตัวใหญ่กว่านั้นเรียกว่าวูฟเฟอร์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเสียงในย่านต่ำและสูงผสมกันให้เราฟังเป็นเพลงได้โดยภายใน ตู้ลำโพงจะมีแผงวงจรแพสซีฟครอสโอเวอร์ ทำหน้าที่ตัดแบ่งความถี่ให้เหมาะสมกับความสามารถของดอกลำโพง ตรงนี้เป็นศิลปะของผู้ผลิตโดยแท้จริงว่า ใครจะออกแบบครอสโอเวอร์ได้เก่งกว่ากัน ลำโพงที่ใช้ไดร์เวอร์ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน แต่วงจรครอสโอเวอร์ต่างกันจะให้สุ้มเสียงที่ผิดกันลิบลับ
ลำโพงเล็กหรือ Stand mounting ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้มีท่อระบายเบสอยู่ด้านหลังหรือด้านหน้าแล้วแต่สูตร ใครสูตรมัน ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ได้เสียงเบสที่ไม่น้อยเกินไป เนื่องจากข้อจำกัดด้านขนาดของตัวตู้และไดรเวอร์ ข้อดีของลำโพงขนาดเล็กคือมันสามารถให้อิมเมจที่หลุดลอยออกมาจากตู้ลำโพงได้ ชนิดที่เหมือนมีนักร้องตัวเป็นๆมายืนร้องอยู่ในห้องของคุณ และหากคุณจัดวางมันได้อย่างเหมาะสมก็จะได้สัมผัสกับเวทีเสียงอันมีทั้งความ กว้างและลึกเปรียบประดุจว่าคุณเข้าไปในบรรยากาศของการแสดงดนตรีด้วยจริงๆ ลำโพงขนาดเล็กยังมีข้อได้เปรียบเกี่ยวกับความสดและสปีดของเสียงที่ให้จังหวะ ถูกต้องไม่มีกรุ๊ปดีเลย์เกิดขึ้นเหมือนกับลำโพงที่ใช้วูฟเฟอร์ขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งถ้าเพาเวอร์แอมป์ขับไม่ไหวแล้วยากที่จะได้ยินเสียงที่ดีออกมา
แต่ข้อเสียของลำโพงเล็กที่ได้ยินชัดๆคือ สเกลของชิ้นดนตรีต่างๆจะมีขนาดเล็กตามตัวมันไปด้วยแถมปริมาณของเบสก็อาจจะ ไม่สะใจ ท่านที่ชอบฟังเพลงร็อคหรือใช้ฟังโฮมเทียเตอร์ด้วย และที่ผมกำลังจะหยิบยกมาเขียนถึงในบทความตอนนี้คือลำโพงเล็กนั้นต้องการขา ตั้งที่ดีและเหมาะสมกับบุคลิกของมันด้วย เมื่อ 10 ปีก่อนนั้นขาตั้งลำโพงเล็กยี่ห้อนำเข้ามาจากต่างประเทศคุณภาพปานกลางสนนราคา จะอยู่ที่ 4-5 พันบาทมีแบบให้เลือกทั้งเสาเดี่ยวสามเสา และสี่เสา ส่วนที่ผลิตในประเทศไทยเริ่มขายกันที่หลักร้อยบาทแต่ละรุ่นจะให้เสียงที่แตก ต่างกันออกไป!!! ขาตั้งลำโพงให้เสียงที่ต่างกันได้ด้วยหรือ
คำตอบคือใช่แล้วครับ... ขนาดขาตั้งรุ่นเดียวกันแต่ต่างกันตรงที่ใส่เดือยแหลม (Spike) กับไม่ใส่เสียงยังต่างกันลิบ แล้วนับประสาอะไรกับขาตั้งคนละรุ่นจะให้เสียงที่ต่างกันไม่ได้
แล้วจะเลือกใช้ขาตั้งลำโพงอย่างไรจึงจะได้เสียงที่ดีที่ สุด...? จากประสบการณ์ของผมแนะนำว่าให้ใช้ขาตั้งที่ทางผู้ผลิตทำออกมาเพื่อใช้กับ ลำโพงรุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะไปเลยจะดีที่สุด เพราะได้ผ่านการทดสอบและคำนวณ อย่างถูกต้องมาแล้ว เช่นขาตั้งของลำโพง Proac. JM labs, AAD, B&W, หรือ Sonus Faber ราคาของขาตั้งพวกนี้จะแพงมากเกือบจะเท่ากับตู้ลำโพง ดังนั้นหากคุณคิดว่าไม่คุ้มกับการลงทุนผมมีข้อแนะนำในการเลือกใช้ขาตั้ง ลำโพงเพื่อเป็นพื้นฐานในการพิจารณาและจำกัดตัวเลือกของคุณให้น้อยลง
1. ความสูงของขาตั้งต้องเหมาะสมกับขนาดลำโพง โดยทั่วไปแล้วขาตั้งลำโพงจะมีความสูงระหว่าง 22" - 26" โดยวัดรวมเดือยแหลมแล้ว เมื่อวางลำโพงลงไปบนขาตั้งแล้วตำแหน่งของทวีตเตอร์จะต้องอยู่ในระดับหูของ ผู้ฟังหากสูงกว่าขึ้นไปมากเบสจะบางน้ำหนักเสียงไม่ดี แต่หากต่ำกว่าระดับหูอิมเมจจะต่ำเวทีเสียงจะผิดปกติฟังแล้วอึดอัดพิกล ทั้งนี้ไม่ได้รวมขาตั้งลำโพงด้านหลังในกรณีที่คุณใช้ระบบเสียงมัลติแชนแนล ขาตั้งของลำโพงหลังจะต้องมีความสูงที่วางลำโพงได้เหนือระดับหูขึ้นไปเล็ก น้อยเพื่อสนามเสียงที่ลอยข้ามศีรษะของผู้ฟังได้อย่างเป็นอิสระ
2. วัสดุที่ใช้ทำขาตั้งลำโพงมีผลต่อเสียงอย่างมากขาตั้งไม้มักจะให้เสียงที่ อบอุ่น นิ่มนวล ในขณะที่ขาตั้งเหล็กจะให้ความใสและจังหวะที่เร็วกว่า ส่วนพวกไม้ผสมเหล็กก็ให้เสียงที่ค่อนข้างไปทางใสและเน้นรายละเอียดมากกว่า ไม้ล้วนๆ ส่วนขาตั้งอลูมิเนียมถ้าทำดีๆมีการแดมป์บางจุดเสียงจะน่าฟังมากๆ(ราคาก็แพง มากด้วย)
3. ขาตั้งยิ่งมีจำนวนเสายึดระหว่างเพลทและฐานล่างมากราคาจะยิ่งแพงขึ้น (สามเสาแพงกว่าเสาเดี่ยว และสี่เสาแพงกว่าสามเสา) แต่ยิ่งจำนวนเสามากขึ้นการปรับสมดุลย์ยิ่งต้องเคร่งครัดขึ้นด้วยไม่เช่นนั้น เสียงจะออกมาเละตุ้มเป๊ะมากกว่า ดังนั้นหากคุณเกิดไปเดินบ้านหม้อแล้วเจอขาตั้งราคาไม่กี่ร้อยบาทแถมมีให้ เลือกหลายแบบแนะนำว่าให้เลือกซื้อรุ่นที่มีเสาน้อยๆดีกว่า เพราะของพวกนี้ทำออกมาแบบให้ใช้วางได้เท่านั้นไม่ได้คำนึงถึงเสียงที่ได้สัก เท่าไหร่
4. หากขาตั้งรุ่นใดก็ตามทำมาให้กรอกทรายลงไปได้กรุณาทำเสียเถิดครับ โดยเฉพาะพวกที่ทำจากเหล็กยิ่งจำเป็น เนื่องจากเนื้อโลหะไม่สามารถสลายแรงสั่นสะเทือนได้เหมือนกับไม้ ดังนั้นจึงเกิด Ringing Effect อยู่ในตัวและสะท้อนกลับไปรบกวนตู้ลำโพงทำให้เกิดเสียงอันไม่พึงประสงค์พูด ง่ายๆว่าทำให้เสียงไม่ดีนั่นแหละครับ และสำหรับการกรอกทรายนั้นอย่างเพิ่งกรอกจนเต็มให้ทดลองกรอกลงไป 5/6 ของปริมาณความจุทั้งหมดแล้วฟังเสียงดูก่อนว่าก้องหรือทึบเกินไปหรือไม่ค่อยๆ จูนเสียงจนกระทั่งพอใจ