หัวข้อ: สอบถามท่านที่เคยฟัง NAD 2 รุ่นนี้ครับ 3220PE และ 3240PE ครับ

[5347]

อยากเห็นวงจร MA 400 จริงๆครับน้าแซม ขอชมบ้างได้มั๊ยครับ...

[แซม]

รุ่น ปรี PR-1กับ เพาเวอร์ MA-1 ครับ วงจรน่าจะเหมือน NAD 3020B ส่วน วงจรที่ผมมีคือ MA-400 น่าจะคล้ายๆ NAD 218 THX 

[chanan]

รุ่นไหนครับพี่

[pollock]

หายากและดีขนาดนี้ น่าจะ clone เล่นกันบ้างนะครับ อิอิ

Magnet ครับ รุ่งแรกๆ นั่นคือ NAD 3020 ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ
เหมือนเค้าจะเอามาแยกเป็น Pre, Power น่ะครับ

[chanan]

หายากและดีขนาดนี้ น่าจะ clone เล่นกันบ้างนะครับ อิอิ

[ใหญ่]

เรื่องวงจรข้างต้น คงต้องรอผู้รู้มาตอบอีกที

แต่ช่วงนี้เห็น NAD รุ่นเก่า พวก 3020 และเลขสี่ตัวรุ่นถัดมาก็มีขายออกมาหลายเครื่อง
ราคาคุ้มคุณภาพ พร้อมความเสี่ยงจากแอมป์อายุ 30 ปี มันก็ควรจะอยู่ที่ราว 4-6 พันบาท

ที่ผ่านมาผมก็เห็นราคานั้นมาตลอด แอมป์ถูกปล่อยขายในราคาที่ควรจะเป็น
แต่ตอนนี้ราคาขึ้นมาเป็นหลักหมื่น มันแพงเกินไปรึเปล่า พอมีกระแสมีคนพูดถึง พวกพ่อค้าเล่นขายโก่งราคากันเต็มที่เลย

ราคาหลักหมื่น ซื้อ NAD 320BEE ยังดีซะกว่า ราคาไม่ถึงหมื่นอีกตะหากครับ

ขอบอกเลยใครหาข้อมูลแอมป์ แล้วมาเจอข้อความกระทู้นี้เข้า
บอกเลยครับ ว่า NAD 3020 และพวกเลข 4 หลักรุ่นต่อๆ มา ราคาควรอยู่ราวๆ 4-6 พันเท่านั้น
และราคา 4-6 พันนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพและรุ่นด้วยครับ รุ่นเล็กรุ่นใหญ่
ถ้าราคาแพงกว่านี้หรือขึ้นหลักหมื่น ตัวเลือกดีๆ น่าสนใจมีอีกเยอะครับ
ซื้อตัวอื่นดีกว่าครับ  

แต่เสียงของรุ่นหม่ๆแบบ 320 ไม่ได้ให้คำตอบของความเป็น NAD ครับ  จริงอยู่ 3020 แม้จะแพง แต่ผมมองว่ามันคุ้มค่าที่จะเล่น  

ถ้าชอบความเป็น Nad ของแท้ๆ  โดยเฉพาะภาคปรี...สุดยอดเลยครับ  ฟังเพลงอะไรก็เพราะไปหมด  ตอนนี้ 3020 ก็เป็น NAD รุ่นเดียว ที่ผมยังเก็บอยู่...ตัดใจขายไม่ลงครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการมันสูง..ผลิตใหม่ไม่ได้ ก็คงต้องรับกับสภาวะของแพงเกินจริงกันต่อไป...

[pollock]

ผมคงจะรอ NAD 3225PE ราคายุติธรรมหลุดมาบ้าง 

[แซม]

เมื่อก่อนเดินไปเจอ NAD 3020 วางอยู่ที่พันทิพย์2 ราคาที่ 2500 บาท แต่ตอนนี้ไปเจอในเวป ปล่อยกันที่หมื่นกว่าๆ ทั้ง NAD 3020 หลาย version รวมทั้ง NAD 3225PE ราคาไม่ค่อยจะตกเท่าไร 

[ออดิโอแมน]

รุ่นลายคราม ถ้วยชามสังคโลก ครับ เค้าคงซื้ออดีตครับ

[pollock]

เรื่องวงจรข้างต้น คงต้องรอผู้รู้มาตอบอีกที

แต่ช่วงนี้เห็น NAD รุ่นเก่า พวก 3020 และเลขสี่ตัวรุ่นถัดมาก็มีขายออกมาหลายเครื่อง
ราคาคุ้มคุณภาพ พร้อมความเสี่ยงจากแอมป์อายุ 30 ปี มันก็ควรจะอยู่ที่ราว 4-6 พันบาท

ที่ผ่านมาผมก็เห็นราคานั้นมาตลอด แอมป์ถูกปล่อยขายในราคาที่ควรจะเป็น
แต่ตอนนี้ราคาขึ้นมาเป็นหลักหมื่น มันแพงเกินไปรึเปล่า พอมีกระแสมีคนพูดถึง พวกพ่อค้าเล่นขายโก่งราคากันเต็มที่เลย

ราคาหลักหมื่น ซื้อ NAD 320BEE ยังดีซะกว่า ราคาไม่ถึงหมื่นอีกตะหากครับ

ขอบอกเลยใครหาข้อมูลแอมป์ แล้วมาเจอข้อความกระทู้นี้เข้า
บอกเลยครับ ว่า NAD 3020 และพวกเลข 4 หลักรุ่นต่อๆ มา ราคาควรอยู่ราวๆ 4-6 พันเท่านั้น
และราคา 4-6 พันนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพและรุ่นด้วยครับ รุ่นเล็กรุ่นใหญ่
ถ้าราคาแพงกว่านี้หรือขึ้นหลักหมื่น ตัวเลือกดีๆ น่าสนใจมีอีกเยอะครับ
ซื้อตัวอื่นดีกว่าครับ 

[อ้วน]

วงจรภาคจ่ายไฟของ 3220PE
1 เพื่อนสมาชิกจะช่วยอธิบายการทำงานของวงจรให้ผมเข้าใจได้ใหมครับว่ามันทำงานอย่างไร พยามดูแล้วไม่เข้าใจครับว่ามันจะมีผลต่อการทำงานอย่างไร
2 ภาคขยายใช้ทรานซีสเตอร์ 3055กับ 2955 ผมดูในตาด้าชีสมันทนแรงดันได้ 60โวลท์แต่ในวงจรใช้ไฟสูงถึง 40+40 โวลท์เขาคงคัดพิเศษหรือเปล่า

[chanan]

อ่านกระทู้นี้สนุกจริงๆครับ พี่ ออดิโอแมน เล่าสนุกมากกกก 

[ออดิโอแมน]

ผมซื้อมือสองที่ขอนแก่นครับ

[Karin Preeda]

กรี๊ซซซซ เทปเด็คของ Audioman รุ่นเดียวกับของผมเป๊ะเลย น่าจะซื้อที่เซนทรับวังฯเหมือนกันละมั๊งเนี่ย

[ออดิโอแมน]

ใช้ nad ต้องทำใจอยู่อย่างครับ ในวงการจะทักทันทีว่าใช้เกรดต่ำ ก็คิดซะว่าไม่ได้ซื้อทรานซิสเตอร์ 2n3055 2 ตัว ไม่ได้ซื้อ C ไม่ได้ซื้อ R แต่เสียงที่ได้มันถูกหู รูปร่างก็ถูกตา ไม่ได้ว่าเสียงดีที่สุด แต่เสียงถูกหูกับราคาที่เป็นหนี้ได้
โรเทล เสียงออกบาง เบสไม่ค่อยมี ยุคนั้น ผมเลยเดินหนีมาหา nad มันอยู่ที่เสียงถูกหูจริงๆครับ

[pollock]

ขอขอบคุณ คุณออดิโอแมนมากครับ
พูดถึงเครื่องญี่ปุ่นโฆษณาวัตต์มากมาย ผมเคยใช้เมื่อสมัยหัดเล่นใหม่ๆ
ขับลำโพงไม่ค่อยออกครับ ต้องใช้ลำโพงในค่ายของตนเองจะดีที่สุด หรือจะเล่นลูกผสมก็ต้องหาลองหลายยี่ห้อ หลายรุ่นมากกว่าจะไปกันได้

NAD รุ่นเก่าตัวเล็กกำลังขับน้อย แต่ขับลำโพงออกมาได้ดีกว่าแอมป์ญี่ปุ่นเยอะครับ

วันนี้ได้รับรู้เรื่องดีๆ เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ
 

[zero one]

@คุณ zero one
ลำโพง Linn ขับยากมั้ยครับ?
ไม่ทราบว่าลองกับแอมป์อะไรมาบ้างรึครับ?

ขับง่ายครับ  ผมจับคู่กับ 3225pe ครับ 

[ออดิโอแมน]

3020, 3220 ใช้ pcb เดียวกันครับ ผมเห็นมากับตา ที่ pcb เขียนเอาไว้อยู่ ประหยัด ลด cost ว่ายังงั้น

พอแล้ว เดียวกลับไปอยากได้แอมป์ SS เสียตังอีก ตอนนี้หลอดอย่างเดียวพอครับ

[ออดิโอแมน]

3220PE แสดงว่ารุ่น 3225PE ราคามันแพงเกินผมเอื้อม หรือไม่ก็ออกมาทีหลังครับ

แนวคิดของ NAD ยักษ์เล็กที่ทำวงจร PE = power envelope คือ เพลงทั้งเพลงไม่ได้มีแต่เบส ตูมๆๆๆๆๆ ซึ่งเจ้าเสียงเบส หรือเสียงความถี่ต่ำนี่แหละเป็นตัวกินกระแสไฟครับ เค้าวิเคราะห์มายังงั้น ส่วนเสียงแหลม เสียงความถี่สูงไม่กินกระแสเท่าไหร่ เสียงกลางก็กินกระแสกลางๆ จึงไม่จำเป็นต้องไบอัสกระแสสูง สังเกตหม้อจ่ายไฟนะครับ ใครเห็นก็ร้องยี้กันทั้งนั้น ตัวหม้อมันเล็กครับ ฮีตซิ้งด้วย โดนยี้มาทั้งนั้น แอมป์ยี่ห้ออื่นหม้อไฟและฮีตซิ้งออกใหญ่ เจ้านี่เล็กนิดเดียว แถมใช้ทรานซิสเตอร์โคตรโบราณ 2n3055 (ตอนที่ซื้อผมไม่รู้จักเบอร์ทรานซิสเตอร์เลย ถ้ารู้อาจจะไม่ซื้อก็ได้)

และเสียงเบสจะมาแบบฉับพลัน ไม่ได้มาค้างนาน มาแล้วก็กระชากกระแสมาก แต่ในเวลาสั้นๆ  เค้าว่ากันในระดับมิลลิวินาทีกันทีเดียวครับ  เสียงนักร้องชายไม่อยู่ในย่านกินกระแสครับ

nad ทำยังไง ก็มีวงจรจับสัญญาณความถี่ต่ำ มาเมื่อไหร่ก็จะไปบอกวงจรจ่ายไฟให้จ่ายกระแสเพิ่ม ให้ทันเวลากัน สัญาณความถี่ต่ำหมดก็บอกวงจรจ่ายไฟให้กลับมาจ่ายกระแสเท่าเดิม ตะแกโฆษณาเอิกเริก

ความคิดง่ายครับ ทำได้ด้วย แต่ค่ายอื่นสงสัยว่าการสวิชจ่ายกระแสไปมา ความเพี้ยนได้มาเป็นของแถมแน่ เกทับปลั๊ฟแหลกกันไปมา

สรุปว่าผมซื้อครับ เสียงที่ได้พอดีหนี้ ใจอยากได้ฮาร์แมนกอร์ด้อนมากเลย มันใหญ่และหนัก แต่สมัยนั้นพวกผมที่ชอบเล่นเครื่องเสียงไฮไฟ เล่นได้แค่ เคนวูด ไพโอเนียร์ ลักซ์แมน ยี่ปุ่นครับ และมินิคอมโบ้  ผมเล่น nad ของอังกฤษนี่พี่ๆ น้องๆ ซี๊ดปากเลย แต่วัตต์มันต่ำกว่าของยี่ปุ่นครับ

ลองดูวงจรจ่ายไฟครับ หม้อใบไม่ใหญ่ ฮีตซิ้งกระจิ๋วเดียว 

ฮีตซิ้งก็เป็นตัวบอกนัยยะได้อย่างหนึ่งนะครับ ฮีตซิ้งใหญ่แสดงว่ารองรับความร้อนเยอะ ความร้อนเยอะก็มาจากกระแสไหลผ่านทรานซิสเตอร์กำลังเยอะ ตัวเล็กๆ นี่แสดงว่ากำลังความร้อนสูญเสียไม่เยอะ เสียงมันคงดังอ่อยๆ

ตามตรรกกะของ NAD เบสไม่ได้มาทั้งเพลง มาแว๊ปเดียว ถ้าฉีดกระแสทัน ก็ดังได้เหมือนกัน ความร้อนจึงไม่เกิดขึ้นเยอะจนต้องใช้ฮีตซิ้งใหญ่ๆ
ว่าแล้วแกก็ด่ากลับยี่ห้ออื่น แต่ด่าแบบผู้ดีอังกฤษครับ

[Emmy's Daddy]

ผมยังไม่เคยฟัง NAD กับ AR คู่กันเลยครับ
แต่ประสบการณ์จากที่เคยเล่น NAD ตั้งแต่รุ่นใหม่ๆ ไปจนถึงรุ่นเก่า
ผมปล่อยรุ่นใหม่ออกไปหมดเลย

ยุคแรก ๆ ของ NAD แบบ 3020, 1020+2200 ทำมาคู่กับ AR ครับ (เพราะเป็นลำโพง ดี แต่ขับยาก อิมพิเดนท์ต่ำกว่าปกตื ใน สมัยนั้น) ครับ

เท่าที่ เคยเห็นวงจร ผ่านตา 3220PE และ 3240PE พื้นวงจร ไม่ต่างกัน  แนวเสียงไม่น่าจะต่างกันมาก

[pollock]

@คุณ zero one
ลำโพง Linn ขับยากมั้ยครับ?
ไม่ทราบว่าลองกับแอมป์อะไรมาบ้างรึครับ?

[pollock]

ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับข้อมูลของแอมป์ตัวนี้
ของมีที่มาที่ไป ได้อ่านเรื่องราวเหมือนได้อ่านชีวประวัตินั่นแล ผมชอบมากครับ
อ่านเรื่องราวของแอมป์ และของคุณออดิโอแมน ไปด้วย สนุกจริงๆ ครับ

NAD เป็นรุ่น 3220PE น่ะครับ ผมเคยเจอข้อมูลในกระทู้อื่นๆ มีท่านนึงเคยบอกไว้ว่า
แอมป์ตัวนี้ 20w. แต่ถ้ามีการเปิดเพลงที่ดังหรือมีแรงปะทะค่อนข้างสูง วงจร PE จะผลักดันกำลังขับขึ้นมาเป็น 25w.
แต่ผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจริงตามที่เค้าบอกมั้ย
 

[ออดิโอแมน]

ตอนนี้ฟังคู่นี้อยู่ครับ หลอดล้วนๆ 

[ออดิโอแมน]

ซ้ายมือ เกนโคลน เวอร์ชั่นไทยๆ ครับ   

[ออดิโอแมน]

เทปเดคคู่ชีพ พังไปนานแล้ว

[ออดิโอแมน]

เท่าที่ฟังประวัติมานี่ถูกต้องเลยครับ ผมขายให้สมาชิกในบอร์ดแบ่งปันไปฟังเพราะทำแอมป์หลอดแล้วไม่มีที่เก็บ และจะไม่ฟังแอมป์ทรานซิสเตอร์อีกแล้ว ...เอาไปขายต่อนี่กำไรเท่าตัวเลยนะครับ
ว่าแต่เป็นรุ่น 3220PE ไม่ใช่รุ่น 3225PE หรือครับ หรือผมจำรุ่นผิด ตัวแทนเขาบอกว่ากำลังขับ 25วัตต์ เพิ่มมาอีก 5 วัตต์
PE ที่ต่อท้ายน้า pollock คงรู้ว่าคือวงจรอะไร คนที่ชอบแอมป์นี่จะรู้ไปหมดแหละครับ กะอีกวงจรหนึ่งคือ soft clipping ซึ่งโฆษณามากเลย แต่ผมฟังแล้วไม่ต่างเลย ใช้ไม่ใช้เสียงก็เหมือนเดิม

ผมซื้อมามือแรกเลยครับ ประมาณปี พ.ศ. 2525 เออ นับถึงปี 2557 มันก็ 32 ปี แล้วนะครับ
กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์มาซื้อ ยกเข้าบ้านโดนแม่ด่าเลย  ตอนแรกซื้อ nad 3020e (e หรือ i ผมจำไม่ได้)  มือหนึ่ง แต่เสียงบางไปไม่มีพลัง ฟังอยู่สามเดือนเลยเอาไปเทิร์นเป็นรุ่นนี้บวกเงินเพิ่มอีก  ได้มาแล้วพอใจครับเบสมาเยอะเลย เสียงไม่บางเหมือนรุ่นน้อง ผมบรรยายคุณภาพเสียงไม่เป็น เท่าที่คนอื่นเคยมาฟังเขาก็ยอมรับว่า แจ่ม ส่วนใหญ่เค้าฟังวิทยุกับมินิคอมโบ้ครับ อิอิ แบบฟังไปด้วยซักผ้า ไปด้วยทำนองนั้น  แบบนี้เขาไม่นิยมเล่นกัน เกินความจำเป็นว่างั้น

ตอนนั้นผมมีลำโพงสองคู่ ก็ฟังเทียบกันครับ ว่าระหว่าง AR TSW210 กับลำโพงมือสองไม่มียี่ห้อ เสียงจะต่างกันไหม สายลำโพงมีคู่เดียวซื้อจากบ้านทวาทศินแหละครับ สายใหญ่ยัดเข้าขั้วต่อยาก ก็ต้องปลดสายแล้วต่อใหม่ ทำไปทำมาสายลำโพงแตะกัน แอมป์ควันขึ้นเลยครับ ยกไปให้ตัวแทนที่ขอนแก่น บอกส่งซ่อมทำสายลำโพงช็อตกัน เค้ารับแล้วส่งต่อไปที่บ้านทวาทศิน ตัวแทนแห่งประเทศไทย เค้าส่งเครื่องใหม่มาให้บอกว่าอยู่ในระหว่างรับประกัน เออดีแฮะ ได้เครื่องใหม่มา แต่ตัวแท่นแห่งประเทสไทยบ่นอุบเลย บ่นไปทั้งประเทศไทยเลย ว่าซื้อแล้วใช้เครื่องไม่เป็น ผมก็ยอมรับเค้าอยู่นครับ ถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายนะครับที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่

ลองเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาต่อฟังนะครับ หัวเข็มแบบ MM แล้วจะทึ่งกับเจ้าตัวเล็ก ราคาหมื่นต้นๆ 12,500 บาทมั้ง ราคาเมื่อ 32 ปีที่แล้ว ก๊วยเตี๋ยวชามละสิบบาท เส้นเยอะกว่าถ้วยละห้าสิบบาทสมัยนี้ เงินเดือนผมรู้สึกจะสองพันสองร้อยบาท

น็อตที่หายไปนั้นผมมานั่งคิดว่าทำไมถึงหาย น่าจะเป็นที่น็อตคลายตัว เนื่องจากมันนานมากแล้ว ยกไปฟังในวงเหล้า มันเลยหล่น ซึ่งไม่รู้ว่าหล่นหายไปแต่เมื่อไหร่ ผมยังฉุนไม่หายเลย ยี่ห้อนี้ไม่ดีนี่หว่า แม้แต่น็อตยังขันไม่อยู่

ที่เอาไปซ่อมนั้นฟังอยู่ดีๆ เงียบ ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน เปิดฟังอีกก็ฟังได้ ประมาณเกือบชั่วโมงก็เงียบ เป็นอย่างนี้เดือนหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่ได้ทำแอมป์หลอด เริ่มอยากทำแอมป์ มีเงินเลยยกไปร้านซ่อม บอกร้านซ่อมว่าถ้าพังมากไม่ต้องซ่อมตอนนั้นอยากได้เครื่องใหม่ เล็งๆไว้ก็ audiolab 2000 ชอบที่ตัวบาง กับเคมบริจออดิโอ ชอบที่ความสวย เห็นแต่รูปในเน็ต ผมแซวร้านซ่อมว่าซ่อมเป็นรื้อเครื่องประกอบนอก ยังไงจะหาวงจรจากเน็ตมาให้ แกบอกว่ายี่ห้อแน็ต แอมป์นักศึกษา วงจรเดียวกันกับ NPE ณัฐพงษ์  วันต่อมาผมไปเอาเครื่องจะเอากลับไม่ซ่อมจะซื้อเครื่องใหม่สองยี่ห้อที่บอก แกรีบซ่อมใหญ่เลยกลัวไม่ได้เงินค่าซ่อม (ประมาณปี พ.ศ.2552 ตอนนี้เครื่องเล่นเทปหมดไปแล้วครับ ที่เหลืออยู่ก็วิทยุเทปติดรถยนต์ กับโทรทัศน์รุ่นเก่า ที่ซ่อมได้เงิน เครื่องเล่นซีดี วีซีดีเข้ามาแทนเครื่องเล่นเทป ส่วนวิทยุ กับทีวีรุ่นใหม่มันเป็นไอซี แอมป์รถก็ใช้ไอซีไม่ใช้ทรานซิสเตอร์แยกเป็นตัวๆ  ร้านซ่อมจ๋อยเลยครับ รายได้ไม่พอยาใส้ ช่างซ่อมหายไปทีละคน ที่เหลืออยู่มีห้องแถวของตัวเอง ห้องเล็กๆ แบ่งครึ่งให้เมียขายเสื้อผ้าแฟชั่น ถึงอยู่ได้ ) ซักพักหัวเราะก๊าก รู้แล้ว ทรานซิสเตอร์กำลังไม่พัง กระแสไหลซ้ายขวาไม่เท่ากัน วงจรป้องกันเลยตัด  ค่าซ่อม 180 บาท
ผมเลยจ๋อยยกเครื่องเก่ากลับมาฟังต่อ

[zero one]

เป็นความชอบส่วนมากกว่าครับผม  LINN ของแพงครับ

[pollock]

ลำโพงของ Linn หรือครับ?
ไม่เคยฟังลำโพงของค่ายนี้เลย

นึกถึงตอนแรกๆ ที่เล่น NAD C372 กับ NHT Super One
NAD ขับไม่ออกคับ เสียงราบเรียบไร้ไดนามิกส์ ใช้ได้ไม่นานก็ปล่อยออกไป

เคยหาชุดเล็กมาเล่นหลายครั้ง NAD C320BEE คุ๋กับ Coda7 ก็ไม่โดนใจ

เจ้า Super One มาขับออกก็ TS Audio KA 30 t แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
จนได้ขยับมาเป็น Audio Research VT60 Clone นั้นแล ได้เสียงที่มาเต็มๆ
แต่พอขยับขึ้นอีกเป็น Gamut D200 Clone ก็ได้เสียงที่ดีขึ้นไปอีก เจ้าลำโพงตัวนี้ไปได้ไกลดีมาก แต่ก็คงสุดได้เท่านี้
ตอนนี้ Gamut D200 ให้คนรู้จักนำไปจับคู่กับ Dynau Contour 1.1 ไปแล้ว เสียงทะลุกำแพงไปไกลครับ

ตอนนี้ชุดเล็กผมก็เลยเป็นเจ้า 3220PE คู่กับ Whatmough M10 ครับ
เสียงที่ได้รับดีเกินคาดในระดับราคานี้ครับ ฟังเพลงเพราะมาก
แต่ก็ยังคาใจว่าเสียงเบสน่าจะลงได้ลึกกว่านี้อีก อาจจะเพราะลำโพงตู้ปิด
เลยว่าจะขยับแอมป์ที่มีกำลังสูงขึ้นดูน่ะครับ

[zero one]

nad  ต้องจับคู่กับ  linn ครับ 

[pollock]

ผมยังไม่เคยฟัง NAD กับ AR คู่กันเลยครับ
แต่ประสบการณ์จากที่เคยเล่น NAD ตั้งแต่รุ่นใหม่ๆ ไปจนถึงรุ่นเก่า
ผมปล่อยรุ่นใหม่ออกไปหมดเลย

[ออดิโอแมน]

เคยใช้ nad 3225pe กับลำโพง ar tsw210 ชุดคู่บุญ ใช้มายี่สิบปี แต่ขายไปแล้ว 2500 บาท สองปีที่ผ่านมา เพราะเคยซ่อม ตอนนี้เหลือแต่ลำโพง เพราะทำแอมป์หลอด
เสียงดีในระดับประถมครับเพราะเป็นแิมป์ราคาเหมาะกับคนงบน้อย ผมไม่เคยฟังเทียบกับรุ่นใหญ่ ฟังชุดนี้ชุดเดียว

[ohm]

ลองหาดูรูปภายในจากเว็บเมืองนอก เป็นเหมือนกันครับ แปลว่าเดิมๆ

NAD ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยจะคัดอะไรกับภาค output มาแค่ไหนแต่ไรอยู่แล้วครับ เรื่อง lot code ปนๆกัน ผมก็ว่าเดิมๆเหมือนกัน 

[pollock]

ลองหาดูรูปภายในจากเว็บเมืองนอก เป็นเหมือนกันครับ แปลว่าเดิมๆ

[pollock]

เมื่อสักครู่นี้ ลองเปิดกล่องทำความสะอาดเจ้า NAD 3220PE ของผม
เพิ่งจะสังเกตุ UFO ทั้ง 4 ลำ ไม่ใช่เลขเดียวกันครับ เหมือนกันอย่างละคู่
ไม่แน่ใจว่าเป็นการผ่านการซ่อมมาก่อนที่จะถึงมือผมรึเปล่านะครับ



แล้วไม่ทราบว่า C 2 ตัว ที่อยู่ข้างๆ UFO นี้ สามารถอัพเกรดเป็นของค่ายไหนได้บ้าง



ขอบคุณครับ

[pollock]

ได้สเป็กมาจากเว็บเมืองนอกดังนี้ครับ

NAD 3240PE
Specifications
Power output: 40 watts per channel into 8Ω (stereo)
Frequency response: 20Hz to 20kHz
Total harmonic distortion: 0.03%
Damping factor: 50
Input sensitivity: 3.5mV (MM), 160mV (line)
Signal to noise ratio: 76dB (MM), 102dB (line)
Dimensions: 420 x 108 x 380mm
Weight: 6.7kg
Year: 1989
Price: GBP £199 (1989)

NAD 3225PE
Specifications
Power output: 40 watts per channel into 8Ω (stereo)
Frequency response: 20Hz to 20kHz
Total harmonic distortion: 0.03%
Damping factor: 40
Input sensitivity: 2.5mV (MM), 160mV (line)
Signal to noise ratio: 75dB (MM), 101dB (line)
Dimensions: 420 x 80 x 250mm
Weight: 5kg
Year: 1991
Price: GBP £169 (1991)

แหล่งที่มา hifiengine

สรุป 2 รุ่นนี้มีพลังวัฏเท่ากัน!!
ชักจะน่าสนใจ NAD 3225PE ขึ้นมาแล้ว เคยเจอราคาปล่อยราวๆ 4 พันหน่อยๆ คงจะรอดูเผื่อใครปล่อยจะลองหามาฟังดูสักหน่อย

[zero one]

ทั้ง 2 รุ่น แนวเสียงเหมือนกันครับ  แค่กำลังวัตต์ต่างกัน   ส่วนตัวประทับใจใน 3225 pe มากที่สุด  แต่เจ้าของไม่ยอมขายให้ กล่อมอย่างไรก็ไม่ขาย      

ขอสอบถามได้มั้ยครับ ทำไมถึงประทับใจรุ่นนี้มากที่สุดน่ะครับ?
หรือว่ารุ่นนี้ให้ไดนามิกส์เสียงได้ดีที่สุด?

3225pe  ครับ  ดีทุกด้านครับ

[pollock]

ทั้ง 2 รุ่น แนวเสียงเหมือนกันครับ  แค่กำลังวัตต์ต่างกัน   ส่วนตัวประทับใจใน 3225 pe มากที่สุด  แต่เจ้าของไม่ยอมขายให้ กล่อมอย่างไรก็ไม่ขาย      

ขอสอบถามได้มั้ยครับ ทำไมถึงประทับใจรุ่นนี้มากที่สุดน่ะครับ?
หรือว่ารุ่นนี้ให้ไดนามิกส์เสียงได้ดีที่สุด?

[zero one]

ทั้ง 2 รุ่น แนวเสียงเหมือนกันครับ  แค่กำลังวัตต์ต่างกัน   ส่วนตัวประทับใจใน 3225 pe มากที่สุด  แต่เจ้าของไม่ยอมขายให้ กล่อมอย่างไรก็ไม่ขาย      

[chanan]

รุ่นนี้ไม่เคยฟังครับ แต่เคยฟัง 315 bee กับ 355 bee แบบตั้งใจฟังที่ conice paragon ขับลำโพงตั้งพื้น psb image ผมว่า ตัวใหญ่ดีกว่าทุกย่านครับ

[pollock]

เนื่องจากปัจจุบันชุดเล็กที่บ้านต่างจังหวัดผมใช้ NAD 3220PE อยู่ครับ
ูซึ่งได้เสียงที่เป็นที่พอใจมากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ฟังเพลงได้เพราะมาก แต่ยังรู้สึกว่ายังไม่สุดสักเท่าไหร่นัก

ผมได้คิดจะขยับขึ้นมาเป็น NAD 3240PE ซึ่งตามที่ทางผู้ผลิตระบุไว้ก็คือ มีกำลังขับเพิ่มขึ้นจากรุ่น 3220PE เท่านึง (20w. เป็น 40w.)

แต่เผอิญเจอข้อมูลจากเว็บหนึ่งว่า NAD 3225PE นั้น สามารถขับเจ้า Dynaudio Contour 1.1 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงจะไม่เต็มที่ก็ตาม
แต่เจ้า NAD 3240PE กลับไม่สามารถขับ Dynaudio Contour 1.1 ออกมาได้ดี (เมื่อเทียบกับ NAD 3225PE)

เลยเกิดข้อสงสัย อยากสอบถามท่านที่เคยใช้ NAD 2 รุ่นนี้ ว่าจากที่เคยใช้จริงนั้น แอมป์ให้กำลังและความไพเราะของเสียงต่างกันหรือไม่ อย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณครับ