หัวข้อ: จะทำคลังเพลงเอง ขอความเห็นหน่อยครับ

[หมูซอย9]

น้าMalakoครับ
รบกวนแนะนำลำโพงมอนิเตอร์ให้ด้วยครับเอาแบบเริ่มต้นกับระดับกลาง
ขอบคุณครับ

ผมเริ่มต้นกับ Yamaha NS 10M original  ผลิตปี 1978  ดังในห้องสตูดิโอเพราะยามาฮ่าแจกฟรีมั๊ง
ทุกวันนี้ซื้อขาย ห้าพันห้าถึงแปดพันแล้วแต่โชค

สูงขึ้นมาอีกรุ่น  Yamaha NS 10M Pro ออกปี 1987 ปรับปรุงทวีทเตอร์ให้รับวัตต์เพิ่มขึ้นและเบสลงลึกถึง 60 Hz Z(รุ่นแรกได้แค่ 85 Hz) หนึ่งหมื่นบวกลบ

รุ่นท๊อปคือ Yamaha NS 10 Studio  ถือว่าที่สุดแล้ว ใช้ดอกเหมือนรุ่น Pro ครับ ออกแบบให้วางแนวนอน ราคาสองหมื่นต้นๆ นานทีมีคนขาย ยังมีคนแย่งกันซื้อครับ

ที่ว่ามา ถือว่าเป็นลำโพงมอนิเตอร์ที่ ทั้งรัก และชัง แล้วแต่จะคิด
ห้องอัดเมืองไทยมีเกือบทุกห้อง ใช้งานบ้างไม่ใช้บ้าง 
บางอัลบั้มฟังแล้วอยากโยนทิ้งแต่พอทำออกมาขายดันทลึ่งเสียงดีถูกใจผู้คน เป็นซะงั้น

ทั้ง 3 รุ่น ซื้อมาลองได้ เบื่ออยากขาย รับรองมีเท่าทุน ถึงกำไร ปล่อยออกไวพอๆ กับทองคำ

ผมจำไม่ได้ว่าเลิกผลิตปีไหน เหตุน่าจะมาจากไม้ทำตู้หมดนะครับ

มาทำ NS 1000 ฟังในบ้าน ตู้ใช้ไม้สนที่ยามาฮ่าปลูกเอง และเป็นไม้ที่ทำเปียโนยามาฮ่าโดยเฉพาะ เสียงยอดเยี่ยมหาซื้อยาก สวยๆ สี่หมื่นขึ้น
และ NS 1000 M ใช้ในสตูดิโอ แต่คนทั้งโลกเอามาฟังเพลง โมต่ออีกหน่อยแสนจะสุขใจครับ

 

[Malako]

มอนิเตอร์ระดับกลาง ผมฟังน้อยมากครับ และไม่เคยซื้อมาใช้ เนื่องจากเลิกเล่นงานทำเพลง
มีแต่รุ่นสูงๆ ที่ถูกใจมากๆ ก็แพงเกิน  ยิ่งภายหลังมาทราบว่าใช้ LM3886 เป็นตัวขับเลยเฉยๆ

ลำโพงใช้งานในสตูดิโอ ฟังเพลงไม่ไพเราะนะครับ แต่มันจับผิดเสียงดนตรี เสียงร้องได้ไว ไวขนาดว่าเป็นคนภาคไหนร้องเพลงเลยครับ

[Malako]

น้าMalakoครับ
รบกวนแนะนำลำโพงมอนิเตอร์ให้ด้วยครับเอาแบบเริ่มต้นกับระดับกลาง
ขอบคุณครับ

ผมเริ่มต้นกับ Yamaha NS 10M original  ผลิตปี 1978  ดังในห้องสตูดิโอเพราะยามาฮ่าแจกฟรีมั๊ง
ทุกวันนี้ซื้อขาย ห้าพันห้าถึงแปดพันแล้วแต่โชค

สูงขึ้นมาอีกรุ่น  Yamaha NS 10M Pro ออกปี 1987 ปรับปรุงทวีทเตอร์ให้รับวัตต์เพิ่มขึ้นและเบสลงลึกถึง 60 Hz Z(รุ่นแรกได้แค่ 85 Hz) หนึ่งหมื่นบวกลบ

รุ่นท๊อปคือ Yamaha NS 10 Studio  ถือว่าที่สุดแล้ว ใช้ดอกเหมือนรุ่น Pro ครับ ออกแบบให้วางแนวนอน ราคาสองหมื่นต้นๆ นานทีมีคนขาย ยังมีคนแย่งกันซื้อครับ

ที่ว่ามา ถือว่าเป็นลำโพงมอนิเตอร์ที่ ทั้งรัก และชัง แล้วแต่จะคิด
ห้องอัดเมืองไทยมีเกือบทุกห้อง ใช้งานบ้างไม่ใช้บ้าง 
บางอัลบั้มฟังแล้วอยากโยนทิ้งแต่พอทำออกมาขายดันทลึ่งเสียงดีถูกใจผู้คน เป็นซะงั้น

ทั้ง 3 รุ่น ซื้อมาลองได้ เบื่ออยากขาย รับรองมีเท่าทุน ถึงกำไร ปล่อยออกไวพอๆ กับทองคำ

ผมจำไม่ได้ว่าเลิกผลิตปีไหน เหตุน่าจะมาจากไม้ทำตู้หมดนะครับ

มาทำ NS 1000 ฟังในบ้าน ตู้ใช้ไม้สนที่ยามาฮ่าปลูกเอง และเป็นไม้ที่ทำเปียโนยามาฮ่าโดยเฉพาะ เสียงยอดเยี่ยมหาซื้อยาก สวยๆ สี่หมื่นขึ้น
และ NS 1000 M ใช้ในสตูดิโอ แต่คนทั้งโลกเอามาฟังเพลง โมต่ออีกหน่อยแสนจะสุขใจครับ

[Almond]

  1. ต้องโหลดไฟล์เพลงมาก่อน แล้วใช้โปรแกรมเช็คว่าเป็น lossless แท้ หรือ mp3 convert เป็น lossless
    เช่นโปรแกรม Lossless Audio Checker  หรือโปรแกรมอื่นๆหาโดยกูเกิ้ลดูครับ

 2. คุณภาพของเครื่องไรท์แผ่นในคอมฯ ย่อมมีผลกับคุณภาพไฟล์ที่ไรท์ออกมานะครับ บางทีก็เล่นกับคอมฯตัวบันทึกได้
  แต่นำไปเล่นกับเครื่องอื่นไม่ได้ ทั้งที่ขั้นตอนการไรท์ถูกต้อง  แล้วก็คุณภาพของแผ่นที่นำมาไรท์ก็มีผลด้วย

 3. การบันทึกลงเทป น่าจะได้คุณภาพที่ด้อยที่สุด เพราะข้อจำกัดของตัวเทปเอง ที่ตอบสนองความถี่ และไดนามิค
 ที่ด้อยกว่าสื่อชนิดอื่นครับ

[หมูซอย9]

น้าMalakoครับ
รบกวนแนะนำลำโพงมอนิเตอร์ให้ด้วยครับเอาแบบเริ่มต้นกับระดับกลาง
ขอบคุณครับ

[Malako]

        ขอเข้ามาศึกษาด้วยคนครับ 

 ผมก็อยู่ในวงการนักฟังเพลงมายี่สิบกว่าปีแล้ว หลังๆมาเน้น DIY ลำโพง- ปรี-แอมป์

     แหล่งกำเหนิดเสียง

     1. CD micro mega stage 1

     2. Turntable เข็ม otofon 5e + tube phono

     3. IPAD1, IPAD3, IPAD air to Bluetooth Wireless Stereo Receiver
 (http://www.ebay.com/itm/NFC-3-5mm-AUX-Audio-Music-Speaker-USB-Bluetooth-Wireless-Stereo-Receiver-Adapter-/121910743609?hash=item1c62725239:g:qigAAOSwUuFW1bTD)

      4. (future) APPLE mini + DAC  กำลังศึกษา (อ่านกระทู้ใน HTG2 ทำไมมันยุ่งเหยิงขนาดน้าน ทำให้ผมสับสน)

     ชอบ micro mega stage 1 แต่ต้องหาซื้อเพลงใหม่เรื่อยๆ

     ชอบมาก IPAD เล่น YOUTUBE ผ่าน Bluetooth Wireless Stereo Receiver เพลงเยอะ คุณภาพเสียงรับได้ ยิ่งเพลงที่เขาบันทึกแบบ audiophile 24bit มีแบบเต็มอัลบั้ม สะดวก เสียงไม่ได้ด้อยกว่า CD เลยครับ

     ชอบน้อย turntable หยุมหยิม เรื่องมาก แผ่นแพง 555

CD micro mega stage 1  เครื่องแรกที่คุณอ๊อดนำเข้าเป็นรายแรก ผมฟังคนแรกเลยครับ
ตอนนั้นใช้ห้องฟังในร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ข้างเดอะมอลล์ราม 1
ฟังกับลำโพง Focus Audio FS 68 SE  ฟังเสร็จก็ยก Focus กลับบ้าน ฟังฟรีเกือบปีค่อยจ่ายสะตัง
นับเป็นความโชคดีของผมอย่างหนึ่ง คือฟังฟรีเยอะมาก ชอบค่อยจ่ายตัง ไม่ชอบก็ยกคืนซึ่งเป็นส่วนใหญ่ครับ

ฟังกับไอแพด ลองหาลำโพงมอนิเตอร์ที่ใช้ในสตูดิโอมาลองบ้างซิครับ
เสียงมันเที่ยงตรง ซื่อตรงเหมือนท่านเปาบุ้นจิ้นเลย

[soonsak]

        ขอเข้ามาศึกษาด้วยคนครับ 

 ผมก็อยู่ในวงการนักฟังเพลงมายี่สิบกว่าปีแล้ว หลังๆมาเน้น DIY ลำโพง- ปรี-แอมป์

     แหล่งกำเหนิดเสียง

     1. CD micro mega stage 1

     2. Turntable เข็ม otofon 5e + tube phono

     3. IPAD1, IPAD3, IPAD air to Bluetooth Wireless Stereo Receiver
 (http://www.ebay.com/itm/NFC-3-5mm-AUX-Audio-Music-Speaker-USB-Bluetooth-Wireless-Stereo-Receiver-Adapter-/121910743609?hash=item1c62725239:g:qigAAOSwUuFW1bTD)

      4. (future) APPLE mini + DAC  กำลังศึกษา (อ่านกระทู้ใน HTG2 ทำไมมันยุ่งเหยิงขนาดน้าน ทำให้ผมสับสน)

     ชอบ micro mega stage 1 แต่ต้องหาซื้อเพลงใหม่เรื่อยๆ

     ชอบมาก IPAD เล่น YOUTUBE ผ่าน Bluetooth Wireless Stereo Receiver เพลงเยอะ คุณภาพเสียงรับได้ ยิ่งเพลงที่เขาบันทึกแบบ audiophile 24bit มีแบบเต็มอัลบั้ม สะดวก เสียงไม่ได้ด้อยกว่า CD เลยครับ

     ชอบน้อย turntable หยุมหยิม เรื่องมาก แผ่นแพง 555

[Malako]

ข้อที่หนึ่ง สอง และสาม ในชีวิตการฟังเพลงกว่า 50 ปี ผมลองมาหมดแล้ว

รับรู้เรื่องของเสียงธรรมชาติ อาทิเสียงคนพูดคุย เสียงนกร้อง แมวร้อง ฯลฯ
เสียงเพลงเสียงดนตรี ทั้งจากฟังการเล่นสด และจากระบบเสียงในบ้านตัวเอง บ้านกลุ่มเพื่อนนักเล่น
ห้องฟังของร้านขายเกือบทุกร้านดังๆ

จากเครื่องเล่นแผ่นครั่งโมโน เปลี่ยนหัวเข็มเอง เทปรีลม้วนใหญ่กระทั้ง ถึงยุคปัจจุบัน

ที่สุดทุกวันนี้ผมฟังเพลงจากยูทูบ
ผ่าน Mac Mini  ปรีหมีน้อย Mr.Q เวอร์ชั่นแรก Amp Camp Amp ลำโพง 8 นิ้วฟูลเร้นจ์ข้างละดอก
หูรับรู้ถึงความต่างของเสียงเพลงที่ได้ยิน แต่ผมมองข้ามจุดนั้นไป
ฟังเอาอรรถรสของเสียงเพลงเสียงดนตรี ฟังลงลึกด้วยใจเสน่หา และมีความสุขครับ

มาคิดเข้าข้างตัวเองแบบง่ายๆ
น่าจะมาจากประการณ์ที่เล่นและลองอย่างจริงจังพอสมควรมาตลอดชีวิต
อาจเบื่อจนหายอยาก ...

อยากให้ลองเล่นทุกรูปแบบที่เราต้องการและมีเครื่องให้ลองเลยครับ
ลองแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นกัน
เช่นถ้าอยากไร๊ท์แผ่นฟังเอง ก็ต้องหา CDRW ยี้ห้อ Plextor ที่สามารถยิงเลเซอร์ลงลึกถึง 6 ไม่รู้เรียกนาโนหรือเปล่า
เครื่องทั่วไปได้แค่ 4 นาโน ใช้แผ่น Audio โดยเฉพาะ เปรียบเทียบกับแผ่นทั่วไป
จากนั้นเก็บไว้อย่างดี 6 เดือน มาเปิดฟัง จะได้รู้เห็นดำเห็นแดงว่า ผลที่ออกมาเป็นอย่างไร

หรือถ้าจะริปแผ่นเป็นไฟล์ทุกฟอร์แมทฟังเอง ใช้ทุกโปรแกรมที่มีให้ใช้งาน แล้วลองฟังดู
หาโปรแกรมบางตัวที่ใช้ในสตูดิโอทำเพลง มาเปิดไฟล์ที่ริปมาฟังบ้าง
จะรับรู้ถึงความแตกต่างไม่มากก็น้อยทุกครั้งครับ
ในความต่างนั้น ถูกใจมากขึ้น ไม่ถูกใจอย่างไร หูเรารับรู้ได้ทันทีครับ สนุกมากถึงมากที่สุดครับ

[Nun1962]

ตัดฟังก์ชั่นเกี่ยวกับภาพออกได้เลยครับเพราะต้องการใช้สำหรับ ฟังเพลง เท่านั้น ภาพยนต์ไม่ดู แล้วก็สัญญาณขาออกขอเป็นแค่แจ็ค rca ขาว-แดงก็พอครับ แอมป์ที่ใช้ล้วนมีอายุแล้วทั้งนั้น ต้องการฟังเฉพาะแค่ 2ch stereo เท่านั้นครับ

[wit66]

ไม่ลองใช้พวก HD Player ละครับ อย่าง Cengrand ก็ปล่อย 24/96 ออกมาจากช่อง Coax ได้ ถ้าเน้นฟังเพลงผมว่าคุ้มนะครับดูหนังได้อีกด้วย ถ้ายังพอหาของได้นะครับถ้าของไม่มีลองดูยี่ห้ออื่นที่เขาระบุว่าปล่อย 24/96 ได้ หรือถ้าไม่สน 24บิทก็ไม่มีปัญหาครับส่วนเรื่องเสียงบางเสียงไม่ดีมาจูนเสียงที่ Dac เอาก็ได้ครับส่วนตัวผมทำอย่างนี้ครับ HD ผมจูนภาพ ส่วนเสียงมาแต่งที่ DAC เอาครับ

[Nun1962]

ปัจจุบันผมฟังเพลงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ iphobe5 ทีแรกต่อผ่านสาย mini to rca พบว่าเสียงไม่ถูกใจ ออกแต่กลาง บาง ไม่มีน้ำหนัก เลยไปซื้อ dock station teac ds-h01 เสียงดีขึ้นประมาณ 30-40% มีมิติมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ยังคงกลางเยอะ+บางอยู่ ยังไงก็ไม่ชอบ เลยคิดว่าน่าจะมาจากเพราะใช้โทรศัพท์เป็นต้นกำเนิดเสียง มันไม่ถูกประเภท (โทรศัพท์มันทำไว้โทรคุยกัน เสียงกลางมันเลยเด่นกว่าด้านอื่นมั้ง)

ก็เลยมามองแหล่งกำเนิดเสียงที่ถูกประเภทนั่นคือจากเครื่องเล่นนั่นเอง ผมคิดว่าจะทำเทป/ซีดีไว้ฟังโดยจะใช้การไรท์(กรณีแผ่นซีดี)หรืออัด(กรณีเทป)จากไฟล์ที่อยู่ในคอม (lossless/flac) มีคำถามดังนี้

1. เริ่มแรกจากไฟล์ที่จะทำเลย ถ้าผมโหลดมาจากเว็บโหลดบิทมา เป็นไฟล์ lossless เสียงที่ได้จะเหมือนกับแผ่นที่วางขายจริงๆไหมครับ ? ผมมีความจำได้ลางๆว่าเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นพึ่งหัดโหลดไฟล์บิท ก็ลองโหลดมาดู ปรากฏว่า อัลบั้มเดียวกัน เป็นแบบ flac/lossless เหมือนกัน แต่คนละแหล่งที่มา(คนปล่อย) ผมพบว่าเสียงมันไม่เหมือนกันน่ะครับ (อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไรเพราะนานมาแล้ว) คำถามคือแล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าไฟล์ไหนเสียงดีที่สุด เหมือนต้นฉบับที่สุด มันมีวิธีดูไหมครับ

2. ต่อจากได้ไฟล์มาแล้วก็เป็นการโอนลงในแหล่งเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการเล่นในลำดับต่อไป โดยปกติแล้วาี่นิยมทำกันก็จะไรท์ลงแผ่นซีดีกันใช่ไหมครับ แต่ทีนี้ผมมีอีกตัวเลือกหนึ่งคือ โดยส่วนต้ว ผมชอบและคุ้นชินกับเสียงอนาล็อคจากเทปคาสเซ็ทเป็นการส่วนต้ว เลยคิดว่าถ้าหากผมจะเลือกใช้การเก็บข้อมูลลงในเทปคาสเซ็ทแทนจะเป็นไงบ้างครับ ? ส่วนต้วที่บ้านผมมีเครื่องเล่นเทปอยู่ถึง 2-3 เครื่อง ทั้งระบบ 2 หัวเทปและ 3 หัวเทป แต่ซีดีตอนนี้ของดีๆย้งไม่มีเลย แหะๆ ที่ใช้อยู่เป็นเครื่องซีดี/ดีวีดี sony/pioneer 2-3000 บาท (ต้วแพงๆเก็บขึ้นหิ้งไปหมดแล้วครับ มันไม่อ่านแผ่นไรท์) ผมไม่ทราบว่าการไรท์แผ่นจะมีผลเก่่ยวข้องกับคุณภาพของเครื่องซีดีรอมของคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่ครับ ?

3. ถ้าหากเลือกเป็นการอัดแบบลงเทปแล้วควรจะใช้เครื่องระบบ 2 หัวเทป หรือ 3 หัวเทปดีครับ ? ที่จร งคำตอบของคำถามนี้ไม่น่ายากเลยเพราะเครื่อง 3 หัวเทปมันเป็นรุ่นที่สูงกว่าและแพงกว่าอยู่แล้ว แต่ผมก็มาคิดดูว่าระบบ 2 หัวเทป หัวอัดกับหัวอ่านมันอยู่บนห้วเดียวกัน ทีนี้ถ้าหากเราอัดแล้วเอามาอ่านในเครื่องเดียวกัน ตำแหน่งบนเส้นเทปมันจะได้ตรง 100% (เหมือนปรับมุม azimuth ได้ตรงที่สุด) ประสิทธิภาพมันอาจจะดีกว่าหรือเปล่าครับ ?

ขอบคุณครับ