หัวข้อ: ซ๋อม FISHER 250

[ampai vorapong]

ถ้าอยากรู้ค่า กระแส ไอเดิ้ลเคอร์เร็น ก็วัด โวล์ทที่ตกคร่อม R ที่ต่อที่ขา Emitter Tr out put ค่า 0.47 โอห์ม ตัวบนหรือล่างก็ได้  อ่านได้ค่าเท่าไหร่ ก็ใช้กฎของโอห์ม I = E/R ก็จะได้ค่ากระแสไอเดิ้ลเคอร์เร็นส์ หรือถ้าจะทำอีกอย่างหนึ่ง ก็ ตั้งมิเตอร์ Range กระแส เอาขั้วบวก(สายสีแดง) ต่อเข้าไปที่ไฟ VCC+ที่จ่ายให้กับวงจร ไฟ +35V นั้นแหละ (ต้องถอดสายไฟ VCC + ที่ต่อเข้า Print board ออกก่อน พูดง่ายคือ เอามิเตอร์ต่อ อนุกรม ระหว่าง ไฟ VCC+กับ ขั้วไฟที่จ่ายให้ Print board )  เอาสายมิเตอร์ ขั้วลบ (สายสีดำ) ต่อเข้าที่แทนตรงขั้วไฟ VCC + ที่ Print  งงไหมครับ ถ้างงก็ ให้ทำตามขั้นตอนแรก ก็พอ เพราะขั้นตอนที่สอง ถ้าทำไม่ดีพอ อาจทำให้เครืองพังได้ เพราะพลาดนิดเดียวเป็นเรื่องเลย. ขั้นตอนที่สองนี้ถ้าทำได้ก็เท่ากับวัดค่า กระแสไอเดิ้ลได้โดยตรง อ้อ! อย่าลืมต้อง Short in put ลง ground ด้วย (in put ตรง ที่สัญญาณเสียงจ่ายเข้าเครืองขยาย ของภาคขยายเสียง ที่ทำแบบนี้ ก็เพราะไม่ต้องการให้เครื่องขยายเสียงทำงานในช่วงที่ขณะวัดกระแส ไอเดิ้ล เพื่อต้องการเช็คการทำงานของภาคขยายเสียงว่า ทำงานใน ช่วง Class ไหน เท่ากับทำให้เรารู้ว่า ในสภาวะเครื่องสงบนั้น มีค่ากระแสไหลผ่าน  Tr out put นั้นตรงกับที่ทฤษฏีว่าไว้หรือไม่ อีกอย่างเท่ากับว่า ขั้นตอนเกิด Crossover Distortion นั้น ผ่านขั้นตอน การปรับ ไอเดิ้ลเคอร์เร็น ในช่วงที่เครื่องขยายอยู่ในสภาวะสงบ) แล้วลองปรับทริมพอท( R เกือกม้าที่ เห็นบน print) ถ้าวัดค่ากระแสได้ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ต้องปรับ อย่าลืมมาร์คตำแหน่งที่เดิม ก่อนปรับไว้ด้วยปากกาเมจิค เพื่อให้รู้ว่าตำแหน่งเดิมก่อนปรับอยู่ตรงไหน ลองทำดูก็ได้เพื่อเป็นความรู้ ว่าเครื่อง Fisher model นี้ ทำงานใน Class ไหน A หรือ AB หรือ B.

[ampai vorapong]

ถ้าตรวจเช็คแล้ว ไม่ปรากฎว่ามี TR ตัวไหนเสียหรือ SHORT อย่าเพิ่งต่อ Power Tr เปิดไฟเข้าเครื่องวัดรอที่จุดออกลำโพง ถ้าไม่ปรากฎมี voltage ออกมา ไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบ หรือถ้ามี ต้องไม่เกิน 0.1v ( ถ้ามากกว่านั้นต้องหาจุดเสียต่ออีก จนกว่า volt ตรงนี้ ได้ 0v จริงๆ) ถ้าเป็น 0v ตามนี้ค่อยต่อ Power tr เข้าไป (ตรวจเช็ค แล้วระวัง ตัว power tr ตัวถัง short กับแท่นเครื่องด้วย) จะต่อ ที่ละข้างก็ได้ ซ้าย หรือขวาก่อน เอามิเตอร์วัดรอจุดต่อออกลำโพง  เปิดสวิทไฟจ่ายไฟเข้าเครื่อง ตั้ง Range meter ไปไว้ที่ ค่า volt สูงๆก่อน แล่วค่อยๆบิดสวิทมาที่ค่า Range volt ต่ำ เมื่อดูแล้วเห็นว่าค่าที่วัดได้ไม่เกินค่าของตัวมัน บิดสวิทไปจนเลือกค่า Range volt ต่ำสุด ตรงค่า 0.1V  ถ้าไม่มีไฟเกินกว่าที่บอกไว้ก็น่าจะใช้เครื่องได้แล้ว ไม่รู้ว่ามี R เกือกม้าที่ปรับ ไอเดิ้ลเคอเร็นส์ (Idle current)  ได้หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ ถ้ามีวงจรก็คงจะดี เพราะ R เกือกม้าตัวนี้ใช้ปรับค่ากระแส ในสภาวะเครื่องสงบ (หมายถึงไม่มีการต่อสัญญาณเสียงเพื่อให้เครื่องขยายทำงาน)ใช้ปรับ class การขยาย ของเครื่อง ของคุณน่าจะเป็นการขยายใน class AB  จะมีกระแสไหลผ่าน power tr คู่นี้ประมาณ 35-45 mA . ถ้าได้ตามนี้เครืองคุณกลับมาใช้งานได้แล้ว ตามปกติ แต่ไม่ทราบค่า ไอเดิ้ลเคอเร็นส์ ครับ.

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

ขอบคุณครับ ที่ชี้แนะ ผมจะดำเนินการ เช็คแหวนรอง tr ติดตั้งให้ถูกต้องต่อไปครับ

[ถม]

การติดตั้ง tr  ถูกวิธีหรือเปล่าผมมองไม่เห็นแหวนพลาสติกที่น้อต ติดตั้ง tr แล้วให้วัดตัว tr  กับซิงค์ ว่าช้อตถึงกันไหม ควรวัดทุกครั้งที่ติดตั้งเสร็จ
อย่าไว้ใจ ดูแล้ว tr ภาคไดรจะไปด้วย ต้องแก้ก่อน

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ครับ
ผมได้ทำการตรวจสอบ เพาว์เวอร์แอมป์ fisher 250 ตามที เพื่อนสมาชิกแนะนำครับ ผลออกมา คือ
1. ฟิวส์ที่หลังเครื่องไม่ขาดครับ
2. ไฟสอบเครื่องช๊อต ไฟหลอดไส้ 100 w ไฟไม่ติด เครื่องปกติไม่ช๊อต
3. วัดไฟจุดที่ไฟเข้า เพาว์เวอร์แอมป์ + - 35 v (ปกติ)
4. วัดไฟ + ที่ tr pnp ได้ + 35 v
5. วัดไฟ -  ที่ tr npn ได้ - 35 v
6. ส่วน tr ลักษณะคล้ายมงกุฏได้ทำการถอดวัด ปรากฎไม่มี ขาด หรือ ช๊อต ทั้ง 4 ตัว ครับ
7. ตรวจสอบ คาปาซิเตอร์ ที่เปลี่ยนทั้งหมด มี 1 ตัว โยกไม่แน่น
8. จุดต่อลำโพง ไม่มีกระแสออก  ทั้งด้าน R และ L
    หมายเหตุ วงจรอุปกรณ์ทั้งหมดขณะจ่ายไฟเข้า อุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนมาก
ส่วนทรานต์ซิสเตอร์ ชนิด pnp และ npn ยังไม่กล้าประกอบ กลัวจะระเบิดเหมือนทุกครั้ง
    จึงขอนำเสนอมาให้เพื่อนสมาชิกทราบและพิจาราณา พร้อมแนบภาพถ่ายมาด้วยครับ

[pisut99]

   คิดถึงแอมป์ตุลา สมัยเรียน ปวช

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

ขอขอบคุณมากครับ ที่แนะนำซึ่งในตำราไม่มี

[ampai vorapong]

ในกรณีของคุณ ถ้าเปลี่ยน TR power อย่าเพิ่งต่อ TR power เอามิเตอร์ (ถ้าเป็น Digital meter ก็จะดี) วัดรอที่จุด Out put ขั้วที่ต่อออกลำโพง แล้วเปิดสวิทไฟเข้าเคร่ื่อง ต้องวัดรอนะครับ ไม่ใช่เปิดเครื่องแล้วไปวัด กรณีที่เป็นระบบ OCL ถ้ามีไฟออกที่จุด out put (วัดไม่ได้ 0V) ให้อ่านมิเตอร์ดูว่าไฟที่รั่วออกมา เป็น บวก หรือ ลบ ถ้าเป็นบวกให้ไปเช็ค TR.ที่ต่อกับไฟ บวก ทุกตัว ว่าตัวไหน laek หรือ short .ในทางกลับกันถ้าวัดได้เป็น ลบ เช็ค TR.ด้านที่ต่อไฟ ลบ เจอตัวไหนแล้วเปลี่ยน ขอย้ำระบบที่คุณกำลังซ่อม ผมว่าน่าจะเป็น OCL ใช้ไฟบวกลบและ กราวน์ มันต่อกันเป็นแบบ Direct coupling All complementary mach pair (MJE2955, MJE 3055) ตลอดทั้งวงจร อาจะโชคร้ายเปลี่ยน TR ทั้งวงจรก็ได้(อาจจะนะ) ในกรณีของคุณต้องแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้ต่อ condenser กลับขั้ว ตอนคุณเปลี่ยนตัว C. ถ้าจะวิเคราะห์ได้ในขณะนี้ วงจรควบคุม Bias ที่รักษาจุดสมดุลย์ ไม่สามารถควบคุมกระแสที่ผ่านตัว TR power และ ภาค Driver ได้ TR power ก็เลยแตกระเบิดออกมา เพราะมีกระแสมากมายมหาศาลผ่านตัวมัน เกินอัตราที่มันทนได้ ต้องเช็ค TR.ในวงจรทุกตัวครับ.ตอนถอดอุปกรณ์ให้ระวังเรื่องแผ่น Print และความร้อนของห้วแร้งที่ใช้ ถ้าคุณไม่ระวัง แผ่น Print วงจร  ปัญหามันจะมีตามมาอีก นั้นคือ แผ่น Print ร่อน หลุด ขาด จะกลายเป็นคุณไม่ใช่ซ่อมเครื่อง แต่ กลายเป็นซ้อมเคร่ื่องแทน ต้องระวังนะให้ใช้หัวแร้งวัตต์ต่ำๆ ไม่เกิน 25-30 วัตต์ ใช้ที่ดูดตะกั่วดีๆหน่อย ระวังอย่าให้แผ่น Print วงจร มันบอบช้ำมากนะ ในตอนบัดกรี เอาว่าเท่านี้ก่อน หาตัวเสียให้เจอก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ครับ ในที่นี้ก็มีผู้รู้หลายคน หลายความคิด ที่มีประสบการณ์ในการซ่อมและบริการเครื่องอยู่หลายคน เขากำลังอ่านอยู่และอาจจะมาแนะนำคุณอีกต่อจากผม .

[Mr.Q]

เพื่อความปลอดภัย ควรหาหลอดไฟแบบไส้สัก 100w. มาอนุกรมกับไฟบ้านก่อนครับ แล้วเช็คว่าใส่ c ผิดหรือเปล่า ต่อสายไฟสายไฟผิดหรือเปล่า ตอนเปิดไฟเข้าเครื่องเอามิเตอร์วัดที่่ขั้วลำโพงไว้ ถ้าเป็น  ocl จะต้องได้ 0 v. ถ้าเป็น otl วัดจาก c  coupling ก่อนออกไปที่ลำโพง จะต้องได้ 1/2 ของแหล่งจ่ายครับ อ้อ ตอนเช็คยังไม่ต้องใส่ Power Transistor ครับ ถ้าไม่ใส่ TR. แล้ววัดไฟไม่ได้ตามที่บอก แสดงว่า ยังมีตัวเสียอีก ลองถอดมาวัดให้หมดครับ มีไม่กี่ตัวเอง

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

ขอขอบคุณครับ
    1. ผมจะลองเปลี่ยน tr ชนิด npn และ pnp ทั้งหมด พร้อมเช็ค ขา b c e ทุกตัว ก่อนติดตั้ง ที่แผ่นระบายความร้อน และหลังจากติดตั้งแล้ว
เสร็จ
    2. ส่วน tr drive ผมจะทำการเช็คตามที่แนะนำ ครับ

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

ขอขอบคุณครับ ที่สละเวลาตอบไปให้ผมทราบ
1.tr ติดเครื่อง(ของเดิม) พลาสติกกลมๆไม่มีครับ มีแต่แผ่น mica
2.ตอน power ลง ground  tr แตกทีละตัว จนครบทั้ง 4 ตัว
และผมได้เปลี่ยน tr เบอร์เดิมทั้งหมด รวมทั้ง แผ่นรอง mica พร้อมอุปกรณ์ น๊อตยึด ครบชุด
ปรากฏ tr ขาด ทั้ง 4 ตัว
3.ปิด เปิด ทุกครั้ง fuse ไม่ขาด ตั้งแต่ได้เครื่องนี้มา
4.เบอร์ tr (เดิมมากับเครื่อง)
      ชนิด pnp  เบอร์  mje 29155
      ชนิด npn  เบอร์  c 3055 t

[ampai vorapong]

ok ครับ เห็นเบอร์ power tr.แล้ว ถ้าไม่มีวงจรก็คงซ่อมค่อนข้างยากครับ ลองเช็คตัว tr.drive ก่อนว่า short ไหม  มันเป็นวงจร OCL ใช้ ไฟ VCC+ และ VCC- 35V  ตอนคุณประกอบ TR ต้วใหม่ วัดดูขา TR ตรงตามตำแหน่งไหม เพราะบางที TR รุ่นใหม่ขา B C E จะค่อนข้างต่างกัน พอประกอบเครืองมันก็จะเป็นปัญหาให้ปวดหัวได้

[ampai vorapong]

Power transistor เบอร์อะไรครับ ตอนรื้อครั้งแรกมองเห็นแหวนพลาสติกกลมๆ เล็กๆที่ร้อยกับน็อตยึดติดแท่นเครื่องมีไหม ถ้ามีมันไปไหน แลัวมีแผ่น mica ใสๆ รองตัว tr. กับ แท่น มีไหม  ดูจากที่ Power trans  แตกระเบิดออกมา พวก Trans driver ที่ต่อพ่วง น่าจะ พังเสียหายหมดแล้ว ถ้ายังโชคดี TR.drive ไม่พัง งานเข้าละ ตอนคุณรื้อเครื่อง แล้วเปลี่ยนอุปกรณ์ แล้วประกอบเครื่องอีกครั้ง ปรากฏว่า power tr. short กับ Ground หมายถึง ตัวถัง Power tr. ลง ground มันก็เลยระเบิดแตกออกมาแบบนั้น เป็นทั้งสี่ตัวไหม ถอดออกมาวัดครับ รวมถึง tr drive ที่ใส่ heat sink เป็นชั้นๆคล้ายมงกุฏนั้นครับ ต้องเช็ค TR. ที่ว่ามาทั้งหมดก่อน อ้อ! Fuse เครื่องขาดไหม ดูด้วย ถ้าไม่ขาดมันก็น่าแปลกประหลาดครับ.เท่ากับคุณเอา Vcc ที่จ่ายให้วงจร ลง Ground เต็มๆเลย ทำตามที่ว่านี้ก่อนครับ!

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

ครับ ขอขอบคุณ

[Lovetube]

เป็นกำลังใจให้ครับ (งานเครื่องเก่าๆลักษณะนี้ผมไม่ถนัดครับ)

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

แนบภาพมาให้ชมครับ

[ชูศักดิ์ ชัยสวัสดิ์]

เรียนเพื่อนสมาชิกทราบ
ผมไม่มีความรู้เรื่องอิเล๊คทรอนิค หลังจากผมเกษียณงาน จึงเริ่มหัดเรียนอิเล๊คทรอนิค และได้หัดซ่อม แอมป์ FISHER 250
โดยซื้อจากรถ ซาเล้ง และได้ลองเปิด ปรากฏเครื่องไม่เสีย ฟังได้อย่างดี แต่ในภาคขยายมีอุปกรณ์ บวม
และได้เปลี่ยน
 1 คาปาซิเตอร์ (ตามภาพ) ทดลองฟังเสียงดีกว่าเดิม ครั้งแรก
 2 ครั้งที่สอง เปลี่ยน รีซิสเตอร์ เซรามิค จำนวน 4 ตัว (ตามภาพ) และได้ประกอบเข้าเครื่อง และแผงวงจรแตะ กราวต์ โดยที่ผมไม่ทราบ
และหาสาเหตุไม่ได้ เวลาเปิด รีซิสเตอร์ร้อนมาก และทำให้ ทรานย์ซิสเตอร์ขยายช๊อตครบทั้ง 4 ตัว และ รีซิสเตอร์ชนิดคาร์บอนต์
ใหม้เกือบทุกตัว (และหาสาเหตุภายหลังจากอุปกรณ์ช๊อต ได้ทำการบุฉนวนไม่ให้แผ่นวงจรแตะกราวต์)
 3 ได้ทำการ เปลี่ยนอุปกณ์ใหม่หมดทุกตัวที่ชำรุด และเปิดเครื่อง ปรากฏทรานซิสเตอร์ช๊อต จึงปิดเครื่อง
 อยากเรียนถามเพื่อนสมาชิกครับ ช่วยแนะวิธีที่จะแก้ไขให้ผมจักพระคุณอย่างยิ่ง