คุณลักษณะ/คุณสมบัติหลายประการของสัญญาณขนาดเล็ก-small signal properties
ต่อไปเราจะเข้าไปดูคุณลักษณะ/คุณสมบัติของสัญญาณขนาดเล็กของภาค diff. stage อย่างใกล้ชิด
ประการแรกเราจะพิจารณาดูการตอบสนองของสัญญาณ differential
ประการที่สองเราจะพิจารณาดูสัญญาณอินพุทที่มีโหมดร่วม-common mode differential input signal
ตามรูปที่ 9 ได้แสดงแผนผังวงจรของภาคที่เราต้องการพิจารณา

รูปที่ 9 ภาค diff. พร้อมด้วย emitter degeneration
ภายใต้สมมุติฐานว่าทรานซิสเตอร์และตัวต้านทานในภาพเท่ากัน จะได้ว่า ทั้ง tranconductance และ อัตราการขยายกระแส-current gain ก็เท่ากันด้วยสำหรับทรานซิสเตอร์ทั้งหลายในภาพ
สัญญาณอินพุทของ diff.- differential input signal
เมื่อ ig = ib1 = -ib2 จะได้ว่าแรงดันอินพุทของ diff.- differential input signal เมื่อ beta>> 1 (เบต้ามีค่ามากกว่า 1 มากๆ) จะได้ว่า
Vd = 2ig(rbe+betaRe) สมการที่ 8
ที่แรงดันคอลเลกเตอร์ทั้งสอง Vc1 และ Vc2 จะมีค่า
Vc1 = -beta igRc สมการที่ 9a
Vc2 = beta igRc สมการที่ 9b
สังเกตว่าสัญญาณทั้งสองนี้ มีเฟสตรงกันข้ามกันหรือกลับเฟสกัน ดังนั้น ก็เท่ากับว่า ภาค diff. นี้ อาจจะมองว่าได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ถ้าให้ ณ ตำแหน่งจุด A อยู่ในตำแหน่งเทียบกับกราวน์เสมือน-vertual ground จะได้ว่าสัญญาณเอ้าพุท diff.
Vod = Vc2-Vc1 = 2beta igRc สมการที่ 10
differential gain (ถูกกำหนดโดยสมดาร 1) จะกลายเป็น
Ad = Vod/Vd = beta Rc/(rbe+beta Re) สมการที่ 11
ถ้าสัญญาณเอ้าพุทเป็น single end (คือหมุนได้ครบ 360 องศา) เช่น Vc2 จะได้ว่าเกนมีค่าเท่ากับ
Asd = Vc2/Vd = beta Rc/2(re+beta Re) สมการที่ 12
ตราบเท่าที่เราได้คาดหวังไว้ เราจะได้ครึ่งหนึ่งของเกนของ Ad ความต้านทานขาเข้าทางไฟสลับ-diff. input resistance เมื่อมองจากตัวจ่ายต้นกำเนิด-generator จะถูกกำหนดให้มีค่า
Rid = Vd/ig = 2(rbe+beta Re) สมการที่ 13
สัญญาณอินพุทโหมดร่วม - common mode input signal
เมื่อมองจาก common mode generator จะเห็นว่าขาเบสของทั้งสองเชื่อมต่อกันแบบขนาน ดังนั้น generator current-กระแสของตัวจ่ายต้นกำเนิด จะเป็นผลบวกของกระแสเบสทั้งสอง ig = ib1+ib2 เมื่อสมมุติให้ทรานซิสเตอร์ทั้งสองเท่ากัน common mode input voltage (เมื่อเบต้ามีค่ามากกว่า 1 มากๆ) จะถูกกำหนดให้มีค่า
Vcm = ib(rbe+beta Re)+ 2ib beta Ro สมการที่ 14
แรงดันที่คอลเลกเตอร์ทั้งสอง Vc1 และ Vc2 จะมีค่า
Vc1 = Vc2 = -beta ig Rc สมการที่ 15
สังเกตุว่าสัญญาณทั้งสองนี้มีเฟสเดียวกัน ดังที่ได้เห็นแล้วว่า ภาค diff. นี้อาจจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่ากัน แต่ ณ จุดนี้ ที่เราได้ติดตามดูสัญญาณกันมา สัญญาณ diff. output อาจจะเป็นดังนี้
Vod = Vc2 - Vc1 = 0 สมการที่ 16
สำหรับ diff. amp. ในอุดมคติ สมการที่จะได้ดังต่อไปนี้จะยังคงใช้ได้ (ถูกกำหนดโดยสมการที่ 2.1)
Acm = Vc2/Vcm = -beta Rc/2(rbe+beta Re+ 2beta Ro) สมการที่ 2.18
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ differential gain จะเห็นว่า common mode gain มีค่าน้อยกว่า differential gain ซึ่ง สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติของ differential amplifier ที่ต้องการ ในกรณีเดียวกันกับสมการที่ 2.18 ได้แสดงให้เห็นนั้น ถ้าให้ Ro มีค่ามากๆ Asm จะมีค่าน้อยมากๆ ในทางที่เป็นจริง กรณีนี้หมายความว่า Vcm จะถูกกดลงอย่างมากๆ โดยการใช้ current generator แทน Ro (ดังเช่นที่ได้แสดงในรูปที่8) มันเป็นไปได้ที่จะบรรลุตามความต้องการ
Ad และ Acm ทั้งคู่นี้ เดี๋ยวนี้ เราก็ได้แสดงให้รู้จักวงจรแล้ว common mode reject tion ratio ของภาคนี้ถูกคำนวณค่าได้ CMMR สำหรับ differential output ถูกหาได้โดย
CMMR = 20 log |Ad/Acm| จากสมการที่ 2.3
แทนค่า Asd และ Ascm ลงไปจะได้
CMMR = 20 log [(re+beta Re+2beta Ro)/(rbe+beta Re) ] m สมการที่ 20
ถ้าต้องการให้ค่า CMMR มีค่าสูงๆ ค่า Ro จะต้องมีค่ามากๆ สิ่งนี้ ดังที่ได้พิจารณาไว้แล้ว สามารถทำให้เป็นไปได้โดย การเปลี่ยน Ro ให้เป็น cuurent generetor - ตัวจ่ายกระแส นอกจากนี้แบ้วยังมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งได้ถูกทำให้บรรลุแล้ว กล่าวคือ จุด quiescent point และ CMMR บรรลุความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับสิ่งอื่นใด
นอกจากนี้ยังมีอีกด้านหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการพิจารณา คือ คุณสมบัติของตัวขยายสัญญาณที่พบได้บ่อยครั้ง คือ ผลลัพท์ที่ได้จากการใช้แหล่งจ่ายไฟ ตัวขยายสัญญาณอาจจะถูกออกแบบให้เป็นตัวจ่ายไฟไม่อิสระ หรือมันถูกออกแบบมาให้กดสัญญาณรบกวนที่ไม่ต้องการที่ถูกผลิตขึ้นที่ภาคจ่ายไฟ ที่เรียกว่า power supply rejection ratio - อัตราส่วนที่ภาคจ่ายไฟจะขจัดสัญญาณรบกวนออกไป จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าตัวต่ายไฟได้ถูกออกแบบมาให้ดีอย่างไรในการที่จะป้องกันสัญญาณรนกวนจากภาคจ่ายไฟ ไปตลอดจนถึง amplifier output - ภาคสุดท้ายของวงจรขยายสัญญาณ
current generator - ตัวจ่ายกระแส โดยการเปลี่ยน Ro เป็นที่ปรารถนาอย่างมากตราบเท่าที่มีความต้องการให้ตัวขยายสัญญาณมีค่า PSRR สูงมากๆ มากกว่าที่จะใช้ตัวต้านทานตัวเดียว