หัวข้อ: ปีใหม่ 2562 ปรี 12AT7WA 2 stage

[ออดิโอแมน]

กลับไปค้นสาย shield มานั่งปอกสาย shield ที่ถักหุ้มรอบนอก  ใครมีวิธีคลี่สายที่ถักออกจากกันมั่งครับ
ผมค่อยๆ แกะ สายมันหักออกมาเหมือนขนแมวเลย

[ออดิโอแมน]

ขอแก้ข่าวหน่อยครับ  แจ๊ค RCA มีแหวนพลาสติกรองทั้งสองข้างครับ  อันนี้ก็ผ่านไป

[ออดิโอแมน]

ลองลดเกนลงหน่อยมั้ยครับป๋า ลงเหลือ 80%

จริงครับ แต่มันลดเกนลงทำยากมากครับ มีวิธีไหมครับ ที่จะลดเกน

ก็สอดคล้องกับการสังเกตุเห็นเลยครับ VR วอลุ่มไม่ดีหรือยังไงครับ บิดนิดเดียวเสียงมาเต็ม  หรือต้องใช้ alps ตัวละแพงๆ  หรือว่าขาอินพุทแตะกับขาเอ้าพุทของวอลุ่ม ต้องเช็ค

ผมว่าตอนนี้มันดีแล้วในตำแหน่ง min. ไม่มีเสียงออกมาเลย แต่บิดวอลุ่มหน่อยเดียวเสียงมาเต็ม เสียงรบกวนมันก็ออกมาด้วย  ถ้าฟังในย่านปกติมันจะไม่ค่อยเป็นปัญหา

ไฟล์ในโฟลเดอร์ dowload ก็หายไปหมดแล้ว แย่จัง  ต้องโหลอดข้อมูลจากกระทู้ลงคอมอีกที 

เรื่องที่จะต้องทำต่อไป
1. ลดเกน ซึ่ง ยาก
2. เช็ค VR วอลุ่ม
3. หาแหวนพลาสติกมารองแจ๊ค RCA ไม่ให้กราวน์ของ RCA ลงแท่น
4. เดินสายไฟจุดใส้หลอดใหม่ให้ชิดแท่น ตอนนี้มันลอยเพราะพ่วงไปกับสายไฟเมนที่ไปสวิชปิดเปิดเครื่อง

ซึ่งข้อ 2 และ 4 ทำได้ง่ายกว่า แล้วค่อยทำข้อ 3

[Jakrintr]

ลองลดเกนลงหน่อยมั้ยครับป๋า ลงเหลือ 80%

[ออดิโอแมน]

ถ้าจุดใส้หลอดไฟตรง จะเงียบกว่าไหมครับ

ลองถอดสายสัญญาณจากเครื่องเล่นซ๊ดีออก  เสียงเบาลงพอสมควรครับ  แสดงว่ากราวน์ไม่แมตช์กันหรือเปล่า

สังเกตเจออีกอย่างแจ๊ค RCA มันมีพลาสติกรองอันเดียว นั่นคืออีกด้านหนึ่งมันแตะแท่น ทั้ง 6 ตัวเลย คือกราวน์ของ RCA 6 ตัว ลงแท่นไปแล้ว ไม่ทราบว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่า

[ออดิโอแมน]

สลับสายลำโพงซ้ายกลับคืน

ต่อ C 0.22uF เชื่อมระหว่างกราวน์ไฟสูงกับกราวน์จุดใส้หลอด  โอ บร๊ะเจ้า เงียบลงเยอะเลยครับ   

ติดตรงที่ว่าวอลุ่มหน่อยเดียวเสียงดัง ประมาณว่า ตำแหน่ง min. ประมาณ 7.00 น.  บิดมาที่ 8 - 8.30 น. เสียงจะดังพอๆ กับแอมป์ปกติที่ 11 - 12 น.  เกนของวงจร 38 ไม่น่าจะมีผลขนาดนี้ ถ้าเกน 60-80 ถึงน่าจะมีผลมากกว่า

สรุป
1. เสียงฮัม หายไปแล้ว เหลืออยู่ประมาณ 1-3% จากของเดิมที่ดังลั่นเลย ฟังห่างจากลำโพงประมาณ 1 คืบ จะได้ยินชัด
2. ได้เสียงใหม่โผล่ออกมา เสียงจี่ เสียงความถี่สูง กับ เสียงคราง
3. ไม่เปิดเพลงจากซีดี หมุนวอลุ่มเสียง จี่ เสียงคราง เพิ่มตามการหมุน
4. บิดวอลุ่ม ไปซ้าย กลับมาขวา บิดไปบิดมา มีเสียง ด้วย แสดงว่าหน้่สัมผัสสกปรก 
5. ดูขอบวูฟเฟอร์ มันเด้งยุบ ๆ เห็นแล้วน่าสงสาร  อาการนี้ก็เป็นด้วยกับเมื่อเปิดเพลง

งานนี้ต้องเอาให้อยู่ เพราะไม่ได้เปิดดัง โจทก์คือ ทำยังไงถึง
1. เงียบเสียง
2. ขอบวูฟเฟอร์นิ่ง

[ออดิโอแมน]

ซวยเลย ไป defragment ฮาร์ดิส ลบไฟล์ ต่างๆ  ไฟล์ในโฟลเดอร์ download หายเกลี้ยงเลย 

จะกู้ไฟล์คืนได้ไหมครับ หรือมันลบถาวรไปแล้ว

[ออดิโอแมน]

สลับสายลำโพงด้านซ้าย ก็ยังคราง ฮัม พอๆ กับด้านขวาที่ไม่ได้สลับสาย ครับ
เปิดเพลง ๆ ก็ดังทั้งซ้ายและขวา  ครับ

[Jakrintr]

ครับ

[ออดิโอแมน]

ปรีตัวนี้กลับเฟสนะครับป๋า ยังไงเช็คสายลำโพงด้วยนะครับ 

เอ้า  ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยครับ
สายลำโพงผมก็ต่อเหมือนเดิมคือ แดงเพาเวอร์แอมป์เข้าแดงลำโพง  ดำเพาเวอร์แอมปเข้าดำลำโพง

ต้องเช็คสายลำโพงยังไงครับ  สลับเอาแดงเพาเวอร์แอมป์เข้าดำลำโพง  ไหมครับ 

[Jakrintr]

ปรีตัวนี้กลับเฟสนะครับป๋า ยังไงเช็คสายลำโพงด้วยนะครับ 

[ออดิโอแมน]

หน้าตาขี้เหร่มาก  แต่ไฟ LED นี่รอมานานหลายปี พึ่งจีมีกะเขา

[ออดิโอแมน]

แรงดันรอบขาหลอด ภาคแรกนับว่าได้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่เคยทำมา
ภาคหลัง ไม่ค่อยเข้าเป้าเท่าไหร่

ผมการฟังเสียง หึ่ง ฮัม คราง หายไปเยอะเลยครับ แต่ยังมี
หันหน้าเข้าหาลำโพงในระยะ 45 ซม. เกือบจะไม่ได้ยินเสียง ถ้าเอียงหู หรือเอามือป้องหู จึงจะได้ยิน

ตอนนี้เบินซักอัลบั้มก่อน  พรุ่งนี้ค่อยต่อ C 0.22uF

บาล้าน หมุนขวา ซ้ายเงียบ หมุนซ้าย ขวาเงียบ

วอลุ่ม ยังเหมือนเดิม บิดหน่อยเดียวเสียงมาดังมาก

เอามือเคาะแท่นไม่มีเสียงดังออกลำโพง

[ออดิโอแมน]

ได้แรงดันและกระแสตามรูป  ผมว่าดีขึ้นนะครับ

[ออดิโอแมน]

เดินวงจรใหม่
ซ้ายมือ วงจรขับ led   ขวามือจุดใส้หลอดและยกไฟสูง



ภาคจ่ายไฟสูง

[ออดิโอแมน]

ทำ DIY แอมป์หลอดมาก็หลายปี หลายแท่น ไม่ได้สนใจที่จะแก้อาการฮัม หึ่ง จี่ เลย เพราะ ผมหูตึง เปิดฟังเสียงดังลั่นคุ้ม ฟังกันทั้งคุ้ม ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถามแล้วว่าผมเปิดเพลงเสียงดังนะ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมก็จำกัดเวลาเปิดอยู่นะครับ และอีกอย่างบ้านนอกคอกนาเค้าก็เปิดดังกันอยู่แล้ว

คราวนี้เปิดดังไม่ได้ ฟังเบาๆ ที่นี่เค้าอยู่กันเงียบๆ ถ้าจะเปิดเพลงก็แบบเปิดคลอฟังเบาๆ ฟังใครฟังมัน  ไม่ต้องเผื่อคนอื่น

และแล้วคุณจี่ คุณหึ่ง คุณฮัม ก็กลายเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมห้องนอนและห้องฟังเพลง   คงต้องหาวิธีไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญสามคนนี้ออกไปจากห้อง ... เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย

ปรับภาคจ่ายไฟใหม่ครับ
1. ใส่ R 100 โอม สองตัวในวงจรไฟสูง เพิ่มทำ C R C filter ลดอาการ ripple ของไฟสูง จะทำให้ B+ ลดลงมาเหลือประมาณ 350V
2. ปลด C 0.22uF ออกไปก่อน
3. ย้าย LED สองตัวมาขับด้วยวงจรเดียวกัน

[ออดิโอแมน]

ลองปลดยกไฟใส้หลอดออกคงไม่เป็นไรนะครับ สเปคบอกว่า heater cathod 90V
ว่าจะยังมีฮัมอยู่ไหม

[ออดิโอแมน]

ภาคจ่ายไฟสูงไม่มี R นะครับ ออกจากไดโอดก็มีซีสองตัว จ่ายไฟให้หลอดเลย  พวงหลังเป็น Rbleeding กับ tap ไฟ elevated supply

แบบนี้ผมก็พึ่งเคยทำครับ 

ภาคจ่ายไฟก็แปลกประหลาด

[Jakrintr]

ภาตจ่ายไฟคงต้องปรับปรุงอีกหน่อยมั้งครับ ผมว่าเอา R คั่นแค่ตัวเดียว น่าจะเอาไม่อยู่

[ออดิโอแมน]

ตอนนี้วงจรเป็นแบบนี้ครับ
1. ตัดกราวน์ของวงจรขับ KED ออก เพราะไม่เกี่ยวกับหลอดเลย
2. เอาซี 0.22uF ไมล่า มาเชื่อมระหว่างกราวน์ของขดจุดใส้หลอดกับกราวน์ของขดไฟสูง

ผลของการเปิดเครื่อง
1. ฮัมน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่หมดยังมีอยู่ ขอบวูฟเฟอร์ของลำโพงกระพือ
2. วอลุ่มเหมือนเดิมบิดนิดเดียวเสียงดังมาก

[ออดิโอแมน]

C 0.22uF  เอามาต่อกราวนใส้หลอดกับกราวน์ไฟสูง



ต่อแล้วเป็นแบบนี้

[ออดิโอแมน]

หน้าตาของหล่อน ติตรงเลเบลไม่สวยเลย กับปุ่มวอลุ่มกับบาล้านชิดกันไปหน่อย

[ออดิโอแมน]

ถ่ายรูปสโคปไม่ติด เลยไม่ใช้

[ออดิโอแมน]

ซี 0.1uF ไม่มีครับ  เอาค่าอื่นได้ไหมครับ มาต่อกราวน์จุดใส้หลอดลงกราวน์ไฟสูง

มี 0.22uF  ไมล่ามั้ง ตัวแบนๆ  กับซีบายพาสแคโทด  อิเลกทรอไลต์ มีขั้ว พวก 35uF 6V,
อ้อมี 0.1uF 250V wima  ตัวนี้เอาไว้คับปิ้งสัญญาณ

[ออดิโอแมน]

ว่าจะเอาสโคปจับสัญญาณ  แต่สัญญาณจากฟังก์ชั่นเจนฯ  เพี้ยน คลื่นไม่สวยเลย  เลยพับไว้ก่อน

ต่อฟังเลยครับ กับซิสเต็มที่มี  CD player แคมบริจ 651C
เพาเวอร์แอมป์เดน่อนรุ่นบุ๊คเช๊ฟ สมัย 40 ปีที่แล้วขนาด 25 วัตต์ต่อข้าง ไม่ใช่เพาเวอร์ไอซีนะครับ  เป็นเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์
ลำโพง ar tsw 210 คู่ชีพ คู่เดียวตลอดชีวิต
ซีดีวงพลอย ไม่ได้เจตนาเกิดมาจนโดยเฉพาะฯ

ต่อเสร็จ เปิดเครื่อง  หึ่ง ๆ มาเต็มๆ เลยครับ จับขอบวูฟเฟอร์กระเด้งกระดอนมากเลย
เปิดเพลง หมุนวอลุ่มนิดเดียวเสียงมาเต็มเลย เอ อะไรจะปานนั้น

แต่ยังไงก็ลองฟังดูก่อน  โทนเสียงนี่ชอบเลยครับ มีเบสให้ชื่นใจ  ลืม NAD ไปได้เลย

จะแก้ฮัมยังไงครับทีนี้ 

[ออดิโอแมน]

แรงดันรอบขาหลอด ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่

[ออดิโอแมน]

ครับผม 

มาแล้วครับแรงดันไฟที่จุดต่างๆ  ก็น่าจะเป็นที่พอใจครับ
ติตรงแรงดันคร่อม D4 3.89 โวลต์ มันเยอะไปไหมครับกับ LED สีเหลือง ความจริงไม่ยี่ห้อ ไม่มีสเปค เทียบแรงดันกับสีในกูเกิ้น

[Mr.Q]

มาอีกหนึ่งคำถามครับ
เนื่องด้วยไฟสูงออกจากไดโอดมันก็ได้ 356 โวลต์ ได้เท่านี้ก็เอาเท่านี้ มันไม่เพิ่มเป็น 360 โวลต์แล้ว
ก็จ่ายให้หลอดเลยจะเป็นอะไรไหมครับ เพราะไม่มีความต้านทานมาจำกัดกระแส
แบบนี้ก็แล้วแต่ว่าหลอดจะถึงกระแสเท่าไหร่ ถ้าได้ตามที่จัดไบอัสก็ดีไป

แต่ถ้าไม่ใช่ กระแสจะไหลเท่าไหร่ก็ได้

ไม่ค้องคิดมากครับ ใช้ได้อยู่แล้ว สูตร 1.414 ใช้ไม่ได้กับวงจรที่ใช้ไฟสูงอย่างวงจรหลอดครับ อยากให้ลองฟังเสียงก่อน ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ใช้ไฟสูงถึง 360 v. เพราะว่ามันทำให้เกิดความเพี้ยนสูงตามไปด้วย อีกเบอร์ 12AU7  ไม่แค่ความเพี้ยนอย่างเดียวมันยังจะไปเด่นย่านความถี่สูง RF อีก ผมไม่อยากท้วงแล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน จุดทำงานที่ดีที่สุดในย่าน AF สำหรับหลอดตลาดผมว่าเขารู้กันมานานแล้ว ยังไงก็ทำให้ดังก่อนครับ

[ออดิโอแมน]

มาอีกหนึ่งคำถามครับ
เนื่องด้วยไฟสูงออกจากไดโอดมันก็ได้ 356 โวลต์ ได้เท่านี้ก็เอาเท่านี้ มันไม่เพิ่มเป็น 360 โวลต์แล้ว
ก็จ่ายให้หลอดเลยจะเป็นอะไรไหมครับ เพราะไม่มีความต้านทานมาจำกัดกระแส
แบบนี้ก็แล้วแต่ว่าหลอดจะถึงกระแสเท่าไหร่ ถ้าได้ตามที่จัดไบอัสก็ดีไป

แต่ถ้าไม่ใช่ กระแสจะไหลเท่าไหร่ก็ได้

[DIY C]

รอฟังด้วย

[ออดิโอแมน]

ต่อฟังเสียงเลยครับป๋า

ยังครับ พรุ่งนี้ทำไฟสูงใหม่ เอาหางๆ ออก
356V ก็หยวนๆ เกือบจะ 360V แล้ว 
ซี 220uF ตัวเดียวน่าจะเอาอยู่

[Jakrintr]

ต่อฟังเสียงเลยครับป๋า

[ออดิโอแมน]

วัดแรงดันแล้วได้ตามรูป
1. ซี 220uF ช่วยอะไรไม่ได้เลย ได้ไฟสูง 356Vdc น่าจะเป็นเพราะไดโอดตระกูล BYV26 กับ BYW36  ทำได้เท่านี้ ถ้าเป็นตระกูล 1N4007 จะหารด้วย 0.707 หรือคูณด้วย 1.414 
แต่ถ้าเป็นตระกูล BYV26 กับ BYW36  จะคูณด้วย 356V/290V = 1.22 หรือหารด้วย 0.82  พอๆกับเรกด้วยหลอดไดโอด
2. ตอนที่วัดไฟตรงที่ tap 100K ได้ 85V  แล้วจะไปวัดที่แทปใส้หลอด อ้าว มันก็จุดเดียวกันนี่ แต่ผมมีความฉลาดมาก มันต้องวัดเป็น ac เทียบกับขดใส้หลอด เออ ตรูฉลาดฟระ  วัดได้ 2.9Vac มิน่าถึงต้องแยกกราวน์กัน
   ใครบอกว่ายกไฟจุดใส้หลอด  ในมุมมองของผม ใส้หลอดไม่ได้มองเห็นไฟตรง 85Vdc เพราะคนละขดกัน ก็ยังเป็น 6.3Vac อยู่ดี  เพราะ แยกกราวน์กัน แต่ แคโทดของหลอดมองเห็นไฟตรง 85V ไฟของตัวเองที่แบ่งไปให้ไปโผล่ที่ใส้หลอด  เนี่ย มันเป็นยังงี้

3. วัดแรงดันไฟสลับคร่อม 51 โอมสองตัว ได้ 5.8 โวลต์ แต่พอไปวันที่ขั้วใส้หลอดได้ 6.4 โวลต์ อ้าว มันก็จุดเดียวกันเพียงแต่ลากสายออกไปที่ขั้วหลอดเท่านั้น  งง ฟระ    แต่ไฟก็ไม่ค่อยจะนิ่งนะครับ แกว่งมากด้วยไม่ใช่แกว่งในระดับจุดทศนิยม แกว่งในระดับโวลต์เลย

[ออดิโอแมน]

ก่อนจะสิ้นแสงตะวันก็เสร็จ

[Jakrintr]

ครับป๋า
ถ้าฮัมค่อยเอาไส้หลอดลงกราวนด์โดยต่อผ่าน C 0.1 ไมโคร ครับ

[ออดิโอแมน]

แบบนี้ไหมครับ

[Jakrintr]

ไฟแขวนไส้หลอด ใช้ R แบ่งแรงดันแบบที่เคยทำดีกว่าครับแล้วครับ (R 82K และ 100K) เพียงแต่ป๋าตัดกราวนด์ไฟจุดไส้หลอดออก ก็จบแล้วครับ

[ออดิโอแมน]

มาแล้วครับภาคจ่ายไฟทำใหม่
1. เพิ่ม C 220uF 450V เพิ่อเพิ่มแรงดันไฟตรงที่ออกจากไดโอด
2. เอาขด 3.15-0-3.15V มาขับ LED ใช้แค่ 0-3.15V ซีกเดียว
3. เอาขด 0-6.3-12.6V มาจุดใส้หลอด และแขวนกราวน์ไฟต่ำไว้กับกราวน์ไฟสูง โดยใช้ R 180K กับ C 0.1uF

จะ work ไหมครับ  รอคำตอบอยู่นะครับ

[ออดิโอแมน]

tap 82k , 100k มองเห็น tap 3k,3k เป็นโหลด กระแสจึงไหลไปทาง 3k,3k หรือเปล่าครับ

มี R ขนานกันอยู่ 3 ตัว คือ 2-3-4 ครับ เปลี่ยนเป็นแบบอื่นจะดีกว่าแล้วตำแหน่งที่ 1 กำหนดค่าสูง ๆ ไว้ก่อนครับ

โอเคครับ

กางตำราดูแล้ว ว่า  ไม่ควรเอากราวน์ใส้หลอดต่อกับกราวน์ไฟสูงโดยตรง เพราะแคโทดของหลอดในส่วนของแคโทดฟอโลเว่อ นั้น มีแนงดันสูงกว่าหลอด

ส่วนการทำ elevated supply นั้น ทั้งขดไฟสูงและขดจุดใส้หลอดไม่มี center tap และก็แปลงเป็นไฟตรงทั้งสองขด ส่วนเซ็นเต้อแทปของจุดใส้หลอดใช้ความต้านทานค่าเล็กๆ 47 โอม สองตัว

แต่แบบที่ง่ายๆ คือ แขวนกราวน์ไฟต่ำไว้กับไฟสูง โดยผ่านคาปาซิเต้อค่าประมาณ 0.1uF ก็ได้ ว่างั้น   เอาแบบนี้แหละง่ายดีครับ

[Mr.Q]

tap 82k , 100k มองเห็น tap 3k,3k เป็นโหลด กระแสจึงไหลไปทาง 3k,3k หรือเปล่าครับ

มี R ขนานกันอยู่ 3 ตัว คือ 2-3-4 ครับ เปลี่ยนเป็นแบบอื่นจะดีกว่าแล้วตำแหน่งที่ 1 กำหนดค่าสูง ๆ ไว้ก่อนครับ

[ออดิโอแมน]

tap 82k , 100k มองเห็น tap 3k,3k เป็นโหลด กระแสจึงไหลไปทาง 3k,3k หรือเปล่าครับ

[Mr.Q]

ที่ไฟตกเพราะมี R เป็น Load ครับป๋า

เป็นยังไงครับ โปรดอธิบายอย่างยาวไม่ต้องเกรงใจครับ

ไฟตกไหนตกครับ ตรงไฟสูงหลังไดโอด  แต่ดูตามที่เขียนไว้น่าจะเป็นไฟยกใส้หลอด

ผมพึ่งได้ต่อวงจรแบบนี้ ก็ครั้งนี้แหละครับ

มี R ตามทีผมพิพ์สีแดงไว้ คีอ 1-2-3-4 ครับ

[ออดิโอแมน]

ที่ไฟตกเพราะมี R เป็น Load ครับป๋า

เป็นยังไงครับ โปรดอธิบายอย่างยาวไม่ต้องเกรงใจครับ

ไฟตกไหนตกครับ ตรงไฟสูงหลังไดโอด  แต่ดูตามที่เขียนไว้น่าจะเป็นไฟยกใส้หลอด

ผมพึ่งได้ต่อวงจรแบบนี้ ก็ครั้งนี้แหละครับ

[Mr.Q]

ที่ไฟตกเพราะมี R เป็น Load ครับป๋า

1 2  3 4

[Mr.Q]

ที่ไฟตกเพราะมี R เป็น Load ครับป๋า

[ออดิโอแมน]

จะปรับแก้วงจรภาคจ่ายไฟกับจุดใส้หลอดใหม่ครับ ใช้ของสถาบันอิเลกทรอนิกฯ เป็นแนวทาง คือแขวนกราวน์ไฟต่ำกับกราวน์ไฟสูง

หรือใครมีอะไรแนะนำก็บอกมาได้เลยครับ

[Jakrintr]

ถอด 2 ครับ

อะจึ๋ย  ขดนี้ก็ไม่มีกราวน์เลยซิครับ  เรื่องพวกนี้ผมไม่รู้จริงๆ  มีกราวน์ก็จับลงไว้ด้วยกันเลย

ถ้ากลัวฮัมก็ต่อผ่าน C 0.1 ไมโครลงกราวนด์ครับ เงียบกริบดีเหมือนกัน

[ออดิโอแมน]

ถอดออกแล้ว วัดได้ไฟหลังไดโอด  350Vdc 
ไฟยกไฟสูงที่ tap 3.5Vdc 
จุดใส้หลอด 6.4Vac

ผมจำได้แล้วแต่ก่อนหลังไดโอดจะใช้ซี 100uF  แรงดันไฟตรงมันถึงจะได้ Vdc = Vac*1.414  เดี๋ยวจะหาซี 100uF 450V-500V มาใช้

ผมเปิดดูตำราของสถาบันอิเลกทรอนิกกรุงเทพรังสิต เค้าใช้ยกกราวน์ไฟจุดใส้หลอดกับกราวน์ไฟสูง แบบนี้ไม่มีผลต่อเสียงว่างั้นครับ แต่ขดไฟจะเป็น 0-6.3V-12.6V ไม่ใช้ขดมี center tap

[ออดิโอแมน]

ถอด 2 ครับ

อะจึ๋ย  ขดนี้ก็ไม่มีกราวน์เลยซิครับ  เรื่องพวกนี้ผมไม่รู้จริงๆ  มีกราวน์ก็จับลงไว้ด้วยกันเลย

[Jakrintr]

ถอด 2 ครับ

[ออดิโอแมน]

ลองถอดกราวนด์ของไฟจุดไส้หลอดออกก่อนครับ หรือถ้าจะลงกราวนด์จริงๆ ให้ต่อผ่าน C 0.1 ไมโครลงกราวนด์ ครับ

ถอดตรง 1 หรือ 2 ครับ

หรือว่าเอา 3K ตัวล่างย้ายมาต่อกราวน์ด้วย เหมือนขาแคโทดของ LED   D4 ครับ

[Jakrintr]

ลองถอดกราวนด์ของไฟจุดไส้หลอดออกก่อนครับ หรือถ้าจะลงกราวนด์จริงๆ ให้ต่อผ่าน C 0.1 ไมโครลงกราวนด์ ครับ

[ออดิโอแมน]

เอาไงดี แก้ตรงไหนอีกครับ
หรือว่าเอายกไฟสูงของขดจุดใส้ ปลายข้างหนึ่งตรง tap ลงกราวน์ ตอนนี้มันต่อกับไฟ 3.15-0-3.15V

[ออดิโอแมน]

ขนานซีค่าเดิมเพิ่มเข้าไปอีกตัว แรงดันไฟตรงได้ 354.4V  เพิ่มมา 4.4V

พอแล้วครับไม่มีที่ใส่อีก  เอ  ไม่น่าผิดไปไกลลิบขนาดนี้

[ออดิโอแมน]

แรงดันไฟตรงมาแล้วครับ 350V  กระแส 19mA   แต่ก็ยังไม่มากพอ

ยกไฟจุดใส้หลอดได้ 1.7V อันนี้มันได้ใช่ยกไฟใส้หลอดแล้วครับ มันลดไฟสูงลง

[ออดิโอแมน]

หาเจอแล้วครับ อิเลกทรอไล้  22uF 500V



ใส่เข้าไป

[ออดิโอแมน]

ผมดูจากรูป หลัง ไดโอดไม่ได้ต่อ c
ลองหา c มาต่อที่จุดนี้ดูครับ c จุดนี้ต้องรองรับ volt สูงหน่อยครับ450 vขึ้นไป
ถ้าไม่มีลองอนุกรม cที่มีอยูลองดูนะครับ

อันนี้น่าจะโป๊ะเช๊ะครับ    ซีไฟสูงไม่มี  เลยใช้วิธีนี้ 
เอ ถ้าจะดร็อปแรงดันลง น่าจะเอา R ไปต่อตรงขดไฟสลับก่อนเข้าไดโอด  พอแรงดันไฟตรงลดลงก็เอาซีใส่เข้าไป  จะได้ไหมครับ   แต่ก็ยุ่งพอควรครับ

ใช่ครับใช่ ซีตรงนี้มีผลต่อไฟออกด้วย ค่ามากก็ไฟออกมาก ค่าน้อยก็ออกน้อย ไม่มีเลยมันออกเท่ากับแรงดันไฟสลับเลย

[ออดิโอแมน]

ป๋าลอยกราวนด์ไฟจุดไส้หลอดหรือยังครับ

ลอยกราวน์ยังไงครับ  กราวน์ของขดนี้ไปเข้า star ground เลยครับ

ยกไฟจุดไส้หลอด ที่เคยเห็นไม่ต้องเอาไฟจุดไส้หลอดลงกราวนด์ครับ (ผิดถูกอย่างไรท่านอื่นช่วยชี้แนะด้วยครับ)

อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ   ถ้ายังไงจะลองปลดสายไฟออกดูก่อน

[หมูซอย9]

ผมดูจากรูป หลัง ไดโอดไม่ได้ต่อ c
ลองหา c มาต่อที่จุดนี้ดูครับ c จุดนี้ต้องรองรับ volt สูงหน่อยครับ450 vขึ้นไป
ถ้าไม่มีลองอนุกรม cที่มีอยูลองดูนะครับ

[Jakrintr]

ป๋าลอยกราวนด์ไฟจุดไส้หลอดหรือยังครับ

ลอยกราวน์ยังไงครับ  กราวน์ของขดนี้ไปเข้า star ground เลยครับ

ยกไฟจุดไส้หลอด ที่เคยเห็นไม่ต้องเอาไฟจุดไส้หลอดลงกราวนด์ครับ (ผิดถูกอย่างไรท่านอื่นช่วยชี้แนะด้วยครับ)