HTG2.club

หม้อแปลงไหม้จากการเปลี่ยนวงจร Power supply

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
ขอบคุณทั้งสองท่านเรื่อง C จะกลับไปทดสอบใหม่ครับ รอหม้อแปลงเสร็จก่อน


ออฟไลน์ art

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,651
    • เพศ:ชาย
  • อยากกลับมาเล่นหลอด...อีกครั้งแล้ว ^^
NOTE3 C Electrolytic หลายๆตัวไม่รั่ว เมื่อเทสด้วยไฟต่ำ แต่เมื่อเทสด้วยไฟสูง จะแสดงอาการรั่วเห็นได้ชัดครับ

    เจอบ่อยเลยครับ.....วัดด้วยมิเตอร์ก็ไม่เสีย...ต้องลองจ่ายไฟสูงแล้ววัดดูอีกทีครับ.....ถ้าได้ไฟ...ต่ำกว่าแหล่งจ่ายไฟที่จ่ายเข้าไป....ก็ทิ้งได้เลยครับ  ;D ;D ;D
**ไร้สาระโดยสิ้นเชิง.....บันเทิงลูกเดียว**

ติดต่อผมที่นี่ครับ ^^

http://www.htg2.net/index.php?topic=22903.0


ออฟไลน์ Aufklarung

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,052
    • เพศ:ชาย
  • das Heimwerken.
เพิ่มเติมข้อมูล หม้อแปลงไหม้ที่ขด Secondary 320-0V ส่วน C1 ผมไม่มี Meter วัด C แต่ใช้ Ohm meter Rank 2000K วัด ปรากฏว่าช่วงแรกความต้านทานลดลงหลังจากนั้นก็จะเพิ่มขึ้นจนคงที่แสดงว่า C1 ยังดีอยู่ครับ
ไม่แน่ครับ การเทส C ไฟสูง ควรต่อ C อนุกรมกับ R ค่าสูงๆ แล้วเทสกับไฟสูง (ในขนาดที่ C รับได้หรือ ในขนาดแรงดันที่จะใช้ทำงาน) โดยดูจากแรงดันตกคร่อม
R-C ถ้าแรงดันตกคร่อมมีลักษณะการแบ่งกันระหว่าง C กับ R นั่นคือ C ประพฤติตัวเป็น R เสียเอง (คือปล่อยให้ DC ใหลผ่าน) แสดงว่า C ตัวนั้นรั่วแล้วครับ (ดูที่แรงดัน
คร่อม R ที่อนุกรมไว้ก็ได้ครับ ปกติหลังจากช่วงชาร์จประจุแล้ว แรงดันคร่อม R จะต้องเป็น ศูนย์ (เพราะแรงดันที่ C เก็บสะสมจนขึ้นมาเท่าแหล่งจ่าย แล้วหยุดเก็บ)
แต่ถ้ามีแรงดันคร่อม R ตัวนี้ตลอดเวลา นั่นคือมีกระแสใหลในวงจรอยู่ตลอด ผู้ร้ายก็คือ C ตัวนั้นครับ

การต่อคือ VCC------->R ค่าสูงๆหลายร้อยเคหน่อยก็ดี--->Cต้องสงสัย------>GND

NOTE1 VCC ใ้ห้ใช้ใกล้กับที่จะใช้จริง (C ต้องทนได้) จะดีที่สุดครับ เอาให้รู้แน่ๆไปเลย
NOTE2 ในทุกกรณี ให้ทำการคายประจุ โดยการใช้หลอดไฟใส้ 220V นี่แหล่ะครับ ต่อคร่อม C ไว้หรือ R ค่าต่ำๆก็ได้ (หลักร้อยก็ดี ไม่แตกแรงนัก  ;D)
***** ข้อนี้อันตรายมากนะครับ แรงดันสูงๆที่ค้างในตัวเก็บประจุสามารถฆ่าท่านหรือทำให้ท่านบาดเจ็บสาหัสได้นะครับ ****
NOTE3 C Electrolytic หลายๆตัวไม่รั่ว เมื่อเทสด้วยไฟต่ำ แต่เมื่อเทสด้วยไฟสูง จะแสดงอาการรั่วเห็นได้ชัดครับ
die Aufklärung คือ รู้แจ้ง กระจ่างแจ้ง ให้ความสว่าง (enlightenment) ครับ
อ่านว่า Auf = เอาฟ์ klär  = แคลรร และ ung = อุง (บางทีออกเสียงคล้ายๆ วุง)  เอาฟ์แคล์รอุง ครับ
และเป็นชาว :D ชมรมคนรัก หลอดหัวจุก :D ด้วย
ข้อมูลส่วนตัวครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=30585.0


ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
เพิ่มเติมข้อมูล หม้อแปลงไหม้ที่ขด Secondary 320-0V ส่วน C1 ผมไม่มี Meter วัด C แต่ใช้ Ohm meter Rank 2000K วัด ปรากฏว่าช่วงแรกความต้านทานลดลงหลังจากนั้นก็จะเพิ่มขึ้นจนคงที่แสดงว่า C1 ยังดีอยู่ครับ


ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
วันนี้เข้ามาดูช้าไปหน่อยได้ความรู้มาอีกเพียบเลย โดยเฉพาะคุณ Mr.Tube อธิบายได้ชัดเจนมาก ผมก็พอเข้าใจเรื่อง Duty cycle ของ Rectifier แต่ไม่คิดว่าผู้ผลิตหม้อแปลงจะออกแบบมาให้แค่ 50% จะได้จำไว้....แสดงว่าเขาคงลดขนาดลวดทองแดงให้เล็กลง ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นๆจะทำแบบนี้หรือเปล่า ส่วนคำถามที่ว่าต่อ C1 ไว้หลัง Diode ทำไม? ผมต้องการให้ไฟ DC สูงกว่าเดิมและเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อว่าต่อไปจะทดลองเอา L ออก แล้วดูว่ามันจะ Hum หรือไม่ ต้องขอบอกว่าแอมป์ตัวนี้เป็นตัวแรกของผมจึงได้ทดลองอะไรที่พิศดารไปหน่อย ยังไงเพื่อนก็ช่วยแนะนำด้วยครับ


ออฟไลน์ sawasdee

  • *****
    • กระทู้: 559
    • เพศ:ชาย
สุดยอดทำให้เข้าใจ หม้อ มากขึ้นเมื่อก่อนมีแต่ใช้กับใช้

ตอนนี้ใช้ไปเข้าใจไป? ;D ;D ;D

Mr.Tube ยอดเยี่ยมมากครับ...ข้อมูลละเอียดยิบ  O0 O0 O0 O0 O0
กุลวัฒน์ พรหมสถิต 4/222 ม.สหกรณ์4 ซ.11 คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. 10240
Phone 0956378674


ออฟไลน์ leklek

  • **
    • กระทู้: 54
สุดยอดทำให้เข้าใจ หม้อ มากขึ้นเมื่อก่อนมีแต่ใช้กับใช้


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
อธิบายละเอียดเลย ใช้เวลาอ่านซะหน่อย ดีครับจะได้เข้าใจง่ายๆ  O0 O0
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ ซุปฯ_ดำ

  • ****
    • กระทู้: 443
    • เพศ:ชาย
อ่านแล้วได้ความรู้ดีจังเลยครับ สงสัยคราวหน้าจะต่ออะไรต้องระวังหน่อยแล้ว
ข้อมูลติดต่อ >>
http://www.htg2.net/index.php?topic=37301.0


ออฟไลน์ Aufklarung

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,052
    • เพศ:ชาย
  • das Heimwerken.
ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่าเอา C ไปต่อที่ DIODE ทำไม ?เอา DIODE ต่อเข้ากับ PLATE เลยได้ไหม ??แล้วเรื่อง C - FILTER ก็ต่อออกจากใส้หลอดเลยได้หรือไม่??
วานผู้รู้ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขอธิบายในความคิดของผมหน่อยเถอะครับ??ขอบคุณครับ

กรณีวงจรตามรูปของคุณ WIL หลอด Diode ทำหน้าที่แค่เป็นตัว R เท่านั้นครับ (ตอบคุณ Aufklarung ไปด้วยในตัวเลย) จะต่อ C ไว้หน้าหลอดหรือหลังหลอดก็ใช้ได้ทั้งนั้น ส่วนทำไมนี่ต้องรอคุณ WIL ครับ ผมบอกได้แต่ว่าทั้ง 2 แบบใช้งานได้ครับ  :)
ขอบคุณครับ  Y]

KT88 SE เดิมใช้หลอด 5U4GB เป็น Full wave rectifier จากหม้อแปลง 320-0-320 v (300 mA) ต่อมาปรับปรุงใหม่ ใช้ Diode 1N4007 ต่อ Bridge ก่อนแล้วมาเข้า 5U4GB โดยต่อมาจากหม้อแปลงเดิมแต่ใช้ขั้ว 320 กับ 0 V เท่านั้น เปิดใช้งานไปสัก 2 ชั่วโมง  หม้อแปลงไหม้เลยครับ ผม run KT88 ที่ 70 mA เท่านั้นเอง มันเกิดอะไรขึ้นกำลังจะชอบเสียงอยู่พอดี

****** Cut ******
ส่วนกรณี Load ของ Rectifer ในเครื่องหลอดที่เราๆ เล่นกัน ที่นิยมก็คือ Capacitor Input กับอีกแบบก็คือ Choke Input ซึ่งทั้ง 2 แบบมีผลต่อการทำงานของหม้อแปลงต่างกันครับ
1. C Input จะดึงกระแสจากหม้อแปลงแบบทันทีทันใด (Pulse) กรณีนี้ควรจะเผื่อการจ่ายกระแสของหม้อแปลงเป็น 1.3-1.5 เท่า ของที่วงจรต้องการครับ เช่นวงจรต้องการ 200mA ก็ควรจะสั่ง 260-300mA เป็นต้น
2. L Input จะดึงกระแสแบบสม่ำเสมอ (Continuous) ไม่จำเป็นต้องเผื่อการจ่ายกระแสครับ

หมายเหตุ 2 ข้อนี้ไม่รวมการเผื่อแบบ Thailand Standard นะครับ อันนี้แล้วแต่ว่าใครไว้ใจร้านไหนอย่างไรครับ ไปเผื่อกันเอาเอง ;D ;D  :bye1
เสริมนิดนึงครับ เพราะผมเคยพลาดมากรณีโช๊ค Input โช๊คตัวแรกในวงจรควรจะใช้แบบที่ดีๆ (ของนอกยี่ห้อดีๆ หรือของไทยก็ต้องแบบที่ดีกว่าปกติ) เพราะถ้าสั่งแบบทั่วๆไป
มาใช้ นอกจากไฟจะไม่เรียบเท่าที่ควรแล้ว โช๊คยังจะสั่นมากๆด้วยครับ  K] K]
die Aufklärung คือ รู้แจ้ง กระจ่างแจ้ง ให้ความสว่าง (enlightenment) ครับ
อ่านว่า Auf = เอาฟ์ klär  = แคลรร และ ung = อุง (บางทีออกเสียงคล้ายๆ วุง)  เอาฟ์แคล์รอุง ครับ
และเป็นชาว :D ชมรมคนรัก หลอดหัวจุก :D ด้วย
ข้อมูลส่วนตัวครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=30585.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
  วงจรที่แก้ไขแล้ว ขดPri.นำกระแส เป็น 2เท่าของวงจรเดิมครับ

ฝั่ง Primary ยังคงนำกระแสเท่าเดิมครับ หลักคิดเดียวกับการปิด/เปิดไฟที่อธิบายไปครับ คือพอ Sec ไม่จ่ายกระแส Pri ก็ไม่ดึงกระแสเหมือนกันครับ


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่าเอา C ไปต่อที่ DIODE ทำไม ?เอา DIODE ต่อเข้ากับ PLATE เลยได้ไหม ??แล้วเรื่อง C - FILTER ก็ต่อออกจากใส้หลอดเลยได้หรือไม่??
วานผู้รู้ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขอธิบายในความคิดของผมหน่อยเถอะครับ??ขอบคุณครับ

กรณีวงจรตามรูปของคุณ WIL หลอด Diode ทำหน้าที่แค่เป็นตัว R เท่านั้นครับ (ตอบคุณ Aufklarung ไปด้วยในตัวเลย) จะต่อ C ไว้หน้าหลอดหรือหลังหลอดก็ใช้ได้ทั้งนั้น ส่วนทำไมนี่ต้องรอคุณ WIL ครับ ผมบอกได้แต่ว่าทั้ง 2 แบบใช้งานได้ครับ  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ตุลาคม, 2008, 01:05:13 am โดย Mr. Tube »


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
หม้อแปลงจากสำนัก TRon ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการคุณสมบัติทั้ง Diode และ หลอด รวมกัน  คือได้ทั้ง ความกระฉับกระเฉงและ Soft start ครับ ตอนแรกคิดว่าหม้อแปลงจะ Over load จากการจ่าย load เพียงครึ่งเดียว แต่หากพิจารณาดีๆ หม้อแปลง 320-0-320 ที่ 300 mA ทั้งสองข้างจะต้องจ่าย Load ได้ 300 mA ทั้งคู่ ถ้านำมาใช้ข้างเดียวก็ต้องจ่ายได้ 300 mA ด้วย ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือไม่  ไฟที่ C1 ตามการคำนวณจะได้ 452 Volt แต่มี Drop ในอุปกรณ์ไปบ้าง ผมวัดได้ 450 Volt ก็เสียวว่า C1 จะทะลุเหมือนกันแค่ลองเท่าน้นหม้อแปลงไปซะแล้ว

เป็นไปได้ว่า C จะทะลุครับ ลองวัดดูด้วยละกันครับ บางทีหม้อแปลงไหม้อาจจะเกิดจาก C Short ไปแล้วก็ได้ครับ กรณีนี้ให้วัด Diode ทุกตัวด้วยนะครับ ถ้า C Short มักจะพา Diode ไปเป็นเพื่อนท่องยมโลกกันยกชุดครับ  ;D

จริงๆ แล้วคุณ WIL ใช้วงจรแบบ Full-wave ก็ได้นะครับ หม้อแปลงทำงานเหมือนเดิม ใช้ Diode น้อยลงด้วย แล้วหา R ซัก 22-33R 5W ใส่ไว้หน้า Diode เพื่อลดแรงดันลง และลดการกระชากของกระแสตอนเปิดเครื่องได้ด้วยครับ ;)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
KT88 SE เดิมใช้หลอด 5U4GB เป็น Full wave rectifier จากหม้อแปลง 320-0-320 v (300 mA) ต่อมาปรับปรุงใหม่ ใช้ Diode 1N4007 ต่อ Bridge ก่อนแล้วมาเข้า 5U4GB โดยต่อมาจากหม้อแปลงเดิมแต่ใช้ขั้ว 320 กับ 0 V เท่านั้น เปิดใช้งานไปสัก 2 ชั่วโมง  หม้อแปลงไหม้เลยครับ ผม run KT88 ที่ 70 mA เท่านั้นเอง มันเกิดอะไรขึ้นกำลังจะชอบเสียงอยู่พอดี

ลองวัด DCR ดูครับว่าไหม้ที่ขดไหนครับ ผมเดาว่าน่าจะไหม้ที่ขด Secondary ที่ใช้งาน 320-0 ครับ ถ้าเป็นอย่างที่ผมเดา ก็แสดงว่าหม้อแปลงไม่ได้คุณภาพครับ คือกรณีที่คุณดัดแปลงวงจรลักษณะนี้ โดยใช้ขด 320-0 จ่ายไฟเท่านั้น ทำให้ Duty Cycle ของขดนี้เป็น 100% ซึ่งโดยมาตรฐานแล้วมันต้องทำงานได้ปกติ ผู้ออกแบบจะเดาเอาเองว่าผู้ใช้จะเอาไปใช้กับวงจร Full-wave Rectifier ซึ่งใช้ Duty Cycle แค่ 50% แล้วก็ออกแบบรองรับไว้แค่นั้นไม่ได้ครับ ถ้าขาดก็แสดงว่าหม้อแปลงไม่ได้คุณภาพคือไม่ได้ออกแบบไว้ให้รองรับ Duty Cycle 100% ครับ หรือถ้าไหม้ที่ขด Primary หรือขดอื่นๆ ก็คุณภาพหม้อแปลงอยู่ดีครับ เพราะก่อนดัดแปลงมันใช้งานได้ปกติ

ผมอ่านหลายๆ ความเห็นแล้ว เห็นว่าพวกเราส่วนใหญ่เข้าใจการจ่ายกระแสของหม้อแปลงไม่ถูกต้องนะครับ ขออธิบายให้เข้าใจดังนี้ครับ

หม้อแปลงเป็นอุปกรณ์จ่ายพลังงานตามความต้องการของ Load ครับ การจ่ายกระแสในแต่ละวงจร ไม่เกี่ยวกับว่าหม้อแปลงใหญ่แค่ไหน ประเด็นอยู่ที่ Load ต้องการเท่าไหร่ครับ คุณจะเอาหม้อแปลง 1000kW มาจ่ายไส้หลอด 2W ก็ได้ ถ้าระดับแรงดันเหมาะสมครับ หม้อแปลงมันก็จะจ่ายแค่ 2W ตามที่ Load ต้องการ แต่ถ้า Load ต้องการพลังงานมากกว่าที่หม้อแปลงจ่ายได้ หม้อแปลงก็จะไหม้ครับ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้หรือสั่งทำหม้อแปลง ต้องดูที่ค่าพลังงานรวมหรือช่างหม้อแปลงมักจะเรียกว่าค่า VA (Volt-Ampare) ซึ่งก็คือผลรวม ของ ผลคูณของแรงดัน (Vac) และกระแสในแต่ละขด [sum (V x A)] แล้วค่อยเอาไปหาซื้อหรือสั่งทำครับ กติกามี 2 ข้อ
1. แต่ละขดต้องจ่ายกระแสได้อย่างน้อยเท่ากับที่ Load ต้องการ เช่นไส้หลอด 5V 3A หม้อแปลงก็ต้อง 5V 3A เป็นอย่างน้อย 4-5-6-...A ก็ย่อมใช้ได้ แล้วแต่ละเผื่อกันไปครับ
2. VA รวมของหม้อแปลงต้องมากกว่าที่วงจรต้องการ ถ้าคุณทำตามข้อ 1 ก็จะไม่มีปัญหากับข้อ 2 ครับ แต่ในบางครั้ง ถ้าคุณมีหม้อแปลงอยู่แล้วต้องการดัดแปลงวงจรทำให้การจ่ายกระแสเปลี่ยนไป เช่นเดิมไส้หลอดต้องการ 5V 10A แต่คุณดัดแปลงวงจรแล้วเหลือ 5V 8A ก็จะเหลือ VA ให้ใช้ได้อีก 10VA ซึ่งอาจจะไปพอดีกับขด 6.3V ที่เดิมจ่ายได้ 30VA แต่คุณต้องการเพิ่มเป็น 35VA อะไรทำนองนี้ โดยมากตามมาตรฐานแล้วมักจะรองรับได้ ทำให้เราไม่ต้องสั่งหม้อแปลงเพิ่ม แต่ถือว่าคุณใช้งานเกินที่ออกแบบมาสำหรับขด 6.3V ความเสี่ยงอยู่ที่ผู้ใช้ครับ ผมจึงใส่ข้อ 2 ไว้ให้ด้วย คือถ้าจะดัดแปลงผลรวมต้องไม่เกิน VA รวมครับ

ทีนี้การต่อหม้อแปลงกับ Rectifier และ Load ของ Rectifier แต่ละแบบทำให้หม้อแปลงทำงานแตกต่างกันไปครับ
1. Half Wave Rectifier ขด Sec จะจ่ายกระแสแค่ 1/2 ของรูปคลื่นครับ หรือเราเรียกว่า 50% Duty Cycle ครับ คือมันไม่ได้จ่ายกระแสตลอดเวลา เพราะ Diode มันจะ On / Off สลับกัน 50 ครั้งในทุกๆ วินาทีครับ คือสมมุติว่า Load ต้องการ 3A มันก็จ่าย 3A นะครับ แต่จ่ายและหยุดจ่ายสลับกัน 50 ครั้งต่อวินาที และจะคิดว่าจ่าย 1.5A ตลอดเวลาไม่ได้ครับ ไม่เหมือนกัน ลองคิดว่าคุณกำลังเล่น Switch หลอดไฟไส้ 100W แล้วเปิด/ปิดมันเล่นสลับกันไปเรื่อยๆ คุณจะก็จะเห็นมันติด/ดับสลับกัน แต่ทุกครั้งที่มันติดมันสว่างเท่าเดิม และพอดับมันก็มืดเลย ไม่ใช่มันติดตลอดเวลาแต่สว่างครึ่งนึง นี่คือที่ว่า ไม่เหมือนกัน ครับ
2. Full Wave Rectifier ขด Sec ทำงานที่ 50% Duty Cycle เช่นกันครับ จริงๆ แล้วมันก็คือ Half Wave 2 ชุดนั่นแหล่ะครับ
3. Bridge Rectifier ขด Sec ทำงานที่ 100% Duty Cycle ครับ มันจ่ายกระแสตลอดเวลาเลย ไม่ได้หยุดพักทีละครึ่งเหมือน 2 แบบข้างต้น

เพราะฉะนั้นในแง่การออกแบบหม้อแปลงแล้ว ผู้ออกแบบจะต้องอนุมานว่าเราจะใช้งานมันที่ 100% Duty Cycle ครับ และเลือกขนาดลวดที่เหมาะสมให้ แต่ถ้าผู้ออกแบบมองว่าเราคงใช้งานที่ 50% Duty Cycle แล้วเลือกลวดที่เล็กกว่า เพราะเห็นว่าความร้อนสะสมจะขึ้นไม่มาก เนื่องจากมันทำงานแค่ครึ่งเดียว ก็อาจจะเป็นสาเหตุของการไหม้ได้ครับ และไม่เป็นมาตรฐานด้วย

ส่วนกรณี Load ของ Rectifer ในเครื่องหลอดที่เราๆ เล่นกัน ที่นิยมก็คือ Capacitor Input กับอีกแบบก็คือ Choke Input ซึ่งทั้ง 2 แบบมีผลต่อการทำงานของหม้อแปลงต่างกันครับ
1. C Input จะดึงกระแสจากหม้อแปลงแบบทันทีทันใด (Pulse) กรณีนี้ควรจะเผื่อการจ่ายกระแสของหม้อแปลงเป็น 1.3-1.5 เท่า ของที่วงจรต้องการครับ เช่นวงจรต้องการ 200mA ก็ควรจะสั่ง 260-300mA เป็นต้น
2. L Input จะดึงกระแสแบบสม่ำเสมอ (Continuous) ไม่จำเป็นต้องเผื่อการจ่ายกระแสครับ

หมายเหตุ 2 ข้อนี้ไม่รวมการเผื่อแบบ Thailand Standard นะครับ อันนี้แล้วแต่ว่าใครไว้ใจร้านไหนอย่างไรครับ ไปเผื่อกันเอาเอง ;D ;D  :bye1


ออฟไลน์ dekdek

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,261
ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่าเอา C ไปต่อที่ DIODE ทำไม ?เอา DIODE ต่อเข้ากับ PLATE เลยได้ไหม ??แล้วเรื่อง C - FILTER ก็ต่อออกจากใส้หลอดเลยได้หรือไม่??
วานผู้รู้ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขอธิบายในความคิดของผมหน่อยเถอะครับ??ขอบคุณครับ
น่าจะได้ครับ  แต่คงต้องดูค่า C ตัวแรกของหลอด Reg เบอร์นั้นด้วยครับ 
ข้อมูลส่วนบุคคล

http://www.htg2.net/index.php?topic=60285.0


ออฟไลน์ Aufklarung

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,052
    • เพศ:ชาย
  • das Heimwerken.
ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่าเอา C ไปต่อที่ DIODE ทำไม ?เอา DIODE ต่อเข้ากับ PLATE เลยได้ไหม ??แล้วเรื่อง C - FILTER ก็ต่อออกจากใส้หลอดเลยได้หรือไม่??
วานผู้รู้ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขอธิบายในความคิดของผมหน่อยเถอะครับ??ขอบคุณครับ
น่าคิดครับ ผมเคยเอาหลอดแดมป์เปอร์ต่อแบบนี้ก็ทำงานได้นะครับ (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ แหะๆ) ขอถามว่าในกรณีนี้ หลอดจะถือว่าเป็น R ตัวแรกของ
R-C Filter หรือเปล่าครับ (เพราะหลอดมีความต้านทานและมีแรงดันตกคร่อมเช่นกัน *** ในกรณีนี้เป็น R-Input)  :bye1
die Aufklärung คือ รู้แจ้ง กระจ่างแจ้ง ให้ความสว่าง (enlightenment) ครับ
อ่านว่า Auf = เอาฟ์ klär  = แคลรร และ ung = อุง (บางทีออกเสียงคล้ายๆ วุง)  เอาฟ์แคล์รอุง ครับ
และเป็นชาว :D ชมรมคนรัก หลอดหัวจุก :D ด้วย
ข้อมูลส่วนตัวครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=30585.0


ออฟไลน์ ธีรพัชร์ TJAM

  • *****
    • กระทู้: 745
  วงจรที่แก้ไขแล้ว ขดPri.นำกระแส เป็น 2เท่าของวงจรเดิมครับ
 


ออฟไลน์ BLUEKITE

  • *****
    • กระทู้: 578
    • เพศ:ชาย
ผมกำลังตั้งข้อสงสัยว่าเอา C ไปต่อที่ DIODE ทำไม ?เอา DIODE ต่อเข้ากับ PLATE เลยได้ไหม ??แล้วเรื่อง C - FILTER ก็ต่อออกจากใส้หลอดเลยได้หรือไม่??
วานผู้รู้ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขอธิบายในความคิดของผมหน่อยเถอะครับ??ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
เข้าใจผิดไปจริงๆ ขอบคุณครับ เขาว่าผิดเป็นครู  แต่คราวนี้ค่าครูแพงไปหน่อย


ออฟไลน์ sawasdee

  • *****
    • กระทู้: 559
    • เพศ:ชาย
TAP จาก CT. กระแสก็เหลือครึ่งเดียวสิครับ...rectifier ด้วย Diode แบบ Bridge แบบนี้ยังดีที่ Cap. ไม่พังซะก่อนเพราะ DC.Voltage มันเกินไปจิ๊ดนึง

แค่ Fullwave ก็พอแล้วครับ :)
กุลวัฒน์ พรหมสถิต 4/222 ม.สหกรณ์4 ซ.11 คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. 10240
Phone 0956378674


ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
หม้อแปลงจากสำนัก TRon ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการคุณสมบัติทั้ง Diode และ หลอด รวมกัน  คือได้ทั้ง ความกระฉับกระเฉงและ Soft start ครับ ตอนแรกคิดว่าหม้อแปลงจะ Over load จากการจ่าย load เพียงครึ่งเดียว แต่หากพิจารณาดีๆ หม้อแปลง 320-0-320 ที่ 300 mA ทั้งสองข้างจะต้องจ่าย Load ได้ 300 mA ทั้งคู่ ถ้านำมาใช้ข้างเดียวก็ต้องจ่ายได้ 300 mA ด้วย ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือไม่  ไฟที่ C1 ตามการคำนวณจะได้ 452 Volt แต่มี Drop ในอุปกรณ์ไปบ้าง ผมวัดได้ 450 Volt ก็เสียวว่า C1 จะทะลุเหมือนกันแค่ลองเท่าน้นหม้อแปลงไปซะแล้ว


ออฟไลน์ เบน

  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,550
แบบนี้ดูจากสภาพนะครับ คือพี่ใช้แค่ครึ่งซีกของหม้อแปลงครับ  :black_eye ซึ่งหมายความว่าหม้อแปลงมันจะจ่ายกระแสได้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นครับ :black_eye
ตอนนี้ไม่ค่อยว่างจ้ะงานประจำกำลังทับหัวตาย  ถ้าเกิดปัญหาประการใดหรือต้องการตามตัวเนื่องจากหายหัวกรุณาติดต่อ  0897815564  ในเวลาราชการ(ถ้าไม่รับจะโทรกลับจ้ะ)

ที่อยู่ก๊าบ
http://www.htg2.net/index.php?topic=48864.0

my facebook ไปเป็นเพื่อนและส่องกันได้

https://www.facebook.com/ben.jom.12


ออฟไลน์ ปาท่องโก๋

  • รักหลอด ตอนแ่ก่
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,127
    • เพศ:ชาย
มันคล้าย ๆๆกับ เอาไฟ DC  ไปให้กับ 5U4 เพื่อทำ เป็น DC อีก ไม่ทราบว่า มี ความหมายอะไร อะครับ งง
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แต่ที่ทำไม่ได้ เพราะไม่ทำ
http://www.htg2.net/index.php?topic=34935


ออฟไลน์ sukyone

  • DIY Never Die.
  • ****
    • กระทู้: 296
    • เพศ:ชาย
  • ยินดีที่ได้รู้จักครับ
    • Sukyone DIY Blog

ออฟไลน์ ปาท่องโก๋

  • รักหลอด ตอนแ่ก่
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,127
    • เพศ:ชาย
ไอเดีย ดีจัง แต่ ว่า มัน แหม่งๆๆ ยังไงก็ ไม่รู้จิ ต่อ แบบ เนี้ย  :help :help
บอกไม่ถูก นะ รู้สึกว่า มันจะต่อผิดๆๆๆๆๆๆ แบบ ว่า น่าจะผิด บรรยาย ยากจริงๆๆ เราเนี้ย
ช่วย เชียร์ แล้ว กัน ครับ ผมชอบ ไอเดีย บรรเจิด แบบเนี้ยะครับ หวาด เสียว ดี :blowup
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แต่ที่ทำไม่ได้ เพราะไม่ทำ
http://www.htg2.net/index.php?topic=34935



ออฟไลน์ leklek

  • **
    • กระทู้: 54
มีข้อสงสัยนิดหนาอยครับ ตรง320 v อีกด้านลอยไว้ หากเราจะต่อ Full Wave ใมกรณีหม้อแปลงมี CT ก็ใช้ไดโอด 2 ตัวก็พอครับ
สาเหตุอาจจะมาจากด้านที่ลอยไวก็ได้ครับ (ผมไม่เคยทำเครื่องขยายหลอด)

ปล ผมกำลังหาความรู้เกี่ยวกับหลอดอยู่ครับ


ออฟไลน์ sukyone

  • DIY Never Die.
  • ****
    • กระทู้: 296
    • เพศ:ชาย
  • ยินดีที่ได้รู้จักครับ
    • Sukyone DIY Blog
ต่อแบบนี้น่าจะดีกว่าแบบบนนะครับ
ถ้าจะใช้ไดโอดร่วมด้วย
ต่อแบบข้างบนเดาว่ากระแสหม้อแปลงจ่ายไม่พอน่ะครับ



ออฟไลน์ WIL

  • ****
    • กระทู้: 256
KT88 SE เดิมใช้หลอด 5U4GB เป็น Full wave rectifier จากหม้อแปลง 320-0-320 v (300 mA) ต่อมาปรับปรุงใหม่ ใช้ Diode 1N4007 ต่อ Bridge ก่อนแล้วมาเข้า 5U4GB โดยต่อมาจากหม้อแปลงเดิมแต่ใช้ขั้ว 320 กับ 0 V เท่านั้น เปิดใช้งานไปสัก 2 ชั่วโมง  หม้อแปลงไหม้เลยครับ ผม run KT88 ที่ 70 mA เท่านั้นเอง มันเกิดอะไรขึ้นกำลังจะชอบเสียงอยู่พอดี