ยกมาจาก thaidvd นะครับเผื่อเป็นประโยชน์
'schwin'
ขอบอกกล่าวกันก่อนนะ....อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเอง...หูส่วนตัวของผมเอง
โดยมีมาตราฐานของการปรับแต่ง Calibrate ระบบของ THX โดยที่พี่หมอเอกเป็นเจ้าของและพี่หมอเอกเป็นผู้Calibrate
ตามมาตราฐานของ THX ...มิใช่ว่าเสียงระบบอื่น..หรือซิสเต็มอื่น..จะผิด...ไม่ถูก..อันนั้นเป็นความชอบและวิถีทางของแต่ละท่านครับ
....แต่ห้องนี้...มันคือ...
มาตราฐาน..ครับ...มาตราฐาน ...ของ....THXและเนื่องด้วยจากผมไม่ได้มีความรู้ทางด้านวิชาการมากมายนักจึงขอคุยบอกกล่าวกันแบบภาษาบ้านๆของผม..จะผิดบ้างถูกบ้าง
ก็เอานะ....ส่วนข้อมูลเชิงลึก..วิชาการต่างๆอย่างไรก็สามารถสอบถามกับทางพี่หมอเอกโดยตรง...นะครับ...
มาเข้าห้องของพี่หมอเอกกัน....เรื่องเครื่องเคราต่างๆไม่ต้องเหลานะดูที่รูปเอา...
จริงๆแล้วระบบ THX มันไม่ได้เป็นระบบเสียงครับ...มันเป็นระบบการจัดการระบบห้องครับ...มันว่าด้วยเรื่องของห้อง...เรื่องตำแหน่งการจัดวาง....สภาพอคูสติก...ค่าสะท้อน...ค่าการซับเสียง..Room mode...เฟสของเสียงของลำโพงแต่ละตัวที่ต้องทำงานประสานกัน
การติดวัสดุซับเสียง...สะท้อนเสียง...แบบนี้ติดที่ไหน..แบบนั้นต้องติดที่ไหน...แล้วเกิดเสียงแบบไหน..บราๆๆๆๆๆ..ฯลฯ
.อื่นๆอีกมากมาย
จากเสียงแรกที่ได้ยินจากห้องนี้...ขอบอกได้เลยว่่าตื่นตะลึงสุดๆเลยครับ...บรรยากาศครับ...ใช่..บรรยากาศที่ห่อหุ้มรายล้อมตัว
ไปทุกย่านความถี่.....ไม่ใช่เสียงนะครับ...มันเป็น..บรรยากาศเลยที่เดียวเชียว...อันนี้ต้องได้ยินเองถึงเข้าใจ
คือมันจะตรึงเราให้เข้าไปกับภาพปรากฎบนจอ..โดยไม่ต้องสนใจเลยว่าเสียงมันออกมาทางไหน..
เอาเป็นว่า..clarity, focus, envelopment, response, dynamic, consistency ....ที่พี่หมอว่ามาครบหมด
โดยเฉพาะถ้าได้ลองฟังจากภาพยนตร์..ที่มีเพลงประกอบที่เล่นด้วยวงออเคสต้า..วงใหญ่ บรรรเลงคลอไปพร้อมกับราวต่าง
ที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง..เสียงที่ได้มันแยกแยะออกจากกันโดยเด็ดขาด..ออกจากเสียงAction.ที่โหมปะดังเข้ามาหาเราโดย
ไม่มีการทับซ้อนของความถี่ปนมั่วกัน..เพลงก็เล่นบรรเลงไป...เสียงในหนังจะสู้ก็สู้กันไป...ได้อารมย์ของภาพยนตร์เรื่องนั้น
ที่ทางผู้กำกับ..อยากจะสื่อออกมาได้สุดๆ
-ลำโพงเซ็นเตอร์จุดเด่นสุดๆเลยครับคือเสียงที่ออกมาจากห้องนี้นั้นมันไม่ได้มีตำแหน่งนั่งฟังเพียงจุดเดียวครับ
ในห้องนี้มีที่นั่งโซฟายาวสี่ที่นั่ง..แต่เสียงที่เราได้นั่งฟังไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดในแถวโซฟานี้..เสียงที่เกิดขึ้นมันจะ
สอดประสานตรงกับกับภาพเหตุการที่เกิดในภาพยนตร์..ใกล้เคียงกันมากๆ..ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน
เสียงที่ได้ชัดเจน..เคลีย..แยกแยะโทนเสียงต่างๆได้ดีมาก
(แน่ละมันต้องมีตำแหน่งนึงที่ดีกว่าเพื่อนแน่ๆ..แต่ตำแหน่งอื่นมันไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก)
-ลำโพงเซอร์ราวด์เสียงที่ได้ยิน..รายระเอียดของเสียงครบถ้วน..การโยนเสียงแต่ละช่องเสียง..ไหลลื่น
แต่ไม่ได้เป็นเพราะความดังครับ..เสียงที่ได้ยินมันเป็นเหมือนบรรยากาศห่อหุ้มรอบๆตัวเรา..ลำโพงหายไปหมดเลย
ซึ่งทางพี่หมอเอกบอกให้ฟังว่า...เสียงเซอร์ราว์ดที่ทางสตูดิโอต่างๆใส่มาในภาพยนตร์นั้นจริงๆแล้ว
เค้าต้องการเพื่อให้มันเป็นเพียงบรรยากาศห่อหุ้ม(Envelopment)ตัวเราเท่านั้น...มันต้องไม่ดังจน
เป็นการชี้เฉพาะเจาะจงจะแจ้งเกินไป(pin point)ครับ..ซึ่งเจ้าสองอย่างนี้มันจะให้ผลตรงข้ามกัน
คือถ้าเราได้ยินเสียงที่เป็นการชี้ชัดจะแจ้งมากเกินไป...บรรยากาศห่อหุ้มมันก็จะลดลงไป
เบส--เบส--เบส
เดินเข้ามา...ซับ 2 ตัว(JL113กะพาราดาม..จำรุ่นไม่ได้แต่ใหญ่เอาการน่าจะ25มั่ง)
ถ้าคิดว่าเบสที่ได้...คงอัดจุกอก..คิดผิดครับ...เสียงเบสที่ได้ยินและสัมผัส
มันสะอาดสุดๆตอบสนองครบทุกย่านความถี่ที่ซับมันตอบสนองได้อย่างต่อเนื่อง..ไม่มีเสียงอึกกะทึกคึกโครม
แยกแยะรายละเอียดของเบสลูกเล็กลูกน้อยลูกใหญ่ลูกต่ำลูกตื้นครบหมด
ซึ่งในแง่ความดังหรือการกระแทกกระทั้น..ผมว่ายังน้อยกว่าบางซิสเต็มที่ใช้ JL 113 ตัวเดียวเสียอีก
แสดงว่าถ้าเอาตามมาตราฐาน THX ตามที่วัดค่าได้..ความดังมันก็แค่ระดับนี้ไม่ได้..เป็นเบสบ้าเลือด
อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ช่วงเบามันจะคลอบรรยากาศ...เวลาถึงคราวดุดัน..มันก็มาให้ครบ...ครบเครื่อง...สะอาดมากๆๆๆๆๆ
เรื่องภาพ....เอาอย่างงี้ห้องนี้ภาพที่ได้จากห้องนี้ดีที่สุดที่ผมเคยดูมาครับ...ง่ายๆชัดเจน...
ภาพปกติในการปรับภาพต่างตามปกติเค้าก็ปรับค่าสีกันประมาฌสิบกว่าจุดหรือยี่สิบจุด
แต่พี่หมอเอกปรับละเอียดของค่าสีต่างๆซะร้อยกว่าจุด..คิดดูว่ามันใช้เวลาขนาดไหน
และภาพมันจะไม่ได้สุดติ่งได้อย่างไรละครับ....
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพี่หมอเอกที่ให้คำแนะนำ..ความรู้..ที่ผมไม่สามารถจะหาได้..เพราะด้วยความรู้และทุนทรัพย์
ยังไงผมก็ไม่มีทางที่จะได้ลิ้มรสของระบบเสียงที่เป็นมาตราฐาน THX แน่ๆ
ขอขอบคุณที่เปิดประสบการ์ณให้ผมได้รับรู้
เสียงที่เป็นมาตราฐาน THX เป็นอย่างไรต้องห้องนี้ครับ...ซึ่งพี่หมอเอกบอกว่าจะทำให้ดีกว่านี้อีกในโอกาสหน้า
(คาดว่าในไม่นานนี้แหละจะไปดูตั้งแต่เริ่มเลยนะพี่)
เสียงที่ถูกใจเป็นไงไม่รู้....แต่มันควรมีมาตราฐานของมันซะก่อน...และผมก็ได้รับรู้แล้วว่าเสียงที่มันเป็นมาตราฐานของ THX
มีแนวทางเสียงแบบใด
ด้วยจิตคาราวะ
'kook_331'
ได้ฟังพี่ชวิลเหลาแบบนี้แล้วอยากไปฟังบ้างเลย แค่อ่านยังรู้สึกว่าห้องพี่เขาเสียงคงสุดยอดมากๆ
ที่ว่าตำแหน่งนั่งไม่ค่อยแต่กต่างกันมาก ไม่ว่าจะนั่งจุดไหนของห้องอาจจะเหมือนในโรงภาพยนตร์มั้งครับ
คือไม่ว่าเราจะนั่งตำแหน่งไหน เวที ซาวร์เสต็จหรือทุกสิ่งอย่างมันยังชัดเจนอยู่ครบหมด ยังคงครอบคลุมจุดนั่งฟังเกือบจะ
ทุกจุดในพื้นที่ของห้องนั้น เครือเคราคงต้องถึง ห้องต้องพร้อมปรับอคูสติกได้ลงตัวพอดี เซ็ตเบสกลางแหลมทุกอย่าง
คงต้องดีมากๆจริงๆ อยากไปฟังบ้างชาตินี้คงไม่มีแบบนี้แต่ขอไปฟังเป็นบุญหูซักครั้งก็พอแล้ว
[/quote]
อย่างแรกก็ดีใจครับที่พี่ชวินได้อะไรกลับไปบ้าง อุตสาห์ขับรถขึ้นมาดูถึงอุดร ต้องยอมรับในความตั้งใจจริงๆครับ
ส่วนเรื่องที่kook_331 กล่าวมาถึงนั้นมันอยู่ในส่วนของ consistency ของห้องฟัง ที่เป็นหนึ่งใน requirment ของห้อง home theater ที่ดีที่ทั้งหมดจะประกอบไปด้วย clarity, focus, envelopment, response, dynamic, consistency ดังที่เคยพูดไปแล้ว ผมขอขยายความเพื่อให้ความเข้าใจมากขึ้นเผื่อเป็นประโยชน์บ้างแก่ผู้สนใจ ซึ่งผมได้บอกกับพี่ชวินไว้ว่าตรงไหนที่ผมพอรู้ก็จะเขียนแชร์กัน
ในเรื่องของ seat to seat consistency ต้องเริ่มมาจากเรื่อง รากฐานของระบบ stereo ซึ่ง Stereo sound ก็คือการนำลำโพงสองตัวหรือมากกว่า มาทำให้เกิดเสียงให้ใกล้เคียงกับเสียงจากธรรมชาติมากที่สุด ในปี 1933 Bell labs, ได้เสนอการใช้ลำโพงสามตัวในการถ่ายทอดเสียงการแสดงดนตรีที่ Philadelphia orchestra แล้วทำไมต้องใช้ 3 channel ทำไมไม่สอง และอาจารย์ผม Gerry Lemay(Director HAA), John Dalh(Director THX) ได้บอกว่าในความคิดของแกลำโพง Center เป็นลำโพงที่สำคัญที่สุดในห้อง home theater ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ดูรูปนี้ก่อนนะครับ

เป็นรูป pattern ในห้อง mix เสียงมาตรฐานTHX จะเห็นได้ว่าเสียง Center ไม่ได้มีเฉพาะเสียงพูดนะครับ มีทั้งเสียง effects, เสียงดนตรี เสียงambience ต่างๆ ลำโพง center นี่แหละนอกจากจะเป็นหลักในเสียงพูดแล้วยังเป็นลำโพงตัวสำคัญทำหน้าที่เสริมเสียงจากลำโพงคู่หน้าให้ดีขึ้น นอกจากนั้นการฟังแบบ Audiophile ที่ใช้ลำโพง 2 channel เสียงที่ดีที่สุดหรือ sweet spot จะอยู่ที่ระหว่างกลางลำโพงทั้งสอง แต่เมื่อเราขยับออกจากตำแหน่งนี้เพียงเล็กน้อยเสียงที่ดีทั้งหมดก็จะ collapse ลงอย่างรวดเร็ว แต่ในห้องดูหนังเรามีหลายที่นั่ง การเพิ่ม center เข้าไปในระบบ home theater ก็เพื่อเพิ่ม sweet spot ให้กว้างขึ้น สามารถทำให้แต่ละตำแหน่งนั่งฟังได้ยินเสียงที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ดีที่สุด ดังในรูปข้างล่าง


ทั้งนี้เรื่องการ set ลำโพง Center เพื่อให้ได้เสียงอย่างที่ Audiophile ต้องการ ทั้งตำแหน่ง, Phase , การหา Distance และ level ผมได้เสนอเทคนิคไปกับพี่ชวินบ้างแล้ว ยังไงใครได้มีโอกาสให้พี่ชวินไป setup ลองให้พี่แกทำให้ดูก็ได้นะครับ บางทีการอ่านอย่างเดียวไม่ได้ยินเสียงจริงๆ ก็อาจไม่get การฟังเสียงจริงๆ สัมผัสของจริง มันสามารถแทนตัวหนังสือได้เป็นพันๆคำครับ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่อง LFE ว่าเสียงที่ผู้กำกับ หรือคนmix เสียงต้องการให้ผู้ชมได้ยินมันเป็นเสียงยังไงกันแน่ มันกระหึ่มจุกอกสะเทือนทั้งบ้านเลยหรือเปล่า มันมีหัวมีหางหรือเปล่า มาเร็วไปเร็วเครมเร็วม๊ะ เราก็ set ให้ความดังsub เท่า channel อื่นแล้วทำไมมันบางจัง เสียงsub จริงๆมันเบาขนาดนี้เลยเหรอ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสผมค่อยมาแชร์กันอีกทีนะครับ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าทั้งหมดนี้ beyond ความชอบส่วนตัวนะครับ ซึ่งชอบไม่ชอบแล้วแต่บุคคลครับคนเราชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เอาแบบดุดัน ซาดิสม์ โหดดิบ ก็ไม่ผิด แต่เอาแบบว่าที่มาตรฐานเป็นยังไงก่อน รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามครับผม
