HTG2.club

อยากทราบ Plate Resistance ของ 1626/VT137 ครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
อ้างถึง
ถ้าจะใช้หลอด power มาทำตรงนี้จะได้มั้ยครับ

ได้ครับ

อ้างถึง
ถ้าได้ แล้วหลอด power ที่จะนำมาใช้ต้องมีคุณสมบัติพิเศษอะไรมั้ยถ้าใช้กับตำแหน่งนี้ครับ

ไม่มีเป็นพิเศษครับ เพราะหลอด power ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เป็นแบบ high current อยู่แล้ว

จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลอด power ก็ได้ครับ เพราะคุณสมบัติที่ดีของหลอด cathode follower คือควรจะมี transconductance สูงหน่อย เพราะ Output impedance ของ cathode follower จะเท่ากับ 1/gm ถ้าใช้หลอด power พวก pentode ที่เป็น pentode mode ก็น่าจะได้ transconductance สูงเท่ากับ 5687 แต่ดูเหมือนจะเป็นการสิ้นเปลือง power ไปหน่อยครับ

อ้างถึง
แรงดันที่ grid ของ 845 (cathode ของหลอด drive) จะเปลี่ยนแปลงมั้ยถ้าช่วงที่วงจรรัน A1 ไปเป็น A2

เปลี่ยนไปเท่ากับแรงดันของ grid ของ 5687 ครับ เนื่องจากคุณสมบัติของ cathode follower คือมันจะรักษาแรงดันของ grid-cathode ให้เท่ากันเสมอ



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ลงวงจรให้ดูหน่อยนะครับ ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ขอรบกวนถามครับ

ถ้าผมจะใช้วงจร cathode follower ต่อ direct coupling ไป drive 845 แบบวงจรของ Onkagu 211
ถามว่าหลอดที่เป็นตัว cathode follower จำเป็นต้องเป็นหลอดปรี มั้ยครับ 

ถ้าจะใช้หลอด power มาทำตรงนี้จะได้มั้ยครับ

ถ้าได้ แล้วหลอด power ที่จะนำมาใช้ต้องมีคุณสมบัติพิเศษอะไรมั้ยถ้าใช้กับตำแหน่งนี้ครับ

แรงดันที่ grid ของ 845 (cathode ของหลอด drive)
จะเปลี่ยนแปลงมั้ยถ้าช่วงที่วงจรรัน A1 ไปเป็น A2

ขอบคุณครับ :)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
จริงแล้วก็ทำงานเหมือนกันครับ ตัวแรกใช้ R series กับ choke เพื่อใช้ bias grid แต่ตัวหลัง R bias ที่ cathode แทน

คนคิดเค้าบอกว่าแบบแรกจะมี heat dissipation น้อยกว่า เพราะกระแสที่ไหลผ่าน R จะมีค่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแบบที่สองครับ แต่เรื่อง DC bias ผมว่าแบบหลังน่าจะ stable กว่าครับ



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
รบกวนถามว่า 2 วงจรนี้มีการทำงานต่างกันอย่างไรครับ :)

ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
สูตรที่คุณ Louis ว่า คือสูตร 1'st filter ครับ แต่ในกรณีนี้ไม่มี capacitor coupling เพราะฉนั้นการตอบสนองความถี่จะขึ้นอยู่กับค่า capacitance ที่ shunt อยู่ที่ input ซึ่งก็คือค่า capacitance โดยค่านี้จะเปลี่ยนไปตามค่า u ของหลอดซึ่งเรียกว่า miller capacitance ตัวนี้จะมีค่ามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความถี่ครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091

ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ถ้าหมายถึง input impedance ของ 6FD7 ก็ใช้ค่า Miller Capacitance ของมัน คำนวนกลับมาเป็นค่า reactance ที่ความถี่ที่ต้องการครับ แล้วก็ดูว่า output impedance ของ 6C45 มันต่ำพอที่จะ drive 6FD7 ได้หรือเปล่า


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ถามเรื่องการคำนวณความถี่คัทออฟของวงจรครับ

จากวงจรของผมถ้าเป็นของหลอด 6C45  ก็จะได้ความถี่ตัดประมาณ  45Hz
แล้วถ้าของหลอด 6FD7 จะคิดค่า R จากอะไรครับ  ใช่ค่า DCR ของ Choke มั้ยครับ
แล้วต้องบวก R Cathode ของหลอด 6C45 มั้ยครับ :D

ขอบคุณอีกครั้งครับ :)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060

ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091


เมื่อวานผมได้ลองต่อ C UltraPath ดูแล้วไม่ว่าจะเปลี่ยน C ซักกี่ตัว
กี่ยี่ห้อออกอาการดังข้างเบาข้างครับ :D  ตอนนี้ก็เลยใช้แบบ BypassCathode
ฟังแก้เซ็งไปก่อนครับ :-\
 


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
อุ๊บ อ่านผิดครับ

ไม่เชิงครับ ตัว inductive load ใน output transformer ทำหน้าที่นี้มากกว่าครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ผมหมายถึงรูปวงจรหลังสุดครับ ที่ B+1000V น่ะครับ :D
ความหมายว่า ณ วงจรนี้ 845 คล้ายๆทำหน้าที่เป็น CCS ใช่หรือไม่ครับ :)


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ได้ dissipation 0.06^2 x 8000 ก็ 28Watt คงต้องใช้ R ซัก 100W ติด heatsink ครับ

อย่างนี้สงสัย ผมจะสวนทางกับนโยบายประหยัดไฟของรัฐบาลเปล่านี่ เพิ่ม 1 Stage 1 กินไฟเพิ่มน่าดู ;D ;D ;D


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ได้ครับ แต่ไฟเลี้ยงคงมากกว่าพันโวลต์ อาจจะถึง 1500-2000โวลต์ แถมยัง dissipate ความร้อนมากด้วย อาจจะไม่คุ้มครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ด้วยวงจรที่ผมวาดมา 845 จะทำตัวเป็น CCS ให้กับหลอด Drive ทั้งสองหลอดใช่หรือไม่ครับ ???

..ขอบคุณครับ :)


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ทำไปทำมา 845 นี่อลังการขึ้นทุกที ;D ;D ;D

อลังการแบบนี้แหละดีเลยครับคุณ Mr.One จะได้เป็นหนูลองยาก่อนผมครับ ;D เชียร์ครับ ;)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ใช้ 5-10K ครับ แต่ heat dissipation คงมากน่าดู

สมมติว่าใช้ R 8K มีกระแสผ่าน 60mA จะได้ dissipation 0.06^2 x 8000 ก็ 28Watt คงต้องใช้ R ซัก 100W ติด heatsink ครับ

มีทางเลือกอีกทางนึงคีอใช้ choke ซัก 20-30H ครับ


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ในทำนองเดียวกับคุณ Louis พยายามใช้ 1626 มา Drive 845 นะครับถ้าผมจะใช้ 300B มา Drive ซึ่งปกติเราใช้ OPT ค่า 2.5-3.5 K ถ้าเราใช้ R แทนเพื่อขับภาคต่อไปใช้เท่าไรดีครับ 8)

ทำไปทำมา 845 นี่อลังการขึ้นทุกที ;D ;D ;D


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ใช่ครับผมแยกภาคจ่ายไฟคนละชุดกันครับ

แต่ขด HV.ของชุด Drive กับ ตัว 845 อยู่ในหม้อแปลงลูกเดียวกันครับ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ตอนเปิดไฟเข้ามันจึงเหลื่อมกันอยู่ ร้อยกว่าโวลท์ครับ
เพราะชุดไฟเลี้ยงของ845 จะStart ช้ากว่าครับ ด้วยเพราะหลอด
Rectifie ของชุดนี้ไม่ได้อุ่นไส้ก่อนครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ถ้าจำไม่ผิดคุณ LOUIS จะแยกไฟของ driver ออกมากจากหลอด power ใช่หรือเปล่าครับ

ไม่ควรจะให้ไฟของ grid สูงกว่า cathode นะครับ เพราะมันจะทำตัวเป็น plate ไปด้วย คือมีกระแสไหล ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆนานๆผมว่า grid อาจจะเสียหายได้ครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
มีปัญหามากวนใจอีกแล้วครับ ;D

จริงๆผมจะถามมานานแล้วครับแต่ลืม

คือช่วงที่ผมพึ่งเปิดไฟเข้าเครื่องใหม่ๆจะมีช่วงเวลาซักประมาณ 3 วินาทีได้ครับ
ที่ Grid ของ 845 มีไฟบวกมากว่า Cathode อยู่แป๊บนึงครับ คือที่ Grid 845
จะมี 300 กว่าโวลท์  แต่ที่ Cathode จะมีประมาณ 200 กว่าโวลท์ ครับ
ซึงความต่างระดับนี้จะทำให้หลอดพังเร็วขึ้นมั้ยครับ

ปล.   โดยผมะจุดไฟเลี้ยงไส้หลอดทุกหลอดก่อนทุกครั้ง ยกเว้นหลอด Rectifie
ของขดไฟสูง(6CK3) ไม่ได้อุ่นไส้อยู่หลอดเดียวครับ เพราะขดเลี้ยงไส้ของหลอด
นี้อยู่ในหม้อแปลงตัวเดียวกันครับ   ส่วนหลอดอื่นทุกหลอดจะแยกหม้อแปลง

ขอบคุณครับ
ออกมาคนละลูกครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
voltage หาได้จาก voltage ของ PS ลบด้วย voltage ที่  cathode ครับ

ค่า C หาได้จาก F=1/2PiRC โดย R คือ R cathode, F คือ low frequency cut off


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ขอบคุณทุกคนนะครับ :)

ค่าทนโวลท์ของเจ้า C ultrapathตัวนี้หาได้จากอะไรครับ
เพราะผมดูแล้วมันมีโวลท์ที่ Cathode + โวลท์จาก Power Supply ด้วยครับ
C ตัวนี้ก็น่าจะมีอย่างน้อย 1500V ถูกต้องมั้ยครับ ???

แล้วค่า C ultrapath ตัวนี้ใส่ได้ตั้งแต่ค่า uF เท่าไหร่ครับ

ช่วยดูวงจรให้หน่อยครับว่ามันน่าจะใช้ได้มั้ย ???

พี่นิ่มครับจริงๆผมจะลองต่อตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ
เพราะDividerแรงดันจาก R Cathode รอไว้แล้วครับ
แต่ยังไม่มั่นใจ กลัวมีบึ้ม!!ครับ ;D

ขอบคุณทุกคำตอบครับ :)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
C oil ตัวนั้นคงต้องใส่ครับ เพราะถ้าไม่ใส่ gain จะลดลง หรือจะเปลี่ยนเป็น C bypass แบบภาค driver ก็ได้

C ตัวนี้เป็น ultrapath ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายๆกับเป็นการป้อนกลับแบบบวกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะชดเชย gain เวลาที่ไม่มี c bypass cathode ประโยชน์ของมันอีกอย่างหนึ่งคือจะ coupling สัญญาณ AC กลับไปที่ cathode resistor แทนที่จะกลับไปที่ power supply ซึ่งจะลด color ของ C power supply ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่า Ultrapath C ตัวนี้คุณภาพต้องดีหน่อย


ออฟไลน์ pride

  • *****
    • กระทู้: 518
  • พ่อค้า & ซาเล้ง
    • www.pridediyjunk.com
 วงจรแปลกดีครับ ตรง ซีตัวที่ว่ามาผมคิดว่าเอาออกได้ครับ ( ใส่ไว้ตรงนี้ทำไมหว่า ใครอธิบายผมที  :-\ ) ค่าทนแรงดันก็ มากกว่า 518 โวลท์ละครับเผื่อ peak ตอนเปิดเครื่องด้วยคงเกือบๆ 800 ละครับเพื่อ safety ผมว่าน่าจะต่อคล่อม R ลงกราวน์อาจได้ผลดีมากกว่านะครับ ได้เกนมาด้วยแต่อาจไม่จำเป็นเพราะ 845 กำลังเหลือเฟือ  ใช้ Rg เป็นแบบ LR อืมมม ผลเทียบกับ R เฉยๆเป็นไงบ้างครับ เผื่อจะลอง หม้อแปลงหลายลูกนะครับเนี่ยะ  ;)
welcomeani" border="0 <a href="http://www.pridediyjunk.com/catalog/index.php?language=TH" >www.pridediyjunk.com [/url]


ออฟไลน์ นิ่ม

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,142
    • เพศ:ชาย
  • หาหลอดถูกๆเสียงดีๆ ของฟรียิ่งชอบ
 :oวงจรออกจะแปลกๆ ต่อเสร็จแล้วเรียกไปฟังเสียงด้วยนะครับ วงจรก่อนหน้านี้ผมไปฟังแล้วเสียงดีเสียงไม่แข็งแล้ว ;)



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
C ตัวที่ผมหมายถึงคือที่เขียนว่า C Oil  ครับ ที่อยู่ตรง B+ ครับ :)



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ถ้าหมายถึงตัว C 25uF นี่เป็น bypass ครับ ถ้าจะเอาทั้งกระบิมา drive 845 อีกทีก็ยังต้องเอาไว้ครับ ลองวาดวงจรให้ดูหน่อยสิครับ จะได้แน่ใจว่าเข้าใจตรงกัน


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
รบกวนถามครับ :)

ที่ Cathode 845 ของผมมี 474 V  ถ้าผมจะทำส่วนนี้ให้เป็น Direct Reactance
เลยอยากถามว่า    parallel feed capacitor ตัวนี้จำป็นต้องใส่ไว้มั้ยครับ

ถ้าต้องใส่ค่าทนโวลท์ของเจ้า C ตัวนี้หาได้จากอะไรครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
Gain ของหลอดต่อที่เป็น choke มันสูงกว่าที่เป็น R load ธรรมดาครับ คิดว่า degenerative feedback ก็มีค่ามากตามไปด้วย


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
แต่เหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟังนี้ผมเจอแค่ตอนที่เปลี่ยนเป็น Choke ครับ
แต่ก่อนหน้านี้ที่ใส่เป็น Rไม่ยักจะเป็นครับ :)

แต่ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ผมชักชอบเสียงของวงจรแบบนี้แล้วซิครับ 8)
เพราะมันให้เสียงเบสที่ดีกว่าแบบ Direct Coupling อย่างปกติพอสมควรครับ
วันนี้รู้สึกจะเป็นวันแรกครับที่ผมไม่ได้ไปปรับเปลี่ยนวงจรเหมือนอย่างเคยครับ :)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ก็คงต้องเป็นอย่างที่คุณ LOUIS ว่าครับ เพราะสํญญาณที่หลอดบนได้ จะเป็นสัญญาณที่ Plate ของหลอดล่าง ซึ่งจากที่เล่ามาแสดงว่าถ้าไม่ใส่ C bypass ไอ้เจ้า degenerative feedback มันมีค่ามากจนเกือบจะ cancel สัญญาณที่ Plate ของหลอดตัวบนได้เลย เอาไว้ผมจะลองเขียนเป็น model ดู แล้วค่อย post ต่อก็แล้วกันครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ที่ผมเจอมันไม่ใช่แค่เสียงเบาแบบที่ถอด C bypass cathode ออกอย่างปกตินะครับ
ผมก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นเสียงยังไงครับ  ???   
แต่ถ้าถอด C bypass cathode ของหลอด 5842 ออกอันนี้เสียงเบาลงเป็น
ปกติครับ 
แต่ที่ผมเจอกับตอนถอดของหลอดบนมันไม่ปกติครับ
ซึ่งธรรมดาแล้วถ้าเราถอด C  bypass cathode ออกมันก็จะเกนลด
แต่ก็ยังคงเสียงคล้ายของเดิมถึงจะมีบุคลิคเสียงของ C มาเกี่ยว
แต่อันนี้มันลดลงไปมาๆ  แล้วก็เสียงที่ได้ยินยังฟังเหมือนตอนเรา
ทำสายสัญญาณอินพุทหลุดครับ  ผมล่ะงงจริงๆครับ :D    :)


ออฟไลน์ pride

  • *****
    • กระทู้: 518
  • พ่อค้า & ซาเล้ง
    • www.pridediyjunk.com
ใช่ครับพี่ ตัวบนมองเป็น หลอดเพาเวอร์ไปเลย คนออกแบบถ้าผมจำไม่ผิดเค้าเหมือนจะออกแบบให้กลับกันกับ SRPP ที่มองหลอดบนเป็น CC Source ส่วนแบบนี้จะทำให้ตัวหลอดล่างคล้ายๆ กับ CC Sink  เกนที่คุณหลุยบอกว่าหายไปเพราะว่า ต่อ gain stage โดยไม่ใส่ cathode bypass เหมือนพี่ LN ว่าไว้ละครับ
welcomeani" border="0 <a href="http://www.pridediyjunk.com/catalog/index.php?language=TH" >www.pridediyjunk.com [/url]


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ดูวงจรแล้วมันผสมกันยังไงชอบกลครับ ดูเหมือนเป็น variation หนึ่งของ SRPP

ปกติถ้าเป็น SRPP, หลอดบนจะต่อกับ B+ เลยซึ่งจะเป็น cathode follower โดยรับสัญญาณจาก Plate ของตัวล่าง พอตอนนี้เพิ่ม load เข้าไปข้างบนอีก ซึ่งมันก็จะคล้ายกับการขยายสัญญาณธรรมดา ดังนั้นการใส่ capacitor bypass คิดว่าทำให้ cathode ของหลอดบนเปรียบเสมือนต่ออยู่กับ ground (เมื่อมองทางด้าน AC) หลอดบนก็เลยทำหน้าที่ขยายสัญญาณด้วย แทนที่จะเป็น cathode follower อย่าง SRPP ถ้าไม่ใส่ bypass capacitor ก็จะเกิดสิ่งที่เค้าเรียกว่า degenerative feedback (คล้ายๆกับการต่อ gain stage โดยไม่ใส่ cathode bypass cap) ทำให้ gain ลดลงครับ

พยายามวิเคราะห์จากรูปวงจรครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
สวัสดีครับ :)  ขอเล่าความยาวสาวความยืดหน่อยนะ ;D

ก่อนที่จะเปลี่ยนจาก Rเป็น Choke ผมได้ลองเปลี่ยนหลอด Driveหลอดบนด้วยครับ
จากเดิม 1626 เป็น 6FD7(Low Mu Section) ครับ   ผลคือความดังเพิ่มขึ้นนิดหน่อยครับ
แต่เสียงแหลมไม่พริ้วเหมือน 1626 ครับแต่ 6FD7 จะได้เสียงกลางที่ฟังดีกว่า 1626 ครับ
โดยผมรันกระแสที่ 20mA ทุกหลอดครับ

หลังจากนั้นผมเปลี่ยนจาก R 1.35K เป็น Choke 60H โดยได้เพิ่มฺ B+ ของชุดDrive
อีกนิดหน่อยเพื่อให้ได้กระแสที่ 20mA ครับ

ผลทางเสียงครับ

อันดับแรกคือความดังครับ มันดังกว่าตอนใช้ R แบบเห็นๆครับ
แบบว่าต้องลดวอลุ่มลงพอสมควรครับ  ถึงจะได้ความดังที่เท่าของเดิม 
ด้วยความดังที่เพิ่มขึ้นนี้มั้งครับ ทำให้ผมรู้สึกว่าเสียงมันหนัก
แน่นนุ่มนวนมาขึ้นครับ เสียงเบสดีกว่า 1626 พอสมควรครับ
แต่รู้สึกว่าเสียงแหลมจะออกมาไม่สุด เหมือนมันโลว์ออฟที่ความถี่สูงครับ
ไม่ทราบด้วยสาเหตุใดครับ

แต่ครับ..  ผมไม่สามารถถอด C 25uF ที่บายพาสแคโถดออกได้เลยครับ
ถ้าถอดออก เสียงเบาจะลงมากๆๆ ครับ แล้วก็ได้ยินแต่เสียงทู่ๆ
 เหมือนกับต่อวงจรผิดเลยครับ  ใครทราบเหตุเกิดจากอะไร
ช่วยบอกทีครับ :D
 

             


   
   


ออฟไลน์ pride

  • *****
    • กระทู้: 518
  • พ่อค้า & ซาเล้ง
    • www.pridediyjunk.com
ผมก็กำลังจะทำแบบนี้แหละครับพี่ LN แต่ไม่ได้เอาไปไดรฟ์ 845 ผมกะเอาออกมาฟังเลย  ;D

ผมเคยลองต่อแบบกระสือค่าอุปกรณ์ไม่เหมือนกัน ใช้หลอด 5687 กะ 1626 วงจรมันใช้ได้นะครับคุณหลุยส์ แต่ว่าเสียงมันออกจะเร็วๆไปหน่อย ผมใช้ อาร์ครับไม่ได้ใช้ โช๊ค ลองดูก็ได้ครับ กำลังหา solution ดีๆให้มันอยู่อาจไม่เหมาะกะ 1626 ไว้ลองหลอดอื่นต่ออีกที
welcomeani" border="0 <a href="http://www.pridediyjunk.com/catalog/index.php?language=TH" >www.pridediyjunk.com [/url]


ออนไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
อ้างถึง
1.     จากวงจรเดิมนะครับผมสามารถเอา R 1.35K ออกแล้วเอา choke 60H
ตัวเดิมที่เคยใช้เป็น Choke Plateให้กับ 5842 มาใส่แทนตำแหน่งนี้ได้มั้ยครับ
เพราะผมเห็นค่า DCR(1.54K) ของ Choke ตัวนี้ใกล้เคียงกับ R 1.35K ตัวเดิมครับ

ในทางไฟตรงแล้วไม่มีปัญหาครับ แต่พอป้อนสัญญาณเข้าไปแล้ว เนื่องจาก Imp ของ Choke จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความถี่ครับ ยิ่งความถี่สูง ทั้งชุดของหลอดบน ก็จะมีค่า Imp สูงขึ้นไปเรื่อยๆ Tonal Balance จะออกไปทางเสียงสูงครับ อันนี้ผมมีตัวอย่างเดียว คุณ Louis อาจจะได้ผลต่างจากผมก็ได้ ทดลองแล้วได้ผลยังไง ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ จะได้วิเคราะห์กันต่อ  :)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060

ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091


 1.� � �จากวงจรเดิมนะครับผมสามารถเอา R 1.35K ออกแล้วเอา choke 60H
 ตัวเดิมที่เคยใช้เป็น Choke Plateให้กับ 5842 มาใส่แทนตำแหน่งนี้ได้มั้ยครับ
 เพราะผมเห็นค่า DCR(1.54K) ของ Choke ตัวนี้ใกล้เคียงกับ R 1.35K ตัวเดิมครับ

� � � �




ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ก็จะได้ output impedance ที่ต่ำ ซึ่งก็จะสามารถขับ stage ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
มีเรื่องมารบกวนอีกแล้วครับ :)

 1.     จากวงจรเดิมนะครับผมสามารถเอา R 1.35K ออกแล้วเอา choke 60H
 ตัวเดิมที่เคยใช้เป็น Choke Plateให้กับ 5842 มาใส่แทนตำแหน่งนี้ได้มั้ยครับ
 เพราะผมเห็นค่า DCR(1.54K) ของ Choke ตัวนี้ใกล้เคียงกับ R 1.35K ตัวเดิมครับ

 2.     หลอดที่นำมาใช้ในภาค Drive แบบ Direct Coupling ตรงๆ
        ถ้าหลอดที่นั้นมี Plate Resistance ที่ต่ำมันจะมีประโยชน์กับ
        ภาคต่อไปในด้านไหนครับ



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ถ้าเทียบกันแล้ว bias เท่ากันก็ควรจะได้เท่ากันครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
2.  จากวงจรนี้ 5842 จะ Swing Voltage ได้ เท่ากับตอนที่ผมใช้ Plate Choke มั้ยครับ

คำถามนี้ยังไม่ได้ตอบช่วยตอบด้วยนะครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เข้าใจว่าตัว 2A3 ก็จะกลายเป็น 845 ใช่หรือเปล่าครับ

ต้องคำนวนหาค่า voltage ที่จะให้มันมาอยู่ที่ plate ของ 1626 ตามที่ต้องการ สมมติว่าต้องการให้ 845 มี 800V 100mA และเป็น cathode bias ซัก 90V ก็จะได้ 890V + Voltage ที่ต้องการ ค่ากระแสที่คำนวนก็ใช้วิธีเดียวกันคือแยกออกมา 25 mA ให้กับ 1626/5842 ที่เหลืออีก 75mA ก็ให้ผ่าน resistor ไปครับ

ส่วน C bypass คิดว่าไม่ต้องมีก็ได้ครับ



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ถามต่อครับ :)

1.   ไม่ใส่ C อัตราขยายจะลดมั้ยครับ

2.  จากวงจรนี้ 5842 จะ Swing Voltage ได้ เท่ากับตอนที่ผมใช้ Plate Choke มั้ยครับ

3.  ถ้าผมนำวงจรชุดนี้ไปต่อแบบ monkey amp อีกทอดนึง (มีแบบวงจรมาให้ดูครับ)
     จะมีวิธีคำนวณกระแสที่แบ่งมายังชุด Drive ตัวที่ผมเขียนรูปมาได้อย่างไรครับ 


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เอาไว้ bypass สัญญาณ AC ลง ground แต่คิดว่าไม่ต้องใส่ก็ได้ ลองดูนะครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ถามครับว่า C 25uF / 250V มีไว้เพื่ออะไร และไม่ใส่ได้มั้ยครับ :-\



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
สวัสดีครับมีเรื่องมารบกวนครับ :)

พอดีว่าผมได้อ่านบทความที่ คุณประดิชญา สิงหราช เขียนไว้เรื่อง "Synergy" SE Amp ในYEARBOOK 2002
 บทความได้เขียนอธิบายการคำนวณวงจรในจุดต่างๆไว้ ทำให้ผมเกิดความคิดจะเลียนแบบวงจรนี้ครับ
แต่ใช้จะหลอด 1626 แทนที่ 71A  โดยผมได้ดูแล้วว่ากระแสที่ 71A กับ 1626 นั้น Biasใกล้เคียงกัน 
ผมเลยดัดแปลงวงจรขึ้นมาใหม่ เลยอยากให้ช่วยดูว่ามันใช้งานจริงได้มั้ยครับ

ขอบคุณครับ :)


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
วงจรและการคำนวณ CCSนี้ผมได้มาจากคุณ LNAudio ครับ  ต้องขอบคุณคุณ LNAudio ด้วยครับ ;)
เพื่อนๆใครสนใจลองอ่านกันดูนะครับ   ถ้าไม่เข้าใจก็ถามคุณ LNAudio ได้เลยครับ

ก่อนอื่นต้องอธิบายเรื่อง CCS ก่อน ตัว CCS เปรียบเหมือน resistor ที่มีค่าสูงมากๆ
เมื่อดูจาก plate curve แล้ว การที่ใช้ค่า R load มากๆ จะทำให้ load line มีความชันน้อยลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งใกล้เคียงกับค่าอนันต์ (R = delta V / delta I, มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากๆทำให้ delta I ใกล้เคียง 0)
ซึ่งก็ทำให้หลอดมีอัตราขยายเท่ากับ u
ในความเป็นจริงจะใช้ค่า Rload มากๆไม่ได้ สมมติว่า Rp = 10K ต้องการหลอด bias ที่ 150V 3mA

 ถ้าให้ Rload = 50K, จะได้ B+ เท่ากับ 150V + (3mA x 50K) = 300V
ถ้าให้ Rload = 150K, จะได้ B+ เท่ากับ 150V + (3mA x 150K) = 600V
ถ้าให้ Rload = 350K, จะได้ B+ เท่ากับ 150V + (3mA x 350K) = 1200V

 แต่ถ้าใช้ CCS เราสามารถสร้าง effective resistance ให้มีค่าหลายๆร้อย Kohm
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ B+ มากๆได้ จากรูป Rk1 ใช้กำหนด bias
โดย bias เท่ากับ Rk1 x I และ Rk1 ทำหน้าที่เป็น feedback ผ่าน R grid 1 Mohm
ส่วน Rk2 จะใช้ค่ามากหน่อย ซัก 20-50K ค่า effective resistance เท่ากับ Rp + (u +1)Rk
โดย Rk= Rk1+Rk2 แต่เนื่องจาก Rk2 >> Rk1 ก็ใช้ Rk2 มาคำนวนเลยก็ได้

แทน Rload ด้วย CCS  ที่เป็นหลอด

ให้ Voltage ของ plate to cathode เป็น 75V, bias 3mA, u = 15,  Rp ของหลอด
 CCS 12Kohm ให้ bias หลอด CCS ประมาณ 2V ทำให้ได้ Rk ประมาณ 680 ohm
ให้ Rk2 25K จะได้ voltage คร่อม Rk ประมาณ 75V เพราะฉนั้น voltage ผ่าน CCS จะได้ประมาณ 150V
ในขณะที่ effective resistance จะได้ตามสูตร Rp+(u + 1)Rk = 12K + ( 15+1)25K = 412K
ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้ RLoad ธรรมดาจะต้องใช้ B+ 1386V ในขณะที่ CCS จะใช้ B+ แค่ 300V



ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
สวัสดีครับ

คุณ tubema :  ขอบคุณ คุณtubemanที่แนะนำหลอดมานะครับ
                    ผมจะพยายามหามาลองดูครับ(ถ้าเงินพอนะ ;D :'()
                    เรื่องฝีมือผมว่ายังแค่กระดึบๆไปเรื่อยๆครับไม่ไกลหรอกครับ ???

คุณ DIYมด   :  เรื่องการพันหม้อแปลงที่พี่สอนผมไว้ ผมได้คืนพี่ไปหมดตามกาลเวลาแล้วครับ ;D
                    ผมขี้ลืมง่ายครับ :P   แต่ไม่เป็นไรครับยังมีเซียนพันหม้อแปลงจากระยอง
                    อยู่ใกล้ตัวครับ  พี่นิ่มนั่นเองครับ ;D  สงสัยต้องรบกวนพี่นิ่มแล้ว

คุณ Mr. One :  ผมมีวิธีคำนวณ CCS แบบหลอดมาครับ :)





ออฟไลน์ DIY มด

  • DIY มด DIY หมด
  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,664
    • เพศ:ชาย
  • ตัวจริง เสียงจริง
ยอดเยี่ยมครับคุณหลุยส์  ;)

ออกแบบแอมป์เองไม่ถือว่าเป็นโรคจิตหรอกครับ แต่ออกแบบเองแล้วไม่ดังเนี่ยะสิพาลจะทำให้เป็นโรคจิดได้ง่ายๆนา อิ อิ  :D :D

ผมว่าเสร็จจากแอมป์ตัวนี้แล้ว คงไม่แคล้วต้องต่อด้วย DIY OPT แน่ๆเลย จริงไม๊ครับ  ;D ;D
ข้อมูลส่วนตัวครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=10172.0


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
CCS ให้ 845

มันคือวงจรควบคุมกระแสคงที่ใช่หรือไม่ครับ ท่านใดมีรูปวงจรโชว์บ้างครับ 8)

รบกวนถามคุณ Tubeman หรือท่านอื่นๆครับ ว่าการคุมกระหลอดทำให้เสียงทำให้เสียงดีขึ้น แค่ใหนครับ เห็นส่วนใหญ่เน้นกันที่ ภาคจ่ายไฟมากว่า