ผมสงสัยว่าทำไมโรงดิจิตอลถึงภาพชัดกว่าโรงธรรมดาเหรอครับ
เค้าใช้ฟิล์มเหมือนกันหรือเปล่าครับ
ถ้าใช้ฟิล์มเหมือนกันทำไมถึงเรียกโรงดิจิตอลครับ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ
เรียน คุณ ko2521
ถามแบบนี้ ถามสั้นแต่ตอนตอบต้องร่ายยาวหน่อยครับ เริ่มจากคำถามง่ายๆ ก่อนนะครับ
สำหรับทำไมที่เค้าเรียกว่า โรงดิจิตอลกับโรงธรรมดา ก้อคือเกิดจากระบบของเครื่องฉายที่นำมาใช้ไงครับ ถ้าเป็นโรงธรรมดา เค้าก้อใช้เครื่องฉายฟิลม์หนังไงครับ ถ้าเป็นโรงระบบดิจิตอล เค้าก้อใช้เครื่องฉายที่เป็นระบบ DLP หรือ D-ILA ไงครับ
สำหรับคำถามที่ถามว่า ถ้าใช้ฟิล์มเหมือนกันทำไมถึงเรียกโรงดิจิตอลครับ ตอนนี้การทำถ่ายทำหนังมีอยู่ 3 แบบครับ
แบบที่ 1 หรือแบบดั้งเดิมคือใช้ม้วนฟิลม์ถ่ายหนัง โดยถ่ายที่ 24 เฟรมต่อวินาที นี่หละครับที่เป็นที่มาของระบบ 24P ที่กำลังใช้บนแผ่น BD ไงครับ การถ่ายแบบนี้ ก้อคือถ่ายด้วยฟิลม์ การตัดต่อและการทำ Master ทำบนแผ่นฟิลม์ทั้งหมด โดยม้วน Master จะถูกเก็บไว้ที่ Studio จากนั้นก้อจะ copy เป็น Master 2 เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แต่ละประเทศนำไป Copy อีกทอดนึง ซึ่งกว่าจะฉายบนจออาจจะถูก copy ไปอีกหลายทอด เราอาจจะได้ดู Copy ที่ 6 หรือ 7 แล้วก้อได้ ที่แย่ไปกว่านั้น ม้วนฟิลม์ ที่มาใช้ copy ในบ้านเรา จะมีคุณภาพถูกเพื่อลดต้นทุน หลังจากฉายไปไม่กี่วัน ก้อจะเกิดรอยขีดข่วนต่างๆ บนฟิลม์ ทำให้ภาพที่เราได้ดูคุณภาพ อาจจะตกลงไปไม่ถึง 50% จากม้วนต้นฉบับ แบบนี้ยังเป็นที่นิยมจากผู้กำกับภาพยนตร์ทั่วโลกอยู่ครับ เนื่องจากยังเป็นมาตรฐานที่ได้ความละเอียดสูงสุดแบบเกิน 4K สำหรับฟิลม์ 35 มม. และอาจะถึง 15K ในกรณีของฟิลม์ 120 มม. ที่ใช้บนฟิลม์ IMAX ครับ
แบบที่ 2 ถ่ายโดยใช้กล้องดิจิตอล Professional HD ที่ 1920 x 1080 @ 24P เป็นระบบ Uncompress คือไม่มีการบีบอัดข้อมูล (ไม่เหมือนกล้อง HD ตัวละ 50,000 บาท ที่ใช้กันอยู่นะครับ พวกนี้เป็นระบบบีบอัดทั้งหมดครับ คุณภาพต่างกันเยอะ) แล้วนำมาตัดต่อ ทำ Master ทั้งหมดบนเครื่อง Workstation ก่อนนำส่งไป Upload ไปเก็บไว้บน Host ก่อนที่จะให้คนซื้อหนังไปฉายไป Download File ไปเก็บไว้เพื่อนำไปฉายในโรงหนังฉายผ่านระบบ Digital Theater จะเห็นว่าระบบนี้ไม่มีฟิลม์เข้ามาเกี่ยวข้องเลยครับ คุณภาพที่ได้จะอยู่ที่ 2K ถึงแม้ว่าความละเอียดอยู่ที่ 2K ก้อจริงๆ แต่เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพตกลงจากการ Copy Film จึงได้คุณภาพที่เกือบเทียบเท่าบนเครื่อง Workstation ครับ
แบบที่ 3 คล้ายกับแบบที่ 2 คือทำงานบนความละเอียด 2K เหมือนกัน แต่ต่างกันที่ไม่ได้ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายแต่ทำงานบน Computer Graphic Animation (CGA) ทั้งหมด หนังพวกนี้ก้อเช่น Dinosaur, Beowolf, Cars, และอื่นๆ ครับ คุณภาพที่ได้จะแน่นอนที่สุด เนื่องจากสามารถควบคุมและแต่งทุกอย่างได้หมดและไม่มี Noise ในฉากมืดเลย เนื่องจากสร้างขึ้นมาใหม่บน Computer อย่างเดียวครับ ในขณะที่กล้องถ่ายฟิลม์กับกล้อง Digital HD ยังมีปัญหาเรื่อง Noise ที่วิ่งเป็นยุงในฉากที่ค่อนข้างมืด หรือมี Grain ฟิลม์ขึ้นในฉากสว่าง
คราวนี้พอมาสรุปการทำ ต้นฉบับสำหรับโรงหนังก้อจะแบ่งเป็นแบบนี้ครับ
สำหรับโรงที่ใช้เครื่องฉายฟิลม์จะแบ่งเป็น
ถ่าย Film -> Edit Film -> Master Film -> Copy Film -> ฉาย ฟิลม์ (Pure Analog)
ถ่ายกล้อง Hi-Def หรือ Computer CGA -> Edit Digital -> Master Digital -> แปลงเป็น Film -> Copy Film -> ฉายฟิลม์ (Half Digital/Analog)
สำหรับโรงที่ใช้เครื่องฉาย Digital จะแบ่งเป็น
ถ่าย Film -> Edit Film -> Master Film -> แปลงเป็น Digital -> Copy Digital -> ฉายบน Digital Cinema (Half Analog/Digital)
ถ่ายกล้อง Hi-Def หรือ Computer CGA -> Edit Digital -> Master Digital -> Copy Digital -> ฉายบน Digital Cinema (Pure Digital)
หมายเหตุ จริงๆ ยังมีปลีกย่อยในการทำ Edit อีกซึ่งที่กล่าวมาเป็นแบบย่อๆ ให้พอเข้าใจง่ายครับ ไม่ยังงั้นเดี๋ยวยิ่งงงใหญ่เลยครับ แต่ถ้าอยากรู้ลองเขียนมา Request ได้ครับ จะค่อยๆเล่าให้อ่านครับ
สรุปก้อคือสาเหตุที่ทำไมดูบนโรงที่เป็น Digital Cinema ชัดกว่าก้อตรงเรื่องการ Copy นี่แหละครับ ที่แบบ Pure Analog คุณภาพจะตกลงไปเรื่อยๆ จาก 4K อาจจะเหลือแค่ 1.5K ในขณะที่แบบ Pure Digital นั้นคุณภาพจะคงที่ๆ 2K ตลอดครับ
คงพอเข้าใจแล้วนะครับ
Ko