ผมคิดว่าสะเป็กทางไฟฟ้าเป็นตัวชี้นำได้อย่างหนึ่ง แต่วัสดุที่ใช้ทำก็ทำให้เกิดเสียงที่ต่างกันได้ การเลือกใช้หลอดเบอร์เดียวกันแม้ 7308 ก็ยังมีราคาไม่ถึงร้อยเหรียญกับสี่ร้อยกว่าเหรียญนะครับ ถ้าจะพิถีพิถันเล่นของดีสุดๆ ก้ต้องคิดกันถึงขนาดนี้ครับ
ถ้าสังเกตุให้ดีๆ หลอด 6DJ8 ความลิเนีบร์เหนือกว่าเบอร์ E182CC นะครับ ลองนับช่องเล็กๆ ของหลอด E182cc จะมีช่วงแรกๆ 5 ช่องตารางกริดของกราฟ (ใกล้กริดที่ศูนย์) ส่วนพอกริดลบมากๆ จะเหลือแค่ 4 ช่องเท่านั้น ส่วน 6DJ8 เท่ากันตลอดครับ (โทษทีดูสลับกันครับ
![knock K]](https://www.htg2.club/Smileys/default/knocked.gif)
งั้นมันก็น่าจะเอามาลองฟังเสียงจริงๆ กันสักตั้งละครับซะแล้วละครับ) การกดูหลอดต้องดูหลายๆ อย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดต้องลองไปเสียงกันดูนะครับ สิ่งที่เหนือกันคือ เสียงที่อวบใหญ่กว่ากัน น๊อยส์น้อยกว่ากัน (ของถูกๆ ผมเคยเอาใส่ CAT เร่งโวลลุ่มสุด เสียงซ่ากระจายครับ ส่วนของดีๆ เร่งโวลลุ่มสุดก้ไม่มีวี๊ดๆๆ หรือซ่าๆๆๆ ครับ) ไมโครโฟนิกต่ำ คือแม้จะทดลองเคาะเสียงของดีก็จะเบากว่า มิติซาวด์สะเต็จดีมีความกว้างใหญ่ลึก หลอดเบอร์เดียวกัน แม้หลอดต่างยี่ห้อยังให้ไม่เท่ากัน ทานสะเพอร์เรนท์ดีมากๆ หลอดที่ให้เสียงขุ่นมัวผมก็ไม่ชอบครับ นึกออกแค่นี้ก่อนละกัน

เรื่องการเอาบานลานซ์ทานสะฟอร์เมอร์ พี่ยังเห้นว่าวางที่ปรีจะเหมาะกว่า ดูเป็นปรีระดับอาชีพมากกว่า ปรีตัวนี้ถ้าได้หลอดดีๆ มาใส่พี่คิดว่าเอาไปเทียบระดับของแพงๆ ได้เลย เผื่อวันหน้าวันหลัง อาจลองยกไปชนกับปรีไฮเอนด์ดูก็ยังได้ (อยากเอาไลน์บาลานซ์มาขับ Krell 250 ดูเหมือนกัน เพราะการใช้สายบานซ์กับเครื่องไฮเอนด์ส่วนใหญ่ให้เสียงออกมาดีกว่าใช้สายอาร์ซีเอครับ) ตัดใจลงทุนหา 7308 มินิวัตต์หรือเอ็มเพอเร้ค (อักษรขาว) สัก 2 คู่ แล้วปรีตัวนี้น่าจะเป็นปรีเรฟเฟอร์เรนท์ของ DIYer ได้นะครับ