HTG2.club

คุยเฟื่องเรื่องระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Mr.Big

  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,754
มีคนขุดขึ้นมาอีก แฮะ

ร่วมด้วยนิดนึงเป็นความรู้ใหม่เพิ่งได้ 2 เดือนที่แล้วคือ

บ้านผมไฟ 3เฟส แยก Breaker อย่างดี ทุกจุดแยกหมด พบว่า

ถึงผมจะแยก Breaker ทุกจุดแล้วก็ตาม เวลาเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น (Breaker แยกมีหน้าห้องน้ำและตรงตู้เมน)

TV SONY 55" นิ้วของผมก็จะมีเสียง จีๆๆๆ อยู่ดี แต่ถ้าผ่านเครื่องกรองไฟ ผ่านฉลุยครับ เสียงหาย+ภาพสวยขึ้นนิดนึง=Happy มากๆ

 :headphone



ขอบคุณที่แบ่งปัน


ออฟไลน์ Wolverine

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,018
    • เพศ:ชาย
  • ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เลี้ยงไม้น้ำ
มีคนขุดขึ้นมาอีก แฮะ

ร่วมด้วยนิดนึงเป็นความรู้ใหม่เพิ่งได้ 2 เดือนที่แล้วคือ

บ้านผมไฟ 3เฟส แยก Breaker อย่างดี ทุกจุดแยกหมด พบว่า

ถึงผมจะแยก Breaker ทุกจุดแล้วก็ตาม เวลาเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น (Breaker แยกมีหน้าห้องน้ำและตรงตู้เมน)

TV SONY 55" นิ้วของผมก็จะมีเสียง จีๆๆๆ อยู่ดี แต่ถ้าผ่านเครื่องกรองไฟ ผ่านฉลุยครับ เสียงหาย+ภาพสวยขึ้นนิดนึง=Happy มากๆ

 :headphone

ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เลี้ยงไม้น้ำ ชีวิตนี้ สุขจริงหนอ


ออฟไลน์ nutsaint

  • ****
    • กระทู้: 337
    • เพศ:ชาย
เข้ามาถามด้วย ที่บ้านเป็นโรงงานใช้ไฟ 3 เฟสอยู่ครับ แต่ตอนต่อมาที่บ้านต่อเป็น 2 เฟส
ตอนนี้จะทำห้องโฮมเธียเตอร์แยกออกมาข้าง ๆ บ้าน

อยากถามว่า ควรจะเดินไฟ 3 เฟสออกมาจากโรงงานเลย หรือต่อ 2 เฟสจากจุดที่จะเข้าบ้านดีครับ


ออฟไลน์ mew2005

  • ****
    • กระทู้: 448
    • เพศ:ชาย
บ้านใหม่ผม  กำลังสร้างครับ  ขอคำแนะนำในการดูหน่อยครับ  หมู่บ้านน่าจะให้ 1 เฟสครับ  มิเตอร์ 15/30   ไม่อยากมาทำใหม่  เดินสายลอยครับ   :help

ขอเป็นข้อ ๆ  เลยก็ดีครับ   คุ้มมั้ยถ้าจะเพิ่มเงินเพิ่อใช้ไฟ 3 เฟสครับ    พื้นที่บ้าน 104 วา  มี 3 ห้องนอน  4 ห้องน้ำ  ห้องนั่งเล่น  โครงการต่อไปห้องโฮม ยังหาตำแหน่งลงไม่ได้ครับ

พื้นที่ใช้สอย  210  ตารางเมตร ครับ


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
   กลับมาอีกครั้งครับหลังจากที่ได้ห่างหายไปนานยังไงก็ขอสวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวเวป HTG2.net ทุกท่านด้วยนะครับ ตอนนี้ผมกำลังเริ่มที่จะทำ Project ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านอย่างจริงจังยังไงหากท่านใดกำลังประสบปัญหาที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านที่แก้ไข แล้วไม่หายขาดยังไงก็ลองส่งข้อความมาสอบถามได้นะครับ ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและรับคำชี้แนะจากทุกท่านครับผม โอกาศหน้าผมจะเอารูปแผงควบคุมระบบไฟฟ้าที่บ้านมาโพสให้ชมนะครับ เนื่องจากระบบไฟฟ้าดังกล่าวเป็นฝีมือของช่างผู้ขำนาญการที่ได้อยู่ในวงการไฟฟ้ามาอย่างยาวนานถึง 40 กว่าปีแล้วอ่ะครับ


ออฟไลน์ อูฐ

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 4,631
กระทู้ นี้   มีความรู้มากคับ  ขอบคุณ มากคับ   ไว้มีปัญหา จะมาถามบ้างน่ะคับ    อันทีจิงเวปนี้  มีคนมีความรุ้   เยอะมาก  ไม่ว่า  ความรู้ เรื่อง   ไฟฟ้า  เรื่อง เสียง  เรื่อง ภาพ  เรื่อง อุปกรณ์เสริม  เรื่อง  ดีไอวาย  แต่ช่วงหลัง ๆ    พวกท่าน เหล่านี้  ชอบอ่าน  แต่ไม่ค่อยชอบโพส    ฝากเพื่อน ๆ ที่เก่ง ๆ ทั้งหลาย  มาช่วยให้ความรุ้เพื่อน ๆ เยอะ ๆ หน่อยน่ะคับ

ร้านค้า ในเวป    ก็  อย่ามัวแต่โมษณา  ขายสินค้าตัวเอง  มาช่วยโพส บทความ  แง่  ความรู้ และ วิชาการบ้าง    จะได้เป็นการ  โปรโมท  ร้านท่าน ทางอ้อม ด้วยอ่ะคับ


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
คือว่าตอนนี้ใช้ได้เป็นปกติแล้วใช่ไหมครับ เจ้าสายไฟที่มีปัญหาทึ่ว่าอ่ะครับ


ออฟไลน์ cars

  • ***
    • กระทู้: 172
พอดีมีปัญหาอยู่นิดหน่อยครับคือผมสายไฟสำเร็จรูปจากโรงงานต่อผ่านsilicon vr100ie ก่อนเข้าlcd ใช้ NFC1 แล้วไฟpower phase ground ขึ้นครบ แต่พอใช้สายไฟประกอบเองไฟphase มันกลับหายไปแต่มีไฟเข้าจออยู่ครับ ลองสับไปสับมาก็เหมือนเดิม รบกวนหน่อยครับ :black_eye :black_eye
ผมขอสอบถามขอมูลเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ สายไฟที่บอกว่าต่อเองนั้นเมื่อลองเสียบใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า นั้นไม่สามารถใช้งานเรื่องไฟฟ้าได้เลยใช่ไหมครับ ลองตรวจสอบเองคร่าวๆก่อนนะครับว่าเมืีอเราทำการเสียบสายเข้าไปแล้ว เมืี่อใชัไขควงลองไฟแตะทึ่สายไฟแลัวมีไฟรึปล่าว ลองไล่สายดูให้ครบครับว่ามีไฟเข้ามาสักเส้น (ยังไม่ตัองตัองสายไฟเขัาปลั๊กนะครับลองกับสายไฟเปล่าๆเลย ระวังไฟฟ้าดูดด้วยแล้วกันครับ) เนื่องจากมีโอกาศที่สายไฟฟ้าทึีเราใช้นั้นจะขาดทางด้านใน หลังจากนั้นก็ลองตรวจสอบดูว่าเมื่อขันสายไฟฟ้าเข้าปลั๊กแล้วนั้น การเชื่อมต่อสายไฟนั้นแน่นรึปล่าว เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่การเชืีอมต่อของปลั๊กนั้นจะไม่ดี ยังไงลองตรวจสอบด้วยตัวเองดูก่อนนะครับไว้ผมมีโอกาศได้คุยกับพ่อ ผมจะลองถามท่านดูช่วงนี้งานยุ่งมากๆครับ ตัองทำโอทีทุกวันเลยครับเลยไม่ค่อยได้มีโอกาศเช็คข้อความสักเท่าไหร่ ยังไงถ้าไม่ได้ยังไงช่วยรายงานผลด้วยครับ จะได้หาทางแก้ไขต่อไปให้ดีถ่ายรูปสายต่อเจัาปัญหามาให้ชมก็ดีนะครับ จะได้เข้าใจตรงกันครับเห็นภาพน่าจะเข้าใจดีกว่า
สายไฟที่ประกอบเออมันก็ใช้ได้ครับมีไฟตอนนี้เอาไปต่อกับเครื่องฺBLURAY :D :D :D


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
พอดีมีปัญหาอยู่นิดหน่อยครับคือผมสายไฟสำเร็จรูปจากโรงงานต่อผ่านsilicon vr100ie ก่อนเข้าlcd ใช้ NFC1 แล้วไฟpower phase ground ขึ้นครบ แต่พอใช้สายไฟประกอบเองไฟphase มันกลับหายไปแต่มีไฟเข้าจออยู่ครับ ลองสับไปสับมาก็เหมือนเดิม รบกวนหน่อยครับ :black_eye :black_eye
ผมขอสอบถามขอมูลเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ สายไฟที่บอกว่าต่อเองนั้นเมื่อลองเสียบใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า นั้นไม่สามารถใช้งานเรื่องไฟฟ้าได้เลยใช่ไหมครับ ลองตรวจสอบเองคร่าวๆก่อนนะครับว่าเมืีอเราทำการเสียบสายเข้าไปแล้ว เมืี่อใชัไขควงลองไฟแตะทึ่สายไฟแลัวมีไฟรึปล่าว ลองไล่สายดูให้ครบครับว่ามีไฟเข้ามาสักเส้น (ยังไม่ตัองตัองสายไฟเขัาปลั๊กนะครับลองกับสายไฟเปล่าๆเลย ระวังไฟฟ้าดูดด้วยแล้วกันครับ) เนื่องจากมีโอกาศที่สายไฟฟ้าทึีเราใช้นั้นจะขาดทางด้านใน หลังจากนั้นก็ลองตรวจสอบดูว่าเมื่อขันสายไฟฟ้าเข้าปลั๊กแล้วนั้น การเชื่อมต่อสายไฟนั้นแน่นรึปล่าว เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่การเชืีอมต่อของปลั๊กนั้นจะไม่ดี ยังไงลองตรวจสอบด้วยตัวเองดูก่อนนะครับไว้ผมมีโอกาศได้คุยกับพ่อ ผมจะลองถามท่านดูช่วงนี้งานยุ่งมากๆครับ ตัองทำโอทีทุกวันเลยครับเลยไม่ค่อยได้มีโอกาศเช็คข้อความสักเท่าไหร่ ยังไงถ้าไม่ได้ยังไงช่วยรายงานผลด้วยครับ จะได้หาทางแก้ไขต่อไปให้ดีถ่ายรูปสายต่อเจัาปัญหามาให้ชมก็ดีนะครับ จะได้เข้าใจตรงกันครับเห็นภาพน่าจะเข้าใจดีกว่า


ออฟไลน์ cars

  • ***
    • กระทู้: 172
พอดีมีปัญหาอยู่นิดหน่อยครับคือผมสายไฟสำเร็จรูปจากโรงงานต่อผ่านsilicon vr100ie ก่อนเข้าlcd ใช้ NFC1 แล้วไฟpower phase ground ขึ้นครบ แต่พอใช้สายไฟประกอบเองไฟphase มันกลับหายไปแต่มีไฟเข้าจออยู่ครับ ลองสับไปสับมาก็เหมือนเดิม รบกวนหน่อยครับ :black_eye :black_eye


ออฟไลน์ Tui

  • *****
    • กระทู้: 748
    • เพศ:ชาย
ขอเสริมหน่อยครับ เกี่ยวกับมิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดอยู่หน้าบ้านนะครับ

ที่เราเรียก หม้อแปลง อยากให้เรียกว่า มิเตอร์ไฟฟ้า จะดีกว่านะครับ ความจริงชื่อเรียกว่า วัตต์-ฮาว มิเตอร์ (WATT-HOUR  METER)

หม้อแปลงที่การไฟฟ้าใช้คือ อุปกรณ์แปลงไฟฟ้าแรงดันสูง(11,22,33,69 kV) มาเป็นไฟฟ้าแรงดันต่ำ (380,220V)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มิถุนายน, 2011, 09:13:38 pm โดย Tui »
We Are Not Alone


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
2? "มีคนแนะนำให้ เอา Neutron กับ Ground เชื่อมกันในตู้เมนไฟด้วย " อยากทราบว่าทำเพื่ออะไรครับ และถ้าอย่าง

นี้เราเชื่อม กันที่ปลักเลยได้ไหมครับ ผลจะต่างอย่างไร


มาจากตรงนี้ครับ จะได้ไม่เข้าใจผิดกันครับ

http://www.teerawatj.com/webboard/index.php?topic=63.15
ผมได้ลองเข้าไปอ่านข้อความของ K. Teerawat ดูแล้วผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า ในการที่เรานั้นใช้สายไฟฟ้าใหญ่ๆบางครั้งสิ่งที่คนทั่วไปมองข้าม นั้นก็คือการขันน็อตของปลั๊กเพื่อใช้ในการเชื่อมระบบไฟฟ้า โยปกติทั่วไปนั้นปลั๊กจะสอดสายได้ไม่เกินสายขนาด 4 sqm. และในกรณีในการพับสายเก็บข้างในนั้นก็ค่อนข้างลำบากอย่างมาก จึงทำให้มีโอกาศคลายตัวของน็อตที่ขันไว้อย่างมาก ถ้ายังไงหากบ้านของท่านที่ได้เปลี่ยนสายปลั๊กใหญ่ไปแล้ว หากมีโอกาศลองเปิดดูข้างในปลั๊กได้เลยนะครับ ลองพิสูจน์ดูว่าช่างไฟที่ได้ทำให้นั้น ได้พับสายไฟเข้าไปจัดเก็บเป็นเช่นไรเรียบร้อยหรือไม่ ผมว่าในปัจจุบันปลั๊กไฟนั้นทำออกมาให้เสียบสายได้ไม่เกิน 2 เต้าเสียบอยู่แล้วเนื่องจากจำเป็นที่ต้องมีสายกราวด์พ่วงเข้าไป ดังนั้นหากเราใช้สายไฟฟ้าขนาด 2.5 เราก็จะสามารถใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดถึง  3,740 watt ต่อปลั๊กหนึ่งจุดที่เราได้ทำการต่อมาอยู่แล้ว ผมว่าสายขนาด 2.5 sqm. นั้นเป็นสายที่เหมาะสมที่สุดในการใช้ต่อกับปลั๊กไฟบ้าน เนื่องจากสามารถให้กระแสไฟฟ้าได้สูงและก็ยังอ่อน ซึ่งง่ายต่อการขันน็อตของปลั๊ก และพับสายไฟจัดเก็บไว้ภายในของช่องปลั๊กด้วย (อันนี้มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสเองมากับตัวครับ) ยังไงหากมีโอกาศผมแนะนำครับว่า ควรลองเปิดฝาปล๊กถอดสกูรออกมาเลยครับ ดูว่าช่างไฟที่เราไว้ใจในการทำการต่อระบบที่เราต้องใช้ความละเอียดสูงนั้น ได้ทำการต่ออย่างไรให้เราเรียบร้อยดีแค่ไหน หากเป็นการทำเฟอร์นิเจอร์ไม่กั้นโครงผมว่าก็พอทำเนา เนื่องจากทางด้านหลังนั้นจะโปร่งทำให้การเก็บสายไฟฟ้านั้นทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นกำแพงปูนช่างจะต้องใช้ กล่องเหล็กเพื่อทำเป็นช่องสำหรับปลั๊ก หรือสวิทซ์ไฟจึงทำให้ค่อนข้างเก็บสายไฟฟ้าได้ลำบาก


ออฟไลน์ oilsphinx

  • *
    • กระทู้: 43

ต้องขอโทษ K. Lufee ด้วยครับ

ผมอ่านไม่ละเอียดเอง แล้วเข้าใจไปว่า ไม่ต่อกราวด์ไปยังปลั๊กไฟครับ

ต้องขอโทษด้วยครับ


ออฟไลน์ pmfur

  • *
    • กระทู้: 39
2? "มีคนแนะนำให้ เอา Neutron กับ Ground เชื่อมกันในตู้เมนไฟด้วย " อยากทราบว่าทำเพื่ออะไรครับ และถ้าอย่าง

นี้เราเชื่อม กันที่ปลักเลยได้ไหมครับ ผลจะต่างอย่างไร


มาจากตรงนี้ครับ จะได้ไม่เข้าใจผิดกันครับ

http://www.teerawatj.com/webboard/index.php?topic=63.15


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122

พอดีผมได้เข้ามาอ่านกระทู็นี้ครับและผมรู้สึกติดใจนิดนึงตรงข้อความนี้ครับ

ที่ K. Lufee ได้ตอบไว้ว่า  ในกรณีที่ต้องการต่อกับปลั๊ก อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงจะต้องต่อสายกราวด์มาจากปลั๊กอ่ะครับ หรือว่าต้องการลดระยะการเดินของ

สายไฟ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องเข้าใจก่อนว่าสายกราวด์ ที่เราต่อเข้ามาสู่ปลั๊กนั้น เราก็ลากสายมาจากตู้เมนนั่นเองครับผ มเนื่องจากสายทุกอย่างนั้นโดยปกติทั่วไป ก็จะถูก

จ่ายมาจากตู้เมนไฟฟ้าเสมอๆครับ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปต่อเอาจากที่ปลั๊กเลย

ผมขอตอบว่า จำเป็นครับ จำเป็นที่จะต้องต่อสายกราวด์ไว้ที่ปลั๊กทุกตัวเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน 
(ในที่นี้ผมหมายถึงความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้นะครับ ยังไม่รวมเรื่องเสียงจากเครื่องเล่นต่างๆนะครับ)

ผมขออธิบายเรื่ิองการต่อสายกราวด์คร่าวๆ นะครับว่า
โดยปกติสายกราวด์ จะต่อไว้สำหรับการ bypass ไฟฟ้าลงดิน โดยจะต่อจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือปลั๊กไฟ ไปยังตู้เมนไฟฟ้าที่มีจุดต่อกราวด์และจากจุดต่อก็จะ

ต่อไปยังตัวนำลงดิน  ซึ่งสายกราวด์จะต่อเข้ากับโครงโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้า (ยกตัวอย่างครับ ในเครื่องเสียงที่มีปลั๊ก IEC ลองแกะดูภายในเครื่องเสียงของแต่ละท่านดู

ครับ จะมีสายนึงต่อเข้าโครงโลหะของเครื่องเสียงอยู่จุดนึง ต่อเข้ากับปลั๊ก IEC 3ขา ตรงขั้วต่อด้านบนสุดซึ่งเป็นขั้วกราวด์ โดยปกติจะใช้สายสีเขียวหรือสีเขียวคาดเหลืองต่อครับ)

ที่นี้สมมติว่า สายไฟเส้น Line ซึ่งมีเป็นสายมีไฟ เกิดชำรุดและสายดังกล่าวได้แตะกับตัวเครื่องที่เป็นโลหะ จะเกิดอะไรขึ้นครับ? สิ่งที่จะเกิดก็คือ ไฟฟ้าจะไหลไปที่โครงโลหะ เพราะโลหะก็เป็นตัวนำชนิดหนึ่ง และหากไม่ได้ต่อสายกราวด์ไว้แล้วมีคนไปแตะโดน ไฟก็จะรั่วไปสู่คนลงดิน แต่ถ้าต่อสายกราวด์ไว้ไฟก็จะผ่านสายกราวด์ไปลงดิน ไม่ผ่านคน คนจึงปลอดภัย ซึ่งไฟฟ้าจะไหลไปหาจุดที่มีความต้านทานน้อยที่สุด ซึ่งไฟฟ้าไหลผ่านได้สะดวก (คนมีความต้านทานประมาณ 500000 โอห์มครับ ถ้าตัวไม่เปียกนะ)

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องต่อสายกราวด์มที่ปลั๊กครับ
    นิดนึงนะครับสิ่งที่ผมกล่าวถึงผมไม่ได้ หมายความว่าการต่อสายกราวด์เข้าสู่ปลั๊กนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่ K. Oilsphinx กล่าวมานั้นถูกต้องที่สุด แต่ที่ผมอยากจะถาม K. Pmfur เพิ่มเติมคือผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องการ ต่อสายกราวด์พ่วงกับปลั๊กต่างหากหล่ะครับ เนื่องจากหากต้องการต่อสายกราวด์พ่วงกับปลั๊กนั้น สิ่งที่เราต้องแน่ใจก็คือสายไฟที่เราต่อมาจากเมนนั้น มีขนาดสายไฟใหญ่เพียงพอเพื่อที่จะให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วนั้น สามารถไหลลงสู่พื้นดินได้อย่างรวดเร็ว และก็เป็นการลดโหลดของกระแสที่จะไหลเข้าสู่สายไฟต่างหากครับ แต่โดยส่วนมากสายไฟที่ใช้เป็นสายกราวด์ ที่ต่อเข้ากับปลั๊กนั้นจะใช้เป็น 1.5 sqm. จึงทำให้ไม่ควรที่จะต่อสายกราวด์พ่วงเข้ากันหลายจุด แต่หากมีความจำเป็นที่จะใช้ก็ต้องแน่ใจอีกว่า จุดที่เราต้องการต่อไปนั้นมีการใช้กระแสไฟฟ้าที่ไม่มาก เพื่อเป็นการลดภาระโหลดที่สายไฟฟ้าครับ แต่ถ้าจะให้ดีควรต่อเข้ากับสายเชื่อมเมนของการจ่ายไฟเข้าห้อง ณ. จุดนั้นๆมากกว่าครับ ส่วนเรื่องการต่อสายไฟเข้ากับหม้อแปลงนั้น เดี๋ยวผมขอลองตรวจสอบกับผู้รู้อีกท่านให้ดีกว่านะครับผม


ออฟไลน์ oilsphinx

  • *
    • กระทู้: 43

พอดีผมได้เข้ามาอ่านกระทู็นี้ครับและผมรู้สึกติดใจนิดนึงตรงข้อความนี้ครับ

ที่ K. Lufee ได้ตอบไว้ว่า  ในกรณีที่ต้องการต่อกับปลั๊ก อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงจะต้องต่อสายกราวด์มาจากปลั๊กอ่ะครับ หรือว่าต้องการลดระยะการเดินของ

สายไฟ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องเข้าใจก่อนว่าสายกราวด์ ที่เราต่อเข้ามาสู่ปลั๊กนั้น เราก็ลากสายมาจากตู้เมนนั่นเองครับผ มเนื่องจากสายทุกอย่างนั้นโดยปกติทั่วไป ก็จะถูก

จ่ายมาจากตู้เมนไฟฟ้าเสมอๆครับ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปต่อเอาจากที่ปลั๊กเลย

ผมขอตอบว่า จำเป็นครับ จำเป็นที่จะต้องต่อสายกราวด์ไว้ที่ปลั๊กทุกตัวเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน 
(ในที่นี้ผมหมายถึงความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้นะครับ ยังไม่รวมเรื่องเสียงจากเครื่องเล่นต่างๆนะครับ)

ผมขออธิบายเรื่ิองการต่อสายกราวด์คร่าวๆ นะครับว่า
โดยปกติสายกราวด์ จะต่อไว้สำหรับการ bypass ไฟฟ้าลงดิน โดยจะต่อจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือปลั๊กไฟ ไปยังตู้เมนไฟฟ้าที่มีจุดต่อกราวด์และจากจุดต่อก็จะ

ต่อไปยังตัวนำลงดิน  ซึ่งสายกราวด์จะต่อเข้ากับโครงโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้า (ยกตัวอย่างครับ ในเครื่องเสียงที่มีปลั๊ก IEC ลองแกะดูภายในเครื่องเสียงของแต่ละท่านดู

ครับ จะมีสายนึงต่อเข้าโครงโลหะของเครื่องเสียงอยู่จุดนึง ต่อเข้ากับปลั๊ก IEC 3ขา ตรงขั้วต่อด้านบนสุดซึ่งเป็นขั้วกราวด์ โดยปกติจะใช้สายสีเขียวหรือสีเขียวคาดเหลืองต่อครับ)

ที่นี้สมมติว่า สายไฟเส้น Line ซึ่งมีเป็นสายมีไฟ เกิดชำรุดและสายดังกล่าวได้แตะกับตัวเครื่องที่เป็นโลหะ จะเกิดอะไรขึ้นครับ? สิ่งที่จะเกิดก็คือ ไฟฟ้าจะไหลไปที่โครงโลหะ เพราะโลหะก็เป็นตัวนำชนิดหนึ่ง และหากไม่ได้ต่อสายกราวด์ไว้แล้วมีคนไปแตะโดน ไฟก็จะรั่วไปสู่คนลงดิน แต่ถ้าต่อสายกราวด์ไว้ไฟก็จะผ่านสายกราวด์ไปลงดิน ไม่ผ่านคน คนจึงปลอดภัย ซึ่งไฟฟ้าจะไหลไปหาจุดที่มีความต้านทานน้อยที่สุด ซึ่งไฟฟ้าไหลผ่านได้สะดวก (คนมีความต้านทานประมาณ 500000 โอห์มครับ ถ้าตัวไม่เปียกนะ)

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องต่อสายกราวด์มที่ปลั๊กครับ


ออฟไลน์ pmfur

  • *
    • กระทู้: 39
เป็นสาย 1 Core นะครับ

ตัวอักษรที่ว่า คือ บนสายไฟครับ   Thaiyazaki   ด้านตัว T เป็น ต้นทาง เมื่อเราต่อกับ Lineก็เอาด้านตัว Tเข้ามิเตอร์
แต่ที่สงสัย คืน เมือต่อเส้น Neutral  ต้องเอา ด้าน ตัว i  เป็น ต้นทาง เข้ามิเตอร์ ถูกต้องไหมครับ เพราะมันเป็นกระแสที่ไหลกลับ



ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
1เพส 30/100 A ครับ ขอโทษด้วยครับ ที่ถามแล้วให้ท่านไม่เข้าใจ

ข้อ 1 ผมอยางถามว่า เส้น L ที่มีไฟ ต่อ สาย ไฟ ตามตัวอักษร ให้ไป ท้าย

ส่วนเส้น N ให้ ต่อ ย้อน ตัวอักษร ถูกต้องไหมครับ

แต่ตอนนี้มีปัญหา เพิ่ม คือว่า ที่ มิเตอร์ สายที่เข้า เป็น NYY 50 mm 1core  ผมอยากเอาสาย 4mm ยัดเขาไป ในมิเตอร์ คู่กันเลยได้ไหมครับ การไฟ ฟ้า
เขาจะว่าหรือเปล่า

ขอบคุณทุกคำตอบครับ
   โว้วๆๆๆ สายไฟที่เข้าบ้านใหญ่จังเลยครับ ผมว่าจริงๆไม่จำเป็นที่ต้องต่อที่หม้อแปลงโดยตรงหรอกครับ ขนาด 50 sqm. ผมว่าไปต่อที่ตู้เมนน่าจะดีกว่าครับปลอดภัยกว่า ที่สำคัญผมไม่แน่ใจว่าหากการไฟฟ้า เห็นว่าต่อสายเข้าไปอีกชุดจะมีปัญหารึปล่าว แต่ผมเห็นว่าที่บ้านๆพี่ๆน้องๆในเวปก็ทำกันนะครับ อาจไม่มีปัญหาก็ได้ครับลองดูครับผม ส่วนคำถามที่ถามมาผมไม่เข้าใจสักเท่าไหร่อ่ะครับ ถ้าจะให้ดีลองถ่ายรูปแล้วเอามาลงให้ดูได้ไหมครับ อยากเห็นไอ้ภาพของตัวอักษรที่ว่าไม่แน่ใจหมายความที่สายไฟหรือไม่ หรือว่าหมายความที่ตัวหม้อแปลงไฟฟ้าอ่ะครับ ยังไงก็ลองเอาภาพมาลงดูนะครับ จะได้เป็นแนววิทยาทานให้แก่เพื่อนๆในกลุ่มอ่ะครับ  :victory


ออฟไลน์ pmfur

  • *
    • กระทู้: 39
1เพส 30/100 A ครับ ขอโทษด้วยครับ ที่ถามแล้วให้ท่านไม่เข้าใจ

ข้อ 1 ผมอยางถามว่า เส้น L ที่มีไฟ ต่อ สาย ไฟ ตามตัวอักษร ให้ไป ท้าย

ส่วนเส้น N ให้ ต่อ ย้อน ตัวอักษร ถูกต้องไหมครับ

แต่ตอนนี้มีปัญหา เพิ่ม คือว่า ที่ มิเตอร์ สายที่เข้า เป็น NYY 50 mm 1core  ผมอยากเอาสาย 4mm ยัดเขาไป ในมิเตอร์ คู่กันเลยได้ไหมครับ การไฟ ฟ้า
เขาจะว่าหรือเปล่า

ขอบคุณทุกคำตอบครับ


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
 +1  ระบบไฟมีส่วนเยอะมาก ไฟต้องนิ่ง แรงดันไม่ควรต่ำกว่า 220v ให้อยู่ระหว่าง 225-230v จะดีมาก(ความคิดเห็นส่วนตัว)
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ wat12(คุ้ม)

  • ชอบรวมสิ่งที่ดีๆเข้าด้วยกัน จึงไม่เกี่ยงทั้งเทคโนโลยี่แรกเริ่ม หรือล่าสุด
  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,839
  • DLP 4 Studiotek130 , TUBE 4 STAX , SSamp 4 spk
จากที่ลองเล่นมาบ้างนิดหน่อยจร้า


พบว่า.............แรงดันไฟ  สูง/ต่ำ อาจไม่ใช่ประเด็นนัก  องค์ประกอบอื่นๆน่าจะมีผล(ต่อเสียงที่ได้ยิน)มากกว่า
........ที่บ้านหลังแรก  ไฟเฟสเดียว...........หม้อไฟฟ้า 15/45A   ไฟฟ้าในบ้านวัดได้  220V  
ในหมู่บ้าน  มีหม้อแปลงลง จากไฟแรงสูง  ขนาดไม่ใหญ่นัก  ใช้กันหลายหลัง  หลายซอย...............ตอนกลางคืน  มีวูบเหลือ 210V บ้าง  ต้องหลังตีสองถึงจะกลับมาเป็น 220V อีกครั้ง
........สายไฟเดินมาปลั๊กห้องเครื่องเสียง  2.5sqmm แกนเดี่ยว  (มีชิลด์  มีกราวนด์)
........สายกราวนด์แท่งทองแดงแท้  ยาวสองเมตรครึ่ง  ทำไว้ดีพอควร(ทำเพิ่มเติมภายหลัง)

........เสียงที่ได้ยิน  แต่ละวันๆ  ไม่ค่อยจะเหมือนกัน  บางวันก็ฟังดี  บางวันที่ไฟตก   ไฟวูบบ้าง  ก็ฟังไม่ดีเลย (ตอนนั้น  ใช้แอ็มป์หลอดอยู่ด้วย)

บ้านหลังปัจจุบัน (วางแผน กำกับดูแลให้ช่างไฟฟ้าของผู้รับเหมาทำให้ตั้งแต่ตอนสร้างบ้าน)
........ไฟสามเฟสเฟส...........หม้อไฟฟ้า สามเฟส 15/45A   ไฟฟ้าในบ้านวัดได้  230V  แถมมา 10V ชอบๆๆ แถมนิ่งด้วย  วัดเวลาไหนก็ได้ค่าใกล้เคียง ไม่หนีเกิน +-2V)
........ จากเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน  ต่อสายสี่เส้นลงมา  เป็นทองแดงแท้  10sqmmx4  สงสัยว่าทำไมมันเล็กจังไม่ใช่ทองแดง 16sqmmหรอกหรือ(ทั้งๆที่จากหม้อแปลงเข้าตู้โหลดในบ้าน  ระยะ 15m ข้าน้อยให้ช่างใช้สายทองแดง 25sqmmx4 NYYฝังดินด้วยซ้ำไป)   หลังการไฟฟ้าเขามาติดตั้ง  จึงได้ไปถาม ผจก. การไฟฟ้าที่อ. ด้วยตัวเอง  ได้รับทราบความว่าว่า  เดี๋ยวนี้สเป็คปรับเป็นเช่นนี้แล้ว (ถ้าสายอลู เป็นเบอร์ 16 or 25 จำไม่ได้แล้ว)
.........เมนเบรคเกอร์ ของห้องเครื่องเสียง 32A
.........สายเมนไปห้องเครื่องเสียง 10sqmmx2 เป็นสายทองแดง  
.........จากนั้นแยกลงมาเป็น 6sqmmx3 ที่มุมห้อง ข้างจอภาพ  ทั้งซ้าย/ขวา
.........ส่วนระบบภาพ ใช้สายฝอย 12.5sqmm x3 เดินลงมาหา หม้อแปลงไอโซฯ 3,000VA
""""""" แท่งกราวนด์หลังห้องเครื่องเสียง เป็นทองแดงแท้ 2.5m ใช้สาย ทองแดง 10sqmm+ สายLan ต่อมาหาสายกราวนด์ ในห้องเครื่องเสียง
..........วัด ไฟระหว่าง N & Gnd   ได้น้อยกว่า 4V

กลับมาเข้าเรื่องต่อ
จากไฟที่นิ่งกว่า แถมได้มาอีก สิบโวลท์ เฮ่ๆๆ (และจากการใช้สายไฟดังกล่าวไฟน่าจะเดินได้สะดวกกว่าบ้านหลังแรกแน่นอน)
ทำให้การรับฟัง แต่ละวันค่อนข้างใกล้เคียงกันจร้า




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน, 2011, 05:28:12 pm โดย wat12(คุ้ม) »
ไม่มีอะไรดีที่สุด การค้นหาข้อดีของแต่ละอย่างแล้วผนวกเข้าด้วยกันเพื่อความพึงพอใจคือสิ่งที่ท้าทาย  " ทำเหมือนเขา ได้ดีที่สุดคือเท่าเขา แต่ส่วนใหญ่จะแพ้เขา แต่ถ้าเราใส่ไอเดียคิดใหม่ของเราเข้าไป โอกาสชนะและดีกว่ามีครับ " สนับสนุนการคิด ไม่พิศมัยการลอกทั้งดุ้น

http://www.htg2.net/index.php?topic=23262


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
มีคำถามครับ

1?  ผมซื้อสายไฟ nyy 4 mm (1 core) มา 100m จะเดินไฟ จากมิเตอร์ไฟ เข้าห้อง ht

ถามว่า ถ้าผมยังไม่ตัดสาย เอาด้าน ตามตัวอัก เข้า line และเอาด้าน ย้อน ตัวอักษร เข้า นิวตัน

จะถูกต้องไหมครับ เพราะคิดว่าด้าน นิวตัน ไฟจะไหลกลับจาก Ht ไป มิเตอร์ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

2? "มีคนแนะนำให้ เอา Neutron กับ Ground เชื่อมกันในตู้เมนไฟด้วย " อยากทราบว่าทำเพื่ออะไรครับ และถ้าอย่าง

นี้เราเชื่อม กันที่ปลักเลยได้ไหมครับ ผลจะต่างอย่างไร

   ก่อนอื่นผมขอข้อมูลเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ หม้อแปลงที่บ้านของคุณ pmfur นั้นเป็นแบบกี่เฟสครับผม 3 เฟส หรือว่า 1 เฟส วิธีการดูง่ายๆคือดูจากสายไฟฟ้่า ที่จ่ายมาจากหม้อแปลงนั้นมีมากี่เส้น ถ้ามีทั้งหมด 4 เส้นก็แน่ใจได้เลยว่าเป็นแบบสามเฟสครับผม โดยปกติแล้วตัวอักษรที่บนสายไฟฟ้านั้น ไม่ได้มีความสำคัญในการเชื่อมต่อหรอกครับผม แต่มันสำคัญตอนที่เราจะต่อไปรับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายต่างหากหล่ะครับ หากเป็นระบบไฟฟ้าสามเฟสแล้วละก็สายที่บ่งบอกว่าเป็นสาย ที่ใช้สำหรับการจ่ายไฟฟ้าทางการไฟฟ้าจะใช้ตัวอักษร R, S, T ส่วนสายนิวทรอนก็ใช้ N  หากเป็นระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟสก็จะใช้สัญลักษณ์ของสายไฟฟ้าที่จ่ายไฟ L ครับผม
   ดังนั้นผมขอตอบคำถามข้อแรกเลยแล้วกันนะครับ สายที่เราต่อเอาไฟฟ้าเข้าบ้านให้เลือกตามตัวอักษรทางด้านบนเลยครับ ที่บ่งบอกถึงแหล่งจ่ายไฟฟ้าจากหม้อแปลง ผมว่าช่างไฟฟ้าที่เดินสายไฟฟ้าให้น่าจะสามารถทำได้นะครับผม แต่ถ้าหากเดินเองหล่อก็ต้องจำให้ได้ครับว่าเรานั้นใช้สายไฟเส้นไหน เป็นตัวไปรับแหล่งจ่ายไฟฟ้าจากหม้อแปลง
   ข้อสอง ที่ต้องเอาสายนิวทรอนเชื่อมต่อกับสายกราวด์ นั้นก็เพื่อเป็นการทำให้ไฟฟ้านั้นครบวงจร และเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่มีไฟฟ้ารั่วเข้ามาจากสายนิวทรอน กระแสไฟฟ้าดังกล่าวก็จะไหลลงสายกราวด์ครับ และอีกอย่างการที่ต่อสายกราวด์เข้ากับสายนิวทรอน ก็เพื่อเป็นการลดภาระของสายนิวทรอนที่มาจากแหล่งจ่าย โดยสายที่ทำการจ่ายมานั้นไม่จำเป็นต้องมีขนาดที่ใหญ่มาก นั่นเองครับผมแต่ในกรณีที่ต้องการต่อกับปลั๊ก อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงจะต้องต่อสายกราวด์มาจากปลั๊กอ่ะครับ หรือว่าต้องการลดระยะการเดินของสายไฟ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องเข้าใจก่อนว่าสายกราวด์ ที่เราต่อเข้ามาสู่ปลั๊กนั้น เราก็ลากสายมาจากตู้เมนนั่นเองครับผ มเนื่องจากสายทุกอย่างนั้นโดยปกติทั่วไป ก็จะถูกจ่ายมาจากตู้เมนไฟฟ้าเสมอๆครับ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปต่อเอาจากที่ปลั๊กเลย
   อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ผมว่าจริงๆแล้วการที่ต่อสายไฟฟ้าจากหม้อแปลงเข้าห้องเดี่ยวนั้น แทบจะไม่มีความจำเป็นเลยครับ หากว่าการวางระบบไฟฟ้าครั้งแรกของบ้านนั้นมี การกระจายภาระในการใช้ไฟฟ้าของแต่ละส่วนภายในบ้านที่ดีพอ หรือเดินสายเมนที่ออกไปรับแหล่งไฟฟ้าจากหม้อแปลงหน้าบ้าน มีขนาดที่ใหญ่เพียงพอ การเดินสายไฟฟ้าออกแยกไปเพื่อไปรับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟ เพื่อมาจ่ายกระแสให้ห้องๆเดียวมีแต่จะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องเดินระบบแยกใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสายไฟ รวมถึงระบบควบคุมไฟฟ้าภายในตู้เนื่องจากว่าหากเดินระบบไม่ดี ผมว่าเจ้าของบ้านมีโอกาสที่จะปวดหัวเกี่ยวกับ ระบบไฟฟ้าภายในบ้านอย่างอื่นที่จะตามมาอย่้างแน่นอน ใช่ว่าจะได้ยินเสียงดีๆหรือว่าภาพดีๆ จากระบบโอมเทียเตอร์ที่วางไว้อีกครับ แต่อย่างว่าครับคนที่สามารถรับรายละเอียดที่เข้าขั้นเทพ ก็คงต้องลองดูกันครับว่ามันจะช่วยมากขนาดไหน แต่ก็คงต้องหาช่างไฟฟ้าที่ขั้นเทพมาช่วยเช่นกันถ้า เจอพวกสุกเอาเผากินก็อาจมีปัญหาตามมาไ้ด้ภายหลังครับพี่น้อง
   ส่วนคำถามส่วนตัวผมนะครับอันนี้ไม่ได้กวนกันนะครับ ผมอยากจะรู้ว่าหากเราเอาเครื่องเสียง ไปทดสอบที่สถานนีแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่เขื่อนเลย เสียงนั้นจะให้พลังหรือความครบชัดเจนของเสียง มากกว่าที่บ้านคนธรรมดาปกติทั่วไปรึปล่าว ยังไงหากมีคนที่ลองทดสอบดูแล้วช่วยแจ้งกันด้วยนะครับ เนื่องจากผมเห็นว่ากระแสไฟฟ้าที่ผ่านระยะทางมาน้อยที่สุดนั้น น่าจะปราศจากระดับแรงดันของไฟฟ้าที่ไม่คงที่มากที่สุด  ;D ;D


ออฟไลน์ pmfur

  • *
    • กระทู้: 39
มีคำถามครับ

1?  ผมซื้อสายไฟ nyy 4 mm (1 core) มา 100m จะเดินไฟ จากมิเตอร์ไฟ เข้าห้อง ht

ถามว่า ถ้าผมยังไม่ตัดสาย เอาด้าน ตามตัวอัก เข้า line และเอาด้าน ย้อน ตัวอักษร เข้า นิวตัน

จะถูกต้องไหมครับ เพราะคิดว่าด้าน นิวตัน ไฟจะไหลกลับจาก Ht ไป มิเตอร์ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

2? "มีคนแนะนำให้ เอา Neutron กับ Ground เชื่อมกันในตู้เมนไฟด้วย " อยากทราบว่าทำเพื่ออะไรครับ และถ้าอย่าง

นี้เราเชื่อม กันที่ปลักเลยได้ไหมครับ ผลจะต่างอย่างไร


ออฟไลน์ ijew2002

  • ****
    • กระทู้: 342
    • เพศ:ชาย
ทำเป็นกระทู้ปักหมุด ถาม-ตอบ ไปเลย ถ้าจะดี  :yahoo :clap
ชวลิต สินเลิศวิบูลย์
110/1 ซ.พหลโยธิน44  ถ.พหลโยธิน จตุจักร กทม 10900 / บจก.พูลเทค สาขาหัวหิน
สนใจสระว่ายน้ำ ติดต่อได้นะครับ ^ ^


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
   จากข้อความข้างต้นผมคิดว่าน่าจะลองกล่าวอธิบายว่า การเดินสายไฟฟ้าขนาดใดที่เหมาะกับ พวกประเภทการใช้งานของเราอย่างสั้นๆนะครับ เพื่อที่จะได้ใช้เป็นมาตราฐานเอาไว้บอกกล่าวหรือกับช่างไฟฟ้า  หรือตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านของเราปัจจุบันว่า มีความเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือไม่ดังนี้ครับ (อัันนี้ไม่รวมสายเมนที่ลา่กเข้าไปเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าของแต่ละชั้น หรือว่าแต่ละห้องนะครับ)
   1. สายไฟฟ้าของระบบแส่งสว่าง ขนาดสายไฟฟ้าที่เหมาะสม 1.5 sqm.
   2. สายไฟฟ้าของระบบปลั๊ก ขนาดสายไฟฟ้าที่เหมาะสม 2.5 sqm. & สายดิน 1.5 sqm.
   3. สายไฟฟ้าของระบบเครื่องปรับอากาศ ขนาดสายไฟฟ้าที่เหมาะสม 6 sqm. & สายดิน 2.5 sqm. (รวามถึงเครื่องทำนำ้อุ่นและเครื่องทำน้ำร้อน ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 8,000 watt)
   4. สายไฟฟ้าของระบบเครื่อง เครื่องทำนำ้อุ่นและเครื่องทำน้ำร้อน ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเกิน 8,000 watt 10 sqm. & สายดิน 4 sqm.
   สายไฟฟ้าที่ใช้โดบปกติก็ต้องใช้ทั้ง 2 เส้นนะครับ ทั้ง Line & Neutron ต้องมีขนาดที่เท่ากันเสมอครับผม ยังไงก็ลองตรวจสอบดูเอาและกันนะครับผมกับ ระบบไฟฟ้าภายในบ้านของท่านเอง เพื่อความปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ บทความต่อไปผมคาดว่าอยากเขียน เกี่ยวกับการลงสายกาวอย่างถูกต้องซะหน่อย ถึงแม้ว่าจะมีเขียนหลายเวป แต่ผมคิดว่าของผมน่าจะมีมุมมองที่แตกต่างจาก ชาวบ้านทั่วไปนะครับขอไปเก็บข้อมูลก่อนก็แล้วกัน  :bye1


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
  :) สวัสดียามบ่ายอีกครับนะครับ พอดีผมเพิ่งจะตื่นนอนเนื่องจากเมื่อคืน ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวเรื่องระบบไฟฟ้าภายในบ้าน กับคุณพ่อของผมอยู่นานสองนานเลยทีเดียว ทำให้ผมได้ใกล้ชิดท่านมากขึ้นกว่าทุกที โดยปกติต้องขอบอกว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง เลยทำให้เมื่อโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้มีโอกาศพูดคุยกับ คุณพ่อคุณแม่มากเท่าไหร่ครับ รู้สึกว่าเสียดายเวลาครับที่ไม่ได้ใกล้ชิดท่านเท่าที่ควร เอาเป็นว่าผมจะมากล่าวถึงสิ่งใกล้ตัวที่บางครั้ง เรามองข้ามไปในระบบไฟฟ้าภายในบ้านเลยละกันครับ
   เนื่องจากบางท่านอาจได้รับคำแนะนำว่าใช้สายไฟฟ้าขนาดใหญ่ ต่อเข้าห้องนี้เลยดีกว่าครับทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดี อันนี้ผมไม่เถียงว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี แต่จะดีจริงอย่างที่ว่ารึปล่าวลองมาพิสูจน์กัน
1. เริ่มจากระบบไฟฟ้าและหม้อแปลงที่ขอไว้กับทางการไฟฟ้า ก่อนเลยดีกว่าครับว่าที่เราขอไปนั้นมีขนาดเท่าไหร่ ซึ่งระบบไฟฟ้าปัจจุบันของทางไฟฟ้านั้นจะมีสองระบบดังนี้
    1.1 ระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส
    1.2 ระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟส
   ระบบไฟฟ้าของระบบทั้ง 2 ทางด้านบนนั้นแตกต่างกันอย่างไรครับผมก็คือ ภาระการสามารถรับโหลดของการใช้กระแสไฟฟ้าภายในบ้าน เมื่อมีการใช้ไฟฟ้าของเราไงหล่ะครับผม แต่ถ้าหากถามต่อว่าแล้วระบบไฟฟ้าอย่างไหนนั้นดีกว่ากันหล่ะ อันนี้ถ้าเป็นคำแนะนำส่วนตัวของผมนะครับ ก็เป็นแบบ 3 เฟสครับ เนื่องจากระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟส นั้นสามารถให้เราสามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่มากกว่่าไงครับ และเมื่อเราใช้กระแสไฟฟ้าแบบโหลดมากๆ กระแสไฟฟ้าก็จะทำการกระจายภาระของการกินแสไปยัง สายไฟฟ้าต้นทางทั้งสามเส้นเท่าๆกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าการกระจายภาระของกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน ของช่างไฟฟ้าที่ได้เดินระบบไฟฟ้าตั้งแต่ครั้งแรก ด้วยนะครับ (Balance electric phase) หากครั้งแรกช่างไฟฟ้านั้นทำการกระจายภาระโหลดไม่ดี ก็จะทำให้การกินกระแสไฟฟ้าของสายไฟฟ้า นั้นรับภาระโหลดไม่เท่ากันไปด้วย แต่บางครั้งการใช้ไฟฟ้าระบบ 3 เฟส ก็ไม่มีความจำเป็นหากบ้านเรานั้นไม่ได้ใช้กระแสไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านเสียเปล่าๆครับ ก่อนจะทำต้องตอบโจทย์ตัวเองให้ได้ก่อนว่าปัจจุบันเราใช้ กระแสไฟฟ้าเท่าไหร่และในอนาคตเราจะใช้อีกเท่าไหร่ และอีกสิ่งหนึ่งที่เกือบลืมไป ของข้อดีระบบไฟฟ้า 3 เฟส ที่ผมเกือบลืมไปคือ กรณีที่การไฟฟ้าส่งไฟฟ้าไม่ครบเฟสมา เช่นไฟฟ้าดับ หรือหม้อแปลงมีปัญหาด้านการจ่ายกระแสไฟฟ้า หรือแรงดันไฟฟ้า เราก็อาจสามารถเปิดไฟฟ้าใช้ได้บางจุดภายในบ้านด้วยนะครับ (แต่โดยปกติทางการไฟฟ้านั้นไม่ค่อยชอบเสียหน้าครับ คือถ้ามีปัญหาก็มีให้มันครบทั้งสามเฟสไปเลยละกัน  ;D)
2. สายไฟฟ้าที่ต่อจากหม้อแปลงทางหน้าบ้าน นั้นเมื่อลากเข้ามาในตัวบ้านนั้นมีขนาดเท่าไหร่ครับ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยทีเดียวนะครับ ขนาดของสายไฟฟ้าที่ลากเข้ามานั้นก็มาจากการคำนวณทางข้างต้น ที่ผมได้เคยกล่าวไปแล้วว่าใช้ขนาดเท่าไหร่จึงเหมาะสม ซึ่งรวมไปถึงวิธีการลากสายเมนไฟฟ้ามาจากหม้อแปลงไฟฟ้าด้วยนะครับ ที่ผมเกือบลืมไปว่าอันนี้ก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้สายไฟฟ้า นั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่ด้วยอีกเหมือนกัน ซึ่งจะขึ้นกับความเหมาะสมภายในบ้านของเรา เช่น
 2.1 หากบ้านเราเป็นบ้านเดี่ยวการลากสายเข้าไป เราก็จะใช้วิธีการฝังดินเพื่อความสวยงาม คงไม่มีใครเดินสายไฟฟ้าแบบลอยเข้าไปภายในบ้านนะครับ จริงๆแล้วทำได้แต่ไม่สวยงาม การเดินสายไฟฟ้าแบบฝังดินนั้นก็ จะยิ่งทำให้การใช้สายไฟฟ้านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนที่เกิดขึ้นหลังจากภายในบ้านนั้นมีการใช้กระแสไฟฟ้า
 2.2 หากบ้านเราเป็นบ้านทาวเฮาส์ ซึ่งโดยปกติก็จะติดกับเสาไฟฟ้าหน้าบ้านซะเป็นส่วนใหญ่ ก็สามารถเดินสายลอยโดยผ่านลูกถ้วยออกไปสู่หม้อแปลงไฟฟ้าได้เลย อันนี้ก็จะทำให้เราใช้ขนาดของสายไฟฟ้าได้เล็กลง เนื่องจากเมื่อสายไฟฟ้าได้รับภาระ จากการใช้กระแสไฟฟ้าความร้อนที่เกิดขึ้นภายในสายไฟ สามารถระบายความร้อนไปสู่อากาศได้โดยทันที จึงนำมาสู่การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไงหล่ะครับ
  จากการอธิบายพื้นฐานข้างต้นก็นำมาสู่เรื่องที่ผม อยากจะกล่าวถึงต่อไปอีกนะครับว่า สายไฟฟ้า, ระบบไฟฟ้า และโหลดของหม้อแปลงที่ทนได้ของบ้านเรานั้นมีขนาดเท่าใด สมมติว่าหากสายไฟฟ้าเข้ามาเพียงเส้นเดียวเป็นขนาด 10 sqm แต่ช่างไฟฟ้าบอกว่าพี่เดินสายไฟฟ้าเข้า ห้องเอาขนาด 10 sqm ไปเลยจะได้ทนโหลดมากๆเครื่องจะได้ไม่โหลด ผมว่าก็คงไม่สมเหตุสมผลเนื่องจากไฟฟ้าทั้งบ้านที่ใช้กระแส ยังแค่ 10 sqm แล้วจะจ่ายเข้าห้องเีดียว 10 sqm ???????????
   หลังจากที่ผมลองมาดูสายเมนที่ลากเข้าบ้านมาเมื่อลองคำนวณดู บ้านผมเป็นระบบไฟ้้ฟ้าสามเฟส และหม้อแปลงโหลด 45 A และสายเมนที่พ่อผมเดินมา มีขนาด 25 sqm X 3 เส้นและเป็นแบบฝังดิน การเดินท่อแบบอโลหะ
โอ้แม่เจ้าบ้านผมก็เพื่อเกินไปด้วยเหมือนกันนี่หน่า  ;D แต่พ่อผมบอกว่าที่ใช้สายใหญ่ไปเลยเพราะว่าเพื่อในอนาคต มีหลานอีกหลายคนแต่ปัจจุบันยังไม่มีวี่แววเลยครับ :'(
  อันนี้ก็เพียงแค่ยกมาให้ดูนะครับว่าขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ และความต้องการของเราตั้งแต่แรกว่าต้องการอะไร ก็ให้ทำการวางสายขนาดที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก็แค่นั้นครับผม ส่วนครั้งหน้ากระทู้ที่ผมจะเขียนคงต้องขอเลือกก่อน นะครับว่าอะไรที่เป็นความรู้ที่หน้าสนใจซึ่ง เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านของเราครับผม หากสงสัยหรือติดปัญหาอะไรก็ตั้งกระทู้เข้ามาถามกันได้เลยนะครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแก้ปัญหาที่มีให้กระจ่างครับ  :) :) :)  :bye1


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
ไม่ทราบว่า รับงานตรวจเช็ค เดินสายไฟในบ้านด้วยหรือปล่าวครับ กำลังหาคนทำห้องคอนโดฯ ครับ
   สวัสดีครับ K. Gai อันที่จริงก็รับที่ทำการเดินสายระบบไฟฟ้าด้วยนะครับ แต่เป็นคุณพ่อผมที่รับทำนะครับ โดยส่วนมากพ่อผมจะรับเดินระบบไฟฟ้าที่เป็นบ้านใหม่ซะมากกว่า เนื่องจากว่าการวางระบบไฟฟ้าด้วยตัวเองตั้งแต่แรก นั้นจะทำให้งานที่ออกมาดีมากกว่า และได้ทำตรงความต้องการในการใช้งานของเจ้าของบ้านมากที่สุด ทั้งมีความสวยงามเรียบร้อย และปลอดภัย ไม่ต้องไปปวดหัวกับการทำเสียๆหายๆจากช่างเดิม ซึ่งการแก้ไขงานของช่างโดยทั่วไปนั้นตัองขอบอกว่าทำได้ยากมากๆ ซึ่งจะทำให้งบประมาณของเจ้าของบ้านนั้นบานปลายเอาง่ายๆโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าบางส่วนที่เคยใช้อยู่อาจต้องตัดทิ้งไปเลยทีเดียวครับผม หากเจ้าของบ้านเข้าใจก็ดีไป แต่ถ้าไม่เข้าใจก็จะหาว่าแกล้งทำให้ราคาสูงรึปล่าว ซึ่งเรื่องนี้บอกตามตรงว่าผมไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เจ้าของบ้านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองครับ ยังไงหาก K. Gai สนใจที่จะทำจริงๆก็ PM หาผมได้ครับ แต่หากว่ามีปัญหาที่ต้องการคำปรึกษาเรื่องอื่นที่กำลังเผชิญอยู่ก็ ตั้งกระทู้ไว้ในกระทู้ผมก็แล้วกันแล้วผมก็จะพยายาม หาคำตอบที่คิดว่าตรงกับความต้องการ หรือปัญหาที่ได้รับมากที่สุดก็แล้วกันครับผม เนื่องจากผมยินดีที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่จริงจัง มากกว่าที่จะหารายได้เข้ากระเป๋า(อีกหนึ่งช่องทางสำหรับพี่ๆ น้องๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกเวป noppadol.ruttanamongkoltun@gmail.com)


ออฟไลน์ gai

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,318
    • เพศ:ชาย
ไม่ทราบว่า รับงานตรวจเช็ค เดินสายไฟในบ้านด้วยหรือปล่าวครับ กำลังหาคนทำห้องคอนโดฯ ครับ


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
 คราวนี้ก็มาว่าถึงการต่อสายไฟฟ้าเพื่อให้ได้กระแสเต็มๆ จากแหล่งจ่ายต้นทางเลยละกันครับ หลักการต่อก็ง่ายๆครับถ้าเป็นระบบปลั๊ก ก็ให้ใช้การต่อแบบขนานเพื่อให้สายไฟฟ้าที่เรานั้น ต่อจ่ายมานั้นสามารถใช้กระแสได้อย่างเต็มที่ ขนาดของสายไฟฟ้าโดยทั่วไปที่ใช้ทำปลั๊กนั้น โดยปกติที่เป็นมาตราฐานที่ใช้ทั่วไปในบ้าน คนธรรมดาทั่วไปนั้นก็ใช้ขนาดสายที่ไม่เกิน 2.5 sqm กันหรอกครับ ถ้าถามว่าทำไมถึงพอลองคำนวณเอาครับ จากสูตรพื้นฐานที่ผมกล่าวไว้จากตอนต้นเราก็จะทราบว่า สายดังกล่าวสามารถทนกระแสได้ถึง 17 A เมื่อคิดกลับเป็นหน่วยของกำลังไฟฟ้าจะเท่ากับ 3,740 watt หากเพื่อค่าความปลอดภัยตามมาตราฐานของการไฟฟ้า 25% จะใช้ได้เหลือประมาณ 2,805 watt ต่อหนึ่งจุดเลยทีเดียวครับ ดังนั้นลองคิดดูครับว่าเรามีความจำเป็นที่จะต้องเลือกเอา สายขนาดใหญ่มาทำเป็นสายปลั๊กอีกหรือไม่ หรือว่าจำเป็นจริงๆเพราะว่าเครื่องเสียงของชั้นโดยรวมแล้วกินไฟฟ้า แล้วโดยประมาณ 5,410 watt ก็สามารถทำได้ดังนี้ครับคือต่อสายไฟฟ้าแบบขนานที่ผมว่าไป เพื่อเป็นการทำให้สายไฟฟ้านั้นสามารถให้กระแสได้อย่างเท่ากัน โดยต้องต่อสายมาจากสายเมนใหญ่ที่เดินมาเพื่อปลั๊กเท่านั้นนะครับ จึงเป็นการที่จะไม่ทำให้ปลั๊กที่ใช้ในการเสียบตัวใดตัวหนึ่ง นั้นแบกภาระของการกินกระแสมากเกินไป ของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรานั้นได้ใช้กันในขณะที่เล่น แต่หากท่านใดที่ต้องการใช้สาย 4 sqm เป็นสายปลั๊กก็ได้นะครับไม่ว่ากัน แต่ผมคิดว่าเกินความจำเป็นเท่านั้นเอง
   การเดินสายของระบบไฟฟ้าภายในห้องนั้น จริงๆแล้วไม่ได้มองแค่เฉพาะห้องโฮมอย่างเดียวนะครับ แต่ต้องมองเป็นภาพรวมของบ้านทั้งหลัง เนื่องจากความเป็นจริงแล้วเราใช้ไฟฟ้าทุกๆห้อง ทุกๆพื้นที่ของบ้านอยู่แล้ว การเดินสายไฟฟ้านั้นควรแยกการควบคุมเป็นส่วนๆ ไม่ต้องกลัวเปลืองเรื่องเบรคเกอร์เลยครับ โดยทำการให้ช่างไฟฟ้าเดินสายดังนี้
  1. สายของระบบแสงสว่าง => ใช้เบรคเกอร์ 1 ตัว
  2. สายของระบบปลั๊ก => ใช้เบรคเกอร์ 1 ตัว
  3. สายของระบบเครื่องปรับอากาศ => ใช้เบรคเกอร์ 1 ตัว
  4. สายของระบบเครื่องทำน้ำร้อน หรือเครื่องทำน้ำอุ่น => ใช้เบรคเกอร์ 1 ตัว
   ให้ทำการแยกเป็นสัดส่วนหลักๆดังนี้ และเดินสายเมนของระบบต่างเหล่านี้แยกกันโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการดึงกระแสของไฟฟ้าในแต่ละระบบ (ซึ่งในที่นี้ยังไม่รวมการปรับสมดุลของแหล่งจ่ายกระแสไฟ จากแผงโหลดเซ็นเตอร์นะครับ) หากจะไม่ให้การเดินสายนั้นสิ้นเปลือง ก็ให้ช่างไฟเดินสายไฟฟ้าแบบลดระยะทาง หรือแบบลดทอนขนาดของสายไฟฟ้าแบบเป็นระยะเช่น
  สายเมนของแสงส่องสว่างนั้นเดินมาเพื่อจ่ายใช้ขนาด 2.5 sqm  แต่เมื่อนำไปจ่ายตามจุดต่างๆก็ให้ใช้แค่ 1.5 sqm ก็พอต่อแบบอนุกรม หรือขนานก็ขึ้นอยู่กับการต้องการปิดเปิดแสงไฟของท่าน เอาเป็นว่าเรื่องการต่อของสายไฟก็น่าจะมีแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วผมค่อยมาสาธยายให้ได้ทราบกันอีกทีว่า หากเราเลือกเอาสายเมนเข้าห้องโฮมใหญ่ไปเลยทำไมถึงไม่มีความหมาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่หน้าคิดถึงเป็นอันดับแรกๆแต่กลับมองข้ามไปได้ K] K] K] K] K] K]


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
   ก่อนอื่นผมขอเปิดประเด็นที่เห็นหลายท่านมักสงสัย ก่อนเลยก็แล้วกันนะครับว่า จะเดินสายไฟฟ้าในห้อง Home นั้นควรเลือกสายไฟฟ้าขนาดเท่าไหร่ดีจึงจะเหมาะสม คำว่าเหมาะสมนั้นคงต้องตอบโจทย์ของตัวเองก่อนให้ได้ว่า จริงๆแล้วนั้นในห้องที่เราใช้ดูหนังฟังเพลง จริงๆแล้วใช้กระแสไฟฟ้าโดยประมาณเท่าไหร่ เช่น Power, Monitor, Speaker, DVD player, Air condition, light system, etc,...., จิปาถะที่คุณต้องการใส่เข้าไป แน่นอนความรู้สึกหลายท่านมักจะคิดว่า การที่เครื่องเสียงจะสามารถขับพลังเสียงให้ออกมาได้ดี ควรมีไฟฟ้ามาเลี้ยงได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงต้องใช้สายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เอาไว้ก่อน จริงแล้วก็ดีครับที่เราเผื่อขนาดของสายไฟฟ้าให้ใหญ่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการโหลดของสายซึ่งส่งผมกระทบตามมา แต่บางครั้งก็เกินความจำเป็นครับ ซึ่งจะนำมาด้วยงบประมาณที่บานปลายโดยใช่เหตุ
   ลองคิดคำนวณดูว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด การกินไฟฟ้าโดยรวมทั้งหมดนั้นประมาณ 6,000 watt หรือไม่? หากคำตอบว่าใช่แล้วถ้าคำนวณตามสูตรมาตราฐานและ คิดแบบเดินสายฝังท่อเชื่่อไหมครับใช้สายแค่ 10 sqm เพื่อใช้ในการเดินสายเมน (บวกเผื่อค่าความปลอดภัยตามมาตราฐานของการไฟฟ้าแล้ว 25%) ที่สำคัญ 6,000 watt ไม่ใช่การกินไฟน้อยๆนะครับหากคิดค่าไฟฟ้าออกมาผมว่าบานครับ เดี๋ยวผมจะมาร่ายรายละเอียดที่หลายคนอาจสงสัยหรือไม่สงสัยอีก เกี่ยวกับเรื่องการเดินสายไฟฟ้า ทิ้งท้ายด้วยสูตรการคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าอย่างง่าย เพื่อเลือกใช้สายไฟฟ้าให้เหมาะสม I = P/ E (I = ค่าของกระแสไฟฟ้า (Amp), P = กำลังไฟฟ้า (Watt), E = แรงดันไฟฟ้า (Volt))


ออฟไลน์ Mr.Big

  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,754
ยินดีต้อนรับ

และยินดีที่ได้มีผู้แนะนำ เปิดประเด็นใหม่ ๆ ให้ศึกษาครับ   c)


ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
  เนื่องจากผมได้อ่านกระทู้ของพี่ๆน้องบางกระทู้ ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน และบางคำถามยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน หรือการแก้ไขที่ถูกต้อง เลยอยากช่วยแบ่งปันความรู้ที่มีเพื่อเอาไว้ใช้เป็นองค์ความรู้เรื่องระบบไฟฟ้าที่สำคัญ เป็นอย่างยิ่งยวดในการเล่นเครื่องเสียงและระบบภาพ ของคณะเราชาว htg2.net ให้มีความถูกต้อง เพื่อที่จะได้มีความสุขในการใช้งานเครื่องเสียงและปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ เลยประกาศแจ้งมาในที่นี้ครับผม (แต่ความรู้เกี่ยวกับพวกเครื่องเสียงผมคงต้องขอแบ่งปันจาก พี่ๆน้องๆชาวคณะด้วยนะครับผม เนื่องจากผมเป็นพวกใจรักหน้าใหม่ครับผม)  :victory