NC-16 ขด Primary สองขดอนุกรมกัน Primary Impedance = 7K ใช้กับหลอดที่มี Plate impedance 5k-10K ( ตามคู่มือ NC-16 ) กระแสทีใช้ไม่ควรเกิน 10mA l(Primary) เช่นการใช้หลอด 6SN7
NC-16 ขด Primary สองขดขนานกัน ทำให้เหมือนเราเอาขด (3.5K สองขดมาขนานกัน) น่าจะทำให้ Primary Impedance ของ NC-16 เหลือ 1.75K
ตามความเข้าใจของผมอาจจะผิดก็ได้ หลอดที่ ใช้ต่อกับ NC-16 ที่ต่อแบบนี้ ต้องมี Plate Impedance ไม่สูงนักเช่น ระหว่าง 800 ohm to 2Kohm ในกรณีย์นี้ กระแสทีวิ่งด้าน Primary อาจจะได้สูงถึง 20mA
แต่ยิ่งกระแสสูงขึ้น ผลตอบสนองต่อความถี่ทั้งสูงและต่ำจะลดลงค่อนข้างมาก (Primary Impedance ลดลง) ตามประสพการณที่ใช้ สำหรับตัวนี้ ต่อแบบนี้ ผมใช้ไม่เกิน 15mA
ถ้าต้องการกระแสสูงกว่า 10mA ใช้ NC-14 หรือ NC-20 (แพงกว่ามากๆ )หรือ Tamura B-5003 ,B6003
โดยปกติถ้า ต่อ NC-16 แบบปกติ (Secondary Serial) จะมี Impedance Ratio Secondary / Primary = 14K /7K อัตราส่วนกำลังขยาย = Square root 2 = 1.414
ถ้าขนานด้าน Primary NC-16(Secondary serial) จะมี Impedance Ratio Secondary / Primary = 14K /1.75K "---------------------" = 2.828 แต่ต้องการหลอดที่ Plate Impedance ไม่สูงนัก
ส่วนใหญ่สำหรับ NC-16 ผมมักจะต่ิอ อนุกรมที่ขดปฐมภูมิ ทำให้ผมสามารถใช้หลอดที่มี Plate Impedance สูงๆเช่น 6SN7 , 12AU7 ,6BL7, 801 แต่ต่อขนานด้าน Secondary โดยด้านปฐมภูมิใช้กระแสเพียง 10mA
แต่ผมไปขนานด้าน Secondary then Impedance Ratio Secondary to Primary = 3.5K /7K ทำให้ Voltage ratio Secodary / Primary = Square root 0.5 = 1: 0.707 กระแสด้าน Secondary
จะสูงขึ้น สามารถเอาไปขับหลอดขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ ผมกำลังทดลองในเงื่อนใขนี้ สำหรับหลอดใหญ่ๆบางเบอร์ อีกไม่นานจะโพสผลการใช้งาน NC-16 ในเงื่อนใขนี้ ให้ดูใน
www.htg2.net