หัวข้อ: ลองทำ 845 Mono Block

[PINIJ]

อากาศมีค่า Dielectric strength ต่ำกว่ากระดาษครับ
อากาศ 0.97MV/m -> 970v/mm โดยปกติชาวไฟฟ้ามักจะใช้ตัวเลข 1kV/mm ครับ
กระดาษ 16MV/m -> 1600V/mm
Waxed paper 40-60MV/m ->4000-6000v/mm

ถ้าใช้กระดาษหนาสัก 3 mm ก็ไม่มีปัญหา แต่สำคัญที่ความชื้นครับทำอย่างไรไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องอบไล่ความชื้นออกก่อนแล้วจึงชุบวานิชครับ

ฉนวนพวกหระดาษก็ต้องอบไล่ความชื้น ก่อน ทาวานิชทับ
ถ้าใช้ Wax ก็ต้องเคี่ยวไล่ความชื้นที่ปนอยู่ออก

ครับพี่ และสุดท้ายก็ต้องทดสอบค่าความต้านทานฉนวน ผมมีเครื่องทดสอบแค่ 1000Vdc ถ้ามากกว่านั้น 2500Vdc 5000Vdc คงต้องถือเข้าไปใช้เครื่องที่โรงงาน 

ไฟ 1500v จิบจ๋อยสำหรับผมครับ (เคยโดนมาทีนึงแล้ว แค่เจ็บๆ  คันๆ ครับ เทสแค่ 1000 ผ่านก็สะบายใจได้ระดับหนึ่งแล้วครับ เดี๋ยวผมไปเอา 3kV ที่บ้านเช้คดูอีกทีก็ได้ครับ

[prasan]

f = 1/(2*pi*R*C)     
R =   33000   Ohm
f =   8558.572715   Hz

ความถี่ไปได้ถึง 8.5kHz เองครับ หรือว่าวิธีการอย่างไรจึงจะทำให้ตอบสนองความถี่ได้ไกลกว่านี้ครับ

R ในที่นี่คือ output impedance ของ preamp ครับ preamp ผมมี output impedance 200-300 ohm เท่านั้นเองครับ drive พวก input capacitance สูงๆได้สบายๆ

  ขอบคุณมากครับ

[prasan]

อากาศมีค่า Dielectric strength ต่ำกว่ากระดาษครับ
อากาศ 0.97MV/m -> 970v/mm โดยปกติชาวไฟฟ้ามักจะใช้ตัวเลข 1kV/mm ครับ
กระดาษ 16MV/m -> 1600V/mm
Waxed paper 40-60MV/m ->4000-6000v/mm

ถ้าใช้กระดาษหนาสัก 3 mm ก็ไม่มีปัญหา แต่สำคัญที่ความชื้นครับทำอย่างไรไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องอบไล่ความชื้นออกก่อนแล้วจึงชุบวานิชครับ

ฉนวนพวกหระดาษก็ต้องอบไล่ความชื้น ก่อน ทาวานิชทับ
ถ้าใช้ Wax ก็ต้องเคี่ยวไล่ความชื้นที่ปนอยู่ออก

ครับพี่ และสุดท้ายก็ต้องทดสอบค่าความต้านทานฉนวน ผมมีเครื่องทดสอบแค่ 1000Vdc ถ้ามากกว่านั้น 2500Vdc 5000Vdc คงต้องถือเข้าไปใช้เครื่องที่โรงงาน 

[Karin Preeda]

f = 1/(2*pi*R*C)     
R =   33000   Ohm
f =   8558.572715   Hz

ความถี่ไปได้ถึง 8.5kHz เองครับ หรือว่าวิธีการอย่างไรจึงจะทำให้ตอบสนองความถี่ได้ไกลกว่านี้ครับ

R ในที่นี่คือ output impedance ของ preamp ครับ preamp ผมมี output impedance 200-300 ohm เท่านั้นเองครับ drive พวก input capacitance สูงๆได้สบายๆ

[Mc]

อากาศมีค่า Dielectric strength ต่ำกว่ากระดาษครับ
อากาศ 0.97MV/m -> 970v/mm โดยปกติชาวไฟฟ้ามักจะใช้ตัวเลข 1kV/mm ครับ
กระดาษ 16MV/m -> 1600V/mm
Waxed paper 40-60MV/m ->4000-6000v/mm

ถ้าใช้กระดาษหนาสัก 3 mm ก็ไม่มีปัญหา แต่สำคัญที่ความชื้นครับทำอย่างไรไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องอบไล่ความชื้นออกก่อนแล้วจึงชุบวานิชครับ

ฉนวนพวกหระดาษก็ต้องอบไล่ความชื้น ก่อน ทาวานิชทับ
ถ้าใช้ Wax ก็ต้องเคี่ยวไล่ความชื้นที่ปนอยู่ออก

[PINIJ]

อากาศมีค่า Dielectric strength ต่ำกว่ากระดาษครับ
อากาศ 0.97MV/m -> 970v/mm โดยปกติชาวไฟฟ้ามักจะใช้ตัวเลข 1kV/mm ครับ
กระดาษ 16MV/m -> 1600V/mm
Waxed paper 40-60MV/m ->4000-6000v/mm

ถ้าใช้กระดาษหนาสัก 3 mm ก็ไม่มีปัญหา แต่สำคัญที่ความชื้นครับทำอย่างไรไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องอบไล่ความชื้นออกก่อนแล้วจึงชุบวานิชครับ

อ้าว! ลืมไปเราลืมไปเค้าร้เรื่องนี้ดีกว่าเรา งั้นพี่ไม่กังวลอะไรอีกแล้ว ลุยโลดดดดด พี่จะได้อุ้มกลับบ้านมาอยากเอาลุยต่อแบบกระสือดูก่อนอยู่เหมือนกันละครับ

[prasan]

อากาศมีค่า Dielectric strength ต่ำกว่ากระดาษครับ
อากาศ 0.97MV/m -> 970v/mm โดยปกติชาวไฟฟ้ามักจะใช้ตัวเลข 1kV/mm ครับ
กระดาษ 16MV/m -> 1600V/mm
Waxed paper 40-60MV/m ->4000-6000v/mm

ถ้าใช้กระดาษหนาสัก 3 mm ก็ไม่มีปัญหา แต่สำคัญที่ความชื้นครับทำอย่างไรไม่ให้ความชื้นเข้าไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องอบไล่ความชื้นออกก่อนแล้วจึงชุบวานิชครับ

[PINIJ]

เอา 2A3 ดีกว่าครับ พี่ไม่เคยฟัง Triode Power Tube สักคร้้งนึง ขอลองฟังทีเถอะ แล้วหม้อของพี่จะเสร็จแล้วใช้ 2A3 ขับเลยได้ใช่ไหมครับ? อยากได้ยิน OPT ของพี่ด้วยน่ะ ข้างเดียวก่อนก็ยังดี

จะพยายามครับพี่ทั้ง 2A3PP และ PP opt
อยากเร่ง OPT ให้เสร็จให้พี่อุ้มกลับบ้านด้วยเลย รอมาหลายปีแล้ว

ขอถามหน่อยเหล็กที่ใหญ่กว่าที่เรามี นั้นมีไหม? อยากได้มาลองพันดูเองมั่งอ่ะ จะเอาสัก 400W PPT Amp ตัวแรกของโลก  แต่อาจเป็นคลาส B อ่ะ อยากจะดูซิว่ามันจะมีแรงอัดกับลำโพง PA ในงานวัดได้ดังซักขนาดไหนกัน? (หรือมีใครทำมาแล้วหว่า? แบบไม่ขนานหลอดด้วยนะ) 

ใจเย็นๆ ครับพี่ OPT ตัวที่ผมพันให้ถ้ารอด ไปได้ดีค่อยว่ากันต่อ ผมละกลัวแต่จะ.. ตรูว่าแล้วมันจะ...  

ขอให้คิดไว้ตลอดเวลาว่าเส้นลวดของขด Primary น่ะมันไฟ 1500v ที่มันสามารถกระโดดข้ามอากาศได้ในระยะ 2 mm นะครับ ชั้นระหว่างขดและส่วนที่พันติดหรือวางอยู่ใกล้กับแกนเหล็กอยากให้ใช้เป็นแผ่นเทปร่อนแท้ๆ ในโรงงานมีไหม? ส่วนมากโรงแก็สจะใช้แบบเป็นแผ่นบางๆ ทำประเก็นกันเยอะครับ ร้านในระยองน่าจะมีขายนะครับ เมืองใหม่มาบตาพุตมีอยู่ร้านนึงที่ตัดประเกนพวกนี้ขายครับ เลือกขนาดความบางได้เลย ร้านในระยองก้น่าจะมีแต่พี่ไม่รู้จักร้านครับ  OPT ของคุณเคนจิก็ใช้แผ่นชนิดนี้เป็นฉนวนครับ เลยใช้กับไฟ 1500v ได้อย่างไม่มีปัญหา ระหว่างขดเดียวกันไม่กลัวเพราะแรงดันต่างกันไม่เท่าไร? งานนี้เรื่องการลองฉนวนสำคัญที่สุดครับ ไม่ทราบว่าขี้ผึ่งนี่กั้นไฟได้กี่โวลท์ จะเป็นฉนนวนสู้วานิชได้หรือไม่ครับ?

[prasan]

เอา 2A3 ดีกว่าครับ พี่ไม่เคยฟัง Triode Power Tube สักคร้้งนึง ขอลองฟังทีเถอะ แล้วหม้อของพี่จะเสร็จแล้วใช้ 2A3 ขับเลยได้ใช่ไหมครับ? อยากได้ยิน OPT ของพี่ด้วยน่ะ ข้างเดียวก่อนก็ยังดี

จะพยายามครับพี่ทั้ง 2A3PP และ PP opt
อยากเร่ง OPT ให้เสร็จให้พี่อุ้มกลับบ้านด้วยเลย รอมาหลายปีแล้ว

ขอถามหน่อยเหล็กที่ใหญ่กว่าที่เรามี นั้นมีไหม? อยากได้มาลองพันดูเองมั่งอ่ะ จะเอาสัก 400W PPT Amp ตัวแรกของโลก  แต่อาจเป็นคลาส B อ่ะ อยากจะดูซิว่ามันจะมีแรงอัดกับลำโพง PA ในงานวัดได้ดังซักขนาดไหนกัน? (หรือมีใครทำมาแล้วหว่า? แบบไม่ขนานหลอดด้วยนะ) 

ใจเย็นๆ ครับพี่ OPT ตัวที่ผมพันให้ถ้ารอด ไปได้ดีค่อยว่ากันต่อ ผมละกลัวแต่จะ.. ตรูว่าแล้วมันจะ...  

[PINIJ]

เอา 2A3 ดีกว่าครับ พี่ไม่เคยฟัง Triode Power Tube สักคร้้งนึง ขอลองฟังทีเถอะ แล้วหม้อของพี่จะเสร็จแล้วใช้ 2A3 ขับเลยได้ใช่ไหมครับ? อยากได้ยิน OPT ของพี่ด้วยน่ะ ข้างเดียวก่อนก็ยังดี

จะพยายามครับพี่ทั้ง 2A3PP และ PP opt
อยากเร่ง OPT ให้เสร็จให้พี่อุ้มกลับบ้านด้วยเลย รอมาหลายปีแล้ว

ขอถามหน่อยเหล็กที่ใหญ่กว่าที่เรามี นั้นมีไหม? อยากได้มาลองพันดูเองมั่งอ่ะ จะเอาสัก 400W PPT Amp ตัวแรกของโลก  แต่อาจเป็นคลาส B อ่ะ อยากจะดูซิว่ามันจะมีแรงอัดกับลำโพง PA ในงานวัดได้ดังซักขนาดไหนกัน? (หรือมีใครทำมาแล้วหว่า? แบบไม่ขนานหลอดด้วยนะ) 

[prasan]

เอา 2A3 ดีกว่าครับ พี่ไม่เคยฟัง Triode Power Tube สักคร้้งนึง ขอลองฟังทีเถอะ แล้วหม้อของพี่จะเสร็จแล้วใช้ 2A3 ขับเลยได้ใช่ไหมครับ? อยากได้ยิน OPT ของพี่ด้วยน่ะ ข้างเดียวก่อนก็ยังดี

จะพยายามครับพี่ทั้ง 2A3PP และ PP opt
อยากเร่ง OPT ให้เสร็จให้พี่อุ้มกลับบ้านด้วยเลย รอมาหลายปีแล้ว

[PINIJ]

เอา 2A3 ดีกว่าครับ พี่ไม่เคยฟัง Triode Power Tube สักคร้้งนึง ขอลองฟังทีเถอะ แล้วหม้อของพี่จะเสร็จแล้วใช้ 2A3 ขับเลยได้ใช่ไหมครับ? อยากได้ยิน OPT ของพี่ด้วยน่ะ ข้างเดียวก่อนก็ยังดี

[prasan]

วงจรนี้ครับพี่

[prasan]

มีประกาศขายอยู่คู่เดียวผมก็เลยสอยมาครับ

ถ้าจะฟัง PP amp ของผม ถ้าไม่ 2A3 PP ทีจะต้องแก้ไขให้เสร็จ ก็อาจจะเป็น 8BQ5 PP วงจรของ electra-print ที่ใช้หม้อแปลง PSA-2N เป็น phase splitter พี่อยากฟังอันไหนจะได้รีบทำให้เสร็จ   8BQ5 PP ใช้หลอด 866A เป็น rectifier หม้อแปลง 2 amp OPT Lux-OY14

[PINIJ]

ผมมี plate choke 120H 35mA ของ Electra Print ซื้อมาจากหน้าซื้อขาย ใช่รุ่นนี้หรือเปล่าครับที่พี่เคยใช้

อยากได้มากเลยครับ สัก 4 ตัวเอาไว้ทำ PP ได้มาเท่าไรน่ะ เสียงตอนใช้ Chock ตัวนี้จะอวบใหย่ดีมากๆ ครับ พอใช้ R ลงมาแทนเสียงจะบางกว่ามากๆ เลย แต่เสียงกลางเมื่อใช้ R จะลดลงเหมือนลด EQ ในส่วนช่วงกลางๆ ลง (เมื่อก่อนชอบ) แต่ตอนนี้กำลังหิวเสียงกลางมากๆ เพราะมันจะทำให้เสียงไวโอลินเด่นชัดน่าฟังมากขึ้นครับ

คู่ละสองพันกว่าครับพี่ ถ้างั้นผมใช้โช๊คคู่นี้เป็น plate choke กับ 6HV5A ดีกว่า

เมื่อวานผมไปซื้อลวดทองแดงมาแล้วครับพี่ ผมจะเริ่มพัน OPT แล้วนะครับ 

สองคู่ก็ห้าพัน มีอีกไหมครับ? ราคานี้อยากได้มั๊กกกกก ปรกติแอมป์ PP ฟังแล้วจะรู้สึกค้ายๆ เสียงจะบางลงไปแม้ใช้ทุกหลอดเหมือนกันในการสร้าง คงอาจเป็นเพราะ SE Amp มีความเพี้ยนที่เป็น Harmonic คู่ เพิ่มเสริมเข้าไปด้วย แต่ PP Amp  แคลเซิ้นความเพี้ยนออกไปหมด เลยทำให้ฟังแล้วรู้สึกออกมาแบบนี้ ผมเลยคิดว่า Plate Chock ตัวนี้อาจเข้ามาแก้สถานการนี้ได้ ทำให้เสียงกลาางของ PP Amp อิ่มและมีมวลเนื้อเสียงมากขึ้น

แต่ที่สำคัญผมยังหาหลอดอีกเกือบสิบหลอดที่เก็บไว้ยังไม่พบเลยอ่ะ มันอาจอยู่บ้าน อย ครับ

พี่ไปก่อนวันที่ 20 ตค สามารถเอา OPT พี่ไปเสียบกับเครื่อง PP ที่มีอยู่ของประสานได้เลยไหม? หลอดอะไรก็ได้อยากฟังเสียงแล้วอ่ะครับ

[prasan]

จริงๆ plate choke ตัวนี้ ถูกออกแบบสำหรับ 6HV5 โดยเฉพาะอยู๋แล้วครบ ฉนวนของมันใช้งานได้ถึง 4,000V ผมใช้กับ spud amp ที่ 1200V 30mA

http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,3965.0.html

วงจรของ Spud amp ของอ. Karin ที่ใช้ Grid resistor 33k ผมลองคำนวณ Miller Cap
6HV5A      
Cin = Cgk + Cgp*(A+1)      
      
where: Cin = input capacitance      
           Cgk = grid-to-cathode capacitance, composed of the internal tube capacitance plus the stray capacitance      
           Cgp = grid-to-plate capacitance, composed of the internal tube capacitance plus the stray capacitance      
             A  = stage gain      
      
Cgp =   1.8   pf
Cgk =   22   pf
A =   300   
      
Cin =   5.638E-10   farad
      
f = 1/(2*pi*R*C)      
R =   33000   Ohm
f =   8558.572715   Hz

ความถี่ไปได้ถึง 8.5kHz เองครับ หรือว่าวิธีการอย่างไรจึงจะทำให้ตอบสนองความถี่ได้ไกลกว่านี้ครับ

[prasan]

ผมมี plate choke 120H 35mA ของ Electra Print ซื้อมาจากหน้าซื้อขาย ใช่รุ่นนี้หรือเปล่าครับที่พี่เคยใช้

อยากได้มากเลยครับ สัก 4 ตัวเอาไว้ทำ PP ได้มาเท่าไรน่ะ เสียงตอนใช้ Chock ตัวนี้จะอวบใหย่ดีมากๆ ครับ พอใช้ R ลงมาแทนเสียงจะบางกว่ามากๆ เลย แต่เสียงกลางเมื่อใช้ R จะลดลงเหมือนลด EQ ในส่วนช่วงกลางๆ ลง (เมื่อก่อนชอบ) แต่ตอนนี้กำลังหิวเสียงกลางมากๆ เพราะมันจะทำให้เสียงไวโอลินเด่นชัดน่าฟังมากขึ้นครับ

คู่ละสองพันกว่าครับพี่ ถ้างั้นผมใช้โช๊คคู่นี้เป็น plate choke กับ 6HV5A ดีกว่า

เมื่อวานผมไปซื้อลวดทองแดงมาแล้วครับพี่ ผมจะเริ่มพัน OPT แล้วนะครับ 

[prasan]

จริงๆ plate choke ตัวนี้ ถูกออกแบบสำหรับ 6HV5 โดยเฉพาะอยู๋แล้วครบ ฉนวนของมันใช้งานได้ถึง 4,000V ผมใช้กับ spud amp ที่ 1200V 30mA

http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,3965.0.html

ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อมูล 

[PINIJ]

ผมมี plate choke 120H 35mA ของ Electra Print ซื้อมาจากหน้าซื้อขาย ใช่รุ่นนี้หรือเปล่าครับที่พี่เคยใช้

อยากได้มากเลยครับ สัก 4 ตัวเอาไว้ทำ PP ได้มาเท่าไรน่ะ เสียงตอนใช้ Chock ตัวนี้จะอวบใหย่ดีมากๆ ครับ พอใช้ R ลงมาแทนเสียงจะบางกว่ามากๆ เลย แต่เสียงกลางเมื่อใช้ R จะลดลงเหมือนลด EQ ในส่วนช่วงกลางๆ ลง (เมื่อก่อนชอบ) แต่ตอนนี้กำลังหิวเสียงกลางมากๆ เพราะมันจะทำให้เสียงไวโอลินเด่นชัดน่าฟังมากขึ้นครับ

[Karin Preeda]

จริงๆ plate choke ตัวนี้ ถูกออกแบบสำหรับ 6HV5 โดยเฉพาะอยู๋แล้วครบ ฉนวนของมันใช้งานได้ถึง 4,000V ผมใช้กับ spud amp ที่ 1200V 30mA

http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,3965.0.html

[Tube Collector]

Plate Choke "Electra-print by Jack" นี้ยอดแต่ไม่แน่ใจไฟสูงได้ถึง 600V หรือเปล่าวครับ

[prasan]

ผมมี plate choke 120H 35mA ของ Electra Print ซื้อมาจากหน้าซื้อขาย ใช่รุ่นนี้หรือเปล่าครับที่พี่เคยใช้

[PINIJ]

ชักอยากจะเปลียนใจไปเล่น 6HV5A แล้ว http://www.audiodesignguide.com/Claudio845/845amp.html ต้องใช้ไฟสูงกว่า 900V จึงจะได้ผลดีกับ 6HV5A 

ไฟต่ำแค่ 900v ใช่ Chock ธรรมดาที่ไม่ได้พันแก้ความไม่ Linear ของ 6HV5 จะเพี้ยนเยอะครับ ถ้าจะใช้ไฟต่ำขนาดนี้แนะให้ซื้อ Chock จากคุณฆฤณ ผมเคยลองแล้วความเพี้ยนต่ำดีครับ ผมยังเสียดายไม่หาย ที่ตอนนผมแลกกลับ IT แทน เพราะตอนนั้นฟังเพลงออร์ไฟร์ ไม่ชอบเสียงกลาง  จริงๆ แล้วแผ่นออร์ไฟรย์บางแผ่นเหมือนจะกดเสียงกลางลงจากปรกติคจากเสียง Flat ด้วย แต่ตอนนี้อยากได้ Chock ของคุณฆฤณคืนมาเป็นอย่างมากๆๆ 

แต่ถ้าไม่ซื้อ Chock ผมเคยลองแล้ว เสียงจะขาดพลังครับ ต้องโน่น 1400v จะกำลังดีสำหรับลำโพงกินวัตต์ ถ้าลำโพงไม่กินวัตต์อย่างต่ำน่าจะ 1200v ครับ มิเช่นนั้น ลองลากโลดไลน์ดูก็จะเห็นความไม่ลิเนียร์ของมัน ถ้าไฟต่ำกว่า 1000v

[prasan]

ชักอยากจะเปลียนใจไปเล่น 6HV5A แล้ว http://www.audiodesignguide.com/Claudio845/845amp.html ต้องใช้ไฟสูงกว่า 900V จึงจะได้ผลดีกับ 6HV5A 

[prasan]

หลอด 6HV5 A อ่ะครับ

 

[PINIJ]

ถ้าลวดที่ระยองมี จัดให้ก่อนนะครับ เดี๋ยวไปจ่ายให้อาทิตย์หน้าพร้อมหลอด 6HV5 A อ่ะครับ

[prasan]

ดีเลยถ้าได้ถึง 370mA ความหวัง 250W คงใกล้ความจริงเข้ามาอีกแระ ไม่รู้ว่าถ้าเราอัดกันจริงที่ 2 เท่าของกระแสที่มันรับได้นี้ จะทนได้ซักกี่วินาทีครับ (ขอแค่ 20 วิ จะพังไหมเอ่ย?)

ผมลองคำนวณแล้ว #27swg ลงได้เหลือช่องว่างอีกประมาณ 4-5mm บีบหัวใจเหลือเกิน ลุ้นว่ามันจะล้นแกนหรือเปล่า  
พี่จัดมาเลยครับลวด #27swg จำนวน 3.5 กก. ลวด #22swg อีกสัก 1 กก.  

[PINIJ]

ดีเลยถ้าได้ถึง 370mA ความหวัง 250W คงใกล้ความจริงเข้ามาอีกแระ ไม่รู้ว่าถ้าเราอัดกันจริงที่ 2 เท่าของกระแสที่มันรับได้นี้ จะทนได้ซักกี่วินาทีครับ (ขอแค่ 20 วิ จะพังไหมเอ่ย?)

[prasan]

ค่า K อาจลดลงได้เป็น 8K กว่าๆ ก็ได้ครับ แต่ขอเพิ่มลวดให้รับกระแสได้แบบสุดๆ ของพื้นที่บ๊อบบิ้นจะรับได้อ่ะครับ ได้สัก 4-500mA ละสุดยอดดดดดดดดดดด สัก 300mA กว่าๆ  จะพอไหวไหมครับ?

จะ k มาก k น้อย ตอนนี้เท่าที่ดูมันติดขัดไปเลยละพี่ แรงดันไฟสูงมากจำนวนรอบจึงต้องมากด้วย ผมเคยลองคิดให้ว่าถ้าจะใช้ลวดที่ใหญ่กว่านี้ไม่ว่าจะใหญ่ด้วยการทำ Bifilar หรือใช้ลวดที่ใหญ่ขึ้น สุดท้ายมันจะล้นแกนครับพี่ ก็เลยลงตัวที่ #30swg

ผมจะลองให้อีกทีนะครับไม่รู้ว่า #27swg 370mA พอจะลงลวดได้หรือเปล่า

[PINIJ]

ค่า K อาจลดลงได้เป็น 8K กว่าๆ ก็ได้ครับ แต่ขอเพิ่มลวดให้รับกระแสได้แบบสุดๆ ของพื้นที่บ๊อบบิ้นจะรับได้อ่ะครับ ได้สัก 4-500mA ละสุดยอดดดดดดดดดดด สัก 300mA กว่าๆ  จะพอไหวไหมครับ?

[prasan]

ลองคิดว่าถ้าเอาหลอด 6HV5A มาใช้กับหลอด 845
เนื่องจากหลอดมีเกนสูง อ.Karin ให้ระวังเรื่อง Miller capacitance ถ้างั้นลองคำนวณดูก่อน

6HV5A      
Cin = Cgk + Cgp*(A+1)      
      
where: Cin = input capacitance      
           Cgk = grid-to-cathode capacitance, composed of the internal tube capacitance plus the stray capacitance      
           Cgp = grid-to-plate capacitance, composed of the internal tube capacitance plus the stray capacitance      
             A  = stage gain      
      
Cgp   1.8   pf
Cgk   22   pf
A   300   
      
Cin   5.638E-10   farad
      
f = 1/(2*pi*R*C)      
R   10000   Ohm
f   28243.28996   Hz

ต้องใช้ Volume 10k ไม่งั้นค่าสูงกว่านี้ ปลายแหลมกุดครับ
ลองดูครับ
Cin   5.638E-10   farad
f = 1/(2*pi*R*C)      
R   100000   Ohm
f   2824.328996   Hz

[prasan]

ผมเห็นวงจรที่คุณ DiyMan เอามาลงในกระทู้ 845 PP ของพี่ วงจรที่ใช้ 6HV5a ทำให้ผมนึกถึงวงจร 211 SE ของพี่เลย คิดๆ ดูก็น่าสนใจนะครับ ใช้หลอดเดียวขับหลอด 211 หรือ 845 ได้เลยเนื่องจากเกนการขยายของ 6HV5a สูงมากเลย

เออ! ลืมไปเลย 6HV5 มันก็เป็น Triode นี่หว่า! ถ้าประสานไม่เตือนพี่ rujลืมคิดถึงมันไปเลย  HT ที่ 1500v มัน Linear อยู่แล้ว    ตอนนี้ 300W 211 PPT Amp ไปถึงสบายมากแล้ว   ว่าแต่นายช่างประสานจะพัน OPT ให้พี่ได้ถึง 300W ได้หรือไม่เท่านั้นแหละ

SE OPT กับกำลังขนาดนั้นผมว่าขนาดน้องๆ หม้อแปลงการไฟฟ้าที่เกาะตามเสาไฟข้างถนนเลยนะพี่ 

เฮ้ย! พี่ไม่ได้ให้ทำหม้อ SE เพราะเลิกครบแอมป์แบบนี้ไปนานแล้ว จะให้พัน PP OPT ครับ เอาแบบเส้นคู่น่ะ (ไบฟิล่าหรือไรแหนะ) ลองคำนวณหาลวดที่เล็กกว่าเบอร์ 30 ที่ใช้ แล้วให้ใช้สองเส้นแทน แบบที่เหลือช่องว่าง 10 mm ให้เต็มกันไปเลยนะครับ คิดที่ 4500-5000 รอบ คือมันจะได้กี่ K ก็ช่างมัน คือ K ค่าน้อยลงเราก็ได้เส้นลวดใหญ่ขึ้นได้กำลังมากขึ้น เสียงเบสเดี๋ยวใช้วงจรเพิ่มให้ Flat ได้ OPT ลูกนี้ไม่ไปใช้ที่อื่นอยู่แล้ว เรา DIYer ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่ครับ มัน Drop ที่ความถี่เท่าไร? เอาสูตรคำนวณของภาค RIAA มาใช้ครับ ผมเป้นคนไม่แคร์ชาวบ้านว่าเครื่องเราจะทำมาอย่างไร? วงจรอาจไม่เยี่ยมยอดถูกลักษณะแป๊ะๆ ทุกอย่าง แต่แอมป์ของเราขอให้มีดีที่ตรง "เสียงออกมาถูกต้องเป็นที่สุด"  ไม่ว่าจะโทนบาลานซ์ เฟสของความถี่สูงและต่ำๆ  ต้องออกมาพร้อมๆ กัน (อันนี้สำคัญในการฟังเพลงคลาสสิกมากๆ ครับ ส่วนมากพวกเราไม่เคยคิดเรื่องนี้กันเลย แต่ถ้าเป็นชุดลำโพงที่ผมเซ็ทไว้ผมฟังออกครับ) และไดนามิคต้องดีมากๆ เสียงออกมาสดเหมือนจริง แต่ไม่ถึงกับเกินจริงนะครับ แค่นี้ผมพอใจแล้วครับ 

สรุปว่ายังต้องการให้เป็น PP opt 9.6k plate-to-plate อยู่ใช่หรือเปล่าครับพี่

[PINIJ]

ผมเห็นวงจรที่คุณ DiyMan เอามาลงในกระทู้ 845 PP ของพี่ วงจรที่ใช้ 6HV5a ทำให้ผมนึกถึงวงจร 211 SE ของพี่เลย คิดๆ ดูก็น่าสนใจนะครับ ใช้หลอดเดียวขับหลอด 211 หรือ 845 ได้เลยเนื่องจากเกนการขยายของ 6HV5a สูงมากเลย

เออ! ลืมไปเลย 6HV5 มันก็เป็น Triode นี่หว่า! ถ้าประสานไม่เตือนพี่ rujลืมคิดถึงมันไปเลย  HT ที่ 1500v มัน Linear อยู่แล้ว    ตอนนี้ 300W 211 PPT Amp ไปถึงสบายมากแล้ว   ว่าแต่นายช่างประสานจะพัน OPT ให้พี่ได้ถึง 300W ได้หรือไม่เท่านั้นแหละ

SE OPT กับกำลังขนาดนั้นผมว่าขนาดน้องๆ หม้อแปลงการไฟฟ้าที่เกาะตามเสาไฟข้างถนนเลยนะพี่ 

เฮ้ย! พี่ไม่ได้ให้ทำหม้อ SE เพราะเลิกครบแอมป์แบบนี้ไปนานแล้ว จะให้พัน PP OPT ครับ เอาแบบเส้นคู่น่ะ (ไบฟิล่าหรือไรแหนะ) ลองคำนวณหาลวดที่เล็กกว่าเบอร์ 30 ที่ใช้ แล้วให้ใช้สองเส้นแทน แบบที่เหลือช่องว่าง 10 mm ให้เต็มกันไปเลยนะครับ คิดที่ 4500-5000 รอบ คือมันจะได้กี่ K ก็ช่างมัน คือ K ค่าน้อยลงเราก็ได้เส้นลวดใหญ่ขึ้นได้กำลังมากขึ้น เสียงเบสเดี๋ยวใช้วงจรเพิ่มให้ Flat ได้ OPT ลูกนี้ไม่ไปใช้ที่อื่นอยู่แล้ว เรา DIYer ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่ครับ มัน Drop ที่ความถี่เท่าไร? เอาสูตรคำนวณของภาค RIAA มาใช้ครับ ผมเป้นคนไม่แคร์ชาวบ้านว่าเครื่องเราจะทำมาอย่างไร? วงจรอาจไม่เยี่ยมยอดถูกลักษณะแป๊ะๆ ทุกอย่าง แต่แอมป์ของเราขอให้มีดีที่ตรง "เสียงออกมาถูกต้องเป็นที่สุด"  ไม่ว่าจะโทนบาลานซ์ เฟสของความถี่สูงและต่ำๆ  ต้องออกมาพร้อมๆ กัน (อันนี้สำคัญในการฟังเพลงคลาสสิกมากๆ ครับ ส่วนมากพวกเราไม่เคยคิดเรื่องนี้กันเลย แต่ถ้าเป็นชุดลำโพงที่ผมเซ็ทไว้ผมฟังออกครับ) และไดนามิคต้องดีมากๆ เสียงออกมาสดเหมือนจริง แต่ไม่ถึงกับเกินจริงนะครับ แค่นี้ผมพอใจแล้วครับ 

[prasan]

ผมเห็นวงจรที่คุณ DiyMan เอามาลงในกระทู้ 845 PP ของพี่ วงจรที่ใช้ 6HV5a ทำให้ผมนึกถึงวงจร 211 SE ของพี่เลย คิดๆ ดูก็น่าสนใจนะครับ ใช้หลอดเดียวขับหลอด 211 หรือ 845 ได้เลยเนื่องจากเกนการขยายของ 6HV5a สูงมากเลย

เออ! ลืมไปเลย 6HV5 มันก็เป็น Triode นี่หว่า! ถ้าประสานไม่เตือนพี่ rujลืมคิดถึงมันไปเลย  HT ที่ 1500v มัน Linear อยู่แล้ว    ตอนนี้ 300W 211 PPT Amp ไปถึงสบายมากแล้ว   ว่าแต่นายช่างประสานจะพัน OPT ให้พี่ได้ถึง 300W ได้หรือไม่เท่านั้นแหละ

SE OPT กับกำลังขนาดนั้นผมว่าขนาดน้องๆ หม้อแปลงการไฟฟ้าที่เกาะตามเสาไฟข้างถนนเลยนะพี่ 

[PINIJ]

ผมเห็นวงจรที่คุณ DiyMan เอามาลงในกระทู้ 845 PP ของพี่ วงจรที่ใช้ 6HV5a ทำให้ผมนึกถึงวงจร 211 SE ของพี่เลย คิดๆ ดูก็น่าสนใจนะครับ ใช้หลอดเดียวขับหลอด 211 หรือ 845 ได้เลยเนื่องจากเกนการขยายของ 6HV5a สูงมากเลย

เออ! ลืมไปเลย 6HV5 มันก็เป็น Triode นี่หว่า! ถ้าประสานไม่เตือนพี่ rujลืมคิดถึงมันไปเลย  HT ที่ 1500v มัน Linear อยู่แล้ว    ตอนนี้ 300W 211 PPT Amp ไปถึงสบายมากแล้ว   ว่าแต่นายช่างประสานจะพัน OPT ให้พี่ได้ถึง 300W ได้หรือไม่เท่านั้นแหละ

[prasan]

ผมเห็นวงจรที่คุณ DiyMan เอามาลงในกระทู้ 845 PP ของพี่ วงจรที่ใช้ 6HV5a ทำให้ผมนึกถึงวงจร 211 SE ของพี่เลย คิดๆ ดูก็น่าสนใจนะครับ ใช้หลอดเดียวขับหลอด 211 หรือ 845 ได้เลยเนื่องจากเกนการขยายของ 6HV5a สูงมากเลย

[PINIJ]

จะไปเที่ยวบ้านพี่ให้ได้ ลูกชายก็ชวนไปเที่ยวไกลๆ เค้าบอกว่าพ่อไม่เคยพาไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ เลย 

ปิดเทอมนี้ขึ้นมาได้เลยครับ ตอนนี้ที่นี่เริ่มจะหนาวแล้ว ลมพัดลงมาจากทิศเหนือแล้วครับ ช่วงหน้าหนาวผมอาจจะลงไปอยู่เป็นเพื่อนคุฯแม่ที่บ้านอยุธยาสักเดือนหรือสองเดือน ไปเจอกันที่นั่นก็ได้ พี่คิดว่าชุดที่บ้านอยุธยาฟังมันส์กว่าชุดที่บ้านภูซางครับ คือเสียงเร็ว ไว มีความฉลับพลันสูง สะเกวล์ใหญ่กว่าที่นี่เป็นเท่าตัว แต่แรงกระแทกหน้าอกน้อยกว่าที่นี่

[prasan]

จะไปเที่ยวบ้านพี่ให้ได้ ลูกชายก็ชวนไปเที่ยวไกลๆ เค้าบอกว่าพ่อไม่เคยพาไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ เลย 

[PINIJ]

เออ! พี่ไม่เคยอ่านในนี้มาก่อนเลย แต่พี่ก็มั่วๆ ทำแบบเค้าแหละ ค่อยๆ เพิ่มโวล์ทขึ้นไปเรื่อยๆ จนเต็มพิกัสของมัน ตอนแรกมันจะร้อนมากๆ บงครั้งต้องลดโวลท์ลงมา อัดทิ้งนานๆ แล้วค่อยๆ เขยิบ

นายช่างประสานคิดหรือว่า C รุ่นใหม่ๆ จะเหมาะกว่า C รุ่นเก่าๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องหลอดโดยเฉพาะ เรื่องการเลือกอุปรณ์เล็กๆ น้อยพวกนี้ แต่จะทำให้แอมป์หลอดเสียงดีกว่ากันได้เลยนะครับ ถ้าเราใช้ลำโพงที่ดีๆ แล้วจะเห็นความแตกต่างกันชัดเจนครับ ส่วนมากพวกเราฟังแต่เสียงกัน มีนักดีไอวายน้อยคนที่จะเซ็ทลำโพงกันแบบละเอียดเหมือนพวกคอไฮเอนด์ ผมเล่นสองแนว ทั้งดีไอวายและไฮเอนด์ ผมจึงเน้นทุกอย่างครับ บางคนฟังแล้วยังไม่เห็นความแตกต่าง แต่ผมเห็นครับ และผมคิดว่าพวกเราน้อยคนที่จะฟังเพลงคลาสสิกกันอย่างจริงจัง จนสามารถจับนอกจากเสียงแล้วยังเห็นารมย์ของคนเล่นคนคุมวงได้ด้วยชุดที่ดีและเซ็ทอับลำโพงต้องดีมากแบบไม่ให้มีเสียงกล้องสะท้อนอีกด้วย DPoLS คือการเซ็ทที่ผมคิดว่าดีที่สุดสำหรับการเซ็ทลำโพงแบบการฟังอย่างจับผิดเอาจริงเอาจังครับ (ต้องมาเที่ยวภูซางครับจะได้รู้จัก DPoLS  ตอนนี้ผมคิดว่าผมเซ็ทมันได้เกิน 80% แล้ว) ถ้าเซ็ทได้เข้าที่เข้าทางแล้ว จะรู้ว่าชุดที่เราฟังอยู่นี้นั้นมันเยี่ยมกว่าเดิมอีกเยอะละครับ

[prasan]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

การจัดขดลวดก็มีผลต่อค่า C มากครับพี่ อย่างที่ Hashimoto เค้าเขียนไว้แหละครับ สมดุลย์ระหว่างค่า C และ Leakage inductance 

ที่ว่ามานี้ เค้ารู้กันมาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ความเปลียกความแห้งของวานิส ก็มีผลต่อค่า C เหมือนกันมิใช่หรือครับ? จะเป็น DIY ที่ทำเครื่องออกมาดีได้ ต้องมีความละเอียดในการคิดให้มากๆ นะครับ

ใช่ครับพี่ ที่พี่ว่าเค้าก็รู้กันมาตั้งนานแล้วละ  ตามสูตรการหาค่า C เป๊ะเลยพี่ -> ค่า C ขึ้นอยู่กับ (แปรผันตรง) ค่า dielectric constant และพื้นที่หน้าตัดของ electrode แล้วก็แปรผกผันกับระยะห่างระหว่าง electrode

ความชื้นมันไปมีผลต่อค่า dielectric constant ครับ 

ไป คือ ไม่ ใช่ไหม? ถ้าใช่ งั้นขอถามหน่อยว่า C ที่เก็บไว้นานๆ เป็นสามสิบสี่ปี ค่า C แบบอีเล็กโตไลท์ หายไปทางไหน? ถ้า อีเล็กโตไลท์มันไม่แห้งจนไปเกาะอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของแผ่นอีเล็กโทด หรือเป็นก้อนอยู่ในระหว่างอีเล็กโทด (อันนี้ผมเคยเจอมาแล้ว เขย่าเสียงดังขลลุกขลักอยู่ภายในอย่างชัดเจน) พอเอามาวัดค่า C ปรากฏว่าไม่มีค่าเลย เป็นศูนย์ แต่พอค่อยๆ เอาไฟไปป้อนทิ้งไว้เดือนหนึ่ง จับเขย่าดูอีกครั้งปรากฏว่าไม่พบก้อนอะไรอยู่ข้างใน และเอาไปวัดใหม่ก็ได้ค่าตามที่ระบุไว้ข้างตัวมัน นี่คือไม่ใช่การแห้งของอีเล็กโตไลท์ที่มีผลต่อค่า C หรือ?

งั้นของถามใหม่ถ้าเอาแผ่นอีเล็กโทดมาวางชิดๆ กัน แต่ไม่แตะกัน เราจะวัดค่า C ได้ไหม? (อาจได้ แต่ก็น้อยมากๆๆๆ) แล้วถ้าใส่น้ำลงไป ค่า C จะเพิ่มขึ้นมาไหม? อันนี้ไม่รู้อยากรู้ครับ ว่าน้ำเป็นอีเล็กโตไลท์ได้ไหม? แต่คิดว่าได้นะ เพราะน้ำเป็นตัวนำกว่าอากาศ

ความชื้นมีผลครับพี่ พี่สังเกตมั๊ยว่า ถ้า C มีอาการที่ช่างเค้าชอบเรียก C แห้ง สาเหตุมาจากการเกิดความร้อนสูงใน C ทำให้น้ำระเหยออกจากกระป๋องนั่นเองครับ ค่าของ C จะเปลี่ยนด้วยครับ
ก้อนที่ดังขลุกๆ ที่พี่เคยเจอผมไม่ทราบว่าสาเหตุจากอะไรครับ
C ที่ทิ้งไว้นานๆ จะต้องทำ Capacitor reform ผมก็อ่านจากในนี้ http://www.angelfire.com/electronic/funwithtubes/Restore_cap.html ไม่เคยลองทำหรอกครับ เพราะว่าไม่ค่อยจะมีของเก่าๆ ให้ลองเล่นครับ ส่วนใหญ่ก็ซื้อ C ใหม่ๆ ในท้องตลาด

[PINIJ]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

การจัดขดลวดก็มีผลต่อค่า C มากครับพี่ อย่างที่ Hashimoto เค้าเขียนไว้แหละครับ สมดุลย์ระหว่างค่า C และ Leakage inductance 

ที่ว่ามานี้ เค้ารู้กันมาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ความเปลียกความแห้งของวานิส ก็มีผลต่อค่า C เหมือนกันมิใช่หรือครับ? จะเป็น DIY ที่ทำเครื่องออกมาดีได้ ต้องมีความละเอียดในการคิดให้มากๆ นะครับ

ใช่ครับพี่ ที่พี่ว่าเค้าก็รู้กันมาตั้งนานแล้วละ  ตามสูตรการหาค่า C เป๊ะเลยพี่ -> ค่า C ขึ้นอยู่กับ (แปรผันตรง) ค่า dielectric constant และพื้นที่หน้าตัดของ electrode แล้วก็แปรผกผันกับระยะห่างระหว่าง electrode

ความชื้นมันไปมีผลต่อค่า dielectric constant ครับ 

ไป คือ ไม่ ใช่ไหม? ถ้าใช่ งั้นขอถามหน่อยว่า C ที่เก็บไว้นานๆ เป็นสามสิบสี่ปี ค่า C แบบอีเล็กโตไลท์ หายไปทางไหน? ถ้า อีเล็กโตไลท์มันไม่แห้งจนไปเกาะอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของแผ่นอีเล็กโทด หรือเป็นก้อนอยู่ในระหว่างอีเล็กโทด (อันนี้ผมเคยเจอมาแล้ว เขย่าเสียงดังขลลุกขลักอยู่ภายในอย่างชัดเจน) พอเอามาวัดค่า C ปรากฏว่าไม่มีค่าเลย เป็นศูนย์ แต่พอค่อยๆ เอาไฟไปป้อนทิ้งไว้เดือนหนึ่ง จับเขย่าดูอีกครั้งปรากฏว่าไม่พบก้อนอะไรอยู่ข้างใน และเอาไปวัดใหม่ก็ได้ค่าตามที่ระบุไว้ข้างตัวมัน นี่คือไม่ใช่การแห้งของอีเล็กโตไลท์ที่มีผลต่อค่า C หรือ?

งั้นของถามใหม่ถ้าเอาแผ่นอีเล็กโทดมาวางชิดๆ กัน แต่ไม่แตะกัน เราจะวัดค่า C ได้ไหม? (อาจได้ แต่ก็น้อยมากๆๆๆ) แล้วถ้าใส่น้ำลงไป ค่า C จะเพิ่มขึ้นมาไหม? อันนี้ไม่รู้อยากรู้ครับ ว่าน้ำเป็นอีเล็กโตไลท์ได้ไหม? แต่คิดว่าได้นะ เพราะน้ำเป็นตัวนำกว่าอากาศ

[prasan]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

การจัดขดลวดก็มีผลต่อค่า C มากครับพี่ อย่างที่ Hashimoto เค้าเขียนไว้แหละครับ สมดุลย์ระหว่างค่า C และ Leakage inductance 

ที่ว่ามานี้ เค้ารู้กันมาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ความเปลียกความแห้งของวานิส ก็มีผลต่อค่า C เหมือนกันมิใช่หรือครับ? จะเป็น DIY ที่ทำเครื่องออกมาดีได้ ต้องมีความละเอียดในการคิดให้มากๆ นะครับ

ใช่ครับพี่ ที่พี่ว่าเค้าก็รู้กันมาตั้งนานแล้วละ  ตามสูตรการหาค่า C เป๊ะเลยพี่ -> ค่า C ขึ้นอยู่กับ (แปรผันตรง) ค่า dielectric constant และพื้นที่หน้าตัดของ electrode แล้วก็แปรผกผันกับระยะห่างระหว่าง electrode

ความชื้นมันไปมีผลต่อค่า dielectric constant ครับ 

[PINIJ]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

การจัดขดลวดก็มีผลต่อค่า C มากครับพี่ อย่างที่ Hashimoto เค้าเขียนไว้แหละครับ สมดุลย์ระหว่างค่า C และ Leakage inductance 

ที่ว่ามานี้ เค้ารู้กันมาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ความเปลียกความแห้งของวานิส ก็มีผลต่อค่า C เหมือนกันมิใช่หรือครับ? จะเป็น DIY ที่ทำเครื่องออกมาดีได้ ต้องมีความละเอียดในการคิดให้มากๆ นะครับ

[prasan]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

การจัดขดลวดก็มีผลต่อค่า C มากครับพี่ อย่างที่ Hashimoto เค้าเขียนไว้แหละครับ สมดุลย์ระหว่างค่า C และ Leakage inductance 

[PINIJ]

เคยเช็คค่า C ของวานิสไหมครับว่า หลังเบิร์นไปแล้วมันลดลงมากไหม? และอยากให้ลองวัดขี้ผึ่งก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไว้ด้วยก็ดีนะครับ

[prasan]

วันนี้ได้ฟังแล้วครับ ขี้ผึงไม่ไหลออกมาครับ 
เอาได้... เอาได้  แต่ว่าถ้าเหล็กให้ค่า L ที่ดีกว่านี้ผมว่าเยี่ยมเลย ตอนนี้ยอมรับสภาพ พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านพี่ยุทธครับOPT ชุดนี้ 

คำนี้เค้าให้ใช้แค่คุยกะคนในระยอง เดี๋ยวเกิดความเข้าใจผิด ผมไประยองอาทิตย์หน้าคงได้ฟังนะครับ รู้สึกว่ามิสเตอร์เคนจิก็ใช้ไขผึงเหมือนกันละมัง OPT ของผมที่ให้แกพันให้เป็นพิเศษก็เห็นมันเยิ้มๆ แบบนี้

พี่นำ OPT ของเคนจิมาด้วยได้มั๊ยครับ Lundahl ก็ได้ครับ
แท่น 845 Mono ผมหยุดไว้ก่อน ขอทำ PP opt ของพี่ให้เสร้จก่อน ผมจึงจะทำต่อ 

เดี๋ยวจะแกะลันดาวห์เอามาให้ดูครับ แล้วตัวที่ใช้ขี้ผึ่งนั้น ความชื้นของขี้ผึ่งเมื่อเทียบกับวานิสอันไหนแห้งเร็วกว่ากันครับ

เอา Lundahl มาให้ผม Reverse engineering พูดง่าย่ๆ ว่ารื้อหม้อแปลง  ไม่หรอกพี่แค่อยากเห็นของจริงบ้างแค่นั้นแหละครับ
วานิชแห้งได้ แต่ขี้ผึ้งมันจะหนืดๆ ตลอดครับ

[PINIJ]

วันนี้ได้ฟังแล้วครับ ขี้ผึงไม่ไหลออกมาครับ 
เอาได้... เอาได้  แต่ว่าถ้าเหล็กให้ค่า L ที่ดีกว่านี้ผมว่าเยี่ยมเลย ตอนนี้ยอมรับสภาพ พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านพี่ยุทธครับOPT ชุดนี้ 

คำนี้เค้าให้ใช้แค่คุยกะคนในระยอง เดี๋ยวเกิดความเข้าใจผิด ผมไประยองอาทิตย์หน้าคงได้ฟังนะครับ รู้สึกว่ามิสเตอร์เคนจิก็ใช้ไขผึงเหมือนกันละมัง OPT ของผมที่ให้แกพันให้เป็นพิเศษก็เห็นมันเยิ้มๆ แบบนี้

พี่นำ OPT ของเคนจิมาด้วยได้มั๊ยครับ Lundahl ก็ได้ครับ
แท่น 845 Mono ผมหยุดไว้ก่อน ขอทำ PP opt ของพี่ให้เสร้จก่อน ผมจึงจะทำต่อ 

เดี๋ยวจะแกะลันดาวห์เอามาให้ดูครับ แล้วตัวที่ใช้ขี้ผึ่งนั้น ความชื้นของขี้ผึ่งเมื่อเทียบกับวานิสอันไหนแห้งเร็วกว่ากันครับ

[prasan]

วันนี้ได้ฟังแล้วครับ ขี้ผึงไม่ไหลออกมาครับ 
เอาได้... เอาได้  แต่ว่าถ้าเหล็กให้ค่า L ที่ดีกว่านี้ผมว่าเยี่ยมเลย ตอนนี้ยอมรับสภาพ พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านพี่ยุทธครับOPT ชุดนี้ 

คำนี้เค้าให้ใช้แค่คุยกะคนในระยอง เดี๋ยวเกิดความเข้าใจผิด ผมไประยองอาทิตย์หน้าคงได้ฟังนะครับ รู้สึกว่ามิสเตอร์เคนจิก็ใช้ไขผึงเหมือนกันละมัง OPT ของผมที่ให้แกพันให้เป็นพิเศษก็เห็นมันเยิ้มๆ แบบนี้

พี่นำ OPT ของเคนจิมาด้วยได้มั๊ยครับ Lundahl ก็ได้ครับ
แท่น 845 Mono ผมหยุดไว้ก่อน ขอทำ PP opt ของพี่ให้เสร้จก่อน ผมจึงจะทำต่อ 

[PINIJ]

วันนี้ได้ฟังแล้วครับ ขี้ผึงไม่ไหลออกมาครับ 
เอาได้... เอาได้  แต่ว่าถ้าเหล็กให้ค่า L ที่ดีกว่านี้ผมว่าเยี่ยมเลย ตอนนี้ยอมรับสภาพ พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านพี่ยุทธครับOPT ชุดนี้ 

คำนี้เค้าให้ใช้แค่คุยกะคนในระยอง เดี๋ยวเกิดความเข้าใจผิด ผมไประยองอาทิตย์หน้าคงได้ฟังนะครับ รู้สึกว่ามิสเตอร์เคนจิก็ใช้ไขผึงเหมือนกันละมัง OPT ของผมที่ให้แกพันให้เป็นพิเศษก็เห็นมันเยิ้มๆ แบบนี้

[prasan]

วันนี้ได้ฟังแล้วครับ ขี้ผึงไม่ไหลออกมาครับ 
เอาได้... เอาได้  แต่ว่าถ้าเหล็กให้ค่า L ที่ดีกว่านี้ผมว่าเยี่ยมเลย ตอนนี้ยอมรับสภาพ พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านพี่ยุทธครับOPT ชุดนี้ 

[prasan]

เมื่อวานต่อสายลองทดสอบแล้ว ไม่ค่อยพอใจกับผลของค่า L ที่ได้เลย  แกนเหล็กที่ใช้ M6 38mm x 60mm, primary 2628 รอบ, sec 75 รอบ
ค่า L 20Hy/100Hz, 24Hy/1kHz
    Lsp 17mH/1kHz
    Cp 367pf/1kHz
    DCR 138 Ohm

แต่ทำไงได้ก็ต้องลองพันอีกข้างให้เสร็จแล้วค่อยลุ้นกันอีกทีตอนทำ Frequency response ให้กำลังใจตัวเอง เคยเห็นของบางเจ้า ของเค้าก็ค่า L ไม่มากในบางรุ่น
วันหน้าถ้าได้แกนเหล็กดีๆ แล้วค่อยเปลี่ยนใส่ก็ได้ 

[prasan]

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรกับการลองใช้ขี้ผึ้งทาแทนวานิช เดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว  

สงสัยจะหวานหยาด เยิ้ม 

ขนาดยังไม่ได้ลองฟัง ขี้ผึ้งก็ออกอาการเยิ้มไปก่อนแล้วครับ 

[prasan]

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรกับการลองใช้ขี้ผึ้งทาแทนวานิช เดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว 

เดี๋ยวจะเอาแผ่น CD ไปคืนพร้อมกับช่วยฟังให้นะครับ ผมว่าใช้ขี้ผึ่งดีกว่า ภรรยาจะได้ไม่บ่นว่าเหม็นน้ำมันวานิสตอนพันอีกด้วยนะครับ

กลิ่นขี้ผึ้งแท้ๆ นี่มันหอมครับพี่ ไม่เหม็นเหมือนที่ใช้วานิช พันไปด้วยดูทีวีกับลูกด้วยแฟนไม่บ่นเหม็นแล้ว เพิ่งเสร็จข้างเดียวครับ อีกข้างจะเร่งพัน น่าจะเสร็จวันเสาร์ครับ

[Mr. Tube]

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรกับการลองใช้ขี้ผึ้งทาแทนวานิช เดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว  

สงสัยจะหวานหยาด เยิ้ม 

[PINIJ]

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรกับการลองใช้ขี้ผึ้งทาแทนวานิช เดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว 

เดี๋ยวจะเอาแผ่น CD ไปคืนพร้อมกับช่วยฟังให้นะครับ ผมว่าใช้ขี้ผึ่งดีกว่า ภรรยาจะได้ไม่บ่นว่าเหม็นน้ำมันวานิสตอนพันอีกด้วยนะครับ

[prasan]

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรกับการลองใช้ขี้ผึ้งทาแทนวานิช เดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว 

[prasan]

กำลังปั่น OPT ฉบับขี้ผึ้งแท้ๆ ถ้าเสร็จทันวันที่ 25 คงได้เจอและทดสอบที่บ้านพี่ยุทธครับ 

[Mc]

ของผมหม้อตัวเองก็ยังไม่เสร็จเกือบเสร็จแล้วหนึ่งลูกเหลือsecชั้นสุดท้าย ส่วนหม้อของปู่Mcกำลังจะขึ้น ;Dคำนวณแล้วPriอยู่ที่219รอบ sec 107รอบ

ลืมไป1,100VAพอมั๊ยครับ

พอครับ

[aphiphot]

ของผมหม้อตัวเองก็ยังไม่เสร็จเกือบเสร็จแล้วหนึ่งลูกเหลือsecชั้นสุดท้าย ส่วนหม้อของปู่Mcกำลังจะขึ้น ;Dคำนวณแล้วPriอยู่ที่219รอบ sec 107รอบ

ลืมไป1,100VAพอมั๊ยครับ

[aphiphot]

ของผมหม้อตัวเองก็ยังไม่เสร็จเกือบเสร็จแล้วหนึ่งลูกเหลือsecชั้นสุดท้าย ส่วนหม้อของปู่Mcกำลังจะขึ้น ;Dคำนวณแล้วPriอยู่ที่219รอบ sec 107รอบ