HTG2.club

ค่า K ของ output จะเปลี่ยนไปไหม เมื่อ จ่ายไฟให้กับหลอดเพิ่มขึ้นหรือลดลง จากเสปคดาต้าชีทของหลอด

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
เมื่อต่อลำโพงที่มี impedance  8 ohm  เข้าด้าน secondary เพื่อเป็นโหลดของ OPT ขณะที่เราฟังเพลง impedance ของลำโพงเปลี่ยนไปตามความถี่เสียงเกิด reflecting impedance ทำให้ impedance ด้าน primary ของ opt เปลี่ยนไปจึงดูคล้ายว่า impedance ของ OPT เปลี่ยนไปตามความถี่แต่จริงๆมันเปลี่ยนตาม Impedance ของลำโพง ที่เปลี่ยนไป ผมอธิบายอย่างนี้พอเป็นไปได้ไหมครับ
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
ดูเล่นๆ

ขอบคุณคุณ PORN ที่กลับมาเข้าเรื่องอย่างรวดเร็วครับ

กราฟลักษณะที่คุณ PORN แสดงไว้ ผมเคยเห็นมาแล้ว จึงเป็นที่มาของคำถามในกระทู้แรกครับ และคุณ PORN ตอบคำถามได้ไม่ Clear รวมถึงการตอบเชิงเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพก็ยังไม่ถูกต้องอีก หรืออย่างกราฟที่เอามาแสดงไว้ก็ดูไม่สอดคล้องกับคำตอบแรกของคุณ PORN ที่เปรียบเทียบ 1kHz กับ 5kHz อยู่ดี

คุณ PORN จะเอารูปผลการวัดเพียงแค่นี้แล้วเอามาสร้างเป็นทฤษฎีไม่ได้ครับ ทฤษฎีเรื่องหม้อแปลง มันถูกพิสูจน์มากว่า 100 ปีแล้ว ประเด็นคือเมื่อคุณ PORN เห็นว่าผลการวัดมันไม่สอดคล้องกับทฤษฎีพื้นฐานแล้ว คำอธิบายคืออะไร ต้องหาสาเหตุที่มันไม่สอดคล้องซะก่อน ไม่ใช่การไปเปลี่ยนทฤษฎีพื้นฐานของมันครับ (เราเรียนสาย Apply Science มาเหมือนกัน คิดว่าเราคงเข้าใจหลักการนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่นะครับ) หรือถ้าคุณ PORN พอใจจะเปลี่ยน ก็ขอความกรุณาช่วยเก็บไว้เป็นของส่วนตัวเถอะครับ

ก่อนที่คุณ PORN จะวิเคราะห์ผลจากกราฟของ Hashimoto ผมแนะนำให้คุณ PORN ศึกษาให้แม่นทฤษฎีหม้อแปลงก่อนครับ อย่างน้อยก็ให้เข้าใจ Ideal Transformer และวงจรสมมูลของมันก่อน แล้วลองศึกษาดูว่า Hashimoto เค้ามีวิธีการอย่างไรในการทดสอบ OPT แล้วจึงได้กราฟรูปนี้มา เส้น Impedance ที่เห็น เค้า Plot อย่างไร แล้วจึงค่อยมาวิเคราะห์ว่า เหตุใด Imp ที่ความถี่ต่ำจึงน้อยกว่าที่ช่วงความถี่กลาง และเหตุใดจึงมี Peak ที่ช่วงความถี่สูงครับ อีกประการหนึ่งคือถ้าเอา OPT ของ Lundahl มาวัด ผลจะไม่เป็นเช่นที่เห็นนี้ครับ (ลองค้นหาดูนะครับ)
  เป็นข้อมูลที่ผมไม่เคยรู้เลย มีประโยชน์มาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม, 2010, 04:42:53 pm โดย เอก-tubeamp »
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ นายป้อ

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,937
    • เพศ:ชาย
มาตามเก็บความรู้ครับ ชอบครับชอบ เอาเหตุผลมาถกกันแบบสร้างสรรค์ดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม, 2010, 04:47:50 pm โดย นายป้อ »


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ถามง่ายๆ แบบใจร่มๆ (อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยก็ได้)  แต่ขอถามครับ ว่า

choke 5H ถ้า ไฟ 100Hz วิ่งผ่าน 50mA กับ 250mA ค่า inductance  จะเท่ากันหรือเปล่าครับ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
น่าจะไม่เท่ากันนะครับ เพราะตอนคำนวนออกแบบ สูตรมันมีความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 
ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าเรียนผ่านมานานมากแล้ว  (ผิดถูกยังไงต้องขออภัย ความคิดส่วนตัว) รอความเห็นจากท่านอื่นแนะนำด้วยครับ

ในสูตรนั้นมีความถี่อยู่ด้วย แต่โจทย์ของคุณลำน้ำ ความถี่คงที่ ครับ ต้องลองดูในสูตรอีกทีว่า ในสูตรมี กระแส อยู่ด้วยรึเปล่าครับ  :)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ถ้าดูจากเส้นกราฟ OPT 3.5K  ที่ 20Hz  imp. จะอยู่ที่ประมาณ 2K  เส้นจะเริ่ม linear ที่ประมาณความถี่ 3Khz จนถึง 10KHz  หลังจากนั้นเส้นกราฟจะชันสูงขึ้น
ก็แสดงว่าช่วงระหว่างความที่ 20Hz ถึง 100KHz  impedance ของ opt  จะเปลี่ยนแปลงอยู่ระหว่าง 1.5K-7.5K ที่ load 8 โอห์มเท่าเดิม
แสดงว่าความถี่มีผลต่อ impedance ของหม้อแปลง
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า  :D :D

ถ้าดูแค่จากกราฟรูปนี้รูปเดียว ผมก็สรุปได้แบบเดียวกันครับ แต่ผมศึกษาพื้นฐานมาก่อนเห็นรูปนึ้ และผมเคยเห็นกราฟทำนองนี้มาอีกหลายรูป จึงเห็นความผิดปกติของกราฟครับ  :)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ถามง่ายๆ แบบใจร่มๆ (อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยก็ได้)  แต่ขอถามครับ ว่า

choke 5H ถ้า ไฟ 100Hz วิ่งผ่าน 50mA กับ 250mA ค่า inductance  จะเท่ากันหรือเปล่าครับ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------

เข้าใจว่าคุณลำน้ำ กำลังถามถึง Choke Filter ในวงจร Power supply นะครับ แต่คุณลำน้ำไม่ได้บอกว่า 50/250mA เป็น AC หรือ DC ผมจึงอนุมานว่าเป็น AC ทั้งหมดนะครับ เพราะฉะนั้น Choke ตัวนี้อยู่ในสถานะ Load ครับ

ในสภาพอุดมคติ เท่ากัน ครับ แต่ในสภาพความเป็นจริงอาจจะเท่าหรือไม่เท่าก็เป็นได้ทั้งคู่ครับ สาเหตุหนึ่งที่ผมทราบคือเรื่องคุณสมบัติของแกนหม้อแปลง ซึ่งจะมีค่า Permeability เปลี่ยนไป ตามค่า Flux Density ครับ เมื่อ Perm เปลี่ยนไป ค่า Inductance ก็เปลี่ยนไปครับ แต่กรณีที่ไม่เปลี่ยนก็เป็นไปได้ครับ เช่น วัสดุที่คุณลำน้ำใช้ทำแกนมีค่า Perm เกือบคงที่ ในช่วงที่ Flux Density เปลี่ยนแปลงไปถึง 5 เท่า ตามตัวอย่างที่ยกมา ค่า Inductance ก็จะไม่เปลี่ยนไปมากจนเป็นนัยสำคัญ เป็นต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม, 2010, 02:14:05 pm โดย Mr. Tube »


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ผมเข้าใจดีทั้งสภาพอุดมคติ และ สภาพความเป็นจริง ของอุปกรณ์ครับ ถ้าอ่านกระทู้แต่ต้นจะเห็นว่า ผมไม่ได้คัดค้านคำอธิบายแรกของคุณ PORN เพราะผมทราบดีว่า ในสภาพจริงเราจะใช้เพียง ทฤษฎีของหม้อแปลง มาอธิบาย มันไม่เพียงพอครับ ผมจึงเพียงแต่ถามถึงเหตุผล ว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นที่คุณ PORN ว่านั้น ซึ่งคุณ PORN ก็ได้ตอบมา และผมเห็นว่า ไม่เป็นเหตุเป็นผล จึงแย้งไปด้วยเหตุผล ครับ

ต่อมาคุณ PORN ก็ยก Graph ของ Hashimoto ซึ่งวัดค่า OPT มารุ่นหนึ่ง ประเด็นคือเราสามารถใช้ผลการวัดนี้ แทนสภาพความเป็นจริงของ OPT ทุกตัวในโลกได้หรือไม่ ซึ่งเท่าที่ผมศึกษามา ผมทราบว่าไม่ได้ จึงได้แสดงเหตุผลแย้งอีกรอบหนึ่ง และขอให้ไปศึกษาเพิ่มเติม และดู Graph การวัด OPT ตัวอื่นๆ ประกอบด้วย มันมีปัจจัยตั้งมากมายในสภาพความเป็นจริง นอกจากทฤษฎีของหม้อแปลง ครับ

ผมชอบคุยเรื่องความรู้ คุยเหตุคุยผล เพราะผมอยากรู้ให้มากขึ้น ถ้าใครบอกได้ว่าสิ่งที่ผมอธิบาย ไม่ถูกต้องตรงไหน และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร สมเหตุสมผลมากกว่าอย่างไร ผมจะยินดีมาก และจะขอบคุณด้วย รวมถึงเรื่องในกระทู้นี้ด้วย ถ้าใครมีความเป็นเหตุเป็นผลที่ดีกว่า มีทฤษฎีรองรับที่ถูกต้องมากกว่า ก็เอามาคุยแย้งความเห็นของผมได้เสมอครับ ผมพร้อมจะคุยเหตุคุยผลด้วย ส่วนที่พูดไปเรื่อยเปื่อยผมขอผ่านละครับ


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
เท่าที่อ่านดู ผมว่าเราน่าจะมาเริ่มต้นที่ปัจจัย องค์ประกอบก่อนการถก อาจารย์ทั้งสองคงไม่ผิดอยู่แล้ว แต่อาจกำลังถกกันในสภาวะที่แตกต่างกันครับ

ให้ผมเดา (เดาจริงๆ เพราะไม่ได้เรียนมาโดยตรง)  อ.Tube น่าจะพูดถึงทฤษฏีซึ่งต้องมีสมมติฐานบางอย่างหรือหลายอย่างที่คงที่  แต่ อ.PORN น่าจะกำลังหมายถึงในทางปฏิบัติที่องค์ประกอบเหล่านั้นแปรผัน

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ  ช่วยมาคุยกันเพื่อความกระจ่างในความรู้ด้วยครับ
คุณไก่ พูดได้ดีทีเดียว O0 ผมก็เข้าใจเช่นเดียวกับคุณไก่แหละครับว่า อ.ทิ้ว มองถึงทางทฤษฏี :clap ส่วน อ.พร มองทางปฏิบัติ  :clap เป็นคนละเรื่องเดียวกันซึ่งก็ถูกทั้งคู่ละนะ..ผมว่านะ..นะ..นะ   d_d
ต่างคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองครับ  เพื่อบรรลุจุดประสงค์แห่งข้อข้องใจ ยังงัยเสีย เราคงต้องกลับมาหาคำตอบเองเช่นกัน  d_d
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ NK

  • ****
    • กระทู้: 355
เท่าที่อ่านดู ผมว่าเราน่าจะมาเริ่มต้นที่ปัจจัย องค์ประกอบก่อนการถก อาจารย์ทั้งสองคงไม่ผิดอยู่แล้ว แต่อาจกำลังถกกันในสภาวะที่แตกต่างกันครับ

ให้ผมเดา (เดาจริงๆ เพราะไม่ได้เรียนมาโดยตรง)  อ.Tube น่าจะพูดถึงทฤษฏีซึ่งต้องมีสมมติฐานบางอย่างหรือหลายอย่างที่คงที่  แต่ อ.PORN น่าจะกำลังหมายถึงในทางปฏิบัติที่องค์ประกอบเหล่านั้นแปรผัน

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ  ช่วยมาคุยกันเพื่อความกระจ่างในความรู้ด้วยครับ
คุณไก่ พูดได้ดีทีเดียว O0 ผมก็เข้าใจเช่นเดียวกับคุณไก่แหละครับว่า อ.ทิ้ว มองถึงทางทฤษฏี :clap ส่วน อ.พร มองทางปฏิบัติ  :clap เป็นคนละเรื่องเดียวกันซึ่งก็ถูกทั้งคู่ละนะ..ผมว่านะ..นะ..นะ   d_d
ที่อยู่ ตามลิ้งนะครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=45946.0


ออฟไลน์ gai

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,318
    • เพศ:ชาย
อ. PORN อย่าเพิ่งหนี กำลังสนุก ผมว่าได้ความรู้ดีครับ  อ. Tube ใจเย็นๆ ครับ มาว่ากันด้วยเหตุผล เพื่อความรู้ของสมาชิกครับ

เท่าที่อ่านดู ผมว่าเราน่าจะมาเริ่มต้นที่ปัจจัย องค์ประกอบก่อนการถก อาจารย์ทั้งสองคงไม่ผิดอยู่แล้ว แต่อาจกำลังถกกันในสภาวะที่แตกต่างกันครับ

ให้ผมเดา (เดาจริงๆ เพราะไม่ได้เรียนมาโดยตรง)  อ.Tube น่าจะพูดถึงทฤษฏีซึ่งต้องมีสมมติฐานบางอย่างหรือหลายอย่างที่คงที่  แต่ อ.PORN น่าจะกำลังหมายถึงในทางปฏิบัติที่องค์ประกอบเหล่านั้นแปรผัน

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ  ช่วยมาคุยกันเพื่อความกระจ่างในความรู้ด้วยครับ


ออฟไลน์ NAFU

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,135
    • เพศ:ชาย
  • วงจรนี้ก็จะทำ วงจรโน้นก็จะทำ จะเอาวงจรไหนดีหว่า
ถามง่ายๆ แบบใจร่มๆ (อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยก็ได้)  แต่ขอถามครับ ว่า

choke 5H ถ้า ไฟ 100Hz วิ่งผ่าน 50mA กับ 250mA ค่า inductance  จะเท่ากันหรือเปล่าครับ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
น่าจะไม่เท่ากันนะครับ เพราะตอนคำนวนออกแบบ สูตรมันมีความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 
ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าเรียนผ่านมานานมากแล้ว  (ผิดถูกยังไงต้องขออภัย ความคิดส่วนตัว) รอความเห็นจากท่านอื่นแนะนำด้วยครับ


ออฟไลน์ NAFU

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,135
    • เพศ:ชาย
  • วงจรนี้ก็จะทำ วงจรโน้นก็จะทำ จะเอาวงจรไหนดีหว่า
ถ้าดูจากเส้นกราฟ OPT 3.5K  ที่ 20Hz  imp. จะอยู่ที่ประมาณ 2K  เส้นจะเริ่ม linear ที่ประมาณความถี่ 3Khz จนถึง 10KHz  หลังจากนั้นเส้นกราฟจะชันสูงขึ้น
ก็แสดงว่าช่วงระหว่างความที่ 20Hz ถึง 100KHz  impedance ของ opt  จะเปลี่ยนแปลงอยู่ระหว่าง 1.5K-7.5K ที่ load 8 โอห์มเท่าเดิม
แสดงว่าความถี่มีผลต่อ impedance ของหม้อแปลง
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า  :D :D


ออฟไลน์ ลำน้ำ

  • >> Voodo SilverMica Cable <<
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,211
    • เพศ:ชาย
ถามง่ายๆ แบบใจร่มๆ (อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยก็ได้)  แต่ขอถามครับ ว่า

choke 5H ถ้า ไฟ 100Hz วิ่งผ่าน 50mA กับ 250mA ค่า inductance  จะเท่ากันหรือเปล่าครับ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
โปรดดู ข้อมูลส่วนตัวผมครับ.... ของที่มีอยู่แล้วไม่มีปัญญาทำให้เสียงถูกใจได้ ไม่ต้องหวังจะซื้อมาเพิ่ม ต่อให้ของชั้นเทพ ... มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าไร้ความพยายาม...ว่าแล้ว htg2 ไม่ได้ดั่งใจ เป็น ebay เลยดีกว่าหมดตัวเร็วดี


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
รบกวนช่วยแปลหน่อยครับ ว่าเขาเขียนว่าอะไร ?

Impedance is more complex than resistance because the effects of capacitance and inductance vary with the frequency of the current passing through the circuit and this means impedance varies with frequency! The effect of resistance is constant regardless of frequency.

ผมแนะนำ web แปลภาษาให้ครับ http://www.stars21.com/translator/english_to_thai.html

ไว้คุณ nut_ty เข้าใจข้อความที่ถามแล้ว และเข้าใจเรื่องที่คุยกันแล้ว ค่อยเข้ามาคุยใหม่นะครับ


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ดูเล่นๆ

ขอบคุณคุณ PORN ที่กลับมาเข้าเรื่องอย่างรวดเร็วครับ

กราฟลักษณะที่คุณ PORN แสดงไว้ ผมเคยเห็นมาแล้ว จึงเป็นที่มาของคำถามในกระทู้แรกครับ และคุณ PORN ตอบคำถามได้ไม่ Clear รวมถึงการตอบเชิงเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพก็ยังไม่ถูกต้องอีก หรืออย่างกราฟที่เอามาแสดงไว้ก็ดูไม่สอดคล้องกับคำตอบแรกของคุณ PORN ที่เปรียบเทียบ 1kHz กับ 5kHz อยู่ดี

คุณ PORN จะเอารูปผลการวัดเพียงแค่นี้แล้วเอามาสร้างเป็นทฤษฎีไม่ได้ครับ ทฤษฎีเรื่องหม้อแปลง มันถูกพิสูจน์มากว่า 100 ปีแล้ว ประเด็นคือเมื่อคุณ PORN เห็นว่าผลการวัดมันไม่สอดคล้องกับทฤษฎีพื้นฐานแล้ว คำอธิบายคืออะไร ต้องหาสาเหตุที่มันไม่สอดคล้องซะก่อน ไม่ใช่การไปเปลี่ยนทฤษฎีพื้นฐานของมันครับ (เราเรียนสาย Apply Science มาเหมือนกัน คิดว่าเราคงเข้าใจหลักการนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่นะครับ) หรือถ้าคุณ PORN พอใจจะเปลี่ยน ก็ขอความกรุณาช่วยเก็บไว้เป็นของส่วนตัวเถอะครับ

ก่อนที่คุณ PORN จะวิเคราะห์ผลจากกราฟของ Hashimoto ผมแนะนำให้คุณ PORN ศึกษาให้แม่นทฤษฎีหม้อแปลงก่อนครับ อย่างน้อยก็ให้เข้าใจ Ideal Transformer และวงจรสมมูลของมันก่อน แล้วลองศึกษาดูว่า Hashimoto เค้ามีวิธีการอย่างไรในการทดสอบ OPT แล้วจึงได้กราฟรูปนี้มา เส้น Impedance ที่เห็น เค้า Plot อย่างไร แล้วจึงค่อยมาวิเคราะห์ว่า เหตุใด Imp ที่ความถี่ต่ำจึงน้อยกว่าที่ช่วงความถี่กลาง และเหตุใดจึงมี Peak ที่ช่วงความถี่สูงครับ อีกประการหนึ่งคือถ้าเอา OPT ของ Lundahl มาวัด ผลจะไม่เป็นเช่นที่เห็นนี้ครับ (ลองค้นหาดูนะครับ)


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ดูจากกราฟช่วงที่ใช้งาน 20Hz-20kHz มันค่อนข้างราบเรียบ น่าใช้งาน แต่ที่โด่งขึ้นมา คือช่วงความถี่ 100k ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปใช้งานอยู่แล้ว (เพราะหูไม่ได้ยิน)  ;D

หูไม่ได้ยินแต่ใจอยากให้ถึงเป็นเรื่องเลย  ;D ;D เอ๊ะ.. ฟังด้วยหูหรือด้วยใจ  ;D ;D จะว่าไปใจก็มีผลมากผลทดสอบออกมาแจ๋วแต่ฟังแล้วไม่ชอบก็มี  :nonono งงกับชีวิต...
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ tubeman

  • *****
    • กระทู้: 926
    • เพศ:ชาย
  • tubeman
ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ เปรียบเสมือนคำกล่าวที่ว่าถ้าทุกคนในโลกเป็นคนดี อะไรต่างๆ ก็จะกำหนดไว้แต่แนวทางดีๆ  ;D ;D โหลดไลน์เป็นเสมือนเส้นทางเดินของคนดี  ;D ;D
OPT ทางอุดมคติเปรียบเหมือนคนดีหนักแน่นไม่แปรเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อม แต่ในโลกของความเป็นจริงมีสิ่งที่ทำให้ OPT เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ชนิดของแกนเหล็ก ความถี่ กระแส (อ้างอิงจาก Steve bench, Jim Flowers) แอร์แก็ป (ผมทดลองเอง  ;D ;D) และอื่นๆ ที่ผมเองก็ไม่ทราบจากการอ่าน  ;D ;D เปรียบเสมือนคนที่จิตใจแกร่งแต่อาจมีใจโอนโน้มไปตามสิ่งเล้า

แม้มันไม่อาจทำให้คนเป็นคนดีได้ 100% แต่ก็อาจทำให้เค้าเป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ OPT ก็เช่นกันด้วยการปรับเปลี่ยนตัวแปรที่มีผลต่อพฤติกรรมของ OPT  ;D ;D

อย่าคิดมากครับOPTส่วนมากแล้วพันมาดีทั้งนั้น อิมพิแดนซ์มันเปลี่ยนน้อยมาก ที่ต้องดูคือRpของหลอดต่างหากที่เปลี่ยนเยอะกว่าถ้าเปลี่ยนกระแสหรือไฟที่จ่าย มันอาจจะเปลี่ยนจนเลยจุดพอดีของโหลดที่ใช้(ซึ่งก็คืออินพุทอิมพิแดนซ์ของOPT)



เริ่มเข้าใจแล้วครับ..เหมื่อนที่พี่ประสานบอก ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ แต่ในความป็นจริงยังมีองค์ประกอบอื่นๆที่เป็นตัวแปรอีก ที่อาจทำให้ค่า Impedance เปลี่ยนไป แต่ไม่ได้เปลี่ยนกันมาก

มายชนิด 5k ไปเป็น 10k , 20k กระมังครับ ถ้าออกแบบ OPT มาดี ดูจากกราฟของพี่ Porn ยิ่งได้แนวความคิด ที่ดีครับ   O0 ดูจากกราฟช่วงที่ใช้งาน 20Hz-20kHz มันค่อนข้างราบเรียบ น่าใช้งาน แต่ที่โด่งขึ้นมา

คือช่วงความถี่ 100k ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปใช้งานอยู่แล้ว (เพราะหูไม่ได้ยิน)  ;D นั่นเป็นผลมาจาก ความถี่และองค์ประกอบอื่นๆ ที่อาจทำให้ค่า Inductive Reactance  และ  Capacitive Reactance ที่จะเปลี่ยนไป และส่งผล

ต่อทำให้ Impedance เปลี่ยนไป  ;D

เริ่มงงอีกแล้ว.. ;D ไม่รู้ถูกป่าว  ;D
ข้อมูลติดต่อ http://www.htg2.net/index.php?topic=45068.0

tubemanth@yahoo.com

tubeman  ครับผม..ไม่ใช่  mr.tubeman


ออฟไลน์ JUUD

  • *****
    • กระทู้: 840
กระทู้นี้ได้ความรู้ดีครับ
คุณ PORN นี่ นานๆมาตอบที่ แต่ได้ความรู้และได้ข้อคิดดีแท้เชียว
ขอบคุณ ขอบคุณ


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
คำกล่าวเพียงเล็กน้อยแต่ก็มีความหมาย Jim Flowers "The presence of the air gap LINEARIZES the transformer iron" แต่เท่าไรหละที่เหมาะสม ใครจะบอกได้ ;D ;D นอกจากจะทดลองเอง  ;D ;D
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
ดูเล่นๆ
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
อย่าคิดมากครับOPTส่วนมากแล้วพันมาดีทั้งนั้น อิมพิแดนซ์มันเปลี่ยนน้อยมาก ที่ต้องดูคือRpของหลอดต่างหากที่เปลี่ยนเยอะกว่าถ้าเปลี่ยนกระแสหรือไฟที่จ่าย มันอาจจะเปลี่ยนจนเลยจุดพอดีของโหลดที่ใช้(ซึ่งก็คืออินพุทอิมพิแดนซ์ของOPT)
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ เปรียบเสมือนคำกล่าวที่ว่าถ้าทุกคนในโลกเป็นคนดี อะไรต่างๆ ก็จะกำหนดไว้แต่แนวทางดีๆ  ;D ;D โหลดไลน์เป็นเสมือนเส้นทางเดินของคนดี  ;D ;D
OPT ทางอุดมคติเปรียบเหมือนคนดีหนักแน่นไม่แปรเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อม แต่ในโลกของความเป็นจริงมีสิ่งที่ทำให้ OPT เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ชนิดของแกนเหล็ก ความถี่ กระแส (อ้างอิงจาก Steve bench, Jim Flowers) แอร์แก็ป (ผมทดลองเอง  ;D ;D) และอื่นๆ ที่ผมเองก็ไม่ทราบจากการอ่าน  ;D ;D เปรียบเสมือนคนที่จิตใจแกร่งแต่อาจมีใจโอนโน้มไปตามสิ่งเล้า

แม้มันไม่อาจทำให้คนเป็นคนดีได้ 100% แต่ก็อาจทำให้เค้าเป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ OPT ก็เช่นกันด้วยการปรับเปลี่ยนตัวแปรที่มีผลต่อพฤติกรรมของ OPT  ;D ;D
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
ขอบคุณมากครับคุณ PORN  แต่ผม เห็นว่าการ เปรียบ เทียบ เช่นนี้  ไม่ค่อยจะ ใกล้ เคียง เท่า ไหร่ ในประ เด็น ความ เร็ว = ความถี่ ครับ

อันที่จริง แล้ว การ ใช้ เกียร์ 1  และ ให้รถวิ่ง ได้ เร็ว 100km/H นั้นสามารถทำ ได้ครับ ขึ้นกับการออก แบบ เครื่องยนต์ และ ระ บบส่งกำ ลังครับ ถ้า เครื่องยนต์ มี Torque มากพอที่รอบต่ำ และ สามารถทำ รอบ เครื่อง ได้สูงๆ   โจทย์ ข้อนี้ก็ เป็น ไป ได้ครับ ที่ เรามักจะ พบว่า  เกียร์ 1 ทำ ความ เร็ว ได้ ไม่มาก ก็ เพราะ มันถูกออก แบบมา ให้ เป็น เช่นนั้นครับ คือ เกียร์ 1 ต้องการ Torque มากๆ   เพื่อ ให้ ได้กำ ลังสำ หรับออกตัว และ เร่งความ เร็ว ส่วนที่ เกียร์ สูงขึ้น ไปต้องการจำ นวนรอบ เพื่อรักษาความ เร็ว  ไม่ ได้ต้องการความ เร่งครับ  แนวทางการออก แบบรถยนต์ ทั่วๆ   ไป ทำ ให้ เรา เข้า ใจว่ามัน เป็น ไป ไม่ ได้ครับ

ผม เห็นด้วยกับคุณ tubeman ที่ค่า Primary Imp จะ คงที่ เมื่อ Load คงที่ครับ อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ ได้ครับ ตามกฎของหม้อ แปลง Ip x Vp = Is x Vs ครับ  เมื่อ Ip,Vp คือกระ แส และ แรงดันบน Primary  และ  Is,Vs คือกระ แส และ แรงดันบน Secondary ครับ

สมมุติหม้อ แปลงมีอัตราทด Np/Ns = 2 หรือ ในรูป Voltage Vp/Vs = 2 ถ้า แรงดันตกคร่อม Load 8 Ohm (DC Resistance) = 8V ก็จะ มีกระ แส ไหล 1A ตามกฎของหม้อ แปลง แล้ว Vp = 16V  และ  Ip ย่อม = 0.5A ครับ หรือ เทียบ เท่ากับ Imp 16/0.5 = 32 ohm ครับ จะ เห็นว่าสมการ เหล่านี้ ไม่มีความถี่ เข้ามา เกี่ยวข้อง เลย  เพราะ ฉะ นั้นความถี่ ไม่ เกี่ยวครับ จะ  5kHz หรือ 50Hz ค่า Imp ของ Primary ก็ยังคง เป็น 32 ohm  เมื่อค่า Load ที่ Sec = 8 ohm ครับ  :)

ผมนึกว่าจะ ต้อง เปลี่ยนวิธีการออก แบบภาค Output ของ แอมป็ ใหม่ซะ แล้ว  ;D  โดยต้องลาก Load Line สัก 10 ค่า ตลอดย่าน 20Hz-20kHz  ;D ขอบคุณ Mr.Tube ที่มาช่วย Confirm  O0 ว่าผม ไม่ ได้ เข้า ใจผิดมา โดยตลอด

 เมื่อ Turn Ratio  = Sqrt (Impedance Ratio)    และ เมื่อ Turn Ratio มัน เป็นค่าคงที่ (ลวดพันกี่รอบมันก็คงอยู่อย่างนั้น) ดังนั้น Primary Impedance ย่อมคงที่ถ้า Load คงที่ครับ

สิ่งที่อาจจะเปลี่ยน ไปตามความถี่คือค่า Inductive Reactance  และ  Capacitive Reactance ที่จะเปลี่ยนไปซึ่งจะ มีผลกับ Freq Respons ของ OPT ตัวนั้นๆ แต่ไม่ใช่ Impedance ครับ ผมเข้า ใจถูกไหม  ;D
เริ่มงง  ;D
  :clap :clap เยี่ยมๆ
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
ขอบคุณครับ ทำให้ผมคิดได้อีกหลาย ๆ มุมเลย    :) :) อย่างน้อยผมก็คิดว่าน่าจะคำนึงถึงดาต้าซีทของหลอดก่อน แล้ว มาออกแบบภาคจ่ายไฟ เมื่อได้ภาคจ่ายไฟที่มันนึ่ง ๆ แล้ว ค่อยเอาค่าจากแหล่งจ่ายไฟ มาคำนวนแล้วพัน Output Tranformer อย่างนี้น่าจะ Match กำลังน่าจะทำได้สูงสุดและ สิ้นเปลืองวัสดุและค่าใช้จ่ายได้น้อยที่สุด :clap :clap :clap ส่วนเรื่องความถึ่นี่ ก็ยังไม่ต้องไปคิดกับมันมาก คือ ผมตั้งใจจะทำแอมป์หลอดเพื่องานสำหรับ Sub bass เพราะอย่างไงความถี่ 50 HZ มันสามารถ Match ออกมาได้ ความถี่ที่ 20 HZ มันก็น่าจะออกมาได้ แต่สังเกตุดูว่า เสียง ฺBass มันจะเริ่มมันขึ้น เมื่อความถี่ ซักประมาณ 50 -250 ็HZ  เอาไว้ดูพวก คอนเสริท พวกที่มันเป็นพวก  audiofile หรือพวก Opera เวลาเขาตีกลองตัวใหญ่ ๆ มันสะใจดีครับ c) c) c)
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
รบกวนช่วยแปลหน่อยครับ ว่าเขาเขียนว่าอะไร ?

Impedance is more complex than resistance because the effects of capacitance and inductance vary with the frequency of the current passing through the circuit and this means impedance varies with frequency! The effect of resistance is constant regardless of frequency.



นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ tubeman

  • *****
    • กระทู้: 926
    • เพศ:ชาย
  • tubeman
ขอบคุณมากครับคุณ PORN แต่ผมเห็นว่าการเปรียบเทียบเช่นนี้ ไม่ค่อยจะใกล้เคียงเท่าไหร่ในประเด็น ความเร็ว = ความถี่ ครับ

อันที่จริงแล้ว การใช้เกียร์1 และให้รถวิ่งได้เร็ว 100km/H นั้นสามารถทำได้ครับ ขึ้นกับการออกแบบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังครับ ถ้าเครื่องยนต์มี Torque มากพอที่รอบต่ำและสามารถทำรอบเครื่องได้สูงๆ โจทย์ข้อนี้ก็เป็นไปได้ครับ ที่เรามักจะพบว่า เกียร์1 ทำความเร็วได้ไม่มาก ก็เพราะมันถูกออกแบบมาให้เป็นเช่นนั้นครับ คือเกียร์1 ต้องการ Torque มากๆ เพื่อให้ได้กำลังสำหรับออกตัวและเร่งความเร็ว ส่วนที่เกียร์สูงขึ้นไปต้องการจำนวนรอบเพื่อรักษาความเร็ว ไม่ได้ต้องการความเร่งครับ แนวทางการออกแบบรถยนต์ทั่วๆ ไป ทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ

ผมเห็นด้วยกับคุณ tubeman ที่ค่า Primary Imp จะคงที่เมื่อ Load คงที่ครับ อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ครับ ตามกฎของหม้อแปลง Ip x Vp = Is x Vs ครับ เมื่อ Ip,Vp คือกระแสและแรงดันบน Primary และ Is,Vs คือกระแสและแรงดันบน Secondary ครับ

สมมุติหม้อแปลงมีอัตราทด Np/Ns = 2 หรือในรูป Voltage Vp/Vs = 2 ถ้าแรงดันตกคร่อม Load 8 Ohm (DC Resistance) = 8V ก็จะมีกระแสไหล 1A ตามกฎของหม้อแปลงแล้ว Vp = 16V และ Ip ย่อม = 0.5A ครับ หรือเทียบเท่ากับ Imp 16/0.5 = 32 ohm ครับ จะเห็นว่าสมการเหล่านี้ไม่มีความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพราะฉะนั้นความถี่ไม่เกี่ยวครับ จะ 5kHz หรือ 50Hz ค่า Imp ของ Primary ก็ยังคงเป็น 32 ohm เมื่อค่า Load ที่ Sec = 8 ohm ครับ  :)

ผมนึกว่าจะต้องเปลี่ยนวิธีการออกแบบภาค Output ของแอมป็ใหม่ซะแล้ว  ;D โดยต้องลาก Load Line สัก 10 ค่า ตลอดย่าน 20Hz-20kHz  ;D ขอบคุณ Mr.Tube ที่มาช่วย Confirm  O0 ว่าผมไม่ได้เข้าใจผิดมาโดยตลอด

เมื่อ Turn Ratio  = Sqrt (Impedance Ratio)   และเมื่อ Turn Ratio มันเป็นค่าคงที่ (ลวดพันกี่รอบมันก็คงอยู่อย่างนั้น) ดังนั้น Primary Impedance ย่อมคงที่ถ้า Load คงที่ครับ

สิ่งที่อาจจะเปลี่ยนไปตามความถี่คือค่า Inductive Reactance และ Capacitive Reactance ที่จะเปลี่ยนไปซึ่งจะมีผลกับ Freq Respons ของ OPT ตัวนั้นๆ แต่ไม่ใช่ Impedance ครับ ผมเข้าใจถูกไหม  ;D

เริ่มงง  ;D
ข้อมูลติดต่อ http://www.htg2.net/index.php?topic=45068.0

tubemanth@yahoo.com

tubeman  ครับผม..ไม่ใช่  mr.tubeman


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง  คนบ่ดูหนังสือยังสอบได้ ดูตำราตั้งตี5 ตี6 สอบตกมีถมไป   
ถ้าคิดว่าโลกอยู่นิ่งมันก็นิ่ง  ถ้าคิดว่ามันหมุน มันก็หมุนไป
ถ้าคิดว่าจักรวาลอยู่นิ่งมันก็นิ่ง  ถ้าคิดว่ามันเคลื่อนที่  มันก็เคลื่อนที่ไป

ถ้าคิดว่าสมการอยู่นิ่งมันก็นิ่ง  ถ้าคิดว่าสมการ......     มันก็........


 :bye1   




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มกราคม, 2010, 09:26:29 pm โดย PORN »
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณมากครับคุณ PORN แต่ผมเห็นว่าการเปรียบเทียบเช่นนี้ ไม่ค่อยจะใกล้เคียงเท่าไหร่ในประเด็น ความเร็ว = ความถี่ ครับ

อันที่จริงแล้ว การใช้เกียร์1 และให้รถวิ่งได้เร็ว 100km/H นั้นสามารถทำได้ครับ ขึ้นกับการออกแบบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังครับ ถ้าเครื่องยนต์มี Torque มากพอที่รอบต่ำและสามารถทำรอบเครื่องได้สูงๆ โจทย์ข้อนี้ก็เป็นไปได้ครับ ที่เรามักจะพบว่า เกียร์1 ทำความเร็วได้ไม่มาก ก็เพราะมันถูกออกแบบมาให้เป็นเช่นนั้นครับ คือเกียร์1 ต้องการ Torque มากๆ เพื่อให้ได้กำลังสำหรับออกตัวและเร่งความเร็ว ส่วนที่เกียร์สูงขึ้นไปต้องการจำนวนรอบเพื่อรักษาความเร็ว ไม่ได้ต้องการความเร่งครับ แนวทางการออกแบบรถยนต์ทั่วๆ ไป ทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ

ผมเห็นด้วยกับคุณ tubeman ที่ค่า Primary Imp จะคงที่เมื่อ Load คงที่ครับ อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ครับ ตามกฎของหม้อแปลง Ip x Vp = Is x Vs ครับ เมื่อ Ip,Vp คือกระแสและแรงดันบน Primary และ Is,Vs คือกระแสและแรงดันบน Secondary ครับ

สมมุติหม้อแปลงมีอัตราทด Np/Ns = 2 หรือในรูป Voltage Vp/Vs = 2 ถ้าแรงดันตกคร่อม Load 8 Ohm (DC Resistance) = 8V ก็จะมีกระแสไหล 1A ตามกฎของหม้อแปลงแล้ว Vp = 16V และ Ip ย่อม = 0.5A ครับ หรือเทียบเท่ากับ Imp 16/0.5 = 32 ohm ครับ จะเห็นว่าสมการเหล่านี้ไม่มีความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพราะฉะนั้นความถี่ไม่เกี่ยวครับ จะ 5kHz หรือ 50Hz ค่า Imp ของ Primary ก็ยังคงเป็น 32 ohm เมื่อค่า Load ที่ Sec = 8 ohm ครับ  :)

สมการ Impedance ของหม้อแปลง ใช่สมการหาค่า XL = wL  หรือเปล่าครับ  ถ้าใช่ ความถี่มันน่าจะส่งผลด้วยนะครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ขอบคุณมากครับคุณ PORN แต่ผมเห็นว่าการเปรียบเทียบเช่นนี้ ไม่ค่อยจะใกล้เคียงเท่าไหร่ในประเด็น ความเร็ว = ความถี่ ครับ

อันที่จริงแล้ว การใช้เกียร์1 และให้รถวิ่งได้เร็ว 100km/H นั้นสามารถทำได้ครับ ขึ้นกับการออกแบบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังครับ ถ้าเครื่องยนต์มี Torque มากพอที่รอบต่ำและสามารถทำรอบเครื่องได้สูงๆ โจทย์ข้อนี้ก็เป็นไปได้ครับ ที่เรามักจะพบว่า เกียร์1 ทำความเร็วได้ไม่มาก ก็เพราะมันถูกออกแบบมาให้เป็นเช่นนั้นครับ คือเกียร์1 ต้องการ Torque มากๆ เพื่อให้ได้กำลังสำหรับออกตัวและเร่งความเร็ว ส่วนที่เกียร์สูงขึ้นไปต้องการจำนวนรอบเพื่อรักษาความเร็ว ไม่ได้ต้องการความเร่งครับ แนวทางการออกแบบรถยนต์ทั่วๆ ไป ทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ครับ

ผมเห็นด้วยกับคุณ tubeman ที่ค่า Primary Imp จะคงที่เมื่อ Load คงที่ครับ อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ครับ ตามกฎของหม้อแปลง Ip x Vp = Is x Vs ครับ เมื่อ Ip,Vp คือกระแสและแรงดันบน Primary และ Is,Vs คือกระแสและแรงดันบน Secondary ครับ

สมมุติหม้อแปลงมีอัตราทด Np/Ns = 2 หรือในรูป Voltage Vp/Vs = 2 ถ้าแรงดันตกคร่อม Load 8 Ohm (DC Resistance) = 8V ก็จะมีกระแสไหล 1A ตามกฎของหม้อแปลงแล้ว Vp = 16V และ Ip ย่อม = 0.5A ครับ หรือเทียบเท่ากับ Imp 16/0.5 = 32 ohm ครับ จะเห็นว่าสมการเหล่านี้ไม่มีความถี่เข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพราะฉะนั้นความถี่ไม่เกี่ยวครับ จะ 5kHz หรือ 50Hz ค่า Imp ของ Primary ก็ยังคงเป็น 32 ohm เมื่อค่า Load ที่ Sec = 8 ohm ครับ  :)


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
ก็พี่gai ขับแต่เครื่องจัมโบ  airbus   ยกตัวอย่างรถเลย งง นะซิ  2f   2f

มา งง กันต่อ
" เหตุใดค่า Impedance ของ Primary ที่ 1kHz กับ 5kHz จึงไม่เท่ากันครับ และ --อาจ เปลี่ยนไป-- ที่คุณ PORN ว่าไว้ คือเปลี่ยนไปในทางไหน และเป็นเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ "  --->เปลี่ยนไปในทางไหน ตอบไม่ได้เลย ค่า imp อาจสูงขึ้นหรือ ต่ำลงก็ได้ แล้วแต่ factorต่างๆ ขนาดEI  ลวด จำนวนรอบ  เนื้อเหล็ก การพัน มีผลทั้งนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มกราคม, 2010, 07:03:12 pm โดย PORN »
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ gai

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,318
    • เพศ:ชาย
" เหตุใดค่า Impedance ของ Primary ที่ 1kHz กับ 5kHz จึงไม่เท่ากันครับ "--->เพราะการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก กันคนละความถี่  จาก pri --> sec
 เหมือนกับ รถยนตร์

เครื่องยนตร์   =  หลอด
เกียร์            =  OPT
ล้อ + ถนน     =   ลำโพง
ความเร็ว        =   ความถี่

เปรียบเทียบเล่นๆ  ไม่จริงสักเท่าไร  ถ้ารถวิ่งความเร็วต่ำ  ก็เกียร์ 1,2
                                               ถ้ารถวิ่งความเร็วสูง  ก็เกียร์ 3,4
เกียร์  ทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงานจากเครื่องยนตร์ ไปสู่ ล้อ   ถ้าต่ำแหน่งเกียร์ ไม่เหมาะสม(match)กับความเร็ว  พลังงานจากเครื่องยนตร์ ไปสู่ ล้อ ก็ไม่ได้เต็มที่  ลองเข้าเกียร์1 แล้วเร่งเครื่องเต็มที่เพื่อวิ่งได้ 100/ชม  ทำได้ไหม
เกียร์ มี สองแบบ manual  กับ auto

OPT ที่ดี ต้องเป็น แบบ เกียร์auto

ผมว่า งง นะ :D
อาจารย์ PORN เล่นลูกเล่นเอง งงเอง  2f  2f  2f อ่านแล้วพอเห็นภาพอย่างงงๆ  2f 2f 2f


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
" เหตุใดค่า Impedance ของ Primary ที่ 1kHz กับ 5kHz จึงไม่เท่ากันครับ "--->เพราะการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก กันคนละความถี่  จาก pri --> sec
 เหมือนกับ รถยนต์

เครื่องยนต์  =  หลอด
เกียร์            =  OPT
ล้อ + ถนน     =   ลำโพง
ความเร็ว        =   ความถี่

เปรียบเทียบเล่นๆ  ไม่จริงสักเท่าไร  ถ้ารถวิ่งความเร็วต่ำ  ก็เกียร์ 1,2
                                               ถ้ารถวิ่งความเร็วสูง  ก็เกียร์ 3,4
เกียร์  ทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงานจากเครื่องยนต์ไปสู่ ล้อ   ถ้าต่ำแหน่งเกียร์ ไม่เหมาะสม(match)กับความเร็ว  พลังงานจากเครื่องยนต์ ไปสู่ ล้อ ก็ไม่ได้เต็มที่  ลองเข้าเกียร์1 แล้วเร่งเครื่องเต็มที่เพื่อวิ่งได้ 100/ชม  ทำได้ไหม
เกียร์ มี สองแบบ manual  กับ auto

OPT ที่ดี ต้องเป็น แบบ เกียร์auto

ผมว่า งง นะ :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มกราคม, 2010, 07:12:39 pm โดย PORN »
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN



ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ครับ

หมายความว่า ถ้า 5k : 8 Ohm มันก็จะเป็น 5k:8R ตลอดถ้าลำโพงไม่เปลี่ยนจาก 8 ohm ครับ

แต่ในความเป็นจริงลำโพงจะไม่เป็น 8 ohm ตลอดเวลาครับเมื่อความถี่เปลี่ยนไป  :)

"  ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ครับ

หมายความว่า ถ้า 5k : 8 Ohm มันก็จะเป็น 5k:8R ตลอดถ้าลำโพงไม่เปลี่ยนจาก 8 ohm ครับ  " ---> เป็นจริงที่ความถี่หนึ่งเท่านั้น เช่น ที่ 1 Khz    แต่ถ้าความถี่เปลี่ยนไปเป็น 5Khz  ค่า Impedance ของ OPT อาจ เปลี่ยนไป  ทั้งๆที่  load  และ  กระแส เท่าเดิม

รบกวนช่วยอธิบายด้วยครับว่า เมื่อ Load และกระแสไม่เปลี่ยนแปลง เหตุใดค่า Impedance ของ Primary ที่ 1kHz กับ 5kHz จึงไม่เท่ากันครับ และ --อาจ เปลี่ยนไป-- ที่คุณ PORN ว่าไว้ คือเปลี่ยนไปในทางไหน และเป็นเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ  :)


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ครับ

หมายความว่า ถ้า 5k : 8 Ohm มันก็จะเป็น 5k:8R ตลอดถ้าลำโพงไม่เปลี่ยนจาก 8 ohm ครับ

แต่ในความเป็นจริงลำโพงจะไม่เป็น 8 ohm ตลอดเวลาครับเมื่อความถี่เปลี่ยนไป  :)

"  ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ครับ

หมายความว่า ถ้า 5k : 8 Ohm มันก็จะเป็น 5k:8R ตลอดถ้าลำโพงไม่เปลี่ยนจาก 8 ohm ครับ  " ---> เป็นจริงที่ความถี่หนึ่งเท่านั้น เช่น ที่ 1 Khz    แต่ถ้าความถี่เปลี่ยนไปเป็น 5Khz  ค่า Impedance ของ OPT อาจ เปลี่ยนไป  ทั้งๆที่  load  และ  กระแส เท่าเดิม




ผมสงสัยอยู่มากเรื่องค่า impledance ของหม้อแปลงนี่ มันเป็นค่าคงที่เลยหรือเปล่าครับ เมื่อเราจ่ายไฟให้วงจรสูงขึ้น หรือ ตำ่ลง มาก ๆ เป็น 50-150 โวล์ทมีผลต่อค่า อิมพิแดนซืของหม้อแปลงเปลี่ยนไปหรือไม่ ซื่งหลาย ๆ วงจร เห็นมีการกำหนดค่าไฟเอาไว้ด้วย อันนี้ ก็น่าจะถูกต้อง นำมาใช้คำนวนทำหม้อแปลง แต่พวกหม้อแปลงที่ทำกันเองนี่ นอกจากอ้างอิงเสปคหลอดแล้วว่าหลอดต้องการอิมพิแดนซืกี่ K แล้วน่ามีการกำหนดไฟและกระแสที่จะจ่ายให้ด้วย แต่สังเกตุเห็นบางคนต้องการแค่หม้อแปลง output เท่านั้นเท่านี้ K โดยไม่คำนึงถึงภาคจ่ายไฟว่า วงจรที่เหมาะสม อันนี้ค่า k ของหม้อแปลงเวลานำไปใช้เปลี่ยนไปไหม ซึ่งจากแหล่งผลิดเขาคงจะมีการอ้างอิงไฟจุดใดจุดหนึ่งในการคำนวน  ซึ่งมันจะมีผลทำให้เสียงที่ออกมาฟังดูแล้ว ไม่พอดี ...คับ หรือ หลวมเกินไป......

" เมื่อเราจ่ายไฟให้วงจรสูงขึ้น หรือ ต่ำลง มาก ๆ เป็น 50-150 โวล์ทมีผลต่อค่า อิมพิแดนซืของหม้อแปลงเปลี่ยนไปหรือไม่ "  ---> ไม่มีผลต่อ อิมพิแดนซืของหม้อแปลง    แต่ มีผลต่อ impledance ของหลอด  ที่เรียกว่า Load line
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ tubeman

  • *****
    • กระทู้: 926
    • เพศ:ชาย
  • tubeman
ค่า Impedance ของ OPT เป็นค่า คงที่เมื่อ Load คงที่ครับ

หมายความว่า ถ้า 5k : 8 Ohm มันก็จะเป็น 5k:8R ตลอดถ้าลำโพงไม่เปลี่ยนจาก 8 ohm ครับ

แต่ในความเป็นจริงลำโพงจะไม่เป็น 8 ohm ตลอดเวลาครับเมื่อความถี่เปลี่ยนไป  :)
ข้อมูลติดต่อ http://www.htg2.net/index.php?topic=45068.0

tubemanth@yahoo.com

tubeman  ครับผม..ไม่ใช่  mr.tubeman


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
     โปรเจ็คไรอีกครับ    เดี๋ยวไม่มีที่วางนะ ของเก่ามันมีเยอะ 5555 เลยเล่นแร่แปลธาตุ กำลังทำ 6L6GC ppp อยู่แบบว่าทำเอามัน (Parallel -Push-Pull) แบ่งขายไม่มีคนซื้อ ทำเล่นซะเลยต้นทุนถูก ๆ ว่าจะเอาขับซับ JBL  GT-1000 ให้กระจายเสียหน่อย ;D ;D ;D
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..


ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
มาร่วมด้วยช่วยสงสัยครับ

 ผมสงสัยว่าถ้าความถี่เปลี่ยนแปลงไป ค่า K ของหม้อแปลงจะเปลี่ยนไปด้วยตามสมการ  XL = 2 * Pi * F * L  ไหมครับ  แล้วถ้ามันเปลี่ยนแปลงตามสมการนี้จริง การลากเส้นออกแบบ Output Stage มันจะยังใช้ เส้นตรงที่มีค่า Slopeคงที่ ตามค่า K ได้หรอครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0


ออฟไลน์ darkman

  • *****
    • กระทู้: 605
ค่า impedance ไม่น่าเปลี่ยนเพราะเป็นอัตราส่วนรอบระหว่าง Pri กับ Sec นะครับ
ส่วนสิ่งที่จะเปลี่ยนไปคือความสามารถในการตอบสนองความถี่ ของตัวหม้อแปลง
อันเนื่องจากการเพิ่ม - ลด กระแสครับ

ปกติการออกแบบหม้อแปลง OPT เค้ามักใช้ค่ากระแสไหลผ่านหลอดตามค่าจาก
Datasheet ที่เรา Bias กันมาตรฐานครับ
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=11921.msg105348


ออฟไลน์ Mr.so-nE

  • ผู้ดูเวบ (ดูอย่างเดียวทำไรไม่ได้)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,682
  • 086 7332905
 :showoff :showoff :showoff :showoff  โปรเจ็คไรอีกครับ ;D ;D ;D เดี๋ยวไม่มีที่วางนะ c)


ออฟไลน์ Rabbit-Hunter

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,515
  • DIY มันย่อมต้องมีความใหม่และแตกต่าง มันก็แค่นั้น.
ผมสงสัยอยู่มากเรื่องค่า impledance ของหม้อแปลงนี่ มันเป็นค่าคงที่เลยหรือเปล่าครับ เมื่อเราจ่ายไฟให้วงจรสูงขึ้น หรือ ตำ่ลง มาก ๆ เป็น 50-150 โวล์ทมีผลต่อค่า อิมพิแดนซืของหม้อแปลงเปลี่ยนไปหรือไม่ ซื่งหลาย ๆ วงจร เห็นมีการกำหนดค่าไฟเอาไว้ด้วย อันนี้ ก็น่าจะถูกต้อง นำมาใช้คำนวนทำหม้อแปลง แต่พวกหม้อแปลงที่ทำกันเองนี่ นอกจากอ้างอิงเสปคหลอดแล้วว่าหลอดต้องการอิมพิแดนซืกี่ K แล้วน่ามีการกำหนดไฟและกระแสที่จะจ่ายให้ด้วย แต่สังเกตุเห็นบางคนต้องการแค่หม้อแปลง output เท่านั้นเท่านี้ K โดยไม่คำนึงถึงภาคจ่ายไฟว่า วงจรที่เหมาะสม อันนี้ค่า k ของหม้อแปลงเวลานำไปใช้เปลี่ยนไปไหม ซึ่งจากแหล่งผลิดเขาคงจะมีการอ้างอิงไฟจุดใดจุดหนึ่งในการคำนวน  ซึ่งมันจะมีผลทำให้เสียงที่ออกมาฟังดูแล้ว ไม่พอดี ...คับ หรือ หลวมเกินไป......
ทุก ๆ งาน คือ ความสุข..