HTG2.club

พลังงานน้ำและแสงอาทิตย์ & กาแฟสด & ยางพารา & บ้านดิน & เครื่องเสียง & สะป๊ะ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
โย! ได้พวกสวนยางมาคุยเพิ่มอีกท่านนึงแระ c) ไขปลาวาลอย่างนี้เองหรือ? ตอนแรกนึกว่าเป็นหิน K] มันแข็งมั๊กๆ  :black_eye นึกว่าลับหินสุดท้านคืออันนี้ แต่ที่จริงก็ใช่แหละ :secret แต่มันไม่ใช่หินแค่นั้น  d_d :drunk

อ. โก้ ครับ ตอนนี้ผมไถที่ไว้เตรียมปลูกสับปะรดแล้วครับ คิดว่าเสาร์นี้จะไปหาแม่พันธ์ที่นางแลซะหน่อย ยังไม่รู้เลยว่าหน้านี้มันจะมีหรือเปล่า ไถดินเตรียมเก้อหรือเปล่ายังไม่รู้เลย :-\

แล้วสงใสอีกอย่างหินสีขาวใช่หินหรือกระเบื้องกันแน่ครับ?
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ tubeTronix

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,127
    • เพศ:ชาย
เห็บ กับ ไร พวกเดียวกันมั๊ยครับ ออกแนวคันๆ ....เป็นไปได้ไม่อยากใช้สารเคมีครับ อยากใช้สมุนไพรมากกว่า

เค้าว่าพังพอนมันช่วยฆ่างูเห่า แต่ผมไม่เคยเห็นสักที เคยดักได้กับกรงดักหนู ดุมากๆขู่แยกเขี้ยวตลอดเวลา เลี้ยงไม่เชื่อง เลยต้องเอาไปปล่อยในป่า  ;D

คนที่กลัวหนู กลัวพังพอนไม่ใช่ผมครับ เป็น ว่าที่ ผบทบ. อะครับ  ;D ;D  ผมรักสัตว์ ครับ :-* หนูพุกตัวใหญ่มาก  ดักจับได้ในสวนปาล์มหลายตัวเลยครับ แต่ไม่กล้ากิน   :nonono
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กุมภาพันธ์, 2012, 08:48:03 am โดย tubeTronix »
---|  ชมรมคนชอบหาเรื่อง  |---
http://www.kaponk.com/blog/7


<a href="http://www.htg2.net/index.php?topic=10121.0 " >my cell phone[/url]


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
เรื่องการไล่สัตว์ ในสวนยางด้วยครับ อ. โก้ จะไล่ยังไงดี ที่สวนผมมี งูบองหลา  พังพอน หนูุ ขาบ มดคันร้อน ...น่ากลัวมากๆ ฉีดยาฆ่าหญ้าจะช่วยไล่ได้มั๊ยครับ

เรื่องไม่ไผ่ พันธุ์ที่น่าปลูกมากๆ คือไม่ไผ่ยักษ์เมืองน่านครับ ต้นใหญ่มากๆ หน่อใหญ่มากๆ O0
ทาน้ำมันมวยตอนลงกรีดครับ พวกนี้ได้กลิ่นก็หนีไปเองครับ ถ้ามีทางเลือกอย่าฉีดหญ้าเลยครับ
ขาบอยู่ที่จอกยางน่าเสียวกว่าอยู่ที่ดิน(ตกใจจนโดนมีดบาดหลายคนแล้ว)
ที่น่ากลัวกว่าที่คุณtubeTronix ว่ามา(แต่ยังคิดไปไม่ถึง) เห็บครับ ไม่เห็นตัว แต่ถูกเห็บขบนี่จับไข้เดินขาเผลกตัดยางไม่รอดมาจังฮู้แล้วครับ
วิธีที่ดีที่สุดเท่าที่นึกออกตอนนี้คือ ให้มี"ลาว"(เดาว่าคุณtubeTronix เข้าใจความหมาย"ดี"พอ)ในพื้นที่มากๆ สัตว์พวกที่ว่าจะหมดไปเองครับ(กิ้งก่าแทบสูญพันธุ์)  :cry2  :cry2
ถามเล่นๆดันตอบซะจริงจังเชียว  :whistling
ว่าแต่...ใครกลัวหนูกลัวพังพอนครับ
ป.ล. ผมกลัวเพื่อนๆอ่านแล้วเข้าใจคำว่า"ลาว"ของผมผิดไป ลาวของคนใต้ไม่ได้หมายถึงคนอิสานครับ แต่หมายถึงคนต่างภาค(ทั้งคนภาคกลาง-เหนือ-อิสาน) คนใต้เรียกรวมว่า"ลาว"ครับ แต่คนใต้ที่ชอบกินของแปลกก็มีบ้างที่โดนเรียกว่าลาวครับ ไม่ได้เป็นการดูถูก-เหยียดหยามกันแต่อย่างใด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กุมภาพันธ์, 2012, 08:39:53 am โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000016999    บ. พักพวกกันโดนไฟไหม้ซะแล้ว :cry2 :cry2 :cry2 ถ้าหาข้อมูลไม่ได้กะว่าจะขอไปฝึกวิชากับเค้าอยู่เชียว (คิดว่าน่าจะทำประกันไฟไว้ เพราะไฟไหม้เคยเกิดมาครั้งนึงแล้ว)

อ. โก้ครับ ได้รับของแล้วขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมได้ที่อยู่แล้ว รอรับกาแฟผมด้วยนะครับ ขออ่าน Sheet ก่อนนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยจะเข้ามาถามต่อ

ผลปรากฏว่าอ่านซีทเข้าใจได้เอง แต่พอมาดูหินลับหมีดแล้วเกิดงงขึ้นครับ หินหรืออะไร? สีขาวก้อนใหญ่สุด เอาเล็บมือขูดได้เลยละครับ เอาไว้ฝนขั้นสุดท้ายหรือไม่ครับ? หมีดอีอันที่ฝนมามันนั้นว่าจะเก็บไปเป็นที่ระลึกนะครับ เอาไว้เป็นตัวอย่างได้เลย O0 :victory ยางแผ่นที่เอามาให้ดูแฟนบอกว่าสีสวยและลายสวยลึกกว่าที่เมืองเหนือครับ มีกลิ่นควันไฟด้วย แสดงว่าใช้วิธีรมควันไม่ได้ใช้วิธีแค่ตากแดดเหมือนทางนี้ใช่หรือไม่ครับ?



สีขาวก้อนใหญ่สุดนั่่นเป็นไขปลาวาฬครับ ลนไฟแล้วถู(หนาๆ)ที่ผ้าหรือหนังผัดมีดครับ ถ้าอุ่นหนังหรือผ้าก่อน ไขปลาวาฬจะเกาะดีขึ้นครับ เท่าที่ส่งไปก็ใช้ได้นานจนผ้าหรือหนังเปื่อยแล้วครับ มันซึม..(เรียกไม่ถูกอีกแล้ว น่าจะเรียก"ฝัง")เข้าเนื้อผ้า-หนังครับ
เป็นยางแผ่นรมควัน(แค่ชั้น3) ทางนี้ก็มีตากแดดครับแผ่นยางที่ได้เรียกว่า"ยางแผ่นดิบ" ยางรมควันเป็นยางสุก ตอนส่งออกก็อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมแล้วทาแป้งแมกนีเซียมผสมน้ำมันดีเซลกันความชื้นไว้เรียกว่า"ยางลูกขุน"ครับ อยากให้สังเกตุแบบนี้นะครับ ยางแผ่นเล็กบางดอกลึกจะถูกหักชื้นน้อยกว่า,ยางแผ่นใส(ยางแก้ว)ได้ราคาดีกว่ายางแผ่นสีทึบๆ  แค่ไหน?ดูความสะดวกเหมาะสมของเรา(เช่น แผ่นบางลงจำนวนแผ่นมากขึ้นตากเก็บลำบาก แผ่นบางดอกลึกมอเตอร์ทำงานหนักขึ้นกินไฟมากขึ้น)เปรียบเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น(คุ้ม-ไม่คุ้ม)ในพื้นที่นะครับ
ผมเดาว่าคุณPinijน่าจะใช้มอเตอร์หมุนจักรนะครับ ถ้าดอกตื้นก็กดจักรดอกลงได้อีกครับ(ดูตัวอย่างแผ่นยางที่ส่งไป)
ที่ส่งยางแผ่นรมควันไปให้เพราะตั้งใจจุดความคิดเรื่องรวมกลุ่มแปรรูปน้ำยางและยางแผ่นดิบเป็นยางแผ่นรมควันครับ ทางนั้นน่าจะรวมกลุ่มกันง่ายกว่าทางนี้ ทางนี้มีปัญหาเรื่องแรงงานครับ ตอนนี้แรงงาน(สหกรณ์ในอำเภอของผม)ทั้งหมดเป็นชาวอิสานครับ ต้นทุนผลิตบริหารอยู่ราวๆ6.5บาท/กก. ปีนึงๆได้กำไรหักค่าใช้จ่ายในรูปแบบบัญชี+เงินปันผลจากหุ้น 10%แล้ว ยังมีเงินเหลือมาเฉลี่ยคืนกลับให้สมาชิกราวๆ0.9-1.5บาท/กก.  แนะนำว่าว่าถ้าจะทำ อาจเริ่มจากรับซื้อยางแผ่นดิบ-น้ำยางของสมาชิกแล้วขายต่อให้โรงงานโดยตรงไปก่อนก็ได้ เพราะลุงทุนน้อยกว่ามาก(ไม่ต้องมีโรงรม) เลียนแบบสหกรณ์ระดมเงินลงทุนในรูปแบบหุ้นของสมาชิกแต่อย่าจดทะเบียนสหกรณ์ เพราะมีระเบียบต่างๆเข้ามาควบคุมมาก มากเสียจนทำให้การบริหารจัดการยาก ต้องลักไก่กันอยู่หลายๆเรื่องครับ(แต่ถ้าจดทะเบียนสหกรณ์ก็จะมีเงินอุดหนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์)
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ tubeTronix

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,127
    • เพศ:ชาย
เรื่องการไล่สัตว์ ในสวนยางด้วยครับ อ. โก้ จะไล่ยังไงดี ที่สวนผมมี งูบองหลา  พังพอน หนูุ ขาบ มดคันร้อน ...น่ากลัวมากๆ ฉีดยาฆ่าหญ้าจะช่วยไล่ได้มั๊ยครับ

เรื่องไม่ไผ่ พันธุ์ที่น่าปลูกมากๆ คือไม่ไผ่ยักษ์เมืองน่านครับ ต้นใหญ่มากๆ หน่อใหญ่มากๆ O0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กุมภาพันธ์, 2012, 07:38:39 am โดย tubeTronix »
---|  ชมรมคนชอบหาเรื่อง  |---
http://www.kaponk.com/blog/7


<a href="http://www.htg2.net/index.php?topic=10121.0 " >my cell phone[/url]


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ผมสรุปบอกเพื่อนๆเจ้าของ(หรือคิดจะสร้าง)สวนยางแบบนี้นะครับ
1.) ศึกษา-ตัดสินใจเลือกพันธุ์ยางแหล่งซื้อกล้ายางให้ดีไปดูถึงแปลงเพาะได้ยิ่งดี(ได้เห็นตอนทำเลยว่าดี-ไม่ดีอย่างไร) เลือกยางเลี้ยงถุง1-2ฉัตร เพราะดีกว่ายางตาเขียวทุกด้าน(ยกเว้นแพงกว่า) ยางตาเขียวให้ค่าจ้างติดตากันเป็นต้น คนติดตาก็สักแต่ทำให้เร็วเข้าว่า ไม่สนใจว่าคุณภาพออกมายังไง อย่าปลูกยาง3ฉัตรขึ้นไปเพราะต้นยางจะไม่สูง(ยางนั่ง)
2.) เตรียมพืนที่ปลูก ส่งดินไปวิเคราะห์(เพื่อกำหนดระยะของแถว-ต้น) ไถพรวน-ยกอกร่อง,ขุดหลุม คน-รถขุด ได้ผลเหมือนกัน ใส่ปุ๋ยก้นหลุม ปักไม้ม็อบ(หลัก)
3.) ปลูกกล้ายางถุง กรีดปากถุงแนวตั้ง 5-6รอย ลงมาประมาณ2นิ้ว(จากขอบดินในถุง) กรีดเปิดก้นถุงสูงประมาณ2นิ้วจากก้นถุง โตขึ้นรากยางจะลงลึก-ตีนช้างโต ไม่ล้มง่าย
4.) ดูแลยางอ่อนเรื่องตัดกิ่งตั้งแต่ยังเป็นยางอ่อน อย่าให้เถาวัลย์พันต้นยางเด็ดขาด(ยางเกร็น-ไม่มีน้ำยาง) ผูกคล้องต้นยางกับไม้ม็อบจนยางอายุเลย2ปีไปแล้ว(หมดอายุไม้ม็อบพอดี) ไม้ม็อบที่โละจากราวยางรมควัน(อันละ2-4บาท ตัดแบ่งได้2อัน)ทนดีมาก
5.) เลือกปลูกพืชแซมให้เหมาะกับลักษณะพื้นที่-ดิน-น้ำ-แรงงาน และให้ผลตอบแทนดีที่สุด อย่าให้เสียพื้นที่และเวลา6-8ปีกับพืชคลุมเด็ดขาด ศึกษา-ตัดสินใจปลูกไม้ยืนต้น(ไม้ผล-ไม้เศรษฐกิจ)เสริมเป็นพืชรองในช่วงยางอ่อนนี้เลย จะได้ไม่เสียเวลา
6.) อย่าไถพรวนเมื่อยางอายุเข้า4ปีไปแล้วเด็ดขาด
.....ช่วงยางอ่อนก่อนเปิดกรีด เราดูแลยางอย่างดี 2 เรื่องคือ ลำต้นและราก และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้มากที่สุด
7.) เปิดกรีดได้เมื่อยางมีขนาดลำต้น 50เซ็นต์ขึ้นไป ไม่ต้องรอให้ครบ6ปีก็ได้ ยางลำต้นโตไม่ถึง50ซ็นต์(ยาง5ปีลำต้นโต 50เซ็นต์ขึ้นไปก็เปิดกรีดได้) เปิดกรีดในช่วงกลางๆ-ท้ายฤดูของปีก่อนหน้าปีที่จะเปิดกรีดจริงๆ ศึกษา-ตัดสินใจเลือกการแบ่งหน้ายางเปิดกรีดเป็น3หน้าหรือ4หน้าให้ดี ยางหน้าสั้นให้น้ำยางน้อยกว่ายางหน้ายาว(จาการทดลองในสวนของผม)แต่แบ่งกรีด4หน้าจะได้ระยะเวลากรีดยางนานกว่ากันมาก(น้ำยางตลอดอายุหน้ายางได้มากกว่า) ต้นยาง-หน้ายางสมบูรณ์กว่ามาก กรีดง่าย-เร็วกว่ามาก....ถ้ามีอำนาจตัดสินใจและมองประโยชน์ของตัวเป็นหลักผมสรุปแบบนี้น่าจะถูกที่สุดแล้ว ถ้าเจ้าของสวนกรีดเองเปิดกรีดแบบแบ่ง4หน้า ถ้ารับจ้างกรีดเปิดกรีดแบบแบ่ง3หน้า(คนกรีดได้ส่วนแบ่งมาก เจ้าของก็พอใจที่ได้น้ำยางมาก ถ้ารอยกรีดหน้ายางดีก็ได้กรีดต่อไปเรื่อยๆ) ถ้าเป็นไปได้ให้เปิดกรีดที่ความสูงหน้ายางลดหลั่นกันไป(สัก30เซ็นต์)เช่น ต้นที่1-2 150เซ้นต์ฯ ต้นที่3-4 120เซ็นต์ฯ ไปเรื่อยๆ...ตอนยางหน้าต่ำจะได้ไม่เมื่อยมาก(ใครไม่เคยไม่รู้...ยิ่งยางหน้ายาว-ยิ่งตัวสูงยิ่งเมื่อย)
8.) เลือกสูตรปุ๋ย+ใส่ธาตุ(ปุ๋ย)เสริมจากผลวิเคราะห์ดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์(น้ำหมักฯ-ปุ๋ยหมักพืชสด)เพื่อบำรุงดินทุกปี ใส่โดโลไมต์ได้ทุกสภาพดิน ได้ผลดีกับดินที่มีphต่ำกว่า7(นอกจากทำให้ดินร่วนขึ้นแล้วยังลดความเป็นกรดของดินได้ดีแต่ไม่เพิ่มความเป็นด่างให้กับดิน(น้อยมากๆ)) โดโลไมต์ใส่เพื่อดินไม่ได้ใส่เพื่อต้นยาง(ถึงจะมีธาตุแม็กนีเซี่ยมอยู่)จึงต้องกำหนดน้ำหนักตามพื้นที่โดยพิจารณา(ใส่น้อยที่สุด)จากผลวิเคราะห์ดิน ดินในสวนยางที่โดนแดดเผา(ไม่มีหญ้า-พืชรอง)ต้องบำรุงด้วยสารอินทรีย์มากกว่าปกติ
9.) ใส่ปุ๋ยให้ถูกช่วงเวลา ยางอายุ3ปี-เปิดกรีดแล้ว ต้องใส่ในช่วงดอกยางเริ่มร่วงด้วย1ครั้งเพื่อคุมลูกยาง(เพิ่มช่วงดอกยางเริ่มร่วงด้วย1ครั้ง เท่ากับแบ่งใส่3ครั้ง/ปี)การให้น้ำยาง(DRC)จะดีขึ้น
10.) อย่าใช้ปุ๋ยสูตรซ้ำกันเกิน2ปีในสวนยางที่เปิดกรีดแล้ว(หลีกเลี่ยงใช้ปุ๋ยเต็มสูตรลงให้น้อยที่สุด-ไม่ใช้ปุ๋ยเต็มสูตรเลย)....หน้ายางงอกเปลือกใหม่จะสมบูรณ์กว่ามาก ลดปัญหาเรื่องหน้ายางตายนึ่ง (ปุ๋ยเต็มสูตรคืออะไร สูตรไหนบ้างที่เป็นปุ๋ยเต็มสูตร ศึกษาเพิ่มได้ง่าย)
11.) ยางเปิดกรีดแล้วกำจัดวัชพืชด้วยวิธีถางด้วยเครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง-มีดพร้าดีกว่ารถไถตัดหญ้า ทั้งด้านคุณภาพ(สามารถตัดให้เหลือวัชพืชไว้คลุมดินได้)และการรักษารากยาง(ไม่ทำลายรากยาง)
11.) กรีดเองได้รับผล(เงิน)เต็ม100 แต่จ้างกรีดแบบแบ่งได้รับผลไม่เกิน50% ไม่ว่าจะแบ่งยังไงก็ตาม 70-30เจ้าของสวนก็ได้จริงไม่ถึง50%,6-4ขี้ปัน (60-40 ขี้ยางแบ่ง50-50)เจ้าของสวนก็ได้ไม่ถึง50%
12.) ระวังเรื่องไฟไหม้สวนยางในหน้าแล้ง ไฟไหม้สวนยางหมดเท่ากับนับหนึ่งใหม่ไม่มีโอกาสแก้ตัว ถ้าต้นเพลิงมาจากสวนเราเสียหาย X3 (สวนเรา-สวนเขา(หลายสวน)-ตอบแทนภายหลัง)
หลักๆ-ง่ายๆก็มีแค่นี้ครับ บางอย่างอาจขัด-บางอย่างสอดคล้อง-บางอย่างไม่มีหลักวิชาการ ทั้งหมดมาจากการสังเกตุ-สอบถาม-เรียนรู้ทดลองด้วยตัวเองครับ ทั้งนี้อยู่ที่ความพอใจของเจ้าของสวนเป็นหลัก....(ขอเล่าเสริมนิดนึง) เคยไปเห็นสวนยางที่สตูล(ของเพื่อนเราในHTG2นี่แหละ  ^-^)ปลูกไม้ไผ่เป็นพืชรอง  :o (ไผ่เป็นพืชที่แย่งปุ๋ยยางมาก)ด้วยความสงสัยเลยถามเจ้าของ(ตัวจริง)ไปว่า "ไซป่ะไม่ปลูกไอ้เอินล่ะ..มังคุด-ลองกองก้าได้"(ทำไมป่ะไม่ปลูกอย่างอื่น มังคุด-ลองกองก็ได้) ป่ะตอบมาทันควันว่า "ป่ะรักนิ ไม้ไผ่ฮั้น มั้นก้าไม่ได้เลวไปเสียทังเหม็ดเหลาโลก นี่ลำมั้นก้าขายได้เมื่อนและ แตแรกแท่วนี้ไม้ไผ่ทังเพ พอคนเข้ามาโย่มากมันโส่นแหม็ดนิ ถ้าป่ะไม่โปลกไว้นิตอไปซ่งไซ่เด็กไม่ได้เห่นไม่โหร่จักแหนๆ"(เพราะป่ะรัก(ไม้ไผ่)ก็ไม่ได้เลวไปเสียทั้งหมดหรอกลูก(แสดงว่าป่ะก็รู้เรื่องไผ่ในสวนยาง)ลำมันก็ขายได้เหมือนกัน เมื่อก่อนแถวนี้มีไม้ไผ่มาก พอคนเข้ามาอยู่กันมากๆมันก็สูญหายไปหมด ถ้าป่ะไม่ปลูกไว้ต่อไปสงสัยเด็กคงไม่ได้เห็นไม่รู้จักไม้ไผ่แน่ๆ) ใครเป็นลูกป่ะคนนั้น ออกมารายงานตัวหน่อย ..... :clap  :clap
ขออนุญาตไม่ทำไฮไลท์นะครับอยากให้อ่านทุกๆตัวอักษร ยังไม่มีเรื่องโรคยางมาสรุปไว้ให้(ผมรู้น้อย)
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000016999    บ. พักพวกกันโดนไฟไหม้ซะแล้ว :cry2 :cry2 :cry2 ถ้าหาข้อมูลไม่ได้กะว่าจะขอไปฝึกวิชากับเค้าอยู่เชียว (คิดว่าน่าจะทำประกันไฟไว้ เพราะไฟไหม้เคยเกิดมาครั้งนึงแล้ว)

อ. โก้ครับ ได้รับของแล้วขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมได้ที่อยู่แล้ว รอรับกาแฟผมด้วยนะครับ ขออ่าน Sheet ก่อนนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยจะเข้ามาถามต่อ

ผลปรากฏว่าอ่านซีทเข้าใจได้เอง แต่พอมาดูหินลับหมีดแล้วเกิดงงขึ้นครับ หินหรืออะไร? สีขาวก้อนใหญ่สุด เอาเล็บมือขูดได้เลยละครับ เอาไว้ฝนขั้นสุดท้ายหรือไม่ครับ? หมีดอีอันที่ฝนมามันนั้นว่าจะเก็บไปเป็นที่ระลึกนะครับ เอาไว้เป็นตัวอย่างได้เลย O0 :victory ยางแผ่นที่เอามาให้ดูแฟนบอกว่าสีสวยและลายสวยลึกกว่าที่เมืองเหนือครับ มีกลิ่นควันไฟด้วย แสดงว่าใช้วิธีรมควันไม่ได้ใช้วิธีแค่ตากแดดเหมือนทางนี้ใช่หรือไม่ครับ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 กุมภาพันธ์, 2012, 05:33:28 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
เนื่องจากเวลาที่ผมกลับไปค้นกระทู้เก่าๆ ของผม เพื่อหาข้อมูลบางอย่างในนั้นยากส์ส์ส์...มั๊กๆๆๆๆ เลยนำนำมาแปะไว้ในนี้เพื่อความสะดวกในการค้นของผมและเพื่อนบางคนที่สนใจในเรื่องที่ผมได้เขียนไว้ในเวบนี้นะครับ d_d :drunk

โมดิฟาล์ย EL 84 PP-Amp ของ HEATHKIT AA-151     http://www.htg2.net/index.php?topic=70779.0    

845PP Amp 100W ระดับม้าตอนนี้กลายร่างเป็น 211PP 250W ระดับช้างไปแล้ว & MC StepupTran.     http://www.htg2.net/index.php?topic=76720.0  

โปรเจ็คทำตู้ลำโพงกีต้าร์ และตัวกีตาร์ครับ     http://www.htg2.net/index.php?topic=77861.0

และผมอยากจะเอาคลิปวิธีชงกาแฟมาให้คุณโอมห์และเพื่อนๆ ที่ชงกาแฟดื่มเองได้ปรับปรุงการชงกาแฟให้อร่อยมากขึ้น หรือคิดจะเปิดร้านใหม่ก็จะสามารถดูกันได้เลยนะครับ คลิปนี้ผมได้ทำให้เห็นกันตั้งเริ่มบดจนถึงกาแฟไหลออกมาจนหยดสุดท้ายกันเลย ซึ่งการทำแบบครบขั้นตอนแบบนี้ ผมยังไม่เคยทำออกมาให้ดูกันก่อมหน้านี้ บางคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ คำบอกเล่าหรือจะสู้เห็นด้วยตาจะชัดเจนมากกว่าครับ :) :) :)

แต่ขอบอกก่อนเลยว่าคลิปนี้ผมยังบดกาแฟละเอียดไปคลิกหนึ่ง K] สังเกตุน้ำจะเริ่มออกมาช้ากว่าการบดที่มีความละเอียดพอดี ปรกติต้องไม่หยดก่อนไหลแบบนี้นะครับ มันควรจะเริ่มไหล แล้วก็ไหลติดต่อกันแบบไม่ขาดช่วง หรือออกมาเป็นหยดๆ ก่อนแบบนี้ (คงเคยเห็นกันมาแล้วในคลิปที่ถูกต้องที่ผมทำให้ดูกันหลายๆ ครั้งมาแล้ว คลิปนี้จะบอกถึงความผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อย ซึ่งถือว่ายังสอบผ่านครับ คือยังไม่ถึงกับเหม็นไหม้ แต่กาแฟผมอัดมากกว่านี้ก็ยังไม่เหม็นครับ พีเบอร์รี่เหม็นไหม้ยาก แต่ถ้าเป็นแบบเม็ดซีก ถ้าชงแบบนี้กลิ่นไหม้ออกมาแน่ๆ ครับ) การบดที่ละเอียดเกินไปเพียงเล็กน้อย ลองสังเกตุดูอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยจะดีคือ ครีมม่ามันจะคืนเป็นน้ำเร็วมากกว่าปรกติ โดยเราดูตรงก้นแก้วจะเห็นว่าน้ำสีดำๆ ไล่สูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเราบดผงกาแฟพอดีเหมาะสมและกดแทมเปอร์พอดี ครีมม่าจะยังคงรูปนานกว่านี้ (ลองดูคลิปการชงดีๆ ที่เคยเอามาให้ดูเปรียบเทียบกันนะครับ)

แน่นอนการชงแบบนี้รสชาดต้องด้อยลงไปอย่างแน่นอนครับ กาแฟจะมีมวลเนื้อบาง และติดจะขมมากขึ้นจากปรกติอีกนิดๆ (แต่บางท่านอาจจะชอบ คือพวกที่ชอบกาแฟขมๆ) หรืออาจมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาด้วย :nono

ให้สังเกตุดูการวางแทมเปอร์ของผมบนผงกาแฟในฟิลเตอร์ ผมจะวางเบาๆ แล้วหมุนแทมเปอร์ให้ผงกาแฟมันเรียบเสมอกัน โดยห้ามใส่แรงกดลงไปเป็นเด็ดขาด แค่หมุนแบบคุมไม่ให้แทมเปอร์ไม่เอียงแค่นั้นพอ ด้วยน้ำหนักแทมเปอร์หนึ่งกิโลกรัมก็เกิดแรงกดอย่างเหลือเฝือสำหรับกาแฟดีๆ ครับ (เครื่องบดก็ต้องดีด้วยนะ)

ก่อนหน้าผมชงชอตนี้เป็นซ็อทที่ล้มเหลวของผมนะครับ ผมเลยไม่ได้เอามาให้ดูกัน คือผมโชว์การหมุนแทมเปอร์นานไปหน่อย หมุนหลายรอบ และเอียงแทมเปอร์ไปมาให้ดูว่าการเอียงเป็นอย่างไร ซึ่งมันก็แค่เอียงเล็กน้อยและหมุนนานไปเล็กน้อย (นานกว่าคลิปนี้แค่ใช้เวลาเท่าตัวเอง คงประมาสิบวินาทีได้มั้ง ปรกติหมุนแค่ประมาณห้าวินาที) ปรากฏว่าน้ำกาแฟไม่ยอมไหลกันเลยละครับ

และก่อนหน้านั้นผมปรับละเอียดมากกว่าในคลิปนี้ไปอีกเบอร์หนึ่ง (สรุปงานนี้ผมปรับเครื่องบดมากไปสองคลิกนะครับ คือในคลิปที่เอามาให้ดูกันนี้ มันก็ยังบดละเอียดเกินไปคลิกนึงน่ะครับ) น้ำกาแฟก็ไม่ไหลเหมือนกัน สรุปแล้วผมทำพลาดไปสองครั้ง ครั้งที่สามที่เอาคลิปมาโชว์ให้ดูกันนี้ก็ยังแค่พอใช้ได้ เพราะสาเหตุมันมาจากการคั่วในระดับมิเดี่ยมที่ผิดจากที่คั่วทุกๆ วันที่มันคั่วแก่กว่านี้น่ะครับ  (คือนานๆ จะมีคนที่สั่งระดับมีเดียม) ผมก็เลยลืมปรับเครื่องบดครับ ที่บอกเล่ามาซะยาวก็เพื่อเป็นการเตือนใจผู้ที่จะเปิดร้านขายกาแฟมือใหม่ๆ นะครับ ถ้าชงกาแฟไม่ได้ตามสะเป็กต้องเททิ้งอย่างเดียว อย่าให้มันหลุดไปถึง ปลายจมูก ปลายลิ้น และลำคอของลูกค้า :secret d_d :drunk

<a href="http://www.youtube.com/v/aCDwigpTp4o&amp;feature=youtu.be" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/aCDwigpTp4o&amp;feature=youtu.be</a>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์, 2012, 11:28:23 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ค้นไปค้นมาเจอสิ่งที่ อ. โก้ เคยแนะนไว้เลยครับ


กรีดยางพาราแบบ"รอยกรีดสั้น" เทคเนิคง่ายๆภูมิปัญญาชาวพังงา

ผลการศึกษาระบุว่า การปลูกยางพาราจะสามารถกรีดน้ำยางได้ 25 ปี นั่นหมายถึงการกรีดยางพาราโดยทั่วไปคือ กรีดครึ่งหนึ่งของเส้นรอบลำต้น ล่าสุด สุวรรณ สกุลวงศ์สุเมธ เกษตรกรชาวสวนยางพาราจากหมู่ 7 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา แนะเคล็ดลับการกรีดยางพาราแบบ "รอยรีดสั้น" กรีดเพียง 1 ใน 4 ของเส้นรอบวงของลำต้น ผลออกมามีผลผลิตน้ำยางไม่แตกต่างกัน แต่มีข้อดีจะทำให้อายุการกรีดยางพารายาวขึ้น ที่สำคัญต้นยางพาราไม่โทรมเร็วอีกด้วย
สุวรรณ บอกว่า ได้ทดลองกรีดยางพาราแบบรอยกรีดสั้นมาหลายปีแล้ว พบว่าเป็นผลดีต่อต้นยางพาราและเจ้าของยางพาราเองอย่างแน่นอน เพราะเมื่อก่อนเกษตรกรจะนิยมกรีดยางพาราต่อเมื่อมีอายุ 7 ปี จะรีดช่วงสูงจากพื้นราว 150 เมตร เวลากรีดจะลากรอยยาวครึ่งหนึ่งของเส้นรอบวงลำต้น เอียง 30 องศา เพื่อให้น้ำยางไหลลงถ้วย พอกรีดเกือบถึงพื้นก็เปลี่ยนไปกรีดอีกด้านหนึ่งที่ยังไม่ได้กรีด ส่วนที่กรีดหน้าแรกจะใช้เวลา 10-12 เปลือกยางพาราจะขึ้นใหม่ และได้กรีดเป็นรอบสอง แต่ตอนหลังเกษตรกรเริ่มทำสวนยางพารามากขึ้น ทำให้เจ้าของสวนยางไม่ได้กรีดเอง ต้องจ้างคนอื่น โดยการแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ คือเจ้าของได้ 60% ลูกจ้างได้ 40%
"ปัญหามีอยู่ว่า พอเราจ้างคนอื่นมา ลูกจ้างต้องการให้ได้ผลผลิตมาก โดยไม่คำนึงว่าต้นยางจะโทรมเร็ว บางทีกรีดลึก เปลือกหนา ส่งผลให้อายุการกรีดสั้นลงก่อนกำหนด ตอนหลังมีบางรายกรีดแบบรอยกรีดสั้นลงคือ 1 ใน 3 ของเส้นรอบวง แต่ผลผลิตก็ไม่น้อยลง ผมเลยลองกรีดสั้นกว่า คือ 1 ใน 4 ของเส้นรอบวง เอียง 22 องศา พบผลผลิตใกล้เคียง ที่สำคัญเมื่อเปลือกต้นยางที่ไม่ถูกกรีดเหลือยู่ 3 ส่วน จะทำให้รากดูดส่งปุ๋ยและน้ำส่งผ่านลำต้นไปยังใบใช้ในการสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ต้นยางพาราได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเปลือกยางกรีดน้อย ต้นยางพารา 1 ต้น สลับกรีดได้ 4 หน้า ต่อไปอายุการกรีดยางต้องยาวขึ้นแน่นอน" สุวรรณ กล่าวอย่างมั่นใจ
ด้าน อุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาการยางพาราแห่งประเทศไทย ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการยางพารามายาวนาน และลงพื้นที่ดูเทคนิคการกรีดยางพาราแบบรอยกรีดสั้น ซึ่งเป็นแบบฉบับชาวบ้านของ สุวรรณ บอกว่า เป็นเทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง สะดวกต่อการกรีดที่ใช้เวลาน้อยลง การสิ้นเปลืองของเปลือกต้นยางพาราก็น้อยลง เพราะส่วนที่ไม่ได้กรีดที่เหลืออีก 3 ส่วนนั้น เป็นส่วนที่เหลือมากพอ ที่เมื่อรากดูดน้ำและอาหารผ่านไปยังลำต้นยางพาราได้ ต่อไปจึงมั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม เป็นการช่วยรักษาหน้ายางได้เป็นอย่างดี ขณะที่ต้นยางพาราก็สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้โดยไม่โทรมเร็วด้วย
"ตอนนี้ยางพาราราคาแพง ชาวสวนยางพาราที่ปลูกในโครงการขยายพื้นที่ปลูกยางพารา 1 ล้านไร่ ในภาคเหนือและภาคอีสาน เริ่มกรีดกันแล้ว บางรายกรีดทั้งที่อายุยังไม่ถึง จะส่งผลให้ต้นยางโทรมเร็ว เมื่อเราห้ามชาวบ้านไม่ได้ ผมนึกว่าวิธีนี้น่าจะช่วยได้ ต้นยางอาจโทรมช้ากว่า จึงอยากให้ทางการหรือหน่วยงานของรัฐทดสอบอย่างเป็นทางการ หรือศึกษาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะเราหยุดชาวสวนยางไม่ให้กรีดยางก่อนกำหนดไม่ได้ เราควรหาวิธีการช่วยเหลืออย่างอื่น" นายอุทัย กล่าว
ประธานสภาการยางพาราแห่งประเทศไทย ย้ำด้วยว่า ถึงเวลาที่หน่วยราชการจะต้องทำการศึกษาการเปลี่ยนระบบการกรีดยางจากกรีด 1 ใน 2 ของเส้นรอบวงลำต้นมาใช้เป็น 1 ใน 4 เปลี่ยนองศากรีดจากเดิม 30 องศา มาเป็น 22 องศา มีดที่ใช้กรีดจะต้องเปลี่ยนเป็นมีดที่ใช้มีเบอร์เล็กและเปลี่ยนวิธีการใส่ปุ๋ยยางให้มีความถี่ขึ้นจากปกติ 6 เดือนครั้ง เพื่อเจ้าของสวนยางกับต้นยางอยู่ด้วยนานกว่าที่เป็นอยู่อีกด้วย
นับเป็นเทคนิคง่ายๆ ไม่ต้องใช้เทคโนโลยี เกษตรกรสามารถไปปฏิบัติได้ทันที ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับชาวสวนยางพาราในยุคนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555)   http://www.kasetporpeang.com/

และการปล่อยให้มีต้นหญ้าในสวนยาง  http://www.youtube.com/watch?v=8nYrFmRPrCM&feature=related 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กุมภาพันธ์, 2012, 11:51:53 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ถัง... หาดูตามร้านขายของเก่าครับ ถังสี ถังน้ำมัน ถังผงซักฟอก น่าจะได้ในราดีกว่าซื้อถังใหม่
กู๊ดไอเดียครับ ทำเป็นถังย่อย ยกใส่ไชด์คาร์ง่ายดีด้วย เดี๋ยววิ่งไปร้านของเก่าดีกว่า :yahoo
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ santi

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,822
    • เพศ:ชาย
  • ปล่อยให้ดนตรีนำพา
ถัง... หาดูตามร้านขายของเก่าครับ ถังสี ถังน้ำมัน ถังผงซักฟอก น่าจะได้ในราดีกว่าซื้อถังใหม่


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
รอคำแนะนำเรื่องน้ำมักอย่างแรงครับ กะว่าจะทำกันเลยในวันนี้ครับ ผมมีกล้วยสุกที่หน้าบ้านหลายเคลือกินไม่ทันในตอนนี้ เห็นว่าหน่อมันก็ใช้ได้ด้วย (ต้นมันเยอะเกินต้องตัดออกซะบ้าง) พวกใบผักแก่ๆ ส่วนที่กินไม่ได้ก็มีเยอะครับ แต่พวกถังหมักพาสติกมันแพงจัง มีอะไรถูกๆ แนะนำให้ซื้อมาใส่น้ำหมักได้บ้างครับ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะใส่อะไรหมักครับ :-\
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ที่จริงผมยังติดใจอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมเขียนถามไป คือ ทำไม? เลือก BPM24 ไม่ปลูก RRIM 600 เหมือนคนอื่นๆ

ตอนนั้นญาติผู้พี่(คนที่พ่นน้ำหมัก)เค้าทำกล้ายางBPM24อยู่ครับ มาใหม่กำลังดังเหมือน251ตอนนี้
เหตุผล2ข้อครับ ช่วยพี่น้องกันและกำลังดังครับ (ญาติผู้พี่ของผมมากหน่อย เพราะปู่มีลูก7คน คุณพ่อผมเป็นคนที่5 ญาติผู้พี่ทุกคนเกี่ยวข้องกับยาง มีญาติผู้น้อง4คน ไม่ได้ทำเรื่องยาง)
BPM24 มีข้อเสียที่ หน้ายางเปลือก2 งอกใหม่ช้ามากๆๆๆ(เทียบกับRRIM600) มีโอกาสกรีดซ้ำหน้า3ได้น้อยครับ หน้ายางตายนึ่งมาก ของผมทั้งแปลง(12ไร่)ราวๆ20ต้น ถือว่าน้อยมาก เทียบกับเจ้าอื่นที่ตายนึ่งกันมากเป็นครึ่งแปลงก็มี(แต่เจ้าที่ผมเคยเล่าไปว่าโค่นหลังเปิดกรีดไม่ถึงปีนั่น RRIM600ครับ) กรีดซ้ำหน้า2น้ำยางลดลงราวๆ15-20%
ข้อดีคือ เปอร์เซ็นต์ยางแห้ง(DRC)สูงเสมอตลอดปี(40-43%) รากดีไม่ล้มง่าย
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
เรื่องน้ำหมักผมก็เคยอ่านและเคยทำกับพวกไม้ดอกไม่ค่อยได้ผล เดี๋ยวลองดูไหม่อีกครั้งครับ คือจากที่เคยอ่านมามันจะช่วยให้ดินมีฮิวมัสขึ้นมา ดินดีขึ้น แต่พอผมมาคิดว่า ถ้าไม่มีไฟเบอร์ (เหมือนเห็น อ. ใช้คำนี้) คือดูดินที่ปลูกยางใหม่แล้วมันมีแต่ทรายไม่มีดินหรือจะเรียกว่าไฟเบอร์น่ะมันมีน้อยมากๆ ผมเลยคิดว่าจะทำปุ๋ยหมักซากพืชที่มีอยู่แล้ว มาใส่ เพราะตอนเอาน้ำเข้าดินที่เป็นทรายมันขุดง่ายมากๆ เลย แค่เอาเท้าปาดมันยังเป็นหลุมเลยละครับ ดินที่นี่คงจะแย่จริงๆ ละครับอาจารย์


แต่ในสวนที่มันมีใบยางตกอยู่เต็มไปหมด น่าจะเอาน้ำหมักลาดเพื่อในมันย่อยสลายน่าจะดีครับ

ปล. จะถามหลายครั้งแล้วพอเข้ามาเขียนลืมถามทุกที คือขณะเอาน้ำเข้าสวน บริเวณรอบต้นยางต้นอ่อนนั้นดินมันแฉะเละไปเหมือนโคลน เราไม่ควรไปถอนหญ้าหรือเข้าไปเหยียบใกล้ๆ ต้นใช่หรือไม่ครับ? ผมอยากจะดายหญ้ายังไม่กล้าทำเลยครับ กลัวรากมันสะเทือนน่ะครับ


เรียนคุณโอมห์ตอบทางพีเอ็มแล้วนะครับ

ปล. อีกครั้ง DRC 10% ก็เอามาทำหมอนได้หรือครับ




ตายล่ะ!! เข้าใจผิดแล้วครับ ขออนุญาตเอา PM ที่อาจทำให้คุณPinijเข้าใจผิดขึ้นมาด้วยนะครับ (เพิ่งเข้าไปอ่านซ้ำ)

ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้เป็นอาจารย์สอนเกษตรฯครับ    ใน PM ที่บอกว่า "สอนพืชสวนอยู่" คือผู้ประสานงานให้ผมครับ

ภาษาสื่อสารของผมนี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ  K]  K] ขอโทษที่ทำให้คุณPinijเข้าใจผิดนะครับ

และเรื่องที่ให้เชื่อและนำไปใช้ได้เลย ก็ขอให้พิจารณาหรือทดลองก่อนเชื่อนะครับ แต่ยืนยันว่าเรื่องที่ให้ทดลองก็ไม่มีอะไรเสียหายครับ(เคยบอกไปแล้วว่า ไม่ได้บอกให้เชื่อ ขอให้ทดลอง) ไม่มีคำแนะนำใดๆหรือของใครเหมาะสมกับของๆเราเท่ากับเราพิจารณา(บนความถูกต้องของข้อมูล)ของเราเองครับ
ที่ผมตอบๆเล่าๆ(+แนะนำ)คุณPinij ไปก็ได้มาจาก เกิดปัญหากับตัวเอง(มาก)เหมือนคุณPinijตอนนี้แหละครับ แต่ผมมีผู้รู้-อาจารย์ผู้สอนเรื่องพืชสวนโดยตรง-นักวิชาการ(สถานีทดลองฯ)-คนทำกล้ายาง-พ่อค้า ฯลฯอยู่ใกล้ตัว ทำให้ปัญหามันง่ายขึ้นที่จะหาคำตอบ ครับ
สังเกตุนะครับว่า ผมจะใช้เรื่องเล่า ที่เกิดจากตัวเองและได้ถามได้รู้ได้เห็นเป็นตัวอย่างซะมากกว่าเรื่องทางวิชาการครับ อย่างเรื่องปุ๋ยลูกดกนั่นก็ได้มาจาการถามนี่แหละครับ
...........
ตอบถามนะครับ
ยางอ่อนไม่เป็นไรหรอกครับ ขั้นตอนการปลูกสำคัญกว่ามาก (ไม่ต้องแกะถุง แค่กรีดปากถุง-ท้ายถุง)
DRC 10% ไม่แน่ใจว่าเจาะจงไปที่ทำหมอนหรือปล่าวนะครับ แต่ที่แน่ๆต้องผ่านขั้นตอนให้ลาเท็กซ์เจือจางลงก่อนครับ ไม่ได้ตั้งใจฟังประเด็นนี้ เพราะอยากเจาะไปที่ตัวเครื่องและสารบางอย่างมากกว่าครับ
ขอโทษอีกครั้งครับ  K]  K] รบกวนคุณPinijช่วยลบข้อความที่อาจทำให้คนอื่นที่เข้ามาอ่านเข้าใจผิดให้ด้วยนะครับ(ที่ผม quote ข้อความมาก็ลบแล้วครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กุมภาพันธ์, 2012, 07:12:50 am โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
เรื่องน้ำหมักผมก็เคยอ่านและเคยทำกับพวกไม้ดอกไม่ค่อยได้ผล เดี๋ยวลองดูไหม่อีกครั้งครับ คือจากที่เคยอ่านมามันจะช่วยให้ดินมีฮิวมัสขึ้นมา ดินดีขึ้น แต่พอผมมาคิดว่า ถ้าไม่มีไฟเบอร์ (เหมือนเห็น อ. ใช้คำนี้) คือดูดินที่ปลูกยางใหม่แล้วมันมีแต่ทรายไม่มีดินหรือจะเรียกว่าไฟเบอร์น่ะมันมีน้อยมากๆ ผมเลยคิดว่าจะทำปุ๋ยหมักซากพืชที่มีอยู่แล้ว มาใส่ เพราะตอนเอาน้ำเข้าดินที่เป็นทรายมันขุดง่ายมากๆ เลย แค่เอาเท้าปาดมันยังเป็นหลุมเลยละครับ ดินที่นี่คงจะแย่จริงๆ ละครับอาจารย์ (ที่จริง อ. โก้ ถือเป็นอาจารย์ตัวจริงของผมในเรื่องของยางพารา)

แต่ในสวนที่มันมีใบยางตกอยู่เต็มไปหมด น่าจะเอาน้ำหมักลาดเพื่อในมันย่อยสลายน่าจะดีครับ

ปล. จะถามหลายครั้งแล้วพอเข้ามาเขียนลืมถามทุกที คือขณะเอาน้ำเข้าสวน บริเวณรอบต้นยางต้นอ่อนนั้นดินมันแฉะเละไปเหมือนโคลน เราไม่ควรไปถอนหญ้าหรือเข้าไปเหยียบใกล้ๆ ต้นใช่หรือไม่ครับ? ผมอยากจะดายหญ้ายังไม่กล้าทำเลยครับ กลัวรากมันสะเทือนน่ะครับ


เรียนคุณโอมห์ตอบทางพีเอ็มแล้วนะครับ

ปล. อีกครั้ง DRC 10% ก็เอามาทำหมอนได้หรือครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กุมภาพันธ์, 2012, 09:01:26 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย


ที่จริงๆ นั้น ผมคิดว่าไม่ต้องน้ำยางข้นถึง 60% ก็น่าจะทำได้ดีกว่าอีกด้วย


วันนั้นอาจารย์ผู้สอน พูดถึง DRC 10% ด้วยครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
อาจารย์ไม่อยู่ผมมั่วจนพลาดไปจนได้ คงต้องพยายามกลับมันให้ได้ละครับ แต่ที่ตรงนั้นอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่มีร่มและเป้นที่รุ่มน้ำปล่อยน้ำมาขังได้ครับ จะเห็นว่าผมใช้พั่วแทงขุดดินอย่างสะบาย ใช้พั่วนี่สะดวกกว่าใช้จอบเยอะ เดี๋ยวจะใช้พั่วกลับหน้าปุ๋ยหมักก็ได้นะครับ คือซังข้าวโพดมันค่อนข้างเปลื่อยมากๆ แล้ว และซากถั่วก็กรอบแห้งร่วนเมื่อเราเหยียบครับ ที่ตรงนี้ค่อนข้างชื้นเกือบจะแฉะจนผมไม่ต้องรดน้ำได้เลยครับ อีกสองสามวันคงรู้ว่า EM ทำงานหรือไม่? หรือพรุ่งนี้เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมจะเอาไม้ทิ่มลงไปแล้วเอาปรอทวัดอุณภูมิดูเทียบกับใต้ดินข้างหลุมที่ตำแหน่งลึกเท่าๆ กัน ว่าแตกต่างกันเท่าไร?


ผมพอจับจากที่ อ. โก้ได้สอนไว้ว่าสิ่งสำคัญเราต้องไม่ให้ยางออกลูกให้ได้ โดยปุ๋ยตังกลางไม่ควรมากนัก ไม่น่าจะมากว่า 5 (ควรใส่หลังดอกน่วงจนหมด ผมเคยคิดว่าไม่อยากให้มันมีลูกจะเอาไม้ไปไร่หวดมันให้ลูกร่วงให้กหมด)  และต้องระวังตัวหน้าไม่ให้มากด้วย เพราะจะทำให้ปลอกที่งอกใหม่หลังกรีดปูดออกมามากทำให้กรีดซ้ำยาก จึงไม่ควรจะเกิน 20 ซึ่งผมก้คิดว่าจะใส่ปุ๋ยเคมีน้อยไว้ดีกว่า แล้วเน้นที่การใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเอา ถูกต้องไหมครับ

เมื่อผมมาอยู่ใหม่ๆ ผมถามชาวบ้าน ว่าเค้าใช้ปุ๋ยอะไรกัน และรู้สึกว่าพี่สาวแฟนก็ใช้สูตร 15-15-15  (ผมลืมพิมพ์ลงเมื่อตอบที่แล้วครับ) K]ผลคือลูกยางมีกันตั้งแต่ปลูกได้สามปี แล้วไปโทษคนขายว่าใช้ยางตาสอย  แต่ผมพอสรุปได้แล้วว่าเค้าใช้ปุ๋ยกันผิด ตัวกลางเยอะเกินไปทำให้ยากออกลูกดกกันตั้งแต่อายุยังน้อย มันเลยไม่ค่อยโต เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่า ควรเด็ดลูกทิ้งตอนต้นมันเล็กๆ มิเช่นนั้นต้มไม้นั้นมันจะไม่โต

เรื่องเงาะนี่เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมเข้าใจว่าการสั่งสมความรู้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของพ่อนั้นมันสำคัญมากๆๆๆ คนที่นี่ยังเข้าใจอะไรที่ผิดๆ อีกเยอะ จนผมไม่ยากจะคุยเรื่องเกี่ยวกับกับชาวบ้านแถวนี้เพราะพูดไปเค้าก็ไม่เชื่อเราเพราะเรามาใหม่ และคุยไปเราก็ไม่ได้ความรู้ที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับวิทยากรที่ยังพูดภาษาเหนือ ผมคิดว่าผมแค่รับฟังแต่ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซนต์ แต่การที่ค้นไปในเวปก็ไม่ค่อยได้อะไรลึกๆ ครับ ผมคิดว่าที่ อ. เอามาบอกเอามาสอนนี้นั้น แน่นที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาตามเวปต่างแล้วละครับ เช่นจะหาเรื่องการฝนหมีดที่ไหนไม่ได้ละเอียดเท่าที่นี่ไม่มีอีกแล้วววว :yahoo :yahoo :yahoo

ตัวหน้าเท่าไหร่รอดูผลวิเคราะห์ดินอีกทีครับ ถ้ามาไม่ทันดอกยางลองพิจารณาสูตรที่ผมเคยบอกไปนะครับ เดี๋ยวพัสดุไปถึงแล้วได้อ่านเอกสารการเรียนการสอน(ปัจจุบันยังใช้อยู่)ที่ถ่ายเอกสารไปแล้วจะร้อง"เฮ้ย!! ทำไมมันไม่เหมือนเอกสารที่อบรมมา" เดี๋ยวนี้ยังมีคนใช้ปุ๋ยสูตร 1-2-3-4-5-6 (ตามเอกสาร)อยู่ครับ
ปุ๋ยในแปลงที่เปิดกรีดแล้วผมแนะนำแบบนี้ครับ ปุ๋ยหลักให้ใช้เคมี(ตั้งใจให้เป็นอาหารและเติมธาตุ)อย่าใช้ซ้ำสูตรกันเกิน2ปี ถึงแม้ว่าใช้แล้วยางออกดีก็ตาม...อันนี้เกี่ยวกับหน้ายาง-เปลือกงอกใหม่ครับ ลดปัญหายางหน้าตายนึ่งไม่มีน้ำยาง แล้วใช้ปุ๋ยอินทรีย์(ที่ทำเอง...ถ้าไม่ทำเองไม่ต้องซื้อมาใส่...ตอนนี้เริ่มทำน้ำหมักชีวภาพเตรียมไว้ได้แล้วครับ)เพื่อบำรุงดิน-เติมช่องว่างเพื่อเพิ่มอากาศในดิน เป็นปุ๋ยรองครับ ปุ๋ยอินทรีย์ต้องใส่เยอะมากๆๆๆถึงจะพอเป็นอาหารให้ยางได้ครับ(สังเกตุข้างกระสอบสิครับ)
ปุ๋ยทำหน้าที่2อย่างครับ คือเป็นทั้งอาหารของพืชและเป็นตัวเติมธาตุที่ขาดไปให้กับดิน (อาจขาดอยู่เดิมๆหรือขาดไปเพราะพืชเอาไปใช้ก็แล้วแต่) ดังนั้นปุ๋ยยางตัวกลางจึงให้เป็น 0 ไม่ได้ ทั้งๆที่เราไม่อยากได้ลูกยางอย่างที่คุณPinijเคยสงสัยครับ...เหตุผลนี้จึงเป็นคำตอบครับ
เรื่องยางทางนั้นลูกดกนี่ได้ยินมานานแล้วและยังพูดถึงอยู่ไม่ขาดครับ เป็นเรื่องเล่าตลกๆกัน(แต่น่าจะมีเค้าอยู่) เล่ากันว่า ยาง2-3ปีออกลูก คนทางนั้นดีใจกันยกใหญ่ คือคิดว่าที่ทำๆมาได้ผลดีแล้ว อีกไม่นาน(ตามที่รู้ๆกัน)จะได้เปิดกรีดแล้ว...ใครเป็นคนไปเห็น? ชาวบ้านแบบผมหรือปล่าว? ไปเห็นแล้วทำอะไรบ้าง?
....ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้แล้วชี้  ชี้แล้วไม่รู้ รู้แล้วชี้ ยังใช้ได้อยู่เสมอ ทำของเราให้ได้ดีแล้วจะมีคนเข้ามาหาเองครับ
เข้าใจมากขึ้นละครับ เรื่องน้ำหมักนี่สคัญกว่าหรือดีกว่าปุ๋ยชีวภาพเลยหรือครับ? ควรหมักวัดถุดิบอะไรดีครับ? ใช้ทางไหนครับ ใบ หรือราก? เดี๋ยวคืนนี้ตะเวณค้นเรื่องนี้ต่อ d_d :drunk
เรื่องน้ำหมักนี่สคัญกว่าหรือดีกว่าปุ๋ยชีวภาพเลยหรือครับ?
ดีกว่าในเรื่องง่ายกว่าครับ ทั้งตอนทำและตอนใช้ ลองดูแล้วก็ได้ผลดีครับ(ตั้งแต่กรีดยางเองใช้มาทุกปี)ผมสาด(ที่ดิน)ให้ทั่วแปลงตอนฝนตกหนัก(ขี้เกียจ) เพื่อบำรุงดินครับ(ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอาหารตรงๆ)คือพอดินมีโพรงอากาศ(ร่วน)รากก็ออกไปหากินได้กว้างขึ้น(และมากขึ้น) เพราะถนนหนทางมันสะดวกขึ้นแบบนั้นน่ะครับ ผมเคยเอาดินขี้ค้างคาวมาวางไว้ที่กลางร่องทั้งกระสอบ(ไม่ได้หว่านเพราะช่วงนั้นยุ่งอยู่หลายเรื่อง) พอว่างจะหว่าน ผ่ากระสอบออกมา รากยางเต็มไปหมดครับ จะหว่านก็หว่านไม่ได้เพราะมันเปียกเป็นดินก้อนไปแล้ว คือเหมือนกับเค้าจะรู้น่ะครับว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ทีนี้ถ้าไม่มีถนนไปก็ไม่ได้กิน แบบนั้นครับ...ผมนี่เปรียบเทียบเรื่องกินเก่งจัง ฮิฮิ
ส่วนปุ๋ยหมัก(ซากพืช)นั่นจะดีกว่าตรงที่มีไฟเบอร์ที่ทำให้ดินมีโพรงอากาศได้มากกว่า + ธาตุอื่นๆจากซากพืชครับ
ควรหมักกับของฟรีครับ ฮิฮิ จริงๆนะครับไม่ได้พูดเล่น...แบ่งเป็น3ถัง (รายละเอียดอื่นๆคงหาอ่านได้ทั่วไป)
1.เศษอาหารที่มีทั้งพืชและสัตว์ จากในบ้านก็ได้หรือพวกร้านส้มตำไม่ไกลบ้านก็ได้ครับ
2.เศษผัก-ผลไม้(เปลือกสับปะรด)รวมๆหลายชนิด(จากตลาดสด เอาเข่งไปวางไว้ให้แม่ค้า)
3. สัตว์ พวกไส้ไก่ ไส้ปลา-หัวปลา หัวกุ้ง (จากตลาดสด เอาถังไปวางไว้ให้แม่ค้า)
วางให้ห่างๆบ้านหน่อยนะครับ ในสวนยาง(ที่ร่ม-ห่างบ้าน)ก็ได้ครับ ช่วงแรกๆนี่เหม็นหน่อย(ถังที่3ไส้ไก่นี่ตัวเหม็นเลย) 2-3เดือนก็ไม่ค่อยเหม็นแล้วครับ หมักข้ามปีนี่ติดมาทางหอม(แปลกๆ)แล้วครับ
ถ้าใส่ตอนยังเหม็นอยู่จะเหม็นติดสวนอยู่3-4คืนครับ
เคยมีคน(ไม่อยากบอกเลย...ญาติผู้พี่อีกแล้ว)พ่นทางใบนะครับ ปีเดียวเลิก เพราะลำบากครับ
....ทำไมต้องแยก3ถัง...(ถามไว้ให้ก่อนเลย ฮิฮิ)
ระยะเวลาได้เอามาใช้แต่ละถังไม่เท่ากัน ถังผักได้ใช้ก่อนตามมาด้วยถังเศษอาหารและถังสัตว์ มีใช้ต่อเนื่องตลอดปีครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ ohm

  • ผู้สนับสนุน web ......
  • ******
    • กระทู้: 910
    • เพศ:ชาย
คุณ PINIJ มี่ที่สอนชงกาแฟที่แนะนำไม๊ครับ  พอดีคุยกับเพื่อนว่าจะเปิดบูทขายกาแฟที่ตลาดนัด ทำเองสนุกๆ

ที่คุณPINIJแนะนำเรื่อง espresso ละเอียดดีมากครับ  แต่ถ้าทำขายคงต้องทำได้ทุกตัวทั้ง ลาเต้ คาปูชิโน  ฯลฯ  กับพวกโกโก้ 


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อาจารย์ไม่อยู่ผมมั่วจนพลาดไปจนได้ คงต้องพยายามกลับมันให้ได้ละครับ แต่ที่ตรงนั้นอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่มีร่มและเป้นที่รุ่มน้ำปล่อยน้ำมาขังได้ครับ จะเห็นว่าผมใช้พั่วแทงขุดดินอย่างสะบาย ใช้พั่วนี่สะดวกกว่าใช้จอบเยอะ เดี๋ยวจะใช้พั่วกลับหน้าปุ๋ยหมักก็ได้นะครับ คือซังข้าวโพดมันค่อนข้างเปลื่อยมากๆ แล้ว และซากถั่วก็กรอบแห้งร่วนเมื่อเราเหยียบครับ ที่ตรงนี้ค่อนข้างชื้นเกือบจะแฉะจนผมไม่ต้องรดน้ำได้เลยครับ อีกสองสามวันคงรู้ว่า EM ทำงานหรือไม่? หรือพรุ่งนี้เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมจะเอาไม้ทิ่มลงไปแล้วเอาปรอทวัดอุณภูมิดูเทียบกับใต้ดินข้างหลุมที่ตำแหน่งลึกเท่าๆ กัน ว่าแตกต่างกันเท่าไร?


ผมพอจับจากที่ อ. โก้ได้สอนไว้ว่าสิ่งสำคัญเราต้องไม่ให้ยางออกลูกให้ได้ โดยปุ๋ยตังกลางไม่ควรมากนัก ไม่น่าจะมากว่า 5 (ควรใส่หลังดอกน่วงจนหมด ผมเคยคิดว่าไม่อยากให้มันมีลูกจะเอาไม้ไปไร่หวดมันให้ลูกร่วงให้กหมด)  และต้องระวังตัวหน้าไม่ให้มากด้วย เพราะจะทำให้ปลอกที่งอกใหม่หลังกรีดปูดออกมามากทำให้กรีดซ้ำยาก จึงไม่ควรจะเกิน 20 ซึ่งผมก้คิดว่าจะใส่ปุ๋ยเคมีน้อยไว้ดีกว่า แล้วเน้นที่การใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเอา ถูกต้องไหมครับ

เมื่อผมมาอยู่ใหม่ๆ ผมถามชาวบ้าน ว่าเค้าใช้ปุ๋ยอะไรกัน และรู้สึกว่าพี่สาวแฟนก็ใช้สูตร 15-15-15  (ผมลืมพิมพ์ลงเมื่อตอบที่แล้วครับ) K]ผลคือลูกยางมีกันตั้งแต่ปลูกได้สามปี แล้วไปโทษคนขายว่าใช้ยางตาสอย  แต่ผมพอสรุปได้แล้วว่าเค้าใช้ปุ๋ยกันผิด ตัวกลางเยอะเกินไปทำให้ยากออกลูกดกกันตั้งแต่อายุยังน้อย มันเลยไม่ค่อยโต เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่า ควรเด็ดลูกทิ้งตอนต้นมันเล็กๆ มิเช่นนั้นต้มไม้นั้นมันจะไม่โต

เรื่องเงาะนี่เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมเข้าใจว่าการสั่งสมความรู้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของพ่อนั้นมันสำคัญมากๆๆๆ คนที่นี่ยังเข้าใจอะไรที่ผิดๆ อีกเยอะ จนผมไม่ยากจะคุยเรื่องเกี่ยวกับกับชาวบ้านแถวนี้เพราะพูดไปเค้าก็ไม่เชื่อเราเพราะเรามาใหม่ และคุยไปเราก็ไม่ได้ความรู้ที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับวิทยากรที่ยังพูดภาษาเหนือ ผมคิดว่าผมแค่รับฟังแต่ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซนต์ แต่การที่ค้นไปในเวปก็ไม่ค่อยได้อะไรลึกๆ ครับ ผมคิดว่าที่ อ. เอามาบอกเอามาสอนนี้นั้น แน่นที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาตามเวปต่างแล้วละครับ เช่นจะหาเรื่องการฝนหมีดที่ไหนไม่ได้ละเอียดเท่าที่นี่ไม่มีอีกแล้วววว :yahoo :yahoo :yahoo

ตัวหน้าเท่าไหร่รอดูผลวิเคราะห์ดินอีกทีครับ ถ้ามาไม่ทันดอกยางลองพิจารณาสูตรที่ผมเคยบอกไปนะครับ เดี๋ยวพัสดุไปถึงแล้วได้อ่านเอกสารการเรียนการสอน(ปัจจุบันยังใช้อยู่)ที่ถ่ายเอกสารไปแล้วจะร้อง"เฮ้ย!! ทำไมมันไม่เหมือนเอกสารที่อบรมมา" เดี๋ยวนี้ยังมีคนใช้ปุ๋ยสูตร 1-2-3-4-5-6 (ตามเอกสาร)อยู่ครับ
ปุ๋ยในแปลงที่เปิดกรีดแล้วผมแนะนำแบบนี้ครับ ปุ๋ยหลักให้ใช้เคมี(ตั้งใจให้เป็นอาหารและเติมธาตุ)อย่าใช้ซ้ำสูตรกันเกิน2ปี ถึงแม้ว่าใช้แล้วยางออกดีก็ตาม...อันนี้เกี่ยวกับหน้ายาง-เปลือกงอกใหม่ครับ ลดปัญหายางหน้าตายนึ่งไม่มีน้ำยาง แล้วใช้ปุ๋ยอินทรีย์(ที่ทำเอง...ถ้าไม่ทำเองไม่ต้องซื้อมาใส่...ตอนนี้เริ่มทำน้ำหมักชีวภาพเตรียมไว้ได้แล้วครับ)เพื่อบำรุงดิน-เติมช่องว่างเพื่อเพิ่มอากาศในดิน เป็นปุ๋ยรองครับ ปุ๋ยอินทรีย์ต้องใส่เยอะมากๆๆๆถึงจะพอเป็นอาหารให้ยางได้ครับ(สังเกตุข้างกระสอบสิครับ)
ปุ๋ยทำหน้าที่2อย่างครับ คือเป็นทั้งอาหารของพืชและเป็นตัวเติมธาตุที่ขาดไปให้กับดิน (อาจขาดอยู่เดิมๆหรือขาดไปเพราะพืชเอาไปใช้ก็แล้วแต่) ดังนั้นปุ๋ยยางตัวกลางจึงให้เป็น 0 ไม่ได้ ทั้งๆที่เราไม่อยากได้ลูกยางอย่างที่คุณPinijเคยสงสัยครับ...เหตุผลนี้จึงเป็นคำตอบครับ
เรื่องยางทางนั้นลูกดกนี่ได้ยินมานานแล้วและยังพูดถึงอยู่ไม่ขาดครับ เป็นเรื่องเล่าตลกๆกัน(แต่น่าจะมีเค้าอยู่) เล่ากันว่า ยาง2-3ปีออกลูก คนทางนั้นดีใจกันยกใหญ่ คือคิดว่าที่ทำๆมาได้ผลดีแล้ว อีกไม่นาน(ตามที่รู้ๆกัน)จะได้เปิดกรีดแล้ว...ใครเป็นคนไปเห็น? ชาวบ้านแบบผมหรือปล่าว? ไปเห็นแล้วทำอะไรบ้าง?
....ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้แล้วชี้  ชี้แล้วไม่รู้ รู้แล้วชี้ ยังใช้ได้อยู่เสมอ ทำของเราให้ได้ดีแล้วจะมีคนเข้ามาหาเองครับ
เข้าใจมากขึ้นละครับ เรื่องน้ำหมักนี่สคัญกว่าหรือดีกว่าปุ๋ยชีวภาพเลยหรือครับ? ควรหมักวัดถุดิบอะไรดีครับ? ใช้ทางไหนครับ ใบ หรือราก? เดี๋ยวคืนนี้ตะเวณค้นเรื่องนี้ต่อ d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
อาจารย์ไม่อยู่ผมมั่วจนพลาดไปจนได้ คงต้องพยายามกลับมันให้ได้ละครับ แต่ที่ตรงนั้นอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่มีร่มและเป้นที่รุ่มน้ำปล่อยน้ำมาขังได้ครับ จะเห็นว่าผมใช้พั่วแทงขุดดินอย่างสะบาย ใช้พั่วนี่สะดวกกว่าใช้จอบเยอะ เดี๋ยวจะใช้พั่วกลับหน้าปุ๋ยหมักก็ได้นะครับ คือซังข้าวโพดมันค่อนข้างเปลื่อยมากๆ แล้ว และซากถั่วก็กรอบแห้งร่วนเมื่อเราเหยียบครับ ที่ตรงนี้ค่อนข้างชื้นเกือบจะแฉะจนผมไม่ต้องรดน้ำได้เลยครับ อีกสองสามวันคงรู้ว่า EM ทำงานหรือไม่? หรือพรุ่งนี้เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมจะเอาไม้ทิ่มลงไปแล้วเอาปรอทวัดอุณภูมิดูเทียบกับใต้ดินข้างหลุมที่ตำแหน่งลึกเท่าๆ กัน ว่าแตกต่างกันเท่าไร?


ผมพอจับจากที่ อ. โก้ได้สอนไว้ว่าสิ่งสำคัญเราต้องไม่ให้ยางออกลูกให้ได้ โดยปุ๋ยตังกลางไม่ควรมากนัก ไม่น่าจะมากว่า 5 (ควรใส่หลังดอกน่วงจนหมด ผมเคยคิดว่าไม่อยากให้มันมีลูกจะเอาไม้ไปไร่หวดมันให้ลูกร่วงให้กหมด)  และต้องระวังตัวหน้าไม่ให้มากด้วย เพราะจะทำให้ปลอกที่งอกใหม่หลังกรีดปูดออกมามากทำให้กรีดซ้ำยาก จึงไม่ควรจะเกิน 20 ซึ่งผมก้คิดว่าจะใส่ปุ๋ยเคมีน้อยไว้ดีกว่า แล้วเน้นที่การใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเอา ถูกต้องไหมครับ

เมื่อผมมาอยู่ใหม่ๆ ผมถามชาวบ้าน ว่าเค้าใช้ปุ๋ยอะไรกัน และรู้สึกว่าพี่สาวแฟนก็ใช้ ผลคือลูกยางมีกันตั้งแต่ปลูกได้สามปี แล้วไปโทษคนขายว่าใช้ยางตาสอย  แต่ผมพอสรุปได้แล้วว่าเค้าใช้ปุ๋ยกันผิด ตัวกลางเยอะเกินไปทำให้ยากออกลูกดกกันตั้งแต่อายุยังน้อย มันเลยไม่ค่อยโต เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่า ควรเด็ดลูกทิ้งตอนต้นมันเล็กๆ มิเช่นนั้นต้มไม้นั้นมันจะไม่โต

เรื่องเงาะนี่เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมเข้าใจว่าการสั่งสมความรู้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของพ่อนั้นมันสำคัญมากๆๆๆ คนที่นี่ยังเข้าใจอะไรที่ผิดๆ อีกเยอะ จนผมไม่ยากจะคุยเรื่องเกี่ยวกับกับชาวบ้านแถวนี้เพราะพูดไปเค้าก็ไม่เชื่อเราเพราะเรามาใหม่ และคุยไปเราก็ไม่ได้ความรู้ที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับวิทยากรที่ยังพูดภาษาเหนือ ผมคิดว่าผมแค่รับฟังแต่ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซนต์ แต่การที่ค้นไปในเวปก็ไม่ค่อยได้อะไรลึกๆ ครับ ผมคิดว่าที่ อ. เอามาบอกเอามาสอนนี้นั้น แน่นที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาตามเวปต่างแล้วละครับ เช่นจะหาเรื่องการฝนหมีดที่ไหนไม่ได้ละเอียดเท่าที่นี่ไม่มีอีกแล้วววว :yahoo :yahoo :yahoo

ตัวหน้าเท่าไหร่รอดูผลวิเคราะห์ดินอีกทีครับ ถ้ามาไม่ทันดอกยางลองพิจารณาสูตรที่ผมเคยบอกไปนะครับ เดี๋ยวพัสดุไปถึงแล้วได้อ่านเอกสารการเรียนการสอน(ปัจจุบันยังใช้อยู่)ที่ถ่ายเอกสารไปแล้วจะร้อง"เฮ้ย!! ทำไมมันไม่เหมือนเอกสารที่อบรมมา" เดี๋ยวนี้ยังมีคนใช้ปุ๋ยสูตร 1-2-3-4-5-6 (ตามเอกสาร)อยู่ครับ ไม่ใช่ว่าทางนี้ไม่มีดินทรายแป้งนะครับ มีมากเหมือนกันครับ
ปุ๋ยในแปลงที่เปิดกรีดแล้วผมแนะนำแบบนี้ครับ ปุ๋ยหลักให้ใช้เคมี(ตั้งใจให้เป็นอาหารและเติมธาตุ)อย่าใช้ซ้ำสูตรกันเกิน2ปี ถึงแม้ว่าใช้แล้วยางออกดีก็ตาม...อันนี้เกี่ยวกับหน้ายาง-เปลือกงอกใหม่ครับ ลดปัญหายางหน้าตายนึ่งไม่มีน้ำยาง แล้วใช้ปุ๋ยอินทรีย์(ที่ทำเอง...ถ้าไม่ทำเองไม่ต้องซื้อมาใส่...ตอนนี้เริ่มทำน้ำหมักชีวภาพเตรียมไว้ได้แล้วครับ)เพื่อบำรุงดิน-เติมช่องว่างเพื่อเพิ่มอากาศในดิน เป็นปุ๋ยรองครับ ปุ๋ยอินทรีย์ต้องใส่เยอะมากๆๆๆถึงจะพอเป็นอาหารให้ยางได้ครับ(สังเกตุข้างกระสอบสิครับ) หาแหล่งโดโลไมต์เตรียมไว้ด้วยนะครับ
ส่วนยางเล็กก็รอดูผลวิเคราะดินก่อน แต่คิดว่า 20-10-12 ปีแรก 1กก./ต้น/ปี แบ่งใส่ให้ได้ปีละ2ครั้งเป็นอย่างน้อย น่าจะเหมาะกับทางนั้นครับ....อ้าว!!แล้วตัวกลางตั้ง10ลูกไม่ดกเหรอ...(ฮิฮิ..ตั้งคำถามไว้ให้เลย) ยางปีแรก-2ปียังไม่เป็นลูกครับ ปีที่3ถ้าลูกดกค่อยแก้เอาครับ(ถึงเวลาเปลี่ยนสูตรลดตัวกลางพอดี)
ปุ๋ยทำหน้าที่2อย่างครับ คือเป็นทั้งอาหารของพืชและเป็นตัวเติมธาตุที่ขาดไปให้กับดิน (อาจขาดอยู่เดิมๆหรือขาดไปเพราะพืชเอาไปใช้ก็แล้วแต่) ดังนั้นปุ๋ยยางตัวกลางจึงให้เป็น 0 ไม่ได้ ทั้งๆที่เราไม่อยากได้ลูกยางอย่างที่คุณPinijเคยสงสัยครับ...เหตุผลนี้จึงเป็นคำตอบครับ
เรื่องยางทางนั้นลูกดกนี่ได้ยินมานานแล้วและยังพูดถึงอยู่ไม่ขาดครับ เป็นเรื่องเล่าตลกๆกัน(แต่น่าจะมีเค้าอยู่) เล่ากันว่า ยาง2-3ปีออกลูก คนทางนั้นดีใจกันยกใหญ่ คือคิดว่าที่ทำๆมาได้ผลดีแล้ว อีกไม่นาน(ตามที่รู้ๆกัน)จะได้เปิดกรีดแล้ว...ใครเป็นคนไปเห็น? ชาวบ้านแบบผมหรือปล่าว? ไปเห็นแล้วทำอะไรบ้าง?
....ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้แล้วชี้  ชี้แล้วไม่รู้ รู้แล้วชี้ ยังใช้ได้อยู่เสมอ ทำของเราให้ได้ดีแล้วจะมีคนเข้ามาหาเองครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กุมภาพันธ์, 2012, 09:19:49 pm โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อาจารย์ไม่อยู่ผมมั่วจนพลาดไปจนได้ คงต้องพยายามกลับมันให้ได้ละครับ แต่ที่ตรงนั้นอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่มีร่มและเป้นที่รุ่มน้ำปล่อยน้ำมาขังได้ครับ จะเห็นว่าผมใช้พั่วแทงขุดดินอย่างสะบาย ใช้พั่วนี่สะดวกกว่าใช้จอบเยอะ เดี๋ยวจะใช้พั่วกลับหน้าปุ๋ยหมักก็ได้นะครับ คือซังข้าวโพดมันค่อนข้างเปลื่อยมากๆ แล้ว และซากถั่วก็กรอบแห้งร่วนเมื่อเราเหยียบครับ ที่ตรงนี้ค่อนข้างชื้นเกือบจะแฉะจนผมไม่ต้องรดน้ำได้เลยครับ อีกสองสามวันคงรู้ว่า EM ทำงานหรือไม่? หรือพรุ่งนี้เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมจะเอาไม้ทิ่มลงไปแล้วเอาปรอทวัดอุณภูมิดูเทียบกับใต้ดินข้างหลุมที่ตำแหน่งลึกเท่าๆ กัน ว่าแตกต่างกันเท่าไร?


ผมพอจับจากที่ อ. โก้ได้สอนไว้ว่าสิ่งสำคัญเราต้องไม่ให้ยางออกลูกให้ได้ โดยปุ๋ยตังกลางไม่ควรมากนัก ไม่น่าจะมากว่า 5 (ควรใส่หลังดอกน่วงจนหมด ผมเคยคิดว่าไม่อยากให้มันมีลูกจะเอาไม้ไปไร่หวดมันให้ลูกร่วงให้กหมด)  และต้องระวังตัวหน้าไม่ให้มากด้วย เพราะจะทำให้ปลอกที่งอกใหม่หลังกรีดปูดออกมามากทำให้กรีดซ้ำยาก จึงไม่ควรจะเกิน 20 ซึ่งผมก้คิดว่าจะใส่ปุ๋ยเคมีน้อยไว้ดีกว่า แล้วเน้นที่การใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเอา ถูกต้องไหมครับ

เมื่อผมมาอยู่ใหม่ๆ ผมถามชาวบ้าน ว่าเค้าใช้ปุ๋ยอะไรกัน และรู้สึกว่าพี่สาวแฟนก็ใช้ ผลคือลูกยางมีกันตั้งแต่ปลูกได้สามปี แล้วไปโทษคนขายว่าใช้ยางตาสอย  แต่ผมพอสรุปได้แล้วว่าเค้าใช้ปุ๋ยกันผิด ตัวกลางเยอะเกินไปทำให้ยากออกลูกดกกันตั้งแต่อายุยังน้อย มันเลยไม่ค่อยโต เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่า ควรเด็ดลูกทิ้งตอนต้นมันเล็กๆ มิเช่นนั้นต้มไม้นั้นมันจะไม่โต

เรื่องเงาะนี่เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ผมเข้าใจว่าการสั่งสมความรู้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของพ่อนั้นมันสำคัญมากๆๆๆ คนที่นี่ยังเข้าใจอะไรที่ผิดๆ อีกเยอะ จนผมไม่ยากจะคุยเรื่องเกี่ยวกับกับชาวบ้านแถวนี้เพราะพูดไปเค้าก็ไม่เชื่อเราเพราะเรามาใหม่ และคุยไปเราก็ไม่ได้ความรู้ที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับวิทยากรที่ยังพูดภาษาเหนือ ผมคิดว่าผมแค่รับฟังแต่ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซนต์ แต่การที่ค้นไปในเวปก็ไม่ค่อยได้อะไรลึกๆ ครับ ผมคิดว่าที่ อ. เอามาบอกเอามาสอนนี้นั้น แน่นที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาตามเวปต่างแล้วละครับ เช่นจะหาเรื่องการฝนหมีดที่ไหนไม่ได้ละเอียดเท่าที่นี่ไม่มีอีกแล้วววว :yahoo :yahoo :yahoo
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
และขอถามสิ่งสำคัญอีกอย่างคือผมเกือบจะใส่ปุ๋ยต้นยาง 5 ที่กำลังแตกใบอ่อน เจอในเนทเวปหนึ่งเค้าห้ามเด็ดขาดว่าตอนยางแตกใบอ่อนห้ามใส่ปุ๋ย มันจริง ถูกต้องตามในนั้นหรือไม่? หรือผมใส่ได้เลยครับ (เกษตรกรมือไหม่บางครั้งอ่านจากหลายที่แล้วมันขัดกัน เลยตัดสินใจทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ K])

ตรงนั้น น่าจะใช้คำว่า อย่าเพิ่งใส่ตอนยางแตกใบอ่อนมากกว่า"ห้าม"ตอนยางแตกใบอ่อนห้ามใส่ปุ๋ย ครับ
รออีกนิดค่อยใส่ตอนดอกเริ่มร่วงครับ....ทางนี้ส่วนใหญ่ใส่ตอนฝนมาแล้ว(ให้ดินฉ่ำก่อน)
แต่ผมใส่ตอนดอกเริ่มร่วงครับ ทำไม? แล้วจะไม่บำรุงลูกยางหรือ...ไม่ครับ ดอกร่วงแทบไม่ติดลูกเลยครับ
อนุมานว่า ต้นไม้ที่ใช้ลูกผลสืบพันธุ์ ออกลูกเพราะเป็นระบบการป้องกันตัวเองสูญพันธุ์(จะตาย),ไม้ผล มะม่วง-เงาะ ฯลฯ ทำไมได้ฝนแล้วสลัดดอก-ลูก?, ทำไมงดให้ปุ๋ยกันช่วงนั้น, ปีไหนไผ่ออกดอกปีนั้นแล้งจัด(จนไผ่ตาย) แล้วถ้ามันไม่คิดว่าตัวเองจะสูญพันธุ์(จะตาย)ล่ะจะเป็นอย่างไร?
รออีกนิดค่อยใส่ปุ๋ยเคมีตอนดอกเริ่มร่วงครับ

ปุ๋ยหมักสำคัญที่กลับกองครับ พอเป็นหมักในหลุมนี่เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยครับ  :D  :D คือนึกไม่ออกว่าจะกลับกองยังไง(กลับยาก)
EM เหมาะกับอะไรที่เป็นน้ำๆเแฉะๆครับ ทำปุ๋ยหมักแบบนี้สารเร่ง พด.12 เหมาะกว่านะครับ
..........
เดี๋ยวตอนอบรมเรื่องปุ๋ย(ถ้ามีเรื่องปุ๋ยหมักด้วย)ก็คงมีพด.12แจกครับ ไม่งั้นก็ขอรับได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินในพื้นที่ครับ
.....
อีกนิด ไหนๆก็พูดถึงเงาะแล้วบอกไว้เลยดีกว่าเดี๋ยวจะผมลืมบอกไป อย่ากินเงาะ(จับใบจับลูก)ก่อนออกไปกรีด-เก็บน้ำยางนะครับ น้ำยางจะนอนเร็วกว่าปกติ(มาก)ครับ
ใบ-ลูก(ทั้งเม็ดทั้งเปลือก)เงาะนี่มีฤทธิ์เป็นกรดครับ เอามาดองน้ำไว้ทำน้ำส้มฆ่ายางได้ครับ น้ำยางที่โดนฝนจนทำแผ่นไม่ได้ ต้องทำขี้ ก็รูดๆขยำใบเงาะใส่ลงไป รับรองว่าเป็นเนื้อยางจนน้ำใสเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กุมภาพันธ์, 2012, 08:51:16 pm โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ขออภัยใส่รูปผิดครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff


เมื่อ อ. โก้ ยังไม่เข้าห้องสอน ซึ่งผมต้องเข้าอบรมย์เรื่องการใช้ปุ๋ยในสวนยางวันที่ 21 นี้แล้ว เมื่อคืนเข้าไปอ่านการทำปุ๋ยชีวภาพเอง ร้อนวิชา อยากจะจุดตะเกียงไปขุดหลุมทำปุ๋ยกันเลยละ :yahoo ผมเอาวัดถุดิบตามสิ่งที่หาได้ง่ายๆ และทำตามที่ผมคิดเองแบบมั่วว่า เราจะขุดหลุม ไม่ทำกแพงหรือกะบะ เพราะเรามีจุดที่พื้นดินมีความซื้นพอเหมาะอยู่แล้ว (ขี้เกลียดลดน้ำว่างั้นเถอะ) รายละเอียดตามในรูปครับ ผมมีซังข้าวโพดและซากถั่วลิสงอยู่เป็นกองสูงเป็นภูเขาครับ เย็นนี้กะว่าจะเอาอีเอ็มที่ผมใส่ลงไปในกาาน้ำตาลไปลาดอีกทีแล้วจะเอาซังข้าวโพดและซากถั่วลิสงถมลงไปอีกอย่างละชั้น แล้วจึงถมด้วยดินที่ขุดขึ้นมา แต่จะให้มีช่องหายใจไว้บ้าง กะให้ดินทำหน้าที่กดซากต่างๆ ให้แน่น  ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรมันจะใช้ได้ คงทำรอให้วิทยากรไปดูและและนำว่าที่ทำมาต้องแก้ไขอะไรบ้าง? แต่ผมคงต้องไปตรวจอุณภูมิใต้กองปุ๋ยนี้กันทุกวัน ถ้าไม่ร้อนขึ้นก็อาจจะต้องใส่อีเอ็มยี่ห้อใหม่ลงไปอีก คิดวางแผนไว้แบบนี้ อ. โก้ ถ้าเข้ามาอ่านโปรดแนะนำต่อด้วยครับ  d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
O0 ไปพืชสวนโลกกับคณะเลยไม่ได้แวะชิมกาแฟครับ...คิดถึงน้องภู :secret
ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่กันที่บ้านภูซางโดยส่วนใหญ่แล้วละครับ จะชิมกาแฟต้องวางแผนขึ้นภูชี้ฟ้าละได้ชิมแน่นอนครับ บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้าครับ ตอนแรกจริงๆ เลยผมคิดย้านกันเพราะลำพูนอากาศร้อนกว่าภูซางประมาณ 5 องศาซีเห็นจะ และบางช่วงเวลาอาจมากกว่านี้อีก  เมื่อตอนย้ายไปอยู่ลำพูนใหม่ๆ ก็ว่ามันดีกว่า กทม เยอะแล้ว แต่กลับมาบ้านแฟนทุกปี พบทุกครั้งที่มาว่าภูซางอากาศดีกว่าลำพูนเยอะครับ และยิ่งมาพบว่าสวนยางถูกกรีดแบบไม่ถูกต้องมาเป็นปีที่สองแล้ว จึงต้องอยู่ดูแลเองจะดีกว่า เพราะยางกะลังราคาดีด้วยละครับ  :yahoo ลองมาดูที่นี่บ้างครับ น่าอยู่กว่าลำพูนครับ ห้องเครื่องเสียงตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่ผมกลับไม่ค่อยมีเวลาฟังซะอีก K] K] K]

หลังจากท่องเวปไปหาความรู้เรื่องปุ๋ยชีวะภาพ พรุ่งว่าจะลุยกันเลย เพราะเมื่อเย็นไปได้ขี้วัวตากแห้งมาแล้วและผมก็มีซังข้าวโพดและซากต้นถั่วลิสงกองใหญ่ และกากน้ำตาลพร้อม EM ว่าจะเตรียมหมักไว้ โดยวิธีขุดหลุม จะดีกว่าการกั้นคอกไหม? (มันยุ่งยากว่าขุดหลุมนะผมว่า? ขอถาม อ. โก้ ถึงข้อดีข้อเสียของทั้งสองแบบนี้หน่อยครับ) ผมไม่ค่อยเห็นคนทำแบบขุดหลุมกันเลย แต่คล้ายจะเคยเห็นในโทรทัศน์นานมากแล้วด้วย  :-\  และขอถามสิ่งสำคัญอีกอย่างคือผมเกือบจะใส่ปุ๋ยต้นยาง 5 ที่กำลังแตกใบอ่อน เจอในเนทเวปหนึ่งเค้าห้ามเด็ดขาดว่าตอนยางแตกใบอ่อนห้ามใส่ปุ๋ย มันจริง ถูกต้องตามในนั้นหรือไม่? หรือผมใส่ได้เลยครับ (เกษตรกรมือไหม่บางครั้งอ่านจากหลายที่แล้วมันขัดกัน เลยตัดสินใจทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ K])
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra



ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ลืมอ่านบรรทัดล่างไปเหมือนกันครับ เหลือกินเราก็เราทำไวน์สับปะรดเอาไว้กินก็ได้นิ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ต้องขอขอบพรคุณอาจารย์โก้มากๆ ครับ ที่เป็นธุระให้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรีบร้อนครับ ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำ กว่าจะทำจริง เราอาจได้ข้อมูลที่ดีกว่าวันนี้ หรือคิดอะไรออกดีกว่าวันนี้ ผมชอบวางแผนนานๆ ก่อนทำงานจริงครับ  d_d :drunk

เครื่องปั่นเซนติฟิวส์ในการทำน้ำยางจาก 30% ให้เป็น 60% นั้น ถ้าจะทำกันจริงๆ ผมทำได้และราคาก็ไม่น่าจะแพงมากนัก คือผมเคยมีประสบการณ์กับเครื่องจักรที่หมุนระดับ สี่หมื่นสามพันรอบมาแล้ว (43,000rpm) แค่ 8,000rpm จิ๊บจ็อยที่จะออกแบบทำครับ หมุนระดับนี้แบริ่งแบบลูกปืนธรรมดาใช้ไม่ได้ต้องแบรริ่งกาบแบบที่ใช้ในเพลารถยนต์แล้วใช้ปั๊มน้ำมันฉีดเข้าไปยกเพลา (เพราะหม้อแรงเวี่ยงหรือปั่นตัวนี้ต้องวางตั้ง เพื่อถ่ายน้ำที่ต้องแยกออกมา) แต่มันดูยุ่งยากกว่าการใช้สารเคมีผสมลงไปแบบเรารอได้ และเราก็ไม่ต้องเสียงค่าพลังงานปั่นมันอีกด้วย

ที่จริงๆ นั้น ผมคิดว่าไม่ต้องน้ำยางข้นถึง 60% ก็น่าจะทำได้ดีกว่าอีกด้วย (คงต้องทดลองกันในการกรีดยางเดือน พค ) เพราะยางข้น 60% ทำออกมาแล้วหมอนมันจะแข็งเกิน ที่ตัวโมลหรือแม่แบบจะต้องทำเป็นแท่งเล็กโด่ขึ้นมากให้กะจ่ายโดยรอบ เพื่อให้เกิดช่องว่างของเนื้อหมอน ซึ่งจะทำให้เกิดการนุ่มยืดยุ่นพอดี (อันนี้ผมได้ทดลองหนุนหมอนที่ทำตามสูตรตุ๊กตาแล้วมันแข็งเกินไป และด้วยเนื้อมันแน่นมากๆ มันจึกหนักกว่าหมอนยางพาราที่ขายๆ กัน และมันก็มีช่องว่างอย่างที่ผมว่ามาด้วยละครับ แต่ถ้าเราจะใช้น้ำยาง 30% มันอาจจะเบา (คือไม่เปลืองตัวเนื้อยางอีกด้วย) และนิ่มพอดี โดยไม่ต้องทำโพรงช่องว่างในเนื้อหมอเลยก็เป็นได้ละครับ จากอ่านๆ ดูการที่ทำเป็น ยางข้น 60% นั้นมันคุ้มทุนในการเก็บและการขนส่งมากกว่า 30% แค่นั้นเองละครับ คือพวกสูตรที่ใช้กับยางข้น 60% ตรงนี้เราอาจจะปรับให้เหมาะกับยาง 30% ด้วยการทดลองของเราเองก็น่าจะทำได้

ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเพิ่มมูลค่าของยางที่จะกรีดเป็นอะไรดี? ถึงจะขายได้น่ะครับ เอาแบบที่ไม่ค่อยมีใครทำ และที่ราคาแพงๆ หน่อย แบบทำยากๆ น่ะครับ เพราะแบบทำง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ มีขายกันเกล่อเช่น พวกยางปูพื้นรถหรืออะไรจำพวกนี้ ผมไม่ยากทำครับ

นี่คือรูปแบบโปรดักตัวนึงที่ผมคิดอยากจะทำออกมาขายในราคาหารสองจากในท้องตลาด เพื่อให้คนขับรถไกลแล้วปวดหลังได้ทดลองกันดู มันหายขาดอย่างไม่น่าเชื่อครับ จะเห็นว่าในเนื้อหมอนที่จะเอาวางไว้ที่ส่วนหลังเรานั้นมันมีรูเป็นช่องว่างอยู่ รูนี้ออกแบบมาเพื่อนอกจากระบายอากาศแล้ว มันจะทำให้การกระเด้งยืดหยุนตัวพอดีอีกด้วย   :whistling  และตอนนี้ผมเพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าผมผสมน้ำยางเพื่อตีให้มันฟูได้ครั้งละน้อยเกินไปที่จะทำที่นอนหกคูณหกฟุทสูงฟุทนึงไม่ได้ในครั้งเดียวนั้น ผมคิดว่าจะทำขนาดยาวหกฟุทสูงฟุทเดียวกว่าสักสองสามนิ้ว แล้วก็จะทำอีกหลายๆ อันวางเรียงกันจนได้ที่นอนตามที่ผมต้องการได้ แล้วอาจใช้ผ้ารัดที่นอนนี้ไว้โดยรอบ ที่นี้ที่นอนผมจะมีคุณสมบัติที่ดีอีกสิ่งหนึ่งคือ ถ้าที่นอนนอนกันสองคน อีกคนหนึ่งนอนดิ้น คนที่นอนข้างจะไม่รู้สึกสะเทือนครับ ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ตอนไปหาซื้อที่นอนที่เมืองทอง แต่ผมไม่ได้ซื้อมัน เพราะมันแพงมั๊กๆ ครับ :'( :'( :'(

ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
กลับมาถึงบ้าน เอาข่าวมาบอกทันทีครับ
เข้าไปในราชมงคลฯ เทคโนฯการยางมาแล้ว...อลังการงานสร้างครับ(คือไม่รู้จักสักอย่าง ฮิฮิ)เครื่องมือส่วนใหญ่อยู่ในกระบวนการแปรรูป(หมอนก็เคยมีทำไว้ แต่ที่เห็นกำลังทำอยู่เป็นแผ่นพื้นยางปูพื้น) เข้าไปแบบไม่ตั้งใจเลยไม่ได้ติดกล้องไป  K]  K] ไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลย แต่ไม่เป็นไรได้เบอร์สายตรง+เจอตัวคุยเบื้องต้นไว้แล้วครับ เข้าไปบ่ายโมงต้องรีบกลับมารับลูกที่โรงเรียน3โมง(แม่บ้านไปด้วย)เลยได้แค่ข้อมูลหยาบๆมาครับ
ข้อมูลเบื้องต้น ไม่มีเครื่องปั่น เพราะราคาแพงและลาเท็กซ์มีขายในพื้นที่ ขั้นตอนทุกอย่างสามารถส่งนักศึกษาเข้าไปฝึกงานในโรงงานได้ แต่มีข้อมูลสารเติมอันนี้รอเอกสารนะครับ สารเติมที่ว่านั่นก็หาซื้อไม่ยากมีขายปลีก(หาดใหญ่,กรุงเทพฯ)...ในโรงงานอุตสาหกรรมขั้นตอนทำลาเท็กซ์ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใดครับ ความลับจะอยู่ในกระบวนการแปรรูป(สารเติมที่ทำให้ลดต้นทุน-หรือปรับคุณภาพให้ดีขึ้น จากสารเติมที่รู้กันทั่วไป)มากกว่า
บอกไว้นิดนึงว่า เครื่องปั่นทำยาก-ยากมาก ซื้อเครื่องก็ไม่คุ้มกับการทำปริมาณน้อย (ถามไปว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่จะทำเครื่องปั่นใช้เอง)
แต่ถ้าต้องการทำเล่นๆ-จริงจังในระดับอุสาหกรรมในครัวเรือน ผมยินดีจัดหาลาเท็กซ์จากโรงงาน(นาบอนรับเบอร์...อยู่ห่างจากที่บ้านราวๆ35ก.ม.)ให้ครับ เค้าขายขั้นต่ำ50กก.(ไม่ได้ถามราคามาอีก...จะเจาะแต่ตัวเครื่องกับสารบางอย่างนั่นจนลืมไปเลย  K]  K] ถ้าสนใจถามข้อมูล เปิดหน้าเหลืองโทรไปถามฝ่ายขายก็ได้ครับ) ลาเท็กซ์ที่นี่ จะมีทั้งHA(ไฮแอมโมเนียร์)กับLA(โลว์แอมโมเนียร์) ทำหมอนต้องใช้LA แต่ขายในปริมาณมาก(อีกโรงงานนึง...โรงงานเพิ่งมาตั้งใหม่ชื่อไม่คุ้นหูไม่ได้จำมา) ถ้าจะใช้HA ต้องเปิดฝาทิ้งไว้ให้แอมฯระเหยก่อน
ไอ้เครื่องปั่นแป้งนั่นเอาไว้ปั่นลาเท็กซ์ให้เป็นฟองครับ(ตอนแรกที่เค้าพาไปดูรอบๆบริเวณ เค้าบอกว่า"นี่เครื่องปั่น"....กว่าจะมีฟองตามมาผมหลงดีใจ(แทน)ซะ  :cry2 )
จะเข้าไปรับเอกสารและถ่ายรูปมาให้อีกทีนะครับ
............
เพิ่มเติมนะครับ(รีบบอกจนไม่ได้อ่านข้างบนก่อน) บรรทัดสุดท้ายตรงกัน(เป็นลักษณะการเหวี่ยง ให้น้ำอยู่ล่างยางอยู่บน)ครับ BDHก็ตรงกันครับ
ปลูกจำนวนมากได้กินทุกวันทั้งปีครับ(คือบังคับให้ออกลูกไล่เป็นโซนๆไปเรื่อยๆ)เหลือก็ทำไวน์เพิ่มมูลค่าได้อีก รายละเอียดถ้าจะให้เล่านี่จำไม่ได้จริงๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กุมภาพันธ์, 2012, 04:27:13 pm โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ท่องเวปไปเจอการทำ 60% ด้วยการเติมสารเคมีเข้าไป (แต่ไม่มีรายละเอียดสัดส่วนที่ผสมลงไป) ใช้แรงโน้มถ่วงแยกน้ำออกมา ใส่ถังที่มีกระจกพอมองเห็นการแยกตัว ก็เทน้ำในส่วนที่อยูข้างล่างทิ้งไป เก็บเนื้อยาง 60 กว่าเปอร์เซนต์ ดีกว่าเซนติฟิส์ซะอีก (ต้องปั่นถึง 7000-8000rpm ทำไม่ไหวละครับ ยิ่งรอบสูงต้นทุนการทำก็ยิ่งแพง ที่รู้ๆ การทำบานลานซ์ต้องดีมากๆ มิเช่นนั้นมันจะสั่นเป้นเจ้าเข้าแน่ๆ) เห็นความเร็วรอบแล้วผมไม่เอาแบบปั่นแยกแล้วละครับ :nono :nonono N] ถ้าพอมีข้อมูลแบบเติมสารช่วยแนะนำด้วยครับ Y] หาในเนทเท่าไรก็ไม่เจอข้อมูลเชิงลึกครับ K] K] K]


ผมไปเจอเรื่องตลกมากๆ วารสารยางเขียนออกมากันได้ไงว่า "เอสเทอลีน เป็นเฮอร์โมนเพิ่มปริมาณน้ำยาง แล้วก็ช่วยให้ยางอายุยืนยาวมากกว่าเดิม" มันหลอกลวงกันซัดๆ เข้าไปอ่านตามเวปต่างๆ แล้ว กระทู้ที่เราคุยกันนี้ เนื้อหาเยี่ยมที่สุด เชื่อถือได้มากที่สุดกันเลยละครับ
(ถ้ามีเครื่องปั่น...แต่ผมเดาว่ามีแน่ๆ)



มีคนทำขนมเค็กเค้าจะขายมันให้ในราคาครึ่งหนึ่งของที่ซื้อครับ ยังใหม่อยู่เลย คือตอนผมไปดูที่พืชสวนโลกช่วงที่หายไปเที่ยวเชียงใหม่เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เค้าก็ใช้เครื่องทำขนมเค็กอันเล็กๆ แค่นั้น ปั่นน้ำยางกะส่วนผสมต่างๆ ด้วยเวลาไม่กี่นาทีมันก็เพิ่มปริมาตรฟูขึ้นมาเป็นสามสี่เท่าตัวกันแล้วละครับ เครื่องนี้ผมคิดว่าน่าจะทำหมอนได้ครั้งละสี่ห้าใบได้เลย แต่ใหญ่ๆ ระดับที่นอนคงยังไม่ได้ แต่คิดไว้ว่าจะขอทำที่นอนยางพาราใช้เองซักอันนึง 6'x6'x1' ครับ เพราะถ้าซื้อเค้าทำมาขายยางพาราล้วนๆ เป็นไส้ในด้วยนี่ไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นบาทละครับ เคยทดลองนอนมาแล้ว มันสุดยอดดดดดดดดดดดดดจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ ผมคิดว่าจะค่อยๆ ขยายสะเกลเอาถ้าลูกเล็กๆ อย่างหมอน เราทำได้ ลูกใหญ่ๆ อย่างที่นอนมันจะหนีเราไปไหนเสีย.... :yahoo :yahoo :yahoo
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ที่จริงผมยังติดใจอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมเขียนถามไป คือ ทำไม? เลือก BPM24 ไม่ปลูก RRIM 600 เหมือนคนอื่นๆ

ที่ผมเลือก RRIT 251 เพราะพื้นที่ปลูกใหม่ครั้งนี้ แตกต่างจากที่ที่ผมปลูก RRIM 600 เมื่อ 8 ปีที่แล้ว (เพราะมันเป็นที่ดอนน้ำขึ้นไม่ถึง ถ้าจะให้ถึงต้องสูบครับ กำลังคิดว่าถ้าลงทุนสูบน้ำขึ้นมาเลี้ยงมัน เพื่อต้องการจะกรีดเพิ่มอีกสามเดือนได้ไหม? แต่ถ้าได้เพิ่มอีกสองเดือน คือเป้าหมายที่เกินคุ้มแล้วละครับ แล้วผมจะพยายามทำมันให้ได้ โดย อ. โก้ ต้องช่วยผมนา..) ที่ผมเลือกปลูกแปลงใหม่โดยใช้พันธ์ RRIT 251 ก็เพราะที่ตรงนี้ จะสามารถเอาน้ำเข้าสวนได้ช่วงเดือนนี้และต่อไปได้อีกสามถึงสี่เดือนข้างหน้า แล้วก็ช่วงหน้าทำนาหน้าฝนอีกครั้ง จะมีแล้งจริงแค่สองถึงสามเดือนคือ พย ธค และ มค แต่ก็มีฝนหลงฤดูตกอยู่บ้างปะปลายครับ ฉะนั้นที่ตรงนี้ซึ่งเคยทำนามาก่อน (มีแต่คนบอกว่าไม่มีทางปลูกยางได้หล๊อก) ถือว่าเป็นที่มีน้ำเยอะพอสมควร (แต่น้ำใต้ดินอยู่ลึกลงไปจากพื้นดินเยอะนะครับ ผมดูจากต้นสักต้นแถวที่ตรงนี้โตดีมากๆ ยังไม่ 20 ปีคนโอบเกือบไม่รอบแล้ว น่าจะเนื้อไม่ดีเป็นสักขี้ควายเพราะน้ำเยอะ ซึ่งผมเคยเห็นแถวบ้านผมที่อยุธยาปลูกสักกันไม่โตเพราะน้ำใต้ดินอยู่ใกล้ผิวดินมาก ต้นสักพอรากแก้วถึงน้ำมันจะหยุดการเจริญเติบโตทันทีครับ ผมเคยคิดจะปลูกสักที่บ้านอยุธยา เห็นคนทำหลายเจ้าหลายแปลง แต่ลองศึกษาในเนทแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย) และผมรู้ว่า RRIT251 ชอบน้ำก็เลยลงมันซะเลย และคิดว่าดินเราก็ไม่ได้ีดีเนื้อดินน้อยมีแต่ทรายแป้งน่ะครับ ผมเอาน้ำเข้ามาสองครั้ง รวมก็เกือบสิบวันแล้ว พอปิดน้ำ น้ำก็หายไปหมดในไม่กี่ ชม. เองละครับ ดินเก็บน้ำไว้ไม่อยู่อีกด้วย  แต่ที่นี่ดีอยู่อย่างเดียว ไส้เดือนเยอะมากครับ แทงพั่วลงไปครั้งนึงงัดขึ้นมาเจอไส้เดือนหลายตัวมากๆ ที่นาผมสั่งห้ามใช้สารเคมีเป็นเด็ดขาด ห้ามยาฆ่าหญ้าทุกชนิด ผมจ้างคนตัดอย่างเดียวครับ

มันมีอีกเรื่องที่ผมโดนชาวบ้านว่าเอา ที่แปลงใหม่นี้ทุกคนแนะให้ผมวางแผนปลูก 7x3 แต่ผมดันทุรังปลูก 6.5x3 ครับ (เรื่องปลูกยางถี่นี่แสดงว่าผมมั่วมาถูกทิศทางซิครับเหนี่ย :yahoo) เพราะผมดูแล้ว 7m ใบระว่างต้นมันยังห่างกันอยู่ก็เลยขยับเข้ามาใกล้กันอีกนิดด้วยความโลภของผมเอง ได้เพิ่มาอีกตั้งหลายต้น โดยหวังว่าจะใส่ปุ๋ยช่วยเอาก็แล้วกัน เลยปลูกถี่กว่าคนอื่น เลยเป็นที่มาของการถูกจับตาและเป็นขี้ปากของชาวบ้านในการลูกยางของผม ว่าผมทำอะไรไม่ได้เรื่อง คิดอะไรไม่ได้เรื่องได้ราว ใครมาเห็นก็จะบอกว่าทำไมปลูกถี่จัง!

เรื่องพวกขายปุ๋ยทำให้ผมไม่อ่านหนังสือเกษตรชีวภาคครับ ขี้คุย จอมสร้างภาพ พอใช้ปุ๋ยคนอื่นถ่ายต้นเล็ก พอใส่ปุ๋ยเค้าถ่ายต้นโตๆ มาให้ดู เด็กๆ มันยังรู้ทันเลย :yucky รอ อ. โก้ มาสอนเองดีกว่า :yahoo

เรื่องสับปะรดบอกมาแบบนี้แสดงว่าผมมีโอกาศได้กินสับปะรดปลูกเองทุกวันได้ใช่หรือไม่ครับ? จะขอรบกวน ขอรายละเอียดแบบที่ที่เวปอื่นๆ ไม่ได้คุยกันไว้ด้วยครับ :o

เรื่องยาง 60% ไม่รีบครับ คงรอเปิดกรีด พค น่ะครับ เครื่องปั่นน้ำยาง 60% พร้อมการเติมสารเคมีทำตุ๊กตายาง ให้ฟูขึ้นมาอีกสามสี่เท่าตัวนั้นผมมีแล้วครับ ส่วนผสมต่างๆ ก็มีแล้วครับ แต่อยากเห็นสูตรของที่อื่นมาเทียบเหมือนกัน :secret

เพิ่งไปเจอมาครับ:- สองวิธีนี้เป็นเพียงพื้นฐานอาจมีอะไรลึกๆ มากกว่านี้ไหม?


Preparation of latex concentrates using tamarind seeds

The tamarind fruits were soaked in water for 5 h and the resulting
softened pulp was washed off to release the seeds. After repeated
washing in water, the seeds were sun dried for 2 h following which
they were transferred into a convection oven set at 50°C for further
drying for 21 days in order to reduce the moisture contents to the
barest minimum possible. Consequently, the husk became brittle
and was easily separated from the kernels by pounding in a
wooden mortar. The kernels were ground in a local milling machine
to obtain powder, which was then sieved to obtain a fine powder.
3.0 g of the tamarind powder was dispersed in distilled water (100
cm3) (pH 7.88) in a beaker and the dispersion was boiled on a hot
plate for 1 h with continuous stirring, thus yielding a solution. 0.75
cm3 of the tamarind solution (creaming agent) was transferred into
a 500 cm3 beaker containing 250 cm3 of the latex. The beaker was
covered and left to stand undisturbed in a safe place for 48 h. After
48 h, phase separation occurred. Water being slightly denser than
rubber existed at the bottom of the beaker while rubber particles
swelled and rose to the top and were separated.

Preparation of latex concentrates using sodium alginate

3.0 g of sodium alginate (BDH) was dissolved in distilled water (100
cm3). 1.25 cm3 of the prepared solution of sodium alginate (pH 8.58)
was transferred into a 500 cm3 beaker containing 250 cm3 of latex.
The beaker was covered and allowed to stand undisturbed for 2
days. After 2 days, the latex separated into two layers, having
rubber particles at the top and water at the bottom of the beaker.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กุมภาพันธ์, 2012, 12:30:05 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ท่องเวปไปเจอการทำ 60% ด้วยการเติมสารเคมีเข้าไป (แต่ไม่มีรายละเอียดสัดส่วนที่ผสมลงไป) ใช้แรงโน้มถ่วงแยกน้ำออกมา ใส่ถังที่มีกระจกพอมองเห็นการแยกตัว ก็เทน้ำในส่วนที่อยูข้างล่างทิ้งไป เก็บเนื้อยาง 60 กว่าเปอร์เซนต์ ดีกว่าเซนติฟิส์ซะอีก (ต้องปั่นถึง 7000-8000rpm ทำไม่ไหวละครับ ยิ่งรอบสูงต้นทุนการทำก็ยิ่งแพง ที่รู้ๆ การทำบานลานซ์ต้องดีมากๆ มิเช่นนั้นมันจะสั่นเป้นเจ้าเข้าแน่ๆ) เห็นความเร็วรอบแล้วผมไม่เอาแบบปั่นแยกแล้วละครับ :nono :nonono N] ถ้าพอมีข้อมูลแบบเติมสารช่วยแนะนำด้วยครับ Y] หาในเนทเท่าไรก็ไม่เจอข้อมูลเชิงลึกครับ K] K] K]


ผมไปเจอเรื่องตลกมากๆ วารสารยางเขียนออกมากันได้ไงว่า "เอสเทอลีน เป็นเฮอร์โมนเพิ่มปริมาณน้ำยาง แล้วก็ช่วยให้ยางอายุยืนยาวมากกว่าเดิม" มันหลอกลวงกันซัดๆ เข้าไปอ่านตามเวปต่างๆ แล้ว กระทู้ที่เราคุยกันนี้ เนื้อหาเยี่ยมที่สุด เชื่อถือได้มากที่สุดกันเลยละครับ
รออีกนิดนะครับ ผมไม่อยากเร่งข้างในเค้ามาก(เพราะคนกลางประสานงาน(ญาติผู้พี่)ก็ขี้เกรงใจคนเหมือนกัน) แต่ถ้าอยากรู้เรื่องแค่"สาร" คงเข้าไปขอเอกสารมาได้เลยเพราะมีสอนกันอยู่ แต่อยากเข้าไปแล้วเห็น-ถ่ายรูปกระบวนการมาให้ด้วยเลยทีเดียว(ถ้ามีเครื่องปั่น...แต่ผมเดาว่ามีแน่ๆ)
แต่ถ้ารีบก็บอกมาได้นะครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ฮิฮิ ผมว่าแล้วต้องสงสัย ดินเลวปลูกถี่-ดินดีปลูกห่าง แน่ๆ(ได้ยินครั้งแรกก็สงสัยเหมือนกันครับ  :D)
ดินเลว ปลูกต้นไม้แล้วคงโตไม่ดี กลับกัน ดินดีปลูกแล้วต้นไม้เจริญงอกงามดี ถูกแน่นอนใช่มั๊ยครับ
วิเคราะห์แบบนี้ครับ ยางเป็นไม้ทรงพุ่ม อาศัยใบเป็นปัจจัยสร้างน้ำยาง ถ้ากิ่งก้านแผ่ขยายดี-ใบดีใบดก น้ำยางย่อมดีกว่าใบน้อย(ตัดปัจจัยแทรกอื่นๆออกนะครับ) ถูกต้องใช่มั๊ยครับ น่าจะมองเห็นคำตอบรำไรๆแล้วนะครับ
...
คำตอบคือ
ถ้าดินเราเลว ปลูกห่าง(8X3)ไปทำไม ในเมื่อกิ่งก้านใบไม่ซ้อนกันอยู่แล้ว(อัดปุ๋ยไปก็ช่วยไม่ได้) เสียพื้นที่ปล่าวๆ สู้ปลูกถี่ที่ได้จำนวนต้น(และน้ำยาง)มาชดเชยดีกว่า เรียกว่าเอาปริมาณ(จำนวนต้น)เข้าว่า ปลูกถี่เข้าไว้(6X2.5 ก็เคยเห็น)
กลับกัน
ถ้าดินของเราดี ปลูกถี่(6X3)ทำไม ในเมื่อต้นสามารถออกกิ่งก้านใบได้ดี(ได้น้ำยางมาก)อยู่แล้ว ปลูกถี่ไป(จำนวนต้นมาก)เสียแรงปล่าวๆ(บำรุงรักษา-เก็บเกี่ยว) สู้ปลูกห่างที่ได้จำนวนต้นน้อยก็จริงแต่ได้น้ำยางมากกว่า เรียกว่าเอาคุณภาพเข้าว่าครับ
ที่ผมว่าช้าไปหน่อยนึง(ไม่วิเคราะห์ดิน)ก็เพราะเรื่องนี้ครับ แต่ของคุณPinij 7X3 กลางๆ ก็โออยู่ครับ กลางๆ ความชั่วไม่มี-ความดีไม่ปรากฎ รับไป1ขั้น ฮิฮิ
นี่ไม่ใช่ผมว่าเอาเองนะครับ หลักวิชาการเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วพออยู่-ศึกษากับเรื่องต้นไม้มากเข้าๆก็จะได้ยินคำนี้ ทีนี้จะไม่งงแล้วครับ  :)  ได้ผลวิเคราะห์ดินมาแล้วจะรู้สึกว่าชีวิตนี้เราลิขิตได้เอง(เลือกปุ๋ย) ไม่ขึ้นอยู่กับชะตากรรม(ปุ๋ยสำเร็จรูปตามคำแนะนำ)อีกแล้วครับ  c)  c)
ดีใจจังที่มีกระทู้แบบนี้ใน HTG2 เพราะผมไม่เคยเขียนเรื่องแบบนี้ที่เว็บไหนเลย...เบื่อพวกขายปุ๋ย  ((

งงๆกับคำถามนิดหน่อยครับ สับปะรดปีนึงออกลูกได้หลายรุ่นครับ(จำไม่ได้) ถ้าปลูกจำนวนมากทำให้ออกทั้งปีได้โดยการบังคับให้ออกก่อนถัดกันไปเรื่อยๆครับ 12ไร่ตัดได้ทุกวัน(ถ้าไม่ขี้เกียจ ฮิฮิ) ช่วงแรกก่อนจะออกลูก เสริมอย่างอื่นเข้าไปด้วยนะครับ ของผมตอนนั้นเป็นข้าวโพด+พริกขี้หนู จำรายละเอียดอื่นๆไม่ได้จริงๆครับ....เดี๋ยวนี้ทางนี้คนชักขี้เกียจขึ้นทุกวันๆ(หาแรงงานยาก) สวนยางปลูกใหม่ใกล้แหล่งน้ำเลยให้เช่าปลูกแตงโมกันมากครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ท่องเวปไปเจอการทำ 60% ด้วยการเติมสารเคมีเข้าไป (แต่ไม่มีรายละเอียดสัดส่วนที่ผสมลงไป) ใช้แรงโน้มถ่วงแยกน้ำออกมา ใส่ถังที่มีกระจกพอมองเห็นการแยกตัว ก็เทน้ำในส่วนที่อยูข้างล่างทิ้งไป เก็บเนื้อยาง 60 กว่าเปอร์เซนต์ ดีกว่าเซนติฟิส์ซะอีก (ต้องปั่นถึง 7000-8000rpm ทำไม่ไหวละครับ ยิ่งรอบสูงต้นทุนการทำก็ยิ่งแพง ที่รู้ๆ การทำบานลานซ์ต้องดีมากๆ มิเช่นนั้นมันจะสั่นเป้นเจ้าเข้าแน่ๆ) เห็นความเร็วรอบแล้วผมไม่เอาแบบปั่นแยกแล้วละครับ :nono :nonono N] ถ้าพอมีข้อมูลแบบเติมสารช่วยแนะนำด้วยครับ Y] หาในเนทเท่าไรก็ไม่เจอข้อมูลเชิงลึกครับ K] K] K]


ผมไปเจอเรื่องตลกมากๆ วารสารยางเขียนออกมากันได้ไงว่า "เอสเทอลีน เป็นเฮอร์โมนเพิ่มปริมาณน้ำยาง แล้วก็ช่วยให้ยางอายุยืนยาวมากกว่าเดิม" มันหลอกลวงกันซัดๆ เข้าไปอ่านตามเวปต่างๆ แล้ว กระทู้ที่เราคุยกันนี้ เนื้อหาเยี่ยมที่สุด เชื่อถือได้มากที่สุดกันเลยละครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากให้คิด-วิเคราะห์กัน แทนที่จะเชื่อตามที่"เค้า"ว่ากันมา ผมเชื่อในหลักวิชาการแค่เสี้ยวนึง(ทฤษฏี+ผลวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์)แต่ไม่ได้แอนตี้นะครับ ต้นไม้(โดยเฉพาะยาง)ไม่(กึ่ง)สำเร็จรูปเหมือนมาม่าครับ ทำตามคำแนะนำหลังซองกินได้เลย ทำสวนยางให้ได้ดีต้องทดลองในสวนของเราเองครับ ของผมBPM24 ทำจนใครเห็นคิดว่าเป็นRRIM600กันทั้งนั้น(ต้นโต-สูงกว่าBPM24ทั่วไป) ใบหมดหลัง600 เกือบ2เดือน ออกก่อนเดือนนึง(หยุดเดือนกว่าๆ ที่ใบร่วง-แก่เท่าๆกัน)ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมทางโน้น(เหนือ-อิสาน)หยุดกันตั้ง3-4เดือน(อาจเป็นเพราะแล้งกว่าทางนี้) ตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้(+อีก3)ฝากไว้กับยาง ถ้าปล่อยตามยถากรรมคงไม่ดีแน่ อาศัยทดลองนี่แหละครับ ได้ผลดีมั่งเสียมั่ง..ถือซะว่าของของเราแลกความรู้ครับ ฮิฮิ ผมคิดว่าผมก็คงจะไม่ทำตามที่ชาวบ้านเค้าทำ (เพราะเราได้ อ. เก่ง คอยแนะนำ :secret) ตั้งแต่วันแรกที่ผมลงมือปลักหลักทำแนวปลูกยาง มีชาวบ้านคนหนึ่งขับรถมาแล้วก็แซวผมเลยว่า วิศวะ ต้องทำอะไรที่เหนือกว่าชาวบ้านนะ (ไม่รู้เค้ารู้ได้ไง :-\ ไอ้ที่ผมเรียนมามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำสวนซักหน่อย ต้องเริ่มจากศูนย์ ก็คงความความกล้าที่จะลองพันธ์ JVP 80 ที่ราคาแพงกว่าพวกเค้าเกินเท่าตัว (แต่ก็ซื้อไม่ได้) แต่แค่ผมลง 251 นั้นก็แปลกจากพวกเค้าเหมือนกัน เพราะทุกคนลง 600 กันทั้งหมู่บ้าน ถ้า อ. โก้ หยุดกรีด เดือนเดียวได้ ด้วยคิดว่าน้ำฝนช่วย ผมก็จะทดลองบริหารน้ำในสวนยางของผม ให้เหมือนกับทางใต้ดูเหมือนกันว่ามันจะมีช่วงเวลากรีดเหมือนกันไหม? ได้กรีดต่ออีกสามเดือนนี่เป็เงินมากโขอยู่ :yahoo 
1.) ทราบได้อย่างไรว่าปลูกถั่วแล้วดินดีขึ้น....ถ้าไม่มีผลวิเคราะห์ดิน(ก่อน-หลังปลุูกถั่ว) "เค้า"แนะนำว่าปลูกถั่วจะช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจน แถมด้วยอินทรีย์วัตถุให้ดิน....คำถาม...เพิ่มได้เท่าไหร่(แล้วอะไรหายไปบ้าง)...เพิ่มได้จริงแล้วทำไมต้อง(แนะนำให้)ใช้ปุ๋ยตัวหน้า(ตั้ง)30(หรือ20ในยางก่อนเปิดกรีด)อีก....นี่ว่ากันตามเอกสารที่ทางราชการแนะนำให้ชาวบ้านนะครับ...ใช้ตัวหน้า15,18,20 แล้วต่างกันอย่างไรบ้าง รายละเอียดพวกนี้หายไปไหน ใครได้ใครเสีย?....อุตส่าห์แนะนำให้บำรุงกันหนัก(30-5-18)ทำไมไม่ลองแนะนำให้ผ่าใบบ้าง? ผ่าใบอย่างไรต้นโทรม-ไม่โทรม? แค่ไหนอย่างไรคุ้ม-ไม่คุ้ม? ผมอาจมองในแง่ลบมากเกินไปมั้งครับ ฮิฮิแบบนี้ก็ต้องพิสูจน์กันแล้วละ ผมก็อยากจะปลูกสับปะรดไว้กินเองอยู่เหมือนกัน ผมอาจแบ่งที่ออกเป็นสองส่วนเอาไว้เปรียบเทียบสภาพดินหลังการปลูกทั้งถั่วและสับปะรดดูสักหน่อย
2.) (นอกเรื่อง) ว่ากันว่า251กรีดซ้ำเปลือก2ไม่ค่อยดีเท่าเปลือกแรก เพราะหน้ายาง(เปลือก)งอกใหม่จะเหมือนเนื้องอกโปนๆป่องๆ(เมื่อเทียบกับRRIM600)...ทำไม เพราะ30ตัวหน้าที่แนะนำกันนั่นหรือปล่าว? หรือเป็นเพราะไม่ถึง30? อยากเห็นหน้ายางปีแรก+สูตรปุ๋ยปีแรกของคุณPinijจัง ผมคงต้องไปหาดูของจริงของการงอกใหม่ของเปลือกยาง 251 เทียบกับ 600 ซะแล้ว ขอบคุณคำแนะนำนี้มากๆ ครับ ผมคงต้องเอาเรื่องนี้มาพิจารณาการให้ปุ๋ยยางของผมอย่างแน่นอน เรื่องของยางเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มีหลายอย่างที่ผมคิดไปไม่ถึงจริงๆ ครับ
3.) (ในเรื่อง) สับปะรดถ้าไม่ใส่สารเร่งลูก จะออกลูก-สุกพร้อมๆกันครับ (ในเรื่องนี่สั้นจัง ฮิฮิ)สรุปแล้วถ้าใส่สารเร่งจะพอทำให้มันสุกตลอดทั้งปีพอได้หรือไม่ครับ?
.............
.... ดินเลวปลูกถี่-ดินดีปลูกห่าง....ออกจะช้าไปนิดนึงแล้วแต่ยังไม่สายครับ ส่งดินไปวิเคราะห์ก่อนครับแล้วค่อยมาว่ากันเรื่องสูตรผสมปุ๋ย (ใช้เวลาประมาณ2เดือนได้ผลถึงมือ) ถ้ามีผลวิเคราะห์ดินแล้วจะง่ายขึ้นเยอะครับ ตัดเสื้อ-กางเกง ถ้ายังไม่วัดไซส์ก่อน ตัดไม่ถูกหรอกครับ....ว่าแล้วก็ออกไปขุดดินส่งวิเคราะห์มั่งดีกว่าเรา 2ปีแระ ฮิฮิ
โพสนี้ใช้เวลาเรียบเรียงคำเกือบชั่วโมงนึงครับ อยากให้คิด-วิเคราะห์-ปรับใช้ตามนี้จริงๆครับสงสัยข้อความที่ผมไฮไลท์เสียงแดงครับ มันเหมือนขัดๆ กับปรกติวิสัยครับ มันคงต้องมีเหตุผลแอบแฝงเป็นแน่ เรื่องวิเคราะห์ดินวันที่ 23 นี้จะมีนักวิชาการเข้ามารับถึงบ้านผมเลยละครับ



ขอขอบคุณคุณอรันมากๆ ครับ ที่เข้ามาให้คำแนะนำ กทม คือ เฮทออฟฟิทหรือครับ? เบอร์โทรที่ติดเครื่องอยู่แม่กลองเลยงงงงครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ดูแล้วก็ไม่น่าปลูกยากเย็นอะไร (แต่ก็ยังยุ่งยากกว่าถั่วเท่าตัว แล้วมันทำดินเสียกว่าปลูกถั่วมากไหมครับ? เพราะถั่วทำให้ดินดีขึ้น) ถ้าไม่ใส่สารบังคับผล มันจะค่อยๆ สุกไล่ๆ กันทั้งปี ตามที่ผมต้องการไหม?

ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากให้คิด-วิเคราะห์กัน แทนที่จะเชื่อตามที่"เค้า"ว่ากันมา ผมเชื่อในหลักวิชาการแค่เสี้ยวนึง(ทฤษฏี+ผลวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์)แต่ไม่ได้แอนตี้นะครับ ต้นไม้(โดยเฉพาะยาง)ไม่(กึ่ง)สำเร็จรูปเหมือนมาม่าครับ ทำตามคำแนะนำหลังซองกินได้เลย ทำสวนยางให้ได้ดีต้องทดลองในสวนของเราเองครับ ของผมBPM24 ทำจนใครเห็นคิดว่าเป็นRRIM600กันทั้งนั้น(ต้นโต-สูงกว่าBPM24ทั่วไป) ใบหมดหลัง600 เกือบ2เดือน ออกก่อนเดือนนึง(หยุดเดือนกว่าๆ ที่ใบร่วง-แก่เท่าๆกัน)ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมทางโน้น(เหนือ-อิสาน)หยุดกันตั้ง3-4เดือน(อาจเป็นเพราะแล้งกว่าทางนี้) ตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้(+อีก3)ฝากไว้กับยาง ถ้าปล่อยตามยถากรรมคงไม่ดีแน่ อาศัยทดลองนี่แหละครับ ได้ผลดีมั่งเสียมั่ง..ถือซะว่าของของเราแลกความรู้ครับ ฮิฮิ
1.) ทราบได้อย่างไรว่าปลูกถั่วแล้วดินดีขึ้น....ถ้าไม่มีผลวิเคราะห์ดิน(ก่อน-หลังปลุูกถั่ว) "เค้า"แนะนำว่าปลูกถั่วจะช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจน แถมด้วยอินทรีย์วัตถุให้ดิน....คำถาม...เพิ่มได้เท่าไหร่(แล้วอะไรหายไปบ้าง)...เพิ่มได้จริงแล้วทำไมต้อง(แนะนำให้)ใช้ปุ๋ยตัวหน้า(ตั้ง)30(หรือ20ในยางก่อนเปิดกรีด)อีก....นี่ว่ากันตามเอกสารที่ทางราชการแนะนำให้ชาวบ้านนะครับ...ใช้ตัวหน้า15,18,20 แล้วต่างกันอย่างไรบ้าง รายละเอียดพวกนี้หายไปไหน ใครได้ใครเสีย?....อุตส่าห์แนะนำให้บำรุงกันหนัก(30-5-18)ทำไมไม่ลองแนะนำให้ผ่าใบบ้าง? ผ่าใบอย่างไรต้นโทรม-ไม่โทรม? แค่ไหนอย่างไรคุ้ม-ไม่คุ้ม? ผมอาจมองในแง่ลบมากเกินไปมั้งครับ ฮิฮิ
2.) (นอกเรื่อง) ว่ากันว่า251กรีดซ้ำเปลือก2ไม่ค่อยดีเท่าเปลือกแรก เพราะหน้ายาง(เปลือก)งอกใหม่จะเหมือนเนื้องอกโปนๆป่องๆ(เมื่อเทียบกับRRIM600)...ทำไม เพราะ30ตัวหน้าที่แนะนำกันนั่นหรือปล่าว? หรือเป็นเพราะไม่ถึง30? อยากเห็นหน้ายางปีแรก+สูตรปุ๋ยปีแรกของคุณPinijจัง
3.) (ในเรื่อง) สับปะรดถ้าไม่ใส่ารเร่งลูก จะออกลูก-สุกพร้อมๆกันครับ (ในเรื่องนี่สั้นจัง ฮิฮิ)
.............
.... ดินเลวปลูกถี่-ดินดีปลูกห่าง....ออกจะช้าไปนิดนึงแล้วแต่ยังไม่สายครับ ส่งดินไปวิเคราะห์ก่อนครับแล้วค่อยมาว่ากันเรื่องสูตรผสมปุ๋ย (ใช้เวลาประมาณ2เดือนได้ผลถึงมือ) ถ้ามีผลวิเคราะห์ดินแล้วจะง่ายขึ้นเยอะครับ ตัดเสื้อ-กางเกง ถ้ายังไม่วัดไซส์ก่อน ตัดไม่ถูกหรอกครับ....ว่าแล้วก็ออกไปขุดดินส่งวิเคราะห์มั่งดีกว่าเรา 2ปีแระ ฮิฮิ
โพสนี้ใช้เวลาเรียบเรียงคำเกือบชั่วโมงนึงครับ อยากให้คิด-วิเคราะห์-ปรับใช้ตามนี้จริงๆครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ Arun

  • **
    • กระทู้: 69

ฝากรูป

คุณพินิจ รูปข้างบนนี้เป็นขนาด 5kw ราคาเมื่อสองปีก่อนอยู่ที่ 1 หมื่นต้นๆ ปัจจุบันน่าจะขยับขึ้นอีกเล็กน้อย

ถ้าสนใจขนาดต่างๆก็ติดต่อไปที่นามบัตรข้างล่างได้เลยครับ ที่นี้เค้าเป็นโรงงานผลิตแต่ก็จำหน่ายปลีก





ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
คุณ Arun น่าจะช่วยผมได้แล้วละครับ วันนี้ผมโทรไปคุยตามเบอร์ข้างกล่อง Automatic Voltage Control มาแล้ว มันใช้ได้ตามที่ผมต้องการเลยละครับ 5kW โอเคเลย ตัวนี้ราคาแค่ 3,500 บาท เองด้วย  d_d :drunk
ยินดีด้วยครับพี่พินิจโปรเจคนี้จะได้แล้วเสร็จซะทีนะครับ  :clap :clap :clap
ปรกติผมไม่อยากจะไปเสนอหน้าที่โรงพยาบาลเลย แต่วันนี้ว่าจะไปซะหน่อยละครับ (ก่อนหน้านั้นเคยคิดว่า ไม่น่าไปรับปากช่วยเค้าเล๊ยยย!)

ผมคิดว่าในนี้มีคนในทุกสาขาอาชีพกันเลยละครับ ยกอะไรขึ้นมาถามแล้วส่วนมากจะได้บทสรุปได้ ผมก็เพิ่งจะรู้ว่ามันมีไอ้ตัว อ๊อตโต้มาติกโวลท์เร็กกูเลซั่นแบบนี้ออกมาขายกันด้วย แต่โรงงานที่ทำอยู่ที่แม่กลองโน่น ผมไม่ได้เรียนมาด้านนี้ ถ้าไม่มีใครบอกก็คงไม่สามารถรู้เองได้ละครับ ผมทำกังหันน้ำได้ แต่ควบคุมไฟที่จะใช้ไม่ได้ทุกอย่างมันก็จบ หรือทำได้ก็ไม่ดี และยากส์ๆๆๆๆ มั๊กๆๆ เจอเจ้าตัวนี้ขึ้นมาจบได้เลยครับ การคอนโทนบานประตูของผมไม่ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็วมากนักก็ใช้ได้แล้ว ซึ่งการออกแบบให้ปิดเปิดประตูน้ำบานใหญๆ แบบให้สปีดไม่เพิ่มจนทำให้โวลท์เกินออกนอกสะเกลระหว่าง 200-240v นี่ผมคงทำไม่ได้ แต่ถ้าจะให้หยุดกันเลยแบบเบรครถจนล้อตายนั้นทำได้ไม่อยากนะครับ แต่จะให้รอบคงที่เมื่อโลดใหญ่ๆ เปลี่ยนกระทันหันแบบนี้ ผมคงต้องยก Governor ของ Stream Turbine ในโรงงานเก่าผมมาใช้เป็นแน่ละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์, 2012, 11:52:54 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ aphiphot

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,814
    • เพศ:ชาย
  • คุณพ่อขาอย่ามัวแต่ D.I.Y.จนลืมหนูนะคะ
คุณ Arun น่าจะช่วยผมได้แล้วละครับ วันนี้ผมโทรไปคุยตามเบอร์ข้างกล่อง Automatic Voltage Control มาแล้ว มันใช้ได้ตามที่ผมต้องการเลยละครับ 5kW โอเคเลย ตัวนี้ราคาแค่ 3,500 บาท เองด้วย  d_d :drunk
ยินดีด้วยครับพี่พินิจโปรเจคนี้จะได้แล้วเสร็จซะทีนะครับ  :clap :clap :clap
ข้อมูลส่วนตัวครับ==>> 
นายอภิภช เจริญกิจ
270 ม.3 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด 23000
eptrattc@hotmail.co.th
Tel.08186220-เจ็ด-หนึ่ง
Line id: aphiphot


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
คุณ Arun น่าจะช่วยผมได้แล้วละครับ วันนี้ผมโทรไปคุยตามเบอร์ข้างกล่อง Automatic Voltage Control มาแล้ว มันใช้ได้ตามที่ผมต้องการเลยละครับ 5kW โอเคเลย ตัวนี้ราคาแค่ 3,500 บาท เองด้วย  d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ยางมีรากหากินอยู่บริเวณผิวดิน จึงไม่น่าจะต้องไถเพื่อพรวนดินเหมือนต้นไม้ทั่วๆ ไป ความคิดเห็นข้อนี้มีเหตุผลให้เชื่อถือได้ครับ การเอารถไปเยีบยรากย่อมเกิดความเสียหายเป็นระทางเท่าความกว้าง (Span ในส่วนกว้างของล้อ)  ต่อไปนี้ผมคงไม่ให้รถหนักๆ เข้าในระหว่างช่องของต้นยางเป็นเด็ดขาด

ได้เอ็กแซวมาแบบนี้สะดวกมากเลยครับ ไม่ต้องมานั่งกดเครื่องคิดเลข :yahoo :yahoo :yahoo

ต้นทางซ้ายมือ ลำต้นมันพุ่งขึ้นเป็นต้นเดียวโดดๆ เลยคงเป็น 600 หลงมาแน่ละครับ ผิดกลับพวก 251 ที่แตกกิ่งกันอุตตลุด จนไม่รู้ว่าจะตัดแต่งกิ่งกันอย่างไรดี? กำลังอ่านเรื่องการแต่งกิ่งอยู่ครับ และกำลังไม่ค่อยเห็นด้วยกับในตำราคาที่ให้เอากิ่งแขนงที่อวบกว่าไว้แล้วตัด แล้วให้ตัดส่วนที่ตรงขึ้นไป แต่มันเล็กกว่า แต่มาคิดอีกที ก็น่าจะเห็นด้วย เพราะความแรงมันออกข้างถ้าจะให้มันไปได้ดี (คือต้นมันอาจจะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าถ้าเชื่อเค้า) เอาไงดีครับอาจารย์ ผมสองอกสองใจเรื่องนี้ครับ แต่เจอแค่ต้นเดียว นี่ถ้าไม่เจอเองคงไม่ยากเชื่อว่า กิ่งข้างโตกว่าปลายยอดก็มีด้วย บอกตามตรงว่าผมไม่มีประสบการณ์เรื่องการปลูกต้นไม้มาก่อยเลยละครับ มาอ่านๆ เอาเมื่อเดือนสองเดือนนี่เองละครับ อ่านบางทีเค้าแนะนำแบบไม่ค่อยน่าเชื่อถือก็เยอะ เลยเริ่มเบื่อกับการท่องหาในเนท บางครั้งเวปสองเวปข้อความค้านกันก็มี มือใหม่อย่างผมก็เลือกทางไม่ถูกไปไม่เป็นเหมือนันก็มี
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย


4-5 เมื่อก่อนไม่รู้ว่าพี่สาวแฟนใช้สูตรอะไร? แต่ต่อไปผมว่าจะใช้ปุ๋ยก่อนเปิดกรีดเป็น ต่อ 100kg ผมจะใช้แม่ปุ๋ย 46-0-0 = 36kg, 18-46-0 = 22kg, 0-0-60 = 20kg ครับ และหลังเปิดกรีดปีนี้ผมก็จะใช้สูตร 46-0-0 = 60kg, 18-46-0 = 10kg, 0-0-60 = 30kg ครับ ไม่ทราบว่า อ. โก้ มีความเห็นอย่างไรครับ? ควรปรับตัวไหนให้มันดีขึ้น? ลืมตอบเรื่องการหว่านปุ๋ย คือผมยังไม่เคยใส่ปุ๋ยครับ แต่วิทยากรแนะนำให้ไถระหว่างต้นที่ช่อง 7m ด้วยผานใบเดียว แล้วให้หยอดปุ๋ยเอาดินกลบตามหลัง แต่ผมคิดว่ามันน่าจะสู้การว่านกระจายรอบๆ ทรงพรุ่มให้คุมพื้นที่ทั้งหมดจะดีกว่าไหมครับ? คือผมคิดว่ารากของต้นยางจะกระจายออกโดยรอบเป็นรัศมี จึงไม่ควรให้แค่เป็นแนวเส้นผ่ายปลายกิ่งของแต่ละต้นเพียงแค่นั้น แต่เห็นด้วยกับการไถบริเวณแนวระหว่างต้นด้วยผานเดียวเหมือนการพรวนดินครับ ผมอาจไถ แต่ว่านปุ๋ยแบบกระจายครับ ผิดถูกประการใดโปรดแนะนำด้วย คืนนี้คาดว่าจะไม่ได้กรีดยางอีกแระ เพราะตอนนี้ฝนกำลังตกครับ ดูเมฆแล้วคาดว่าฝนอาจพรำๆ ไปถึงช่วงกลางคืน :cry2]



ยาง4ปีไปแล้วห้ามไถครับ ที่สถานีทดลองยางคลองท่อมเคยทดลองไถ(ถ้าจำไม่ผิด4ไร่2แปลง)แล้วยางเกร็นไปเลยครับ ชาวสวนยางทั่วไปนี่อย่าว่าแต่รถไถเลยครับวัวเข้าสวนยางเปิดกรีดใหม่ๆแบบของคุณPinij ยังมีเคืองครับ
ยาง8ปีหว่านปุ๋ยแบบคุณPinijว่าได้เลยครับ(ค้านอยู่กับเอกสารวิชาการ)แต่ยืนยันว่าดีกว่าครับ ใส่ปีละ2ครั้งไม่ต้องกลบครับ
มาที่ผสมปุ๋ยต่ออีกนิดครับ
คิดแบบนั้นจะได้ปุ๋ยไม่ครบตามน้ำหนักที่ต้องการใช้ครับ ผมก็ดันคิดให้โดยวิธีเดียวกัน  K]  K]
ลองใช้ Excel ดูนะครับ http://file2.uploadfile.biz/i/ENEMMEIMMMIIMD ผมเอาของเดิมมาปรับใหม่ครับ(วิธีคำนวณเหมือนเดิม)
ใส่จำนวนต้นยาง ใส่น้ำหนักปุ๋ย/ต้น ใส่สูตรNPK ใส่สูตรแม่ปุ๋ย ใส่ราคาแม่ปุ๋ย(ถ้ารู้)
...................
600ยอดดำ ร้านขายพันธุ์ยางหรือแปลงตายางโดนสั่งให้ลบข้อความนี้ทิ้งแล้วนะครับ เพราะชื่อพันธุ์นี้ไม่มี(ไม่ได้รับการรับรองพันธุ์) ยางเลี้ยงถุง251ทางนี้ต่ำกว่า40ครับ
ทำไม่ไหวครับ ภาระมากเหลิอเกิน(ข้ออ้าง...ฮิฮิ) ต้นทางซ้ายน่าจะเป็น600ครับ(ใบโตเรียวยาวกว่า) แต่อาจพลาดได้เพราะเป็นยางซ่อม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 10:31:33 pm โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าเอาไฟจากกังหันมาที่ heater ทำพวกห้องอบ เอาไว้อบยางแผ่น อบผลไม้ คงจะดี ไม่แน่ใจจะคุ้มค่ามั๊ยครับ
อ้าว! คิดเหมือนผมเลยครับ กังหันที่จะทำหน้าบ้านผมนั้น  คือถ้าเราใช้เครื่องไฟฟ้าแบบตัดต่อบ่อยๆ ไม่แน่นอน เช่นแอร์หรือตู้เย็นใหญ่ๆ เราใส่รีเลย์สองทางไว้ให้เวลาคอมฯ มันตัด ก็ให้มันสลับเปลี่ยนไปจ่ายไฟให้ฮีทเตอร์ต้มน้ำร้อนที่กินกระแสเท่าๆ กัน  (ช่วยกันกับที่ได้จากพลังแสงอาทิตย์อีกทางหนึ่ง) ข้อสำคัญคือต้องมีถังเก็บน้ำร้อนได้อุณภูมิสูงๆ ยิ่งได้แบบทนแรงดันได้ก็ยิ่งดี เราจะสามารถเอาไอน้ำไปใช้ขับอะไรเล่นได้อีก (แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรดีในตอนนี้ :yahoo :yahoo :yahoo  และก็คิดไว้อีกอย่างคือช่วงคอมฯ ตู้เย็นตัด ให้ไฟไปจ่ายเข้าชาร์จแบทเตอร์รี่ เอาไว้ใช้กับรถมอร์เตอร์ไซร์แบบใช้แบทฯ ก็ยังได้ ถ้าได้กระแสเยอะๆ คิดว่าจะลงทุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซะเลย  :drive1 d_d :drunk

อ. โก้ ครับ เมื่อกี๊ออกไปคุยกะร้านขายกล้ายางมาอีกแล้ว เค้าแนะให้ปลูกพันธ์สามพันหนึ่งน่ะครับ 4 เดือนกรีดได้ มีความน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ? น้ำยาง 500 kg/y มีใครที่รู้จักลองปลูกมาแล้วบ้างไหมครับ? เค้าว่าเป็นพันธ์มาเลย์ ที่พ่อค้าบ้านเราแอบเล็ดรอดนำเข้ามาขาย ผมเลยไม่ค่อยเชื่อถือกลัวโดนหลอกครับ :-\ ดีหนักขึ้นไปอีกจาก JVC 80 ของ CP ซะอีก
ยังไม่เคยได้ยินครับ ที่คุณPinijถามมา ตอบว่าเชื่อถือไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจริงหรือไม่จริงนะครับ แต่พันธุ์ยางยังไม่ได้รับการรับรองไม่น่าเสี่ยงหรอกครับ
ผมเคยเห็นยางเปิดกรีดไม่ถึงปีต้องโค่นทิ้งเพราะไม่มีน้ำยางมาแล้ว(ของญาติผู้พี่) เวลา6ปี..ในช่วงชีวิตคนเรานี่ไม่น้อยนะครับ

ปลูกหกปีแล้วต้องโค่นทิ้งนี่ อาจมีการยิงกันขึ้นมาได้เลยนะครับ ถ้าปลูกเป็นร้อยไร่ (( (( (( เห็นฝ่ายตรงข้าม JVP 80 ก็ว่ายางเพิ่งปลูกกันยังไม่ได้มีการกรีดกันเลยซักต้น เอามาคุยกันเป็นตุเป็นตะว่าได้เท่าโน้นเท่านี้กันแล้ว ยางพันธ์นี้บางคนก็ว่ามันคือ RRIM 600 ที่มียอดสีดำนั่นเองละครับ คือมันมีต้นที่ผ่าเหล่าผ่ากอที่มีใบเกิดใหม่ออกมาสีดำต่างจากต้นอื่นเค้า แล้วได้น้ำยางมากกว่าต้นอื่น CP เลยไปซื้อมาทำตลาดแบบค้ากำไรเกินควรไปหน่อย 120 บาทต่อยางฉัตรเดียว  (ปรกติแถวบ้าน RRIM 600 ฉัตรเดียวขายกันที่ 40-50 บาทต่อต้นครับ แพงกว่าที่เมืองใต้เยอะไหมครับ?

พูดถึงยางยอดดำ วันนี้ไปเปิดน้ำเข้าสวนต่อ เจออยู่ต้นนึงที่ใบสีคล้ำกว่าเพื่อนๆ ทุกต้น เลยถ่ายรูปมาให้ อ. โก้ ดูด้วยว่า ร้านเค้าอาจหยิบยางผิดมาให้ผมต้นนึงก็เป็นได้ครับ คงไม่ใช่ 251 เป็นแน่ เพราะแปลกกว่าชาวบ้านเค้าทั้งหมด มันใช่ RRIM 600 หรือไม่ครับ? วันนี้ผมไปร้านขายกล้ายางเพราะจะไปซื้อต้นกล้ายางมาซ่อมน่ะครับ ตอนนี้พันธ์ 251 ขาดตลาดที่นี่ อ. โก้น่าทำขายบ้างนะครับ  :secret ลืมรูปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 08:56:21 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ไม่ทราบว่า คุณ พินิจ ใช้กังหันน้ำไปฉุด เจ็นเนอร์เรเตอร์ ประเภทไหนครับ แถวบ้านผมเค้าใช้วิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอบที่ไปฉุด เจ็นเนอร์เรเตอร์ ที่ไม่เสม่ำเสมอ โดยใช้ เจ็นเนอร์เรเตอร์ดังรูปที่ 1 ใช้คู่กับ อุปกรณ์ดังรูปที่ 2 คือ ออโต้เมติก โวลท์เตจ เร็กกูเรเตอร์ เป็นตัวใช้คอยควบคุม โวลท์ ให้อยู่นิ่งที่ 220 โวลท์

ฝากรูป
รูป 1

ฝากรูป
รูป 2

สเป็กของเจ็นตัวนี้ 1500 rpm จะได้ V= 220 V 50 Hz แต่ถ้า รอบ เกิน โวลท์ก็จะขึ้นตามไปรอบ แต่ถ้าใช้ ออโต้เมติก โวลท์เตจ เร็กกูเรเตอร์ จะทำให้ เจ็นตัวนี้สามารถ ทำงานได้ที่ 2000 rpm โดยคุม V ให้ได้ อยู่ที่ 220V ได้ แต่ว่า Hz จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วรอบของเจ็นที่เพิ่มขึ้น ถ้าคุณพินิจ ใช้เจ็นตัวนี้ และสามารถควบคุมให้กังหันน้ำ ให้มีเปลี่ยนแปลงการหมุนให้อยู่ในช่วง300รอบ คือ 1500 rpm- 1800 rpm เจ็นจะสามารถทำงานอยู่ในช่วง  50-60 Hz แต่ V ยังคงที่อยู่ที่ 220V จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ายังสามารถทำงานได้
น่าสนใจมากๆ เลยครับ ไม่ทราบว่ามีตัวใหย่กว่านี้ไหมครับ? ผมต้องการซัก 5kW ที่ 220v น่ะครับ ถ้ามีอยากทราบราคากันเลยละครับ ผมจะได้เอาไปให้ ผอ. โรงพยาบาลพิจารณาตั้งงบเพิ่มให้โปรเจ็คนี้ครับ (เพราะตอนแรกกะซื้อของมือสองครับ) คือถ้ามีตัวนี้ผมคิดว่าประตูน้ำของผมปรับตัว ไม่ให้กังหันน้ำวิ่งเกิน 2000rpm  ช่วงโลดหายไปคือผมอาจทำโซลีนอยดึงประตูที่ทำเป็นบานพับยกขึ้นเพื่อลดปริมาณน้ำได้ทันทีทันใดที่โลดหายกะทันหันได้ทันน่ะครับ แต่ปริมาณน้ำที่ไหลก็มหาสารเหมือนกัน โซลินอยก็คงต้องมีแรงเยอะๆ แต่เรามีเวลาน่าจะสัก 1-2 วินาที (จากประสบการจากตัวแรกที่ทำ) สปีดไม่น่าขึ้นเกิน 500rpm ละมัง? ผมคงต้องทดลองเรื่องนี้กันอีกครั้งเมื่อติดตั้งแล้วเสร็จ ...มีคนถามว่าความถี่วิ่งขึ้นตามรอบหรือไม่? คงได้คำตอบแล้วนะครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
ผมคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าเอาไฟจากกังหันมาที่ heater ทำพวกห้องอบ เอาไว้อบยางแผ่น อบผลไม้ คงจะดี ไม่แน่ใจจะคุ้มค่ามั๊ยครับ
อ้าว! คิดเหมือนผมเลยครับ กังหันที่จะทำหน้าบ้านผมนั้น  คือถ้าเราใช้เครื่องไฟฟ้าแบบตัดต่อบ่อยๆ ไม่แน่นอน เช่นแอร์หรือตู้เย็นใหญ่ๆ เราใส่รีเลย์สองทางไว้ให้เวลาคอมฯ มันตัด ก็ให้มันสลับเปลี่ยนไปจ่ายไฟให้ฮีทเตอร์ต้มน้ำร้อนที่กินกระแสเท่าๆ กัน  (ช่วยกันกับที่ได้จากพลังแสงอาทิตย์อีกทางหนึ่ง) ข้อสำคัญคือต้องมีถังเก็บน้ำร้อนได้อุณภูมิสูงๆ ยิ่งได้แบบทนแรงดันได้ก็ยิ่งดี เราจะสามารถเอาไอน้ำไปใช้ขับอะไรเล่นได้อีก (แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรดีในตอนนี้ :yahoo :yahoo :yahoo  และก็คิดไว้อีกอย่างคือช่วงคอมฯ ตู้เย็นตัด ให้ไฟไปจ่ายเข้าชาร์จแบทเตอร์รี่ เอาไว้ใช้กับรถมอร์เตอร์ไซร์แบบใช้แบทฯ ก็ยังได้ ถ้าได้กระแสเยอะๆ คิดว่าจะลงทุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซะเลย  :drive1 d_d :drunk

อ. โก้ ครับ เมื่อกี๊ออกไปคุยกะร้านขายกล้ายางมาอีกแล้ว เค้าแนะให้ปลูกพันธ์สามพันหนึ่งน่ะครับ 4 เดือนกรีดได้ มีความน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ? น้ำยาง 500 kg/y มีใครที่รู้จักลองปลูกมาแล้วบ้างไหมครับ? เค้าว่าเป็นพันธ์มาเลย์ ที่พ่อค้าบ้านเราแอบเล็ดรอดนำเข้ามาขาย ผมเลยไม่ค่อยเชื่อถือกลัวโดนหลอกครับ :-\ ดีหนักขึ้นไปอีกจาก JVC 80 ของ CP ซะอีก
ยังไม่เคยได้ยินครับ ที่คุณPinijถามมา ตอบว่าเชื่อถือไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจริงหรือไม่จริงนะครับ แต่พันธุ์ยางยังไม่ได้รับการรับรองไม่น่าเสี่ยงหรอกครับ
ผมเคยเห็นยางเปิดกรีดไม่ถึงปีต้องโค่นทิ้งเพราะไม่มีน้ำยางมาแล้ว(ของญาติผู้พี่) เวลา6ปี..ในช่วงชีวิตคนเรานี่ไม่น้อยนะครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ Arun

  • **
    • กระทู้: 69
ไม่ทราบว่า คุณ พินิจ ใช้กังหันน้ำไปฉุด เจ็นเนอร์เรเตอร์ ประเภทไหนครับ แถวบ้านผมเค้าใช้วิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอบที่ไปฉุด เจ็นเนอร์เรเตอร์ ที่ไม่เสม่ำเสมอ โดยใช้ เจ็นเนอร์เรเตอร์ดังรูปที่ 1 ใช้คู่กับ อุปกรณ์ดังรูปที่ 2 คือ ออโต้เมติก โวลท์เตจ เร็กกูเรเตอร์ เป็นตัวใช้คอยควบคุม โวลท์ ให้อยู่นิ่งที่ 220 โวลท์

ฝากรูป
รูป 1

ฝากรูป
รูป 2

สเป็กของเจ็นตัวนี้ 1500 rpm จะได้ V= 220 V 50 Hz แต่ถ้า รอบ เกิน โวลท์ก็จะขึ้นตามไปรอบ แต่ถ้าใช้ ออโต้เมติก โวลท์เตจ เร็กกูเรเตอร์ จะทำให้ เจ็นตัวนี้สามารถ ทำงานได้ที่ 2000 rpm โดยคุม V ให้ได้ อยู่ที่ 220V ได้ แต่ว่า Hz จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วรอบของเจ็นที่เพิ่มขึ้น ถ้าคุณพินิจ ใช้เจ็นตัวนี้ และสามารถควบคุมให้กังหันน้ำ ให้มีเปลี่ยนแปลงการหมุนให้อยู่ในช่วง300รอบ คือ 1500 rpm- 1800 rpm เจ็นจะสามารถทำงานอยู่ในช่วง  50-60 Hz แต่ V ยังคงที่อยู่ที่ 220V จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ายังสามารถทำงานได้


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ก่อนคุยที่นี่ผมก็ตเวณอ่านในเนทมาเยอะครับ บางคนอ้าปากมาก็รู้ว่าพ่อค้าเชียร์อะไรอยู่  :nono :nonono N] มันเลยเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเสียเวลาเข้าไปอ่านซะเลย ตามเนทมันเหมือนคนไม่มีหัวนอนปายเท้าครับ ใครพูดอะไรก็ได้ ไม่มีการรับผิดชอบในคำพูด เวปแบบนี้ก็มีเยอะแยะไป แต่ในนี้เรามีตัวตน ทุกคนรักษาเคดิสของตัวเองย่อมไม่พูดไม่บอกอะไรออกมาแบบพร่อยๆ ผมถึงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มีเพื่อนดีๆ อยู่ในนี้ตั้งหลายคน ผมจึงเชื่อ อ. โก้ ละครับ และยิ่งเห็นแนวปฏิบัติแล้วก็ยอมรับครับ ผมเจออะไรข้างนอกมาแล้วไม่แน่ใจ ผมถึงต้องเอาเข้ามาถามในนี้ก่อนไงครับ เรื่องดินนั้นผมจะเข้าอบรมย์วันที่ 23 นี้ละครับ คงต้องวิ่งซิกแซ็กตักดินจอบที่สองสิบจุดหนึ่งกิโลตามที่ได้เรียนรู้มาแล้ว
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
แต่ 30-5-18 ปุ๋ยแก่เกินไปครับ ทำให้ลูกดก....ยางขายน้ำเป็นหลักครับไม่ได้ขายลูกยาง
ถึงว่าคนทางนี้(ใต้)ที่เคยไปเห็นยางทางโน้น(เหนือ-อิสาน)ถึงพูดกันมาก(มากจริงๆครับ ต้องย้ำอีกที) เรื่องยางทางโน้นลูกดก....ผมเองตะหงิดๆ(น่าจะเขียนผิด)ถึงได้ถามไป
เรื่องของปุ๋ยยางมีอะไรๆที่มากกว่าความรู้เรื่องNPK
ผมกลับมาดูที่จดไว้อีกที ไม่รู้ว่าผมจดผิดหรือไม่? ว่า N เร่งต้น P เร่งผล K เร่งใบ (เอ! N นี่เคยอ่านมามันเร่งใบนี่ ผมจดผิดละมั๊ง? K]) ตัวกลางน้อยกว่าที่แนะนำอีกนะครับ ของวิทยากร 5 แต่ของ อ. โก้ คือ 8 ครับ ผมเข้าใจตรงไหนผิด ช่วยอธิบายด้วยครับ แต่ผมไม่ชอบเลยที่ต้นยางติดลูก เพราะปุ๋ยส่วนหนึ่งที่ใส่ไปเอาไปเลี้ยงลูกที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผมเลย (คือบางคนอาจเก็บลูกยางไปขาย แต่ผมเห็นราคาลูกยางแล้วคงไม่เสียเวลาไปเก็บเป้นแน่ นอนฟังเพลงอยู่บ้านดีก่า :yahoo)
ปีกลายแถวนี้ใช้ 18-4-5 (ปีอื่นๆตัวหน้า 18บ้าง20บ้าง)....พื้นที่ปลูกเดิมนะครับ ทางวิชาการแนะนำอยู่ 30 (ทางนี้ไม่มีคนใช้ 30เลยตั้งแต่ผมจำความได้...ถึงแม้ว่าจะเป็นปุ๋ยจากกองทุนฯ)อันนี้ตัวกลางน้อยน่าจะโอเคหรือไม่ครับ? แต่ตัวหลังไม่น้อยไปหรือครับ แต่จริงๆ แล้วการผสมเองเหมือนเสื้อสั่งตัด ดินของผม (ขอเอาข้อมูลจากสวนติดกันมาใช้นะครับ) NPK ต่ำ กลาง สูง ครับ ตัวกลางคือ P มีค่ากลางๆ วิทยากรยังให้ใส่ 5 ถือว่าน่าจะถูกต้องแล้วนะครับ? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในตอนนี้คือยางผมมีลูกเต็มไปหมดเลย :cry2 :cry2 :cry2 หรือจะให้ตรงนี้เป็น 0 ไปเลย ถ้าเทียบกับสัดส่วนผู้หญิง ตรงกลางค่าเยอะๆ นี่คือคนพุงป่องละครับ 5555 ผมชอบแบบ 38 24 35 ครับ ข้างอย่างใหญ่มากนักก็ไม่ชอบ ชอบข้างบนใหญ่อ่ะครับ  c)

ขอถามปิดท้ายว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับพันธ์ยาง JVC80 ที่ผมเกือบจะได้ปลูกอยู่แล้ว จองไว้แต่ปาก คนอื่นเลยเอาไป คือตอนแรกพี่สาวจะขอทำนาอีกปี เลยไม่แแน่ใจว่าจะได้ปลูกยางแน่นอนหรือไม่? ทั้งๆ ที่นาก็เป็นส่วนของแฟน ค่าเช่าก็ไม่ได้เก็บแกเลยอยากทำต่ออีกอ้างโน่นอ้างนี่ (พี่สาวแฟนคนนี้ขี้งกมั๊กๆๆๆ ครับ แต่คนอื่นๆ ทุกคนดีมั๊กๆๆๆ อีกเช่นกัน) ยางพันธ์นี้อ่านในเวปมีทั้งคนบอกว่าดี และคนบอกว่า CP หลอกลวง แต่ถ้าดีจริง ปีหน้าผมว่าจะซื้อที่เพิ่ม อาจจะลองปลูกพันธ์นี้ดูบ้างละครับ

ทั้งหมดอยู่ที่
1.) เรื่องยางถามผมถูกคนแล้วครับ.....ทำไมผมกล้าบอกแบบนั้น? ทั้งๆที่ผม(น่าจะ)รู้อยู่แล้วว่านักวิชาการที่คุณPinijจะถามได้ในพื้นที่ต้องมีแน่ๆ และที่นี่ก็ดูว่าอยู่ในฐานะเถ้าแก่สวนยางกันมากกว่า ผมลงมือทำ-ทดลอง(ทั้งด้านดีและด้านเสีย)-สอบถาม-วิ่งหาความรู้เพิ่มเติมทั้งทางวิชาการและทางภูมิปัญญาฯ ถ้ามีปัญหาที่ตอบไม่ได้จริงๆก็มีนักวิชาการใกล้ตัวที่พร้อมให้ข้อมูลทางวิชาการอยู่ (แต่บางอย่างของยางก็อธิบายด้วยหลักวิชาการไม่ได้ เช่นโรคที่เกิดจากเชื้อราไฟทอปโทร่า ที่ตอนนี้ยังรักษากันไม่ได้) และผมก็ไม่ใช่พ่อค้าขายปุ๋ยที่เห็นอยู่ทั่วไปในเว็บ(ขอให้มีเรื่องยางเถอะ ข้อความเป็นยังไงไม่สน...ตูขายปุ๋ยดะ)ถึงกล้าบอกแบบนั้นครับ
2.) เรื่องของปุ๋ยยางมีอะไรๆที่มากกว่าความรู้เรื่องNPK  ประสบการณ์ของคนใต้ที่ปลูกยางหรือยู่กับยางมาสอนไว้ครับ ทำไมบางปีลูกยางดกมาก บางปีไม่ค่อยมีลูก...ย้อนกลับไปดูใบส่งปุ๋ยฯ อ้อ!!ปีนั้นใส่ปุ๋ยสูตรนี้อัตราส่วนเป็นแบบนี้ ฯลฯ คุณPinijจดมาไม่ผิดครับ ใครๆก็ทราบว่าNPKของปุ๋ยคืออะไร ถึงได้บอกครับเรื่องของปุ๋ยยางมีอะไรๆที่มากกว่าความรู้เรื่องNPK
3.) จาก http://www.live-rubber.com/index.php/rubber-plantation-management/mature-rubber-stage/21-mature-rubber-plantation-fertilizer-application ที่คุณEak-tubeamp แปะมา ดูข้อความทางซ้ายของรูปคนขี่มอเตอร์ไซค์บรรทุกกระสอบปุ๋ยนะครับ
3.1) ชาวสวนยางในภาคใต้มักใช้ปุ๋ยสูตร 15-7-18 กันมาก ทำไม? ทั้งๆที่ใช้สูตร 30-5-18 จะให้ผลผลิตน้ำยางสูงกว่าใช้สูตร 15-7-18 ประมาณ15% (ข้อความถัดมา) ประหยัดกว่าหรือครับ...ไม่ใช่ทั้งหมดครับ ราคาสูงกว่าแต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าเป็นใครก็ต้องเลือกถูกต้องมั๊ยครับ(อาจไม่ทั้งหมด) แต่ทำไมไม่ใช้กัน? ตรงนี้คำตอบ(ที่หายไป)คือลูกยางครับ ลูกยางกับปุ๋ยนี่หาอ่านจากที่ไหนได้บ้างครับ มีใครสอนใครแนะนำกันบ้าง?
4.) เอาดินไปวิเคราะห์เถอะครับ แปลงเดียวกันยังต้องสุ่มตัวอย่างทั่วแปลงเลยครับ แปลงติดกันนี่เอาแน่ไม่ได้ครับ(แค่อ้างอิงได้ระดับนึง)
5.) สุดท้าย(เรื่องปุ๋ย)ก็ต้องบอกว่าไม่ได้บอกให้เชื่อ ต้องทดลองกับตัวครับ อาจจะดีสำหรับทางนั้นก็ได้ แต่ผมเดาว่าลูกดก
.....ลาเท็กซ์ยังไม่ได้ความนะครับ
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
ผมคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าเอาไฟจากกังหันมาที่ heater ทำพวกห้องอบ เอาไว้อบยางแผ่น อบผลไม้ คงจะดี ไม่แน่ใจจะคุ้มค่ามั๊ยครับ
อ้าว! คิดเหมือนผมเลยครับ กังหันที่จะทำหน้าบ้านผมนั้น  คือถ้าเราใช้เครื่องไฟฟ้าแบบตัดต่อบ่อยๆ ไม่แน่นอน เช่นแอร์หรือตู้เย็นใหญ่ๆ เราใส่รีเลย์สองทางไว้ให้เวลาคอมฯ มันตัด ก็ให้มันสลับเปลี่ยนไปจ่ายไฟให้ฮีทเตอร์ต้มน้ำร้อนที่กินกระแสเท่าๆ กัน  (ช่วยกันกับที่ได้จากพลังแสงอาทิตย์อีกทางหนึ่ง) ข้อสำคัญคือต้องมีถังเก็บน้ำร้อนได้อุณภูมิสูงๆ ยิ่งได้แบบทนแรงดันได้ก็ยิ่งดี เราจะสามารถเอาไอน้ำไปใช้ขับอะไรเล่นได้อีก (แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรดีในตอนนี้ :yahoo :yahoo :yahoo  และก็คิดไว้อีกอย่างคือช่วงคอมฯ ตู้เย็นตัด ให้ไฟไปจ่ายเข้าชาร์จแบทเตอร์รี่ เอาไว้ใช้กับรถมอร์เตอร์ไซร์แบบใช้แบทฯ ก็ยังได้ ถ้าได้กระแสเยอะๆ คิดว่าจะลงทุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซะเลย  :drive1 d_d :drunk

อ. โก้ ครับ เมื่อกี๊ออกไปคุยกะร้านขายกล้ายางมาอีกแล้ว เค้าแนะให้ปลูกพันธ์สามพันหนึ่งน่ะครับ 4 เดือนกรีดได้ มีความน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ? น้ำยาง 500 kg/y มีใครที่รู้จักลองปลูกมาแล้วบ้างไหมครับ? เค้าว่าเป็นพันธ์มาเลย์ ที่พ่อค้าบ้านเราแอบเล็ดรอดนำเข้ามาขาย ผมเลยไม่ค่อยเชื่อถือกลัวโดนหลอกครับ :-\ ดีหนักขึ้นไปอีกจาก JVC 80 ของ CP ซะอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 04:15:02 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ tubeTronix

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,127
    • เพศ:ชาย
ผมคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าเอาไฟจากกังหันมาที่ heater ทำพวกห้องอบ เอาไว้อบยางแผ่น อบผลไม้ คงจะดี ไม่แน่ใจจะคุ้มค่ามั๊ยครับ
---|  ชมรมคนชอบหาเรื่อง  |---
http://www.kaponk.com/blog/7


<a href="http://www.htg2.net/index.php?topic=10121.0 " >my cell phone[/url]


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อ้างถึง
เทคนิคการปลูกสับปะรด
1.   พื้นที่ระบายน้ำทิ้งได้ดี
2.   การเตรียมดิน
ครั้งที่ 1 ไถปั่นเศษวัชพืช 1 ครั้ง
ครั้งที่ 2 ไถพรวน ประมาณ 1-2 ครั้ง
วิธีปลูก
1.   คัดหน่อ  หรือจุกให้มีขนาดเท่ากัน
2.   ปลูกแถวคู่
3.   ระหว่างต้น 20-30 ซม.
ระหว่างแถว 50-60 ซม.
ระหว่างแถวคู่  80-90 ซม.
การใส่ปุ๋ย
   ครั้งที่ 1 หลังการปลูกประมาณ 2 อาทิตย์
   สูตร 21-0-0 จำนวน 2 กระสอบ
   สูตร 0-0-60 จำนวน  1  กระสอบ
   โดยใช้ปุ๋ยทั้งสองสูตรผสมกันแล้วนำไปใส่ลงกาบใบล่างประมาณ 1 ช้อนแกงต่อต้น
ครั้งที่ 2 หลังจากปลูกได้ 2 เดือนเพื่อเร่งสะโพกให้ต้นเป็นสาว(พร้อมให้ลูก) โดยฟันใบออกประมาณ 1 ส่วน 4 ของต้น แล้วให้ปุ๋ยทางใบ
สูตร 21-0-0 จำนวน 3 กิโลกรัม
สูตร 0-0-60 จำนวน  5 กิโลกรัม
ผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นประมาณ 10 วันต่อครั้ง
ครั้งที่ 3    ก่อนบังคับออกผล ประมาณ 1 เดือน
สูตร 21-0-0 จำนวน 10 กิโลกรัม
สูตร 0-0-60 จำนวน  5 กิโลกรัม
   ผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่อนได้ประมาณ 2500 ต้น ฉีดพ่นได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ใบเริ่มแปะออกเพื่อพร้อมที่ออกลูก
ครั้งที่ 4   ก่อนหยอดสารเคมีเร่งออกดอก ประมาณ 7 วัน สังเกตจากยอดเริ่มแปะออกให้ปุ๋ยทางใบโดยใช้สูตร
สูตร 21-0-0 จำนวน 10 กิโลกรัม
สูตร 0-0-60 จำนวน  5 กิโลกรัม
ผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่อนก่อนบังคับผล 7 วัน
การใช้สารเคมีบังคับผล
   อีทาฟอน 45 เปอร์เซ็นต์  ใช้ในอัตรา 150 ซีซี และปุ๋ยสูตร 46-0-0  จำนวน 3 กก. ผสมน้ำ200 ลิตร ฉีดพ่นหลังเวลา 4 โมงเย็นขึ้นไป ฉีดซ้ำอีกรอบ ช่วง 5-7 วัน จะทำให้สับปะรดมีก้านสั้น ลูกกลม เนื้อแน่น น้ำหนักดี



เริ่มออกดอก
   เมื่อสับปะรดเริ่มออกดอกตรงยอดจะมีสีแดง  ออกดอกเท่าเหรียญบาท ระหว่างสร้างดอกควรให้ปุ๋ยทางใบด้วย โดยใช้ปุ๋ย(ทางใบ) ฉีดพ่น
การเร่งตา
   หลังจากดอกสับปะรดเริ่มโรยลงให้ใช้ปุ๋ยทางใบ  ขนาดของตากว้างประมาณ 18 เซนติเมตร จะประมาณการได้ว่าสับปะรดจะมีน้ำหนักประมาณลูกละ 1.5 กก.ขึ้นไป
วิธีห่อลูกสับปะรด
   ใช้กระดาษหนังสือพิมห่อ
การให้ปุ๋ยหลังจากสับปะรดออกหัว
ระยะที่สับปะรดเป็นหัวห้ามใช้ปุ๋ย 21-0-0 หรือปุ๋ยไนเตรทอื่นๆ เพราะจะทำให้มีสารตกค้างอันตรายต่อผู้บริโภค
ให้ใช้ปุ๋ยพ่นทางใบ เช่นปุ๋ยส้ม 0-0-60 หรือปุ๋ยหวานอื่นๆ
การให้น้ำ
   สับปะรดเป็นพืชที่ทนแล้ง แต่ก็ต้องการน้ำไปช่วยการเจริญเติบโตเป็นระยะ เกษตรกรสามารถวางแผนให้สับปะรดออกลูกได้ด้วยตนเอง (ไม่ต้องเสียเวลารอน้ำฝน) ช่วงที่สับปะรดต้องการน้ำอยู่ในช่วง
1.   เริ่มปลูกใหม่
2.   ระยะการให้น้ำ 10 วันต่อ 1 ครั้ง
3.   ช่วงออกลูก
ดูแล้วก็ไม่น่าปลูกยากเย็นอะไร (แต่ก็ยังยุ่งยากกว่าถั่วเท่าตัว แล้วมันทำดินเสียกว่าปลูกถั่วมากไหมครับ? เพราะถั่วทำให้ดินดีขึ้น) ถ้าไม่ใส่สารบังคับผล มันจะค่อยๆ สุกไล่ๆ กันทั้งปี ตามที่ผมต้องการไหม?
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อาจมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
http://www.live-rubber.com/index.php/rubber-plantation-management/mature-rubber-stage/21-mature-rubber-plantation-fertilizer-application


ผมอ่านดูแล้ว เหมือน สกย สอนไว้เลยครับ แล้วผมลองอ่านหนังสือวารสารปุ๋ยชีวภาพ ดูเขียนโฆษณาตัวเองซะ จากที่คิดว่ามันดีแน่ๆ เลยคิดต่อด้านกลุ่มคนเขียนหนังสือเล่มนี้ ที่มีการจัดฉากเลือกถ่ายรูปต้นที่ใส่ปุ๋ยเคมีซะต้นเล็กจนน่าเกลียด ยางสวนนึงมันมีหลายขนาดอยู่แล้ว คนที่ไม่เคยทำจะนึกว่าของเค้าละสุดยอดกว่าเจ้าอื่น ผมคงแอนตี้ยี่ห้อแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองที่แสนจะขี้คุย และจะไม่ยอมใช้ยี่ห้อนี้เป็นอันขาด
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
พี่พินิจครับนี่อาจจะมีประโยชน์กับพี่ครับ
"การเบรคจะมีแค่สองประเภทครับ แบบ Electric และ mechanism แบบแ Elec. จะใช้ Resistor เป็นตัวเบรค โดยเมื่อโรเตอร์หมุนเร็วกว่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้กับโรเตอร์ มอเตอร์ก็จะกลายมาเป็นเจนเนอเรเตอร์ทันที่ ดังนั้นจึงใช้ resistor โหลดให้กับมอเตอร์ที่กลายเป็นเจน.(resistorจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน)ทำให้มอเตอร์หมุนช้าลงจนถึงหยุดหมุน ส่วนแบบ mechanism ใช้หลักการของ friction เมือนครัชหรือเบรคของรถยนต์ครับ มีด้วยกันสองแบบคือ แบบจ่ายกระแสแล้วเบรคกับหยุดจ่ายกระแสแล้วเบรค โดยแผ่นเบรคจะมีสองชุดชุดแรกจะอยู่กับแกนโรเตอร์และหมุนไปพร้อกัน ชุดที่สองจะติดอยูกับเฟรมจะอยู่กับที่ไม่หมุน แบบแรกเมื่อจายกระแสให้กับขดลวดชุดเบรคแรงแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคสองชุดติดกันไม่เป็นอิสระจึงทำให้แกนโรเตอร์ไม่สามารถหมุนได้ และบบที่สองจะตรงข้ามกัน เมือจ่ายไฟให้(ส่วนมากพร้อมกับตอนมอเตอร์ทำงาน) สนามแม่เหล็กจะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคทั้งสองชุดอิสระต่อกัน จึงทำให้โรเตอร์หมุนได้อย่างอิสระด้วย และเมื่อหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า แรงกดสปริงจะกดให้แผ่นเบรคติดกัน จึงทำให้โรเตอร์หยุดหมุนครับ"
ผมเอามาจากที่นี่ครับ  http://www.9engineer.com/index.php?m=webboard&a=show&topic_id=5132
เม็คแคนนิซึมโดยใช้ฟิกซั่นเคยคิดครับ แต่การใช้รีซิสเตอร์ดูแล้วมันน่ามีส่วนประกอบและลงทุนน้อยกว่า ความน่าเชื่อถือน่าจะมากกว่า เข้าไปตามลิงค์รายละเอียดเชิงลึกไม่มี ผมอยากได้วิธีนี้มากมั๊กกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครเจอที่ไหน? ช่วยกรุณา Please ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บอกผมทีเถ๊อะะะะะะะะะะะ d_d :drunk
อ่านอีกทีมันใช้กะ DC Motor นี่หว่า :-\ :-\ :-\ สงสัยต้องทำตามวิธีที่สุดท้ายที่ผมคิดไว้คือ แอร์ 4 ตัว ที่โรงพยาลใช้ อาจแบ่งเป็นสองชุดให้ผลรวมกำลังวัตต์มันเท่ากัน หรือใกล้ๆ กันให้มากที่สุด สลับคอมป์ฯ แอร์แต่ละชุดกันทำงานเอา ไม่ต้องใช้เทอร์โมสะตราทปรับอุณหภูมิกันละ เป็นวิธีที่น่าจะใช้คุมโลดที่แตกต่างกันมากๆ ให้สม่ำเสมอได้ แต่การปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปกับการต่อหรือตัดไฟแบบกำลังงานต่ำๆ ผมจะใช้ปิดเปิดบานประตูน้ำเอา ซึ่งอาจซักช้าไปหน่อย คิดว่าโวลท์คงจะเบี่ยงเบนไม่มากนัก หรือใครคิดวิธีที่ดีกว่านี้อีกครับ
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
พี่พินิจครับนี่อาจจะมีประโยชน์กับพี่ครับ
"การเบรคจะมีแค่สองประเภทครับ แบบ Electric และ mechanism แบบแ Elec. จะใช้ Resistor เป็นตัวเบรค โดยเมื่อโรเตอร์หมุนเร็วกว่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้กับโรเตอร์ มอเตอร์ก็จะกลายมาเป็นเจนเนอเรเตอร์ทันที่ ดังนั้นจึงใช้ resistor โหลดให้กับมอเตอร์ที่กลายเป็นเจน.(resistorจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน)ทำให้มอเตอร์หมุนช้าลงจนถึงหยุดหมุน ส่วนแบบ mechanism ใช้หลักการของ friction เมือนครัชหรือเบรคของรถยนต์ครับ มีด้วยกันสองแบบคือ แบบจ่ายกระแสแล้วเบรคกับหยุดจ่ายกระแสแล้วเบรค โดยแผ่นเบรคจะมีสองชุดชุดแรกจะอยู่กับแกนโรเตอร์และหมุนไปพร้อกัน ชุดที่สองจะติดอยูกับเฟรมจะอยู่กับที่ไม่หมุน แบบแรกเมื่อจายกระแสให้กับขดลวดชุดเบรคแรงแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคสองชุดติดกันไม่เป็นอิสระจึงทำให้แกนโรเตอร์ไม่สามารถหมุนได้ และบบที่สองจะตรงข้ามกัน เมือจ่ายไฟให้(ส่วนมากพร้อมกับตอนมอเตอร์ทำงาน) สนามแม่เหล็กจะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคทั้งสองชุดอิสระต่อกัน จึงทำให้โรเตอร์หมุนได้อย่างอิสระด้วย และเมื่อหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า แรงกดสปริงจะกดให้แผ่นเบรคติดกัน จึงทำให้โรเตอร์หยุดหมุนครับ"
ผมเอามาจากที่นี่ครับ  http://www.9engineer.com/index.php?m=webboard&a=show&topic_id=5132
เม็คแคนนิซึมโดยใช้ฟิกซั่นเคยคิดครับ แต่การใช้รีซิสเตอร์ดูแล้วมันน่ามีส่วนประกอบและลงทุนน้อยกว่า ความน่าเชื่อถือน่าจะมากกว่า เข้าไปตามลิงค์รายละเอียดเชิงลึกไม่มี ผมอยากได้วิธีนี้มากมั๊กกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครเจอที่ไหน? ช่วยกรุณา Please ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บอกผมทีเถ๊อะะะะะะะะะะะ d_d :drunk
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ aphiphot

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,814
    • เพศ:ชาย
  • คุณพ่อขาอย่ามัวแต่ D.I.Y.จนลืมหนูนะคะ
พี่พินิจครับนี่อาจจะมีประโยชน์กับพี่ครับ
"การเบรคจะมีแค่สองประเภทครับ แบบ Electric และ mechanism แบบแ Elec. จะใช้ Resistor เป็นตัวเบรค โดยเมื่อโรเตอร์หมุนเร็วกว่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้กับโรเตอร์ มอเตอร์ก็จะกลายมาเป็นเจนเนอเรเตอร์ทันที่ ดังนั้นจึงใช้ resistor โหลดให้กับมอเตอร์ที่กลายเป็นเจน.(resistorจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน)ทำให้มอเตอร์หมุนช้าลงจนถึงหยุดหมุน ส่วนแบบ mechanism ใช้หลักการของ friction เมือนครัชหรือเบรคของรถยนต์ครับ มีด้วยกันสองแบบคือ แบบจ่ายกระแสแล้วเบรคกับหยุดจ่ายกระแสแล้วเบรค โดยแผ่นเบรคจะมีสองชุดชุดแรกจะอยู่กับแกนโรเตอร์และหมุนไปพร้อกัน ชุดที่สองจะติดอยูกับเฟรมจะอยู่กับที่ไม่หมุน แบบแรกเมื่อจายกระแสให้กับขดลวดชุดเบรคแรงแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคสองชุดติดกันไม่เป็นอิสระจึงทำให้แกนโรเตอร์ไม่สามารถหมุนได้ และบบที่สองจะตรงข้ามกัน เมือจ่ายไฟให้(ส่วนมากพร้อมกับตอนมอเตอร์ทำงาน) สนามแม่เหล็กจะเอาชนะแรงสปริงทำให้แผ่นเบรคทั้งสองชุดอิสระต่อกัน จึงทำให้โรเตอร์หมุนได้อย่างอิสระด้วย และเมื่อหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้า แรงกดสปริงจะกดให้แผ่นเบรคติดกัน จึงทำให้โรเตอร์หยุดหมุนครับ"
ผมเอามาจากที่นี่ครับ  http://www.9engineer.com/index.php?m=webboard&a=show&topic_id=5132
ข้อมูลส่วนตัวครับ==>> 
นายอภิภช เจริญกิจ
270 ม.3 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด 23000
eptrattc@hotmail.co.th
Tel.08186220-เจ็ด-หนึ่ง
Line id: aphiphot


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
เพื่อการกลับมาค้นข้อมูลของผมง่ายและสะดวกในการใช้กระทู้นี้กระทู้เดียวคุยหลายเรื่อง ทุกๆ คำแนะนำมีค่ายิ่งสำหรับผมนะครับ บางครั้งผมจำได้ว่าเคยคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่จะกลับมาค้นหาก็ไม่เจอซะแล้ว ผมมีปัญหามากๆ เมื่อกระทู้ถูกไว้ไว้หลายปีน่ะครับ ถึงมันจะดูมั่วๆ แต่ประโยชน์ใช้สอยมันดีนะครับ เลยขอเอาเรื่องพลังงานไฟฟ้ามาคุยพร้อมกันเพราะมีเพื่อนกำลังยากจะคุยครับ



ตามรูปเส้นสีชมพูจะเป้นฝายน้ำล้นกว้าง 3.5m น้ำเต็มที่ตรงจุดที่ล้นสูง 30cm ผมคิดไว้ว่าจะทำเป้นบานสวิงปิดเปิด เพื่อปรับปริมาณน้ำที่จะไหลงไปยังตัวกังหัน (คงต้องทำกลไกลเพื่อปรับแบบอัตโนมัต นี่คือรูปหยาบๆ นะครับ) หรือกรณีปิดต้องการหยุดพักซ่อมกังหันได้สะดวก แล้วให้น้ำไหลทางช่องบายพาสด้านขวามือของรูปนะครับ ตัวกังหันเป็นสีฟ้า อาจทำลางรับน้ำหรือใบพัด 8-10 ใบ โดยจะให้มันรับแรงจากน้ำที่ตกลงมาและน้ำที่ไหลที่พื้นด้วย (F1 & F2) Diameter ของกังหันและจำนวนใบที่จะทำ มีผลต่อกำลังวัตต์ที่จะได้ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จะได้มานะครับ เพราะยิ่งใหญ่ขึ้นกำลังจะได้มากขึ้น ความแข็งแรงของโครงสร้างก็มากขึ้น งบก็จะสูงขึ้นตาม เป็นงานที่ผมอยากจะช่วยออกแบบฟรีให้กับโรงพยาบาลใกล้ๆ บ้านน่ะครับ อ. MC ช่วยชี้ลิงค์ของคุณ Audioboy ที่เขียนเรื่องสะแต็ปบิไลซ์เซอร์ให้หน่อยได้ไหมครับ


อ้างถึง
ร้านขายอินเวอร์เตอร์ที่น่าสนใจมาก
http://www.thaipowersupply.com/catalog.php?category=8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 11:03:55 am โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra



ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
แต่ 30-5-18 ปุ๋ยแก่เกินไปครับ ทำให้ลูกดก....ยางขายน้ำเป็นหลักครับไม่ได้ขายลูกยาง
ถึงว่าคนทางนี้(ใต้)ที่เคยไปเห็นยางทางโน้น(เหนือ-อิสาน)ถึงพูดกันมาก(มากจริงๆครับ ต้องย้ำอีกที) เรื่องยางทางโน้นลูกดก....ผมเองตะหงิดๆ(น่าจะเขียนผิด)ถึงได้ถามไป
เรื่องของปุ๋ยยางมีอะไรๆที่มากกว่าความรู้เรื่องNPK
ผมกลับมาดูที่จดไว้อีกที ไม่รู้ว่าผมจดผิดหรือไม่? ว่า N เร่งต้น P เร่งผล K เร่งใบ (เอ! N นี่เคยอ่านมามันเร่งใบนี่ ผมจดผิดละมั๊ง? K]) ตัวกลางน้อยกว่าที่แนะนำอีกนะครับ ของวิทยากร 5 แต่ของ อ. โก้ คือ 8 ครับ ผมเข้าใจตรงไหนผิด ช่วยอธิบายด้วยครับ แต่ผมไม่ชอบเลยที่ต้นยางติดลูก เพราะปุ๋ยส่วนหนึ่งที่ใส่ไปเอาไปเลี้ยงลูกที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผมเลย (คือบางคนอาจเก็บลูกยางไปขาย แต่ผมเห็นราคาลูกยางแล้วคงไม่เสียเวลาไปเก็บเป้นแน่ นอนฟังเพลงอยู่บ้านดีก่า :yahoo)
ปีกลายแถวนี้ใช้ 18-4-5 (ปีอื่นๆตัวหน้า 18บ้าง20บ้าง)....พื้นที่ปลูกเดิมนะครับ ทางวิชาการแนะนำอยู่ 30 (ทางนี้ไม่มีคนใช้ 30เลยตั้งแต่ผมจำความได้...ถึงแม้ว่าจะเป็นปุ๋ยจากกองทุนฯ)อันนี้ตัวกลางน้อยน่าจะโอเคหรือไม่ครับ? แต่ตัวหลังไม่น้อยไปหรือครับ แต่จริงๆ แล้วการผสมเองเหมือนเสื้อสั่งตัด ดินของผม (ขอเอาข้อมูลจากสวนติดกันมาใช้นะครับ) NPK ต่ำ กลาง สูง ครับ ตัวกลางคือ P มีค่ากลางๆ วิทยากรยังให้ใส่ 5 ถือว่าน่าจะถูกต้องแล้วนะครับ? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในตอนนี้คือยางผมมีลูกเต็มไปหมดเลย :cry2 :cry2 :cry2 หรือจะให้ตรงนี้เป็น 0 ไปเลย ถ้าเทียบกับสัดส่วนผู้หญิง ตรงกลางค่าเยอะๆ นี่คือคนพุงป่องละครับ 5555 ผมชอบแบบ 38 24 35 ครับ ข้างอย่างใหญ่มากนักก็ไม่ชอบ ชอบข้างบนใหญ่อ่ะครับ  c)

ขอถามปิดท้ายว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับพันธ์ยาง JVC80 ที่ผมเกือบจะได้ปลูกอยู่แล้ว จองไว้แต่ปาก คนอื่นเลยเอาไป คือตอนแรกพี่สาวจะขอทำนาอีกปี เลยไม่แแน่ใจว่าจะได้ปลูกยางแน่นอนหรือไม่? ทั้งๆ ที่นาก็เป็นส่วนของแฟน ค่าเช่าก็ไม่ได้เก็บแกเลยอยากทำต่ออีกอ้างโน่นอ้างนี่ (พี่สาวแฟนคนนี้ขี้งกมั๊กๆๆๆ ครับ แต่คนอื่นๆ ทุกคนดีมั๊กๆๆๆ อีกเช่นกัน) ยางพันธ์นี้อ่านในเวปมีทั้งคนบอกว่าดี และคนบอกว่า CP หลอกลวง แต่ถ้าดีจริง ปีหน้าผมว่าจะซื้อที่เพิ่ม อาจจะลองปลูกพันธ์นี้ดูบ้างละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 01:02:17 pm โดย PINIJ »
ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra


ออฟไลน์ agogo

  • *****
    • กระทู้: 558
    • เพศ:ชาย
อ. โก้ อาจจะไม่รู้ว่าผมน่ะชอบกินสับปะรดมากๆๆๆๆ เลยละ และผลไม้ทุกชนิดด้วย (ผมมีบ้านอยู่ไชยปราการหน้าส้มถูกๆ ส้มสายน้ำผึ่งโลละ 6 บาทจากสวนเพื่อนกันโดยตรง  ผมกินส้มมื้อเย็นแทนข้าว มื้อเย็นมื้อเดียว 3-4 โล ดูความชอบผลไม้ของผม ทุเรียนสองลูกใหญ่ๆ กินหมดคนเดียวครับ ผมเป็นคนที่กินผลไม้แทนข้าวแล้วไม่หิวครับ) คือกินผลไม้แทนข้าวได้เลย ตอนทำงานอยู่ระยอง ตอนเย็นลดความอ้วนด้วยสับปะรดสองลูกทุกวันครับ ไม่เคยเบื่อด้วย งั้น! ผมจะปลูกไว้กินเอง กินสามลูกต่อวัน คือกินหลังอาหาร (ผมติดคุณแม่ ต้องกินผลไม้ล้างปากหลังกินข้าวทุกมื้อครับ) ผมจะปลูกซักกีไร่ดีครับ ขอเพิ่มจำนวนลูกต่อวันอีกหน่อยเผื่อเปิดร้านกาแฟ ขอวางขายวันละสิปลูกด้วย ควรวางแผนการปลูกอย่างไรดีที่จะให้ผลผลิตกินได้ตลอดปี พอมีหนทางไหมครับ? ถ้าทำได้ ผมจะปลูกมันจริงๆ ด้วย  d_d :drunk

ที่จริงต้องยางพารา & ผลไม้ทุกชนิดครับ ๕๕๕๕ พวกข้าวโพดแบบหวานๆ ก็น่าทำครับ แต่ต้องมีที่ส่งแบบทำสัญญากันแน่นอน แต่ที่นี่ปลูกพันธ์อาหารสัตว์กันทั้งนั้นครับ คือไม่ต้องดูแลมากละมัง?

ปุ๋ย NPK ก่อนกรีดคือ 20-10-17 (ตามที่วิทยากรแนะนำไว้ บ้านผมเป็นดินทราย) และสูตรหลังกรีดคือ 30-5-18 ครับ ซึ่งวิทยากรคำนวนแล้วออกมาดังนี้

ปุ๋ยก่อนเปิดกรีด ต่อ 100kg ผมจะใช้แม่ปุ๋ย 46-0-0 = 36kg, 18-46-0 = 22kg, 0-0-60 = 20kg ครับ

และหลังเปิดกรีด 46-0-0 = 60kg, 18-46-0 = 10kg, 0-0-60 = 30kg ครับ

อ. โก้ ลองคำนวนเช็คความถูกต้องอีกครั้งให้ด้วยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ผมจะรอมีดเบตงครับ และอยากจะได้วิธีการเตรียมน้ำยางสด 60% มากๆ เลยละครับ เอาวิธีการแบบไม่ต้องลงทุนสูงนะครับ เป็นแนวแนวดีไอวายนิยมก็ยิ่งดี   :yahoo d_d :drunk



สูตรผสมถูกต้องตรงกับเอกสารแผ่นพับที่ผมมีอยู่และน่าจะตรงกันกับไฟล์PDFที่อยู่ในแผ่นCD ของคุณPinijครับ
แต่ 30-5-18 ปุ๋ยแก่เกินไปครับ ทำให้ลูกดก....ยางขายน้ำเป็นหลักครับไม่ได้ขายลูกยาง
ถึงว่าคนทางนี้(ใต้)ที่เคยไปเห็นยางทางโน้น(เหนือ-อิสาน)ถึงพูดกันมาก(มากจริงๆครับ ต้องย้ำอีกที) เรื่องยางทางโน้นลูกดก....ผมเองตะหงิดๆ(น่าจะเขียนผิด)ถึงได้ถามไป
เรื่องของปุ๋ยยางมีอะไรๆที่มากกว่าความรู้เรื่องNPK
ปีกลายแถวนี้ใช้ 18-4-5 (ปีอื่นๆตัวหน้า 18บ้าง20บ้าง)....พื้นที่ปลูกเดิมนะครับ ทางวิชาการแนะนำอยู่ 30 (ทางนี้ไม่มีคนใช้ 30เลยตั้งแต่ผมจำความได้...ถึงแม้ว่าจะเป็นปุ๋ยจากกองทุนฯ)
ปีนี้20-8-20 เพราะยางถูกยาด(ฝนลวก)เพราะฝนตกดีทั้งปี
ของคุณPinijเป็นดินทรายแป้ง ผมว่าใช้ 20-10-12 สลับกับ 20-8-20 (ทั้งสองสูตรนี้เอกสารบอกว่าเป็นปุ๋ยสำหรับยางก่อนเปิดกรีด...ไม่แคร์สื่อ)ผสมแบบนี้ครับ
20-8-20 น้ำหนักปุ๋ยที่ต้องการ 100ก.ก.
46-0-0 = 38kg, 18-46-0 = 18kg, 0-0-60 = 34kg ไม่ต้องใช้สารตัวเติม
20-10-12 น้ำหนักปุ๋ยที่ต้องการ 100ก.ก.
46-0-0 = 36kg, 18-46-0 = 22kg, 0-0-60 = 20kg ไม่ต้องใช้สารตัวเติม

เติมโดโลไมต์เพิ่มอัตรา50-75ก.ก./ไร่ด้วยนะครับ(ดินเป็นกรดอยู่)
ใส่ตอนดอกยางเริ่มร่วง จะทำให้ดอกร่วงไม่ติดลูกยางออกเสมอต้นไม่โทรม ปีไหนอยากขายลูกยางไปทำพันธุ์ก็เว้นไว้ใส่ช่วงอื่นครับ
ประสบการณ์ 18-4-5 , 20-8-20 ลูกยางแทบไม่ร่วงใส่หลังคาเลยครับ
...............อยากฟังความเห็นของท่านอื่นด้วยครับ..............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กุมภาพันธ์, 2012, 12:59:07 am โดย agogo »
ข้อมูลส่วนตัว
http://www.htg2.net/index.php?topic=27192.0


ออฟไลน์ PINIJ

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,474
  • vinyLPhile
    • PhooPheemKoff
อ. โก้ อาจจะไม่รู้ว่าผมน่ะชอบกินสับปะรดมากๆๆๆๆ เลยละ และผลไม้ทุกชนิดด้วย (ผมมีบ้านอยู่ไชยปราการหน้าส้มถูกๆ ส้มสายน้ำผึ่งโลละ 6 บาทจากสวนเพื่อนกันโดยตรง  ผมกินส้มมื้อเย็นแทนข้าว มื้อเย็นมื้อเดียว 3-4 โล ดูความชอบผลไม้ของผม ทุเรียนสองลูกใหญ่ๆ กินหมดคนเดียวครับ ผมเป็นคนที่กินผลไม้แทนข้าวแล้วไม่หิวครับ) คือกินผลไม้แทนข้าวได้เลย ตอนทำงานอยู่ระยอง ตอนเย็นลดความอ้วนด้วยสับปะรดสองลูกทุกวันครับ ไม่เคยเบื่อด้วย งั้น! ผมจะปลูกไว้กินเอง กินสามลูกต่อวัน คือกินหลังอาหาร (ผมติดคุณแม่ ต้องกินผลไม้ล้างปากหลังกินข้าวทุกมื้อครับ) ผมจะปลูกซักกีไร่ดีครับ ขอเพิ่มจำนวนลูกต่อวันอีกหน่อยเผื่อเปิดร้านกาแฟ ขอวางขายวันละสิปลูกด้วย ควรวางแผนการปลูกอย่างไรดีที่จะให้ผลผลิตกินได้ตลอดปี พอมีหนทางไหมครับ? ถ้าทำได้ ผมจะปลูกมันจริงๆ ด้วย  d_d :drunk

ที่จริงต้องยางพารา & ผลไม้ทุกชนิดครับ ๕๕๕๕ พวกข้าวโพดแบบหวานๆ ก็น่าทำครับ แต่ต้องมีที่ส่งแบบทำสัญญากันแน่นอน แต่ที่นี่ปลูกพันธ์อาหารสัตว์กันทั้งนั้นครับ คือไม่ต้องดูแลมากละมัง?

ปุ๋ย NPK ก่อนกรีดคือ 20-10-17 (ตามที่วิทยากรแนะนำไว้ บ้านผมเป็นดินทราย) และสูตรหลังกรีดคือ 30-5-18 ครับ ซึ่งวิทยากรคำนวนแล้วออกมาดังนี้

ปุ๋ยก่อนเปิดกรีด ต่อ 100kg ผมจะใช้แม่ปุ๋ย 46-0-0 = 36kg, 18-46-0 = 22kg, 0-0-60 = 20kg ครับ

และหลังเปิดกรีด 46-0-0 = 60kg, 18-46-0 = 10kg, 0-0-60 = 30kg ครับ

อ. โก้ ลองคำนวนเช็คความถูกต้องอีกครั้งให้ด้วยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ผมจะรอมีดเบตงครับ และอยากจะได้วิธีการเตรียมน้ำยางสด 60% มากๆ เลยละครับ เอาวิธีการแบบไม่ต้องลงทุนสูงนะครับ เป็นแนวแนวดีไอวายนิยมก็ยิ่งดี   :yahoo d_d :drunk

ข้อมูลส่วนตัว  http://phoopheem.multiply.com/ Thai Arabica Peaberry Coffee  กำลังพยายามปรับปรุงการคั่วกาแฟให้อร่อยที่สุดสำหรับตัวเองอยู่
MyFacebook  https://www.facebook.com/pinij.parnichwatra